Author: staff
เอไอเอ ประเทศไทย ประกาศความภาคภูมิใจครั้งสำคัญของแอปพลิเคชัน AIA ONE ที่ล่าสุดคว้ารางวัลชนะเลิศระดับ Gold ในสาขา “New Ways of Working” จากเวที Qorus Reinvention Awards แห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกประจำปี 2025 โดยรางวัลดังกล่าวยกย่อง เอไอเอ ประเทศไทย ในฐานะองค์กรที่ประสบความสำเร็จจากการนำเสนอ AIA ONE แอปพลิเคชันที่ได้รับการออกแบบให้ตอบโจทย์การทำงานของตัวแทนประกันชีวิต เอไอเอ ทั้งในด้านการบริหารจัดการและการให้บริการลูกค้าด้วยชุดเครื่องมือและฟีเจอร์เปี่ยมประสิทธิภาพแบบครบวงจร Qorus คือองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรในอุตสาหกรรมทางการเงินที่มุ่งเน้นการนำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่าและการจัดกิจกรรม เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของกลุ่มธุรกิจทางการเงินระดับโลกมานานกว่า 50 ปี โดยรางวัล Qorus Reinvention Awards แห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกประจำปี 2025 เป็นรางวัลอันทรงเกียรติที่มอบให้แก่องค์กรและบุคคลที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ช่วยกำหนดอนาคตของอุตสาหกรรมการเงินในภูมิภาค ผู้เข้าชิงรางวัลได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม โดยพิจารณาจากความคิดริเริ่มใหม่ ๆ ศักยภาพในการพลิกโฉมอุตสาหกรรม และผลกระทบเชิงบวกทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ รางวัลระดับ Gold ได้สะท้อนถึงความเป็นผู้นำของ เอไอเอ ประเทศไทย ในการนำเสนอนวัตกรรมที่สนับสนุนการทำงานของพลังตัวแทนเพื่อสามารถให้คำปรึกษาทางการเงิน ผลิตภัณฑ์ และบริการที่มีคุณภาพในระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก พร้อมสร้างมาตรฐานใหม่ให้ธุรกิจประกันภัยของเมืองไทย ด็อกเตอร์ คริสเตียน โรแลนด์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์และดิจิทัล เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า “เรารู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ AIA ONE ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติจากเวทีสำคัญอย่าง Qorus ซึ่งถือเป็นเครื่องยืนยันความตั้งใจของ เอไอเอ ประเทศไทย ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ช่วยยกระดับประสบการณ์การใช้งานอันราบรื่นให้แก่ตัวแทน โดย AIA ONE เป็นแอปพลิเคชันในสมาร์ตดีไวซ์ที่มาพร้อมโซลูชันที่ออกแบบมาให้ตอบโจทย์การทำงานของตัวแทนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านชุดเครื่องมือแบบ 360 องศาที่ช่วยจัดการตารางการทำงานไปจนถึงการบริหารกรมธรรม์ของลูกค้า อันจะนำมาซึ่งความสัมพันธ์อันดีระหว่างตัวแทนและลูกค้า” ด้าน คุณอรรถพร อรุณฤกษ์ถวิล ผู้อำนวยการฝ่ายแพลตฟอร์มดิจิทัลช่องทางตัวแทน เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า “AIA ONE เป็นแอปพลิเคชันเพื่อบริหารจัดการข้อมูลผู้มุ่งหวังแบบครบวงจรสำหรับตัวแทนประกันชีวิตของ เอไอเอ ที่รองรับการใช้งานบนสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ตทั้งปฏิบัติการ iOS และ Android ครบครันด้วยฟีเจอร์มากมายที่จำเป็นสำหรับ ไลฟ์สไตล์การทำงานของตัวแทนในยุคปัจจุบัน อาทิ ระบบจัดการข้อมูลผู้มุ่งหวัง (Lead Management System)…
บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ในฐานะพันธมิตรหลักอย่างเป็นทางการของสโมสรลิเวอร์พูล ร่วมมือกับ อาริ ฟุตบอล จัดกิจกรรมชมฟุตบอลแมตช์ร่วมลุ้นว่าที่แชมป์ระหว่าง ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ซิตี้ นำโดยคุณสุกัญญา อิสรานุวัฒน์ชัย รองประธานอาวุโส ฝ่ายสื่อสารการตลาดและภาพลักษณ์องค์กร (คนที่ 3จากซ้าย) ให้เกียรติกล่าวเปิดงาน โดยกิจกรรมในครั้งนี้ได้เนรมิตพื้นที่ อาริ ฟุตบอล สาขา วัน แบงค็อก เป็นสนามเชียร์ และยกระดับบรรยากาศการร่วมเชียร์แบบใกล้ชิดติดขอบสนาม พร้อมสนุกไปกับ Guru Talk จากอินฟลูเอนเซอร์สายกีฬาฟุตบอลแฟนพันธุ์แท้ลิเวอร์พูล อาทิ คุณยักษ์ ดอยแดง, โก๊ะตี๋ และกิฟจัง ที่ มาร่วมสร้างความสนุกกับการร่วมชมแมตช์สำคัญ นอกจากนั้น ผู้เข้าร่วมงานยังได้ร่วมกิจกรรมลุ้นรางวัลต่างๆ อีกมากมายภายในงาน พร้อมทั้งอาหารและเครื่องดื่มที่บริการทุกคนตลอดทั้งแมตช์ โดยกิจกรรมดังกล่าวสอดคล้องกับนโยบายหลักของบริษัทฯ ในการมีลูกค้ามาเป็นที่หนึ่ง ทั้งนี้สำหรับผู้ที่สนใจกิจกรรมลูกค้าเพิ่มเติม สามารถติดตามได้ที่ https://www.krungthai-axa.co.th/ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกิจกรรมต่างๆ และผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ โทร.1159 หรืออีเมล customer.care@krungthai-axa.co.th
กลุ่มธนาคารยูโอบีรายงานผลกำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 6.0 พันล้านเหรียญสิงคโปร์ ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 6 สำหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2567 คณะกรรมการจึงได้เสนอจ่ายเงินปันผลที่ 92 เซนต์ต่อหุ้นสามัญ ซึ่งเมื่อรวมกับเงินปันผลระหว่างกาลที่ 88 เซนต์ต่อหุ้นสามัญ เงินปันผลรวมสำหรับปี 2567 จะเป็น 1.80 เหรียญสิงคโปร์ต่อหุ้นสามัญ หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ประมาณร้อยละ 50 ภายใต้กลยุทธ์การกระจายทุนของธนาคาร คณะกรรมการจึงได้ประกาศแผนมูลค่า 3 พันล้านเหรียญสิงคโปร์เพื่อคืนทุนส่วนเกินในระยะเวลาสามปีข้างหน้า แผนดังกล่าวประกอบด้วยเงินปันผลพิเศษและการซื้อหุ้นคืน โดยในปี 2568 ธนาคารจะเสนอจ่ายเงินปันผลพิเศษ 50 เซนต์ต่อหุ้นสามัญ หรือคิดเป็นทุนส่วนเกินมูลค่า 800 ล้านเหรียญสิงคโปร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 90 ปีของธนาคาร นอกจากนี้ ธนาคารยังได้เปิดตัวโครงการซื้อหุ้นคืนมูลค่า 2 พันล้านเหรียญสิงคโปร์ ในปี 2567 กำไรสุทธิของกลุ่มธนาคารยูโอบีเพิ่มขึ้นร้อยละ 6 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 6.0 พันล้านเหรียญสิงคโปร์ โดยได้รับแรงหนุนจากรายได้จากค่าธรรมเนียมสุทธิและรายได้จากการค้าและการลงทุนที่แข็งแกร่ง รายได้จากดอกเบี้ยรับสุทธิยังคงทรงตัวที่ 9.7 พันล้านเหรียญสิงคโปร์ โดยการเติบโตของสินเชื่อที่แข็งแกร่งร้อยละ 5 ช่วยชดเชยผลกระทบจากความผันผวนของอัตราดอกเบี้ยที่มีต่อส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิของธนาคาร รายได้จากค่าธรรมเนียมสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 7 อยู่ที่ 2.4 พันล้านเหรียญสิงคโปร์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากการเติบโตของค่าธรรมเนียมการบริหารจัดการความมั่งคั่งที่เป็นตัวเลขสองหลัก ค่าธรรมเนียมบัตรเครดิตที่แข็งแกร่งขึ้น และค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวกับสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น คุณภาพสินทรัพย์ยังคงมั่นคง โดยมีอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) อยู่ที่ร้อยละ 1.5 ผลดำเนินการโดยรวมของกลุ่มลูกค้าองค์กรยังคงมีโมเมนตัมที่แข็งแกร่ง โดยสินเชื่อเพื่อการค้าดีดตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับปีก่อน ธุรกิจธุรกรรมทางการเงินของธนาคารเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปัจจุบันคิดเป็นมากกว่าครึ่งหนึ่งของรายได้จากกลุ่มลูกค้าลูกค้าองค์กร นอกจากนี้ รายได้จากการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยคิดเป็นมากกว่าหนึ่งในสี่ของรายได้จากกลุ่มลูกค้าองค์กร กลุ่มลูกค้ารายย่อยยังคงมีผลการดำเนินงานที่ดีในปี 2567 รายได้จากค่าธรรมเนียมบัตรเครดิตยังคงแข็งแกร่งและเติบโตที่อัตราร้อยละ 18 เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยได้รับการสนับสนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ยังคงเติบโตและแฟรนไชส์ในภูมิภาคที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น รายได้จากการบริหารจัดการความมั่งคั่งดีดตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 30 ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ดีขึ้น กลุ่มธนาคารยูโอบียังคงเห็นการไหลเข้าของเงินใหม่สุทธิที่แข็งแกร่ง ทำให้มูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการของลูกค้าผู้มีมูลค่าสินทรัพย์สูงเพิ่มขึ้นเป็น 1.9 แสนล้านเหรียญสิงคโปร์ เติบโตขึ้นร้อยละ 8 เมื่อเทียบกับปีก่อน นอกจากนี้ ในปี 2567 ธนาคารมีลูกค้ารายใหม่เพิ่มขึ้นกว่า…
นายอดิศร พิพัฒน์วรพงศ์ รองเลขาธิการ ด้านกฎหมายและตรวจสอบ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) เปิดเผยว่า จากการที่สำนักงาน คปภ. ได้กำหนดทิศทางและการดำเนินงานของสำนักงาน คปภ. ในส่วนของธุรกิจประกันภัยให้มีเสถียรภาพความมั่นคง ปรับตัวได้ เท่าทันความเสี่ยงและสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งหนึ่งในภารกิจของแผนงานดังกล่าว คือ การยกระดับการตรวจสอบและการกำกับดูแลบริษัทประกันภัยผ่านแบบประเมิน Examination Form สำนักงาน คปภ. จึงได้มอบหมายให้สายตรวจสอบ ซึ่งนำโดยนายโสรัจจ์ แรกสกุลชัย ผู้ช่วยเลขาธิการ สายตรวจสอบ เดินหน้าพัฒนาแบบประเมิน Examination Form เพื่อใช้ประเมินการปฏิบัติงานของคณะกรรมการบริษัท คณะกรรมการชุดย่อย และหน่วยงานกำกับภายใน (Key Control Function) ของบริษัทประกันภัย ในมิติของการปฏิบัติตามกฎหมายของบริษัทประกันภัยที่ต้องดำเนินการภายใต้กฎหมายของสำนักงาน คปภ. โดยแบบประเมินดังกล่าวถูกพัฒนาให้มีข้อคำถามที่สะท้อนถึงการทำหน้าที่ของคณะกรรมการบริษัท คณะกรรมการชุดย่อย และหน่วยงานกำกับภายใน (Key Control Function) เพื่อให้แน่ใจว่าบริษัทประกันภัยมีระบบการบริหารความเสี่ยงและควบคุมภายในที่เหมาะสม รวมถึงดูแลให้ระบบต่างๆ ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ มีมาตรการถ่วงดุลอำนาจ (Check and Balance) มุ่งเสริมสร้างความโปร่งใส มีการกำกับดูแลกิจการที่ดี รวมถึงมีการกำกับดูแลการปฏิบัติอย่างเป็นธรรมต่อผู้เอาประกันภัย อันนำมาซึ่งเสถียรภาพความมั่นคง ปรับตัวได้ เท่าทันความเสี่ยงและสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปของบริษัทประกัน นายอดิศร พิพัฒน์วรพงศ์ รองเลขาธิการ ด้านกฎหมายและตรวจสอบ ได้กล่าวต่อว่า ปัจจุบัน สายตรวจสอบได้พัฒนาแบบประเมิน Examination Form เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะมีการประเมินใน 9 ส่วน โดยจะมีการจัดส่งแบบประเมิน Examination Form ให้บริษัทประกันภัยจัดทำเป็นประจำทุกไตรมาส เริ่มตั้งแต่ไตรมาสที่ 1/2568 เป็นต้นไป ซึ่งในไตรมาสที่ 1/2568 กำหนดระยะเวลาให้บริษัทประกันภัยจัดทำให้แล้วเสร็จและนำส่งมายังสำนักงาน คปภ. ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2568 และเพื่อให้การตอบแบบประเมินมีประสิทธิภาพ น่าเชื่อถือ เนื่องจากเป็นการให้บริษัทประกันภัยเป็นผู้ประเมินตนเอง สำนักงาน คปภ. กำหนดให้ข้อคำถามบางข้อบริษัทต้องแนบเอกสารที่เกี่ยวข้องประกอบการตอบแบบสอบถาม นอกจากนี้ ผลการตอบแบบประเมิน Examination Form ของหน่วยงานกำกับภายในที่สำคัญของบริษัท (Key Control Function)…
กรุงเทพประกันชีวิต เชื่อมั่นในพลังความใส่ใจ ส่งมอบความรักในวันวาเลนไทน์ให้กับสังคมผ่านแคมเปญ “BLA ใส่ใจคนโสด เปิดโหมดแฮปปี้” จัดคาราวานสร้างความอุ่นใจแบบใจฟูให้คนโสดพร้อมกัน 3 จังหวัด บุก 3 ทำเลทองกรุงเทพฯ สีลม สามย่าน บรรทัดทอง โดยมีพระเอกดาวรุ่ง “เด่นคุณ งามเนตร” ร่วมขบวนสร้างสีสันและความสุขแบบใจละลาย รวมทั้งยังจัดกิจกรรมที่พิษณุโลกและพิจิตรพร้อมของรางวัลมากมาย นางสาวอรนาฎ นชะพงษ์ ผู้บริหารสายกลยุทธ์การตลาดและบริหารจัดการลูกค้า บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เนื่องในวันวาเลนไทน์ปีนี้ กรุงเทพประกันชีวิตได้จัดกิจกรรมพิเศษเพื่อมอบความรักและตอกย้ำความ “ใส่ใจ” ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งนอกจากจะจัดให้พนักงานภายในองค์กรแล้ว ยังได้รณรงค์กับสังคมภายนอกได้โฟกัสที่กลุ่มคนโสดภายใต้แคมเปญ “BLA ใส่ใจคนโสด เปิดโหมดแฮปปี้” โดยจัดกิจกรรมพร้อมกัน 3 จังหวัดคือ กรุงเทพฯ พิจิตร และพิษณุโลก “กรุงเทพประกันชีวิตมีเป้าหมายในการสื่อสารแบรนด์ไปถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ซึ่งเป็นกลุ่มคนวัยทำงานมากขึ้น เพื่อตอกย้ำความใส่ใจ จึงได้จัดกิจกรรมที่สร้างโอกาสพบปะและพูดคุยกับกลุ่มคนเหล่านี้ ซึ่งในวันวาเลนไทน์ปีนี้เราอยากส่งมอบความอบอุ่นให้คนโสด โดยยกขบวนคาราวานเข้าพื้นที่ย่านคนทำงานในกรุงเทพฯ บริเวณสีลม สามย่าน บรรทัดทอง ได้ดึง “เด่นคุณ งามเนตร” นักแสดงหนุ่มเข้าร่วมกิจกรรมเพื่อส่งต่อความหมายของคำว่า “ใส่ใจ” ซึ่งช่วยสร้างความสนุกสนานและความอบอุ่น เป็นแคมเปญที่ได้รับการตอบรับที่ดีมากค่ะ” นางสาวอรนาฎ กล่าว สำหรับคาราวาน “BLA ใส่ใจคนโสด เปิดโหมดแฮปปี้” จะมีกิจกรรม Free Hug – แจกกอดอุ่นจากพี่บี ชวนให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมถ่ายรูป โพสต์ลงโซเชียล กิจกรรมตามหาคนที่มีสีฟ้าอยู่บนตัว ซึ่งเป็นสีที่สะท้อนความใส่ใจในแบบของ BLA ส่วนที่จังหวัดพิจิตรได้จัดกิจกรรมที่บึงสีไฟซึ่งเป็นจุดพักผ่อนหย่อนใจที่สำคัญ และ จังหวัดพิษณุโลกจัดที่มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม โดยมีนักร้องวัยรุ่นเสียงดี “เจมส์” ธนวัฒน์ สร้อยดี ร่วมสร้างสีสันพร้อมกิจกรรมและของรางวัลร่วมสนุกมากมาย #กรุงเทพประกันชีวิตเชื่อมั่นในพลังความใส่ใจ #BLAใส่ใจคนโสดเปิดโหมดแฮปปี้ #ใช่ที่สุดคือคนใส่ใจ
กลับมาอีกครั้งกับการแข่งขันบอร์ดเกมการเงิน CASHFLOW ภายใต้โครงการ AFTERKLASS รับสมัครเยาวชนระดับมัธยมศึกษาทั่วประเทศลงสนามแข่งขันประลองเกมความรู้ทางการเงิน ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ให้เยาวชนได้รับความรู้และสนุกกับการบริหารจัดการเงินผ่านเกม พร้อมชิงที่สุดทัวร์นาเมนต์จาก 4 ภูมิภาค เพื่อร่วมแข่งขันรอบชิงแชมป์ประเทศไทยเป็น Thailand Youth CASHFLOW Champions ประจำปี 2568 นายรวี อ่างทอง ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายบูรณาการความยั่งยืนองค์การ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันโลกการเงินเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทักษะสำคัญสำหรับเยาวชนยุคใหม่ไม่ใช่แค่การออมและใช้จ่ายอย่างชาญฉลาด แต่รวมถึงการคิดวิเคราะห์ วางกลยุทธ์ และตัดสินใจด้านการเงินในชีวิตประจำวัน ซึ่ง โครงการ AFTERKLASS โดยธนาคารกสิกรไทย ได้จัดกิจกรรม Money Board Game Youth Tournament 2025 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เยาวชนได้มีความรู้ความเข้าใจเรื่องการบริหารจัดการเงิน และสร้างรายได้เพื่ออิสรภาพทางการเงินของตนเองผ่านเกม CASHFLOW บอร์ดเกมการเงินที่ได้รับความนิยมในระดับนานาชาติ ซึ่งความพิเศษของกิจกรรมในปีนี้ จะมีการคัดเลือกแชมป์ทัวร์นาเมนต์จาก 4 ภูมิภาค ได้แก่ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ ขอนแก่น และหาดใหญ่ เข้าร่วมแข่งขันรอบชิงแชมป์ประเทศไทยเป็น Thailand Youth CASHFLOW Champions ประจำปี 2568 สำหรับเยาวชนทั่วประเทศที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรมจะต้องมีอายุตั้งแต่ 13 ปีบริบูรณ์ แต่ไม่เกิน 20 ปีบริบูรณ์ ณ วันที่ปิดรับสมัคร และศึกษาอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 หรือเทียบเท่า โดยต้องเป็นสมาชิกของเว็บไซต์ AFTERKLASS (www.afterklass.com) นอกจากนี้ ผู้ที่เคยแข่งขัน AFTERKLASS Money Board Game Youth Tournament 2024 ยังสามารถสมัครเข้าร่วมแข่งขันในกิจกรรมได้ โดยเปิดรับสมัครแล้วตั้งแต่วันนี้- 17 มีนาคม 2568 และจะประกาศรายชื่อผู้สมัครที่มีสิทธิ์เข้าร่วมกิจกรรม ผ่านทางเว็บไซต์ www.afterklass.com และ Facebook: AFTERKLASS ในวันที่ 20 มีนาคม 2568…
นายรุ่งเรือง สุขเกิดกิจพิบูลย์ (ขวา) ผู้จัดการใหญ่ พร้อมด้วยนายชัช เหลืองอาภา (ซ้าย) รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย เป็นผู้แทนธนาคาร รับ 2 รางวัลใหญ่ ได้แก่ รางวัลสุดยอดบัตรเครดิตใหม่ ประเทศเวียดนาม (Best New Credit Card) และรางวัลสุดยอดธนาคารแห่งใหม่เพื่อธุรกิจเอสเอ็มอีออนไลน์ ประเทศเวียดนาม (Best New Online SME Bank) จากงาน International Finance Awards 2024 สะท้อนความเป็นธนาคารที่พร้อมสนับสนุนและส่งเสริมศักยภาพธุรกิจเอสเอ็มอีให้เติบโตได้อย่างยั่งยืนที่ประเทศเวียดนาม และถือเป็นอีกก้าวสำคัญที่ตอกย้ำความเป็นผู้นำของธนาคารกสิกรไทยในระดับภูมิภาคที่มุ่งมั่นส่งมอบบริการทางการเงินที่มั่นคงปลอดภัย ใช้ง่ายสบายใจ และครอบคลุมทั้งกลุ่มลูกค้ารายย่อย ธุรกิจเอสเอ็มอี และองค์กรขนาดใหญ่ จัดโดย International Finance นิตยสารด้านธุรกิจและการเงินชั้นนำระดับโลกจากประเทศอังกฤษ ณ โรงแรมวอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพฯ เมื่อเร็ว ๆ นี้ ทั้งนี้ ธนาคารกสิกรไทยเข้าไปดำเนินธุรกิจอย่างเต็มรูปแบบผ่านสาขาที่ประเทศเวียดนามตั้งแต่ปี 2564 ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดสำคัญระดับภูมิภาคที่ยังคงมีแนวโน้มการเติบโตของ GDP 5-6% อย่างต่อเนื่องไปจนถึงปี 2572 โดยมีผลิตภัณฑ์ KBank Cashback Plus บัตรเครดิตใบแรกของเคแบงก์ในเวียดนาม ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนเมษายน ปี 2567 และได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มลูกค้าธนาคาร โดยในไตรมาสที่ 3 มีอัตราการใช้งานบัตร (Active Card Rate) สูงกว่า 90% จากข้อมูลของ VisaNet
นายประสาน นิลมานัตต์ กรรมการและที่ปรึกษา บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ให้เกียรติเป็นประธานใน “พิธีมอบรางวัลการสอบแข่งขันคณิตศาสตร์ ประจำปี 2567” ซึ่งจัดขึ้นโดย สมาคมคณิตศาสตร์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังได้ให้การสนับสนุนการจัดพิธีมอบรางวัล และเงินรางวัล จำนวน 243,000 บาท เพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติให้แก่นักเรียนระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษาตอนปลาย ที่ได้รับรางวัลระดับประเทศและระดับภูมิภาค ทั้งประเภทบุคคลและประเภททีม โดยผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศระดับประเทศ ประเภทบุคคล ได้รับโล่พระราชทานสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ และเหรียญทอง พร้อมเงินรางวัลจากบริษัทฯ ณ ห้องประชุมประไพ วิริยะพันธุ์ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) สาขาลุมพินี ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ให้การสนับสนุนการสอบแข่งขันคณิตศาสตร์ มาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 18 เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนทั่วประเทศไทย ได้พัฒนาศักยภาพทางคณิตศาสตร์ อันเป็นศาสตร์ที่ช่วยพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ และแก้ไขปัญหาอย่างมีเหตุผล เพื่อนำประสบการณ์ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน อีกทั้ง คณิตศาสตร์ยังเป็นศาสตร์พื้นฐานของวิทยาการหลายสาขาวิชา การจัดสอบแข่งขันคณิตศาสตร์ขึ้นเป็นประจำทุกปี จึงช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับอนาคตของชาติ สามารถนำความรู้ทางคณิตศาสตร์ไปพัฒนาต่อยอด เพื่อขับเคลื่อนอนาคตของสังคมไทยให้มั่นคงยั่งยืนต่อไป