Nippon Life Insurance หรือ Nissay บริษัทประกันชีวิตรายใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น อยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการเจรจาซื้อหุ้นของ Resolution Life Group Holdings บริษัทประกันชีวิตของสหรัฐฯ สำนักข่าวรอยเตอร์ประเมินว่ามูลค่าน่าจะตกประมาณ 8.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หากเป็นไปตามที่ประเมินไว้ การเข้าซื้อกิจการครั้งจะเป็นครั้งใหญ่ที่สุดสำหรับบริษัทประกันภัยของญี่ปุ่น Nikkei รายงานว่า Nippon Life จะซื้อหุ้นที่ยังไม่ได้เป็นเจ้าของใน Resolution Life จาก Blackstone และจากผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ เพื่อให้บริษัทนี้กลายเป็นบริษัทย่อยที่ Nippon Life ถือหุ้นทั้งหมดในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 และจะชำระค่าซื้อกิจการด้วยเงินสดในมือ ข้อตกลงดังกล่าวเป็นตัวอย่างล่าสุดของบริษัทประกันภัยรายใหญ่ของญี่ปุ่นที่ขยายตลาดไปยังต่างประเทศเพื่อค้นหาการซื้อกิจการในตลาดที่เติบโตเร็วกว่า เนื่องจากมีโอกาสจำกัดในการขยายธุรกิจในประเทศ ซึ่งจำนวนประชากรเกิดใหม่ลดลงและขณะที่จำนวนประชากรสูงอายุมากขึ้น Resolution Life ซึ่งตั้งอยู่ในเบอร์มิวดายืนยันว่ากำลังเจรจาเกี่ยวกับการซื้อกิจการ แต่เสริมว่าสิ่งเหล่านี้ยังไม่ได้ข้อสรุป และไม่มีความแน่นอนว่าธุรกรรมจะดำเนินการได้ โฆษกของ Nippon Life กล่าวว่าบริษัทกำลังเจรจากับ Resolution Life แต่เสริมว่าไม่สามารถเปิดเผยว่าการสนทนาเกี่ยวกับอะไร ทางด้าน Blackstone ก็ยังปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นในรายงานของ Nikkei Resolution Life เป็น closed-book insurer ที่ซื้อกรมธรรม์ประกันภัยที่มีอยู่จากบริษัทประกันในสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ Nippon Life ได้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นเป็น 23% มาตั้งแต่ปี 2562 โดยใช้เงินไปแล้วทั้งสิ้น 1.68 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ การซื้อกิจการดังกล่าวถือเป็นการลงทุนในต่างประเทศครั้งใหญ่ครั้งที่สองของ Nippon Life ในปีนี้ หลังจากที่บริษัทได้ซื้อหุ้น 20% ในบริษัทประกันภัย Corebridge Financial ของสหรัฐฯ มูลค่า 3.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนพฤษภาคม
Author: staff
บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) โดย นายมิ่งขวัญ ประเสริฐศิวพร ผู้ช่วยผู้จัดการงานส่งเสริมการเรียนรู้ด้านการเงิน และ นายปรเมษ บุญเศรษฐ ผู้เชี่ยวชาญการฝึกอบรมงานส่งเสริมการเรียนรู้ด้านการเงิน นำทีมงานจัดกิจกรรม “นำความรู้สู่ชุมชน เพื่อชีวิตหมุนต่อได้” เพื่อส่งเสริมความรู้ทางการเงินให้กับชาวชุมชนบ่อฝรั่งริมน้ำ จำนวนกว่า 40 คน ภายใต้โครงการ “เรื่องเงินเรื่องสนุก ความสุขยั่งยืน” โดยใช้หลักสูตร “ปลดหนี้ ชีวิตเป็นสุข” นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนจาก นายมานะ เพ็งคาสุคันโธ ประธานชุมชนบ่อฝรั่งริมน้ำ เชิญชวนชาวชุมชนในพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว เพื่อส่งเสริมความรู้ด้านการเงินให้กับคนในชุมชนของตนเอง พร้อมทั้งให้การต้อนรับทีมงานอย่างเป็นกันเอง ณ ชุมชนบ้านบ่อฝรั่งริมน้ำ เขตจตุจักร กทม. เมื่อเร็วๆ นี้ โครงการ “เรื่องเงินเรื่องสนุก ความสุขยั่งยืน” จัดโดย สมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อทะเบียนรถ (VTLA) มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความรู้ทางการเงินขั้นพื้นฐานให้กับชาวบ้านชาวชุมชนทั่วประเทศ โดยใช้หลักสูตร “ปลดหนี้ ชีวิตเป็นสุข” และ “ออมเงินง่ายๆ ที่ใครๆ ก็ทำได้” ผ่านความร่วมมือของสมาชิกสมาคมฯ ซึ่งปัจจุบันสมาคมมีสมาชิกผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทยจำนวนรวม 16 ราย มีสาขารวมกันทั่วประเทศกว่า 18,000 สาขา และมีฐานลูกค้ารวมกันกว่า 6 ล้านราย นอกจากนี้ทางสมาคมฯ ขอเรียนเชิญผู้ประกอบการสินเชื่อทะเบียนรถรายอื่น ๆ สมัครเป็นสมาชิกของสมาคมฯ ได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 065-919-0644 หรือเยี่ยมชมรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสมาคมฯ ได้ที่ www.vtla.or.th
Generali บริษัทประกันภัยระดับโลกได้บรรลุข้อตกลงในการขายหุ้น 100% ใน Generali Life Assurance Philippines ให้กับ The Insular Life Assurance Company ซึ่ง Generali ได้ประกาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ธุรกรรมดังกล่าวสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ของ Generali ที่จะขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืน ปรับปรุงโปรไฟล์รายได้ และปรับปรุงฐานการดำเนินงานทางภูมิศาสตร์ให้เหมาะสม โดยเน้นที่ตลาดประกันภัยที่ Generali เป็นผู้นำอยู่ คาดว่าการจำหน่ายดังกล่าวจะส่งผลกระทบอย่างไม่มีนัยสำคัญต่อสถานะ Solvency II ของ Generali และจะเกิดการสูญเสียเงินทุนประมาณ 20 ล้านยูโร (21.1 ล้านดอลลาร์) หลังหักภาษี โดยไม่มีผลกระทบต่อผลประกอบการสุทธิ คาดว่าธุรกรรมดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในครึ่งปีแรกของปี 2568 ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการได้รับอนุญาตที่จำเป็นจากหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่
ศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้า โดย ทีทีบี มุ่งมั่นจุดประกายเยาวชนผ่านการสร้างสรรค์เชิงศิลปะ สานต่อโครงการ Help Kids Make REAL Change คัดเลือกผลงานศิลปะของเด็กไฟ-ฟ้า จากกิจกรรมเวิร์กชอป “ของขวัญจากเด็กธรรมดา” นำไปพัฒนาสร้างสรรค์เป็นของขวัญปีใหม่ เพื่อส่งมอบความสุขให้กับทุกคน โดยมีทีม Lemonc บริษัท สวีท ซัมเมอร์ จำกัด ผู้จำหน่ายเครื่องเขียนและของขวัญด้วยการออกแบบคาแรกเตอร์ลงบนผลิตภัณฑ์ มาร่วมให้ความรู้และแนวทางการออกแบบ วาดภาพประกอบเพื่อนำไปผลิตชิ้นงาน พร้อมสร้างแรงบันดาลให้เด็กไฟ-ฟ้า ออกแบบลวดลายเพื่อนำไปในการประยุกต์ใช้และต่อยอดพัฒนาสู่การสร้างอาชีพในอนาคต นางสาวอลิศรา ชวาลเวชกุล หรือ คุณแอม กรรมการผู้จัดการ บริษัท สวีท ซัมเมอร์ จำกัด เจ้าของแบรนด์ Lemonc บอกว่า ดีใจมากที่ได้มาถ่ายทอดประสบการณ์ เติมเต็มความรู้และเทคนิคการออกแบบวาดภาพให้กับเด็ก ๆ ไฟ-ฟ้า ซึ่งผลงานของทุกคนสามารถพัฒนาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ได้จริง เพียงแค่ปรับอีกเล็กน้อย เพราะบางคนวาดภาพเก่งแต่อาจยังขาดประสบการณ์ หรือแรงบันดาลใจ หาสไตล์ของตัวเองไม่เจอ สำหรับการคัดเลือกจะให้คะแนนผลงานที่ตีความได้ตรงโจทย์ “ของขวัญจากเด็กธรรมดา” มากที่สุด รวมถึงความสวยงามและมีความคิดสร้างสรรค์ สุดท้ายเป็นเรื่องของการนำไปประยุกต์ต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ได้ “ประทับใจน้อง ๆ ไฟ-ฟ้ามาก เพราะทุกคนตั้งใจเรียนรู้ ทุ่มเททำผลงานให้ดีที่สุด สิ่งที่อยากให้น้อง ๆ เรียนรู้เพิ่มเติมคือ เทคนิคใหม่ ๆ เช่น การลงสี เพราะบางคนจะถนัดแค่สีไม้และสีเมจิก ไม่เคยลองใช้สีประเภทอื่น รวมถึงการให้โอกาสน้อง ๆ สร้างผลงานที่แตกต่าง และมีความหลากหลายมากขึ้น ขอชื่นชมศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้าที่ทำให้เด็ก ๆ ได้มีโอกาสเรียนรู้ในสิ่งที่ตัวเองชื่นชอบ ค้นหาตัวเองได้เร็ว และสามารถที่จะจุดประกายเด็ก ๆ ที่มีความฝัน ให้ได้ต่อยอดในสิ่งที่ตัวเองรัก” เสียงสะท้อนจากเด็กไฟ-ฟ้า “น้อง ใหม่” ปัญญาภรณ์ คุณากร หนึ่งในเจ้าของผลงานที่ได้รับคัดเลือก บอกว่า “ชอบวาดรูปเป็นงานอดิเรก และอยากพัฒนาฝีมือตัวเองให้มากขึ้น ซึ่งหลังจากเข้ามาเรียนที่ศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้าทำให้มีพื้นฐานด้านศิลปะแข็งแรงมากขึ้น ฝีมือการวาดรูปพัฒนาดีขึ้น และดีใจมากที่ผลงานได้รับคัดเลือกนำไปต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ เพื่อหารายได้ให้กับมูลนิธิทีทีบี โดยขอขอบคุณพี่ ๆ ทีม Lemonc ที่มาสอนเทคนิคต่าง ๆ เติมเต็มทักษะและความสร้างสรรค์ รวมถึงการวางแผนต่อยอดงานศิลปะสู่ผลิตภัณฑ์ คิดว่าความชัดเจนของลายเส้นและสีสันทำให้ผลงานได้รับคัดเลือก ซึ่งลายเส้นที่ออกแบบบ่งบอกถึงความรักที่อยากส่งต่อผ่านผลงาน เพื่อส่งความสุขให้คนทั้งโลก หวังว่าทุกคนจะชื่นชอบและสนับสนุนของขวัญของเด็ก ๆ ไฟ-ฟ้า และนำความสุขเล็ก ๆ นี้ไปส่งต่อให้กับคนอื่น ๆ” ด้าน “น้องดีโด้”…
กรุงเทพฯ (6 ธันวาคม 2567) – กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) ตอกย้ำจุดยืนในการสนับสนุนธุรกิจไทยเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืนอย่างแข็งแกร่ง ประกาศให้การสนับสนุนสินเชื่อวงเงิน 3,600 ล้านบาท แก่เครือโรงพยาบาลบางปะกอก-ปิยะเวท (Bangpakok-Piyavate Hospital Group) สำหรับโครงการก่อสร้างอาคารโรงพยาบาลปิยะเวท 2 พรานนก ภายใต้แนวคิดที่เน้นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการได้รับมาตรฐานรับรองอาคารสีเขียวระดับสากล LEED (Leadership in Energy and Environmental Design) ในระดับ Gold จากสภาอาคารเขียวสหรัฐอเมริกา (U.S. Green Building Council : USGBC) พร้อมเดินหน้าให้บริการทางการแพทย์อย่างเต็มประสิทธิภาพควบคู่ไปกับการดำเนินงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นายเคนอิจิ ยามาโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ด้วยเป้าหมายในการเป็นธนาคารชั้นนำแห่งภูมิภาคเพื่อความยั่งยืน กรุงศรีมุ่งมั่นให้การสนับสนุนด้านการเงินเพื่อความยั่งยืนผ่านความร่วมมือกับ MUFG เพื่อส่งเสริมการปรับตัวของภาคธุรกิจสู่ความยั่งยืนมาโดยตลอด สำหรับความร่วมมือครั้งนี้ กรุงศรีมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้สนับสนุนสินเชื่อเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้กับเครือโรงพยาบาลบางปะกอก-ปิยะเวท ซึ่งเป็นกลุ่มโรงพยาบาลชั้นนำของประเทศที่ดำเนินกิจการมากว่า 40 ปี ในการสร้างอาคารโรงพยาบาลแห่งใหม่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นับเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญอันจะช่วยให้ทั้งสององค์กรได้บรรลุเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ทั้งยังเป็นพลังสำคัญที่ช่วยผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกแก่ภาคบริการทางการแพทย์และสุขภาพ อันจะเป็นการช่วยเสริมสร้างความยั่งยืนด้านสุขภาพของคนไทย และช่วยขับเคลื่อนประเทศสู่การพัฒนาและเติบโตที่ยั่งยืนต่อไป” นายแพทย์พณะ จันทรกมล CEO ของเครือโรงพยาบาลบางปะกอก-ปิยะเวท กล่าวว่า “โครงการโรงพยาบาล ปิยะเวท 2 พรานนก เป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่แห่งการให้บริการทางการแพทย์ในประเทศไทย ที่ผสมผสานความเป็นผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยีขั้นสูงในรูปแบบสมาร์ทฮอสพิทัล และการบริการที่อบอุ่นเพื่อส่งมอบการรักษาพยาบาลขั้นสูงให้แก่ประชาชนชาวไทย โดยโรงพยาบาลปิยะเวท 2 พรานนก ได้รับการออกแบบให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล เพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการทางการแพทย์ในประเทศ ความมุ่งมั่นของเราที่จะพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นผ่านการเดินหน้าสู่การรับรองมาตรฐานระดับโลก JCI Accreditation นอกจากนี้ โรงพยาบาล ปิยะเวท 2 พรานนก ยังให้ความสำคัญกับความยั่งยืนโดยการตั้งเป้าหมายเพื่อขอรับ LEED Certification ในระดับ Gold และดำเนินการตามหลักการ ESG เพื่อแสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานโลกที่กำลังพัฒนา โครงการที่มีเป้าหมายอันยิ่งใหญ่นี้จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากขาดความเชื่อมั่นและการสนับสนุนจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา การสนับสนุนในครั้งนี้ช่วยให้เราสร้างไม่ใช่เพียงโรงพยาบาล แต่เป็นสัญลักษณ์ของนวัตกรรมทางการแพทย์ ความยั่งยืน…
ธนาคารกรุงเทพ ประกาศความสำเร็จโครงการ “80 แสนซีซี 80 ปี ธนาคารกรุงเทพ” พร้อมขอบคุณ “ผู้ให้” ที่ยิ่งใหญ่ ตลอดจนหน่วยงานพันธมิตรทั่วประเทศ รวมพลังกันส่งมอบโลหิตผ่านโครงการนี้ รวม14,031,600 ซีซี แก่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ใช้ช่วยเหลือผู้ป่วยได้ 105,237 ราย ปลื้มใจชวนผู้บริจาครายใหม่ได้มากถึง 76% ส่วนรายเดิมยังบริจาคสม่ำเสมอ ยืนยันเดินหน้าเปิดจุดรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ต่อเนื่อง หวังสร้างความตระหนักรู้การสำรองปริมาณโลหิตอย่างยั่งยืน ตอกย้ำความเป็น “เพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน” เคียงข้างสังคมไทยสู่ปีที่ 81 นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตามที่ธนาคารได้จัดโครงการ “80 แสนซีซี 80 ปี ธนาคารกรุงเทพ” เพื่อส่งต่อความช่วยเหลือแก่ผู้คนในสังคมได้อย่างเป็นรูปธรรม ทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมเฉลิมฉลองในโอกาสดำเนินธุรกิจครบ 80 ปีของธนาคารกรุงเทพในวันที่ 1 ธันวาคม 2567 นี้ด้วย โดยโครงการดังกล่าว ธนาคารได้ร่วมกับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย เพื่อเชิญชวนคนไทยร่วมเป็น “ผู้ให้” ด้วยการบริจาคโลหิต ผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ภาคบริการโลหิตแห่งชาติ 12 แห่งทั่วประเทศ หน่วยรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่และโรงพยาบาลแต่ละจังหวัดที่เป็นโรงพยาบาลสาขาบริการโลหิต ตลอดจนจุดรับบริจาคเคลื่อนที่ของธนาคารกรุงเทพ ณ อาคารสำนักงานใหญ่ สีลม และอาคารพระราม 3 ที่จัดต่อเนื่องตลอดทั้งปี และจุดบริจาคเคลื่อนที่อื่นๆ ที่ได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากหน่วยงานและกลุ่มองค์กรพันธมิตรชั้นนำต่างๆ ทั่วประเทศ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการให้อันยิ่งใหญ่นี้ถึง 765 แห่ง ส่งผลให้เมื่อสิ้นสุดโครงการลงในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา จึงมียอดรับบริจาคโลหิตรวมถึง 14,031,600 ซีซี จากจำนวนผู้บริจาคทั้งสิ้น 35,079 ราย ซึ่งโลหิตจำนวนนี้จะสามารถช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ได้ถึง105,237 ราย ทั้งนี้ เพื่อเป็นการขอบคุณ “ผู้ให้” ทั้งผู้บริหารและพนักงานของธนาคารกรุงเทพ ที่ได้หลั่งไหลเข้าร่วมบริจาคโลหิต ภายใต้โครงการ “80 แสนซีซี 80 ปี ธนาคารกรุงเทพ”…
5 ธนาคารพาณิชย์ชั้นนำของไทย ประกอบด้วย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และธนาคารไทยพาณิชย์ ร่วมสนับสนุนสินเชื่อสีเขียว (Green Loan) วงเงิน 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งมีมูลค่าสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ เพื่อการพัฒนาและดำเนินโครงการ วัน แบงค็อก แลนด์มาร์คใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ มูลค่าการลงทุน 120,000 ล้านบาท โดยมีนายปณต สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด และผู้บริหารระดับสูงของทั้ง 5 ธนาคารพาณิชย์ร่วมลงนามสัญญาการสนับสนุนทางการเงินในครั้งนี้ โครงการ วัน แบงค็อก เป็นโครงการที่สอดคล้องกับหลักความยั่งยืน ครอบคลุมตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ การก่อสร้าง และการบริหารจัดการ โดยมุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรและพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้คน และสังคม ความร่วมมือทางการเงินของทั้ง 5 ธนาคารพันธมิตรเป็นความร่วมมือ ครั้งสำคัญที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาโครงการวัน แบ็งค็อกให้เป็นเมืองต้นแบบแห่งความยั่งยืน ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจของไทยในระยะยาว นอกจากนี้ ยังช่วยตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นของภาคการเงินต่อศักยภาพของตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย โดยเฉพาะในกลุ่มอาคารสำนักงานสีเขียวคุณภาพสูงที่มีความต้องการของตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง กลุ่มธุรกิจรีเทล ที่พักอาศัยระดับลักซ์ชัวรี่ ตลอดจนธุรกิจโรงแรมที่ได้รับปัจจัยส่งเสริมจากการขยายตัวในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ชูความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ จากการเป็นโครงการต้นแบบกรีนสมาร์ทซิตี้ที่ครบครันใจกลางกรุงเทพฯ รวมทั้งนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน ที่การันตีได้จากรางวัลต่าง ๆ เช่น เป็นโครงการแรกของไทยที่ได้รับการรับรองโดยมาตรฐาน LEED for Neighborhood Development ระดับแพลตตินัม รวมถึงมาตรฐาน WiredScore และ SmartScore ในระดับแพลตตินัม อีกทั้งยังมุ่งสู่การรับรองโดยมาตรฐานรับรองอาคาร WELL เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิต ความสะดวกสบาย และความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยและผู้ใช้บริการ
อารีเกเตอร์ (Areegator) แพลตฟอร์มเสนอขายประกันออนไลน์ ภายใต้คอนเซปต์ “จริงใจ เข้าใจ เติบโตไปพร้อมกัน” โดย นายธีระวัฒน์ สาเจริญผู้บริหาร สายงานตัวแทน อารีเกเตอร์ ส่งทีมงานจัดกิจกรรม “Areegator Monthly’s Classes ห้องเรียนรู้เสริมทักษะ สร้างรายได้” ประจำเดือนพฤศจิกายน 2567 ในหัวข้อ “เจาะตลาดออนไลน์ ทำการขายผ่านโซเชียลยังไงให้ปัง” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออัปเดตเทรนด์ล่าสุดของโซเชียลมีเดีย และให้ความรู้เกี่ยวกับเทคนิคการทำการตลาดผ่านโซเชียลมีเดียอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมแนะนำการตัดต่อวิดีโอคอนเทนต์เบื้องต้นสำหรับมือใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างวิดีโอ TikTok ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด เพื่อช่วยให้สมาชิกของอารีเกเตอร์สามารถนำความรู้ไปปรับใช้ในการสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับการเงินและประกันได้อย่างน่าสนใจ และเพิ่มยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าวได้รับความสนใจจากสมาชิกฯ เป็นจำนวนมาก มีผู้เข้าร่วมอบรม 185 คน โดยจัดขึ้นในรูปแบบออนไลน์ผ่านช่องทาง Zoom เมื่อเร็วๆ นี้ สำหรับนายหน้าประกันหรือนักขายอิสระสามารถเยี่ยมชมข้อมูลอารีเกเตอร์ (Areegator) และสมัครสมาชิกโดยไม่มีค่าใช้จ่ายได้ที่ www.areegator.com และ Facebook อารีเกเตอร์สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Areegator Call Center หมายเลขโทรศัพท์ 02-792-1320 กด 2 (จ.-ศ. เวลา 08.30-17.30 น.)
บมจ.ไทยสมุทรประกันชีวิต รักคือพลังของชีวิต โดยคุณสุวรรณ อุดมเฉลิมเดช Chief Investment Officer (CIO) เข้ารับ รางวัลองค์กรที่ส่งเสริมการจ้างงานคนพิการ ในระดับดีเด่น ประจำปี 2567 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ในงาน วันคนพิการสากล ประจำปี 2567 โดยได้รับเกียรติจากคุณโชคชัย วิเชียรชัยยะ อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เป็นผู้มอบรางวัล ซึ่งรางวัลอันทรงเกียรตินี้สะท้อนถึงบทบาทสำคัญของ OCEAN LIFE ไทยสมุทรในการสนับสนุนความหลากหลายและการสร้างสังคมที่เท่าเทียม โดยเปิดโอกาสให้คนพิการมีส่วนร่วมในองค์กร และส่งเสริมให้ทุกคนพัฒนาศักยภาพได้อย่างเต็มที่ พร้อมสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานด้วยพลังความรัก ให้เป็นเสมือน “บ้านหลังที่สอง” ที่อบอุ่นเต็มไปด้วยความสุข ความสำเร็จ และความมั่นคง ทำให้ทุกคนมีพลังบวกในการส่งต่อคุณค่าให้กับลูกค้า และขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป OCEAN LIFE ไทยสมุทร ใช้ความรักเป็นพลังขับเคลื่อนองค์กรมายาวนาน 75 ปี โดยไม่หยุดพัฒนาในทุกมิติ เพื่อทำให้ประกันชีวิตเป็นเรื่องง่าย ทำให้คนไทยเข้าถึงประโยชน์ของการประกันชีวิตได้มากที่สุด พร้อมแล้วที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลโลกและสังคม เพื่อส่งมอบอนาคตที่ยั่งยืนให้กับคนรุ่นต่อไปได้ ใช้ชีวิตอย่างมั่นคง มั่นใจ ปลอดภัย มีความสุข สนใจติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ocean.co.th หรือ ติดต่อ OCEAN LIFE CONTACT CENTER 1503
“ไทยกรุ๊ป โฮลดิ้งส์” นำผู้บริหารและทีมพัฒนาโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานใหม่ ชมความงดงามของวัดอรุณฯ เสริมความสัมพันธ์ทีมงาน สร้างการตระหนักรู้ความเชื่อมโยงของตราสัญลักษณ์บริษัทกับพระปรางค์วัดอรุณยาวนานกว่า 78 ปี มุ่งสร้างคุณค่าและความสำเร็จที่ยั่งยืน บริษัท ไทยกรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) กลุ่มธุรกิจประกันและการเงินในเครือทีซีซี นำโดย นายโชติพัฒน์ พีชานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ นางอาทินันท์ พีชานนท์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จัดกิจกรรม THAI GROUP QUARTER : Meet & Talk No.2 Heritage by The River เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ร่วมกับทีมพัฒนาโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานใหม่ ภายใต้โครงการ Thai Group Quarter ซึ่งมีบริษัท นอร์ท สาธร เรียลตี้ จำกัด ในกลุ่มบริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้บริหารโครงการ รวมทั้งบริษัท นันทวัน จำกัด (Thai Obayashi) ซึ่งเป็นผู้รับเหมาหลักของงานก่อสร้าง โดยกิจกรรมครั้งนี้ ได้นำคณะผู้บริหาร และทีมผู้พัฒนาโครงการฯ เข้าเยี่ยมชมความงดงามของ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ศาสนสถานที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ไทย เพื่อสร้างการตระหนักรู้ถึงความเชื่อมโยงระหว่างพระปรางค์วัดอรุณ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญของชาติไทย กับตราสัญลักษณ์ของบริษัทฯ ที่ใช้ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งจนถึงปัจจุบันเป็นระยะเวลากว่า 78 ปี ในการนี้ ได้รับเกียรติจาก นายภูธร ภูมะธน ที่ปรึกษาด้านวัฒนธรรม บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และนายธีรนันท์ ช่วงพิชิต ผู้ก่อตั้งศูนย์ข้อมูลประวัติศาสตร์ชุมชนธนบุรีและประธานมูลนิธิประชาคมย่านกะดีจีน-คลองสาน ร่วมบรรยายแลกเปลี่ยนมุมมองด้านประวัติศาสตร์และคุณค่าของความยั่งยืน…