ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ประกาศความสำเร็จคว้า 2 รางวัลจากเวที TMA Excellence Awards 2024 ซึ่งจัดขึ้นโดย สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA) ร่วมกับ สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อเชิดชูองค์กรที่มีความเป็นเลิศด้านการบริหารจัดการในหลากหลายมิติ โดยการพิจารณามอบรางวัลครั้งนี้มาจากผลสำรวจความคิดเห็นของผู้บริหารระดับสูงจากองค์กรชั้นนำของประเทศไทย และการประเมินโดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้รับพระราชทาน Thailand Corporate Excellence Awards 2024 สาขาความเป็นเลิศด้านนวัตกรรมและการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ (Innovation Excellence Award) และ รางวัล SMEs Excellence Awards ประเภท Silver Award สาขาอุตสาหกรรมการผลิต (Manufacturing Excellence) โดยมี นางสาวปิติพร พนาภัทร์ รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Digital Business ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และ นายศุภฤทธิ์ เมฆอรุณกมล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่าย SME Bangkok 1เป็นตัวแทนรับมอบรางวัลจาก นายจิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา องคมนตรี ซึ่งเป็นประธานในพิธี รางวัล Innovation Excellence Award เรียกได้ว่าเป็นเครื่องยืนยันถึงความสำเร็จของธนาคารในการนำเทคโนโลยี AI และนวัตกรรมมาปรับใช้ในการขับเคลื่อนธุรกิจธนาคารในทุกมิติ ตั้งแต่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การเชื่อมโยงบริการที่ครอบคลุม ตลอดจนการยกระดับกระบวนการทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อมอบประสบการณ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและตรงใจ ภายใต้กลยุทธ์ Digital Bank with Human Touch ในส่วนของ รางวัล SMEs Excellence Awards ธนาคารได้เสนอชื่อ บริษัท ไมครอน กรุ๊ป จำกัด ผู้ผลิต และจำหน่าย ผลิตภัณฑ์พลาสติก ประเภทที่ใช้ในครัวเรือน เน้นกล่องใส่อาหาร ขวดน้ำ กล่องใส่ของ ลิ้นชัก…
Author: staff
บมจ.ไทยสมุทรประกันชีวิต “รักคือพลังของชีวิต” โดย คุณนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ (CEO) เชิญทุกท่านสัมผัสประสบการณ์ใหม่ในการเลือกซื้อประกันชีวิตจาก OCEAN LIFE ไทยสมุทร ในงาน Insure Mall Thailand 2024ศูนย์รวมประกันภัยออนไลน์ครบวงจร ซึ่งจัดขึ้นโดย สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ร่วมกับภาคธุรกิจประกันภัย ภายใต้แนวคิด “Insure Mall ครบทุกเรื่องประกันภัย จบทุกความต้องการ” โดยงานนี้ OCEAN LIFE ไทยสมุทร ได้เตรียมผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่ครอบคลุมครบทุกความต้องการของคนทุก Gen ไม่ว่าจะเป็นประกันลดหย่อนภาษี ประกันสุขภาพ ประกันโรคร้ายแรง ประกันเพื่อการออมทรัพย์ ประกันบำนาญ และแบบประกันอื่น ๆ อีกมากมายที่มาพร้อมกับโปรโมชั่นสุดว้าว สำหรับลูกค้าที่ซื้อประกันภัยภายในงานเท่านั้น งานนี้จัดขึ้นในรูปแบบออนไลน์ ให้คุณสะดวกสบายในการเลือกซื้อประกันภัยได้ทุกที่ ทุกเวลา ตลอด 24 ชั่วโมง เพียงคลิกที่ www.insuremallthailand.com ตั้งแต่วันนี้ – 15 มกราคม 2568ห้ามพลาดโอกาสดีๆ ในการเลือกประกันชีวิตที่ตอบโจทย์ พร้อมรับความคุ้มครองและสิทธิพิเศษที่คุ้มค่าที่สุดจาก OCEAN LIFE ไทยสมุทร! คัดสรรผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่โดนใจให้คนทุก Gen OCEAN LIFE ไทยสมุทร ได้คัดสรรผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่ครอบคลุมครบตอบโจทย์โดนใจคนทุก Gen นำทัพด้วย “โอเชี่ยนไลฟ์ ออมสบาย 10/5” ประกันลดหย่อนภาษีที่ขายดีและลูกค้าบอกต่อมากที่สุดของเรา เพื่อเอาใจมนุษย์เงินเดือนในช่วงโค้งสุดท้ายปลายปี ที่ให้คุณจ่ายเบี้ยสั้นเพียง 5 ปี คุ้มครอง 10 ปี รับเงินคืนสูงทุกปี ตั้งแต่ปีแรกถึงปีสุดท้าย รับผลประโยชน์ตลอดสัญญารวม 560% ของทุนประกันภัย ส่วนเบี้ยประกันชีวิตลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000บาท (ตามที่กรมสรรพากรกำหนด) และหากกำลังมองหาประกันสุขภาพที่คุ้มครองครบจบทุกความกังวล เราขอแนะนำ “โอเชี่ยนไลฟ์ เอ็นจอย เฮลท์ เอ็กซ์ตร้า” ที่คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลแบบเหมาจ่ายสูงสุด 5 ล้านบาทต่อครั้ง คุ้มครองค่าห้องพักเดี่ยวมาตรฐาน พร้อมคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก (OPD) ต่อเนื่องหลังการเข้าพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน (IPD)…
ที ไลฟ์ ประกันชีวิต ร่วมงาน “Insure Mall Thailand” พร้อมจัดโปรโมชั่นให้ลูกค้าเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตออนไลน์ได้ง่ายๆ ผ่านเว็บไซต์ www.insuremallthailand.com ตอบโจทย์ทุกการวางแผนลดหย่อนภาษี ด้วยแผนประกันที่หลากหลาย ครอบคลุมทุกความต้องการ พร้อมเสริมทัพด้วย แบบประกันชีวิตออมทรัพย์ระยะสั้น ที่จ่ายเบี้ยครั้งเดียวให้ผลตอบแทนสูง นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นสุดพิเศษ ทั้งจากบริษัทฯ และในงาน จัดเต็มตั้งแต่วันที่ 9 – 15 ธันวาคม 2567 โปรโมชั่นจัดหนักจาก T Life : รับบัตรกำนัล Central ตามมูลค่าแต่ละผลิตภัณฑ์ ดังนี้ Smart Saving 10/4 ออมเงินสบายๆ แบบรายเดือน ผลตอบแทนเทียบเท่าดอกเบี้ยเงินฝากสูงสุด 2.21% ต่อปี รับบัตรกำนัล Central มูลค่า 3% ของเบี้ยประกันภัยปีแรก เมื่อชำระเบี้ยประกันรายปีด้วยเงินสดหรือบัตรเครดิต 30,000 บาทขึ้นไป Smart Saving 10/5 เหมาะสำหรับวัยทำงานมือเก๋า บริหารเงินอย่างเชี่ยวชาญ ให้เงินทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ผลตอบแทนเทียบเท่าดอกเบี้ยเงินฝากสูงสุด 2.82% ต่อปี รับบัตรกำนัล Central มูลค่า 1.5% ของเบี้ยประกันภัยปีแรก เมื่อชำระเบี้ยประกันรายปีด้วยเงินสด100,000 บาทขึ้นไป Smart Annuity 95/5 แบบประกันบำนาญลดหย่อนภาษีได้ วางแผนเกษียณอย่างมีสไตล์ สุขสบายไปได้ตลอด จ่ายเบี้ยสั้นเพียง 5 ปี รับเงินบำนาญรวมสูงสุด 720% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย รับบัตรกำนัล Central มูลค่า 4% ของเบี้ยประกันภัยปีแรก Super Saving 2/1 จ่ายเบี้ยครั้งเดียว คุ้มครอง 2 ปี รับเงินคืนทุกๆ 6 เดือน ผลตอบแทนเทียบเท่าดอกเบี้ยเงินฝาก 3% ต่อปี รับบัตรกำนัล Central ตามเงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนด…
บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD ประกาศความสำเร็จปิดการขายหุ้นกู้มูลค่ารวม 3,000 พันล้านบาท ซึ่งเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 26-28 พฤศจิกายน 2567 นักลงทุนให้การตอบรับล้นหลาม สามารถจำหน่ายได้ครบทั้งจำนวนภายในเวลาอันรวดเร็ว ตอกย้ำความมั่นใจในสถานะทางการเงินและศักยภาพการดำเนินธุรกิจของบริษัท นางสาวธิดา แก้วบุตตา ผู้อำนวยการกลยุทธ์องค์กร บมจ.ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น (SAWAD)กล่าวว่า “ความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้ สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ที่มีเป้าหมายเพื่อตอบสนองทางการเงินของลูกค้าให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยปัจจุบัน SAWAD มีสาขากว่า 5,600 แห่ง นอกจากนี้ ยังนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาเสริมศักยภาพการให้บริการผ่านแอปพลิเคชัน “ศรีสวัสดิ์” ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกในการจัดการสินเชื่อและบริการอื่น ๆ อย่างครบวงจร ในฐานะผู้นำด้านธุรกิจสินเชื่อรายย่อย ตอกย้ำความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ตอบโจทย์ทั้งลูกค้าและนักลงทุน พร้อมทั้งเดินหน้าพัฒนาธุรกิจเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในระยะยาวรวมถึงผลตอบแทนที่น่าสนใจและความมั่นคงในระดับ Investment Grade” หุ้นกู้ที่ออกจำหน่ายในครั้งนี้แบ่งเป็น 3 ชุด ได้แก่ ชุดที่ 1 อายุ 1 ปี 11 เดือน 26 วัน ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2569 อัตราดอกเบี้ย 4.30% ต่อปี ชุดที่ 2 อายุ 3 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2570 อัตราดอกเบี้ย 4.80% ต่อปี และชุดที่ 3 อายุ 3 ปี 11 เดือน 26 วัน ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2571 อัตราดอกเบี้ย 4.95% ต่อปี ทั้งนี้ หุ้นกู้ดังกล่าวยังได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ “BBB+” พร้อมแนวโน้ม “คงที่” จาก ทริสเรทติ้ง ณ วันที่ 27 มิถุนายน 2567 “เราขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่ไว้วางใจในหุ้นกู้ของ SAWAD และพร้อมเดินหน้าสู่ความสำเร็จในระยะยาวเพื่อสร้างคุณค่าให้ทั้งลูกค้าและนักลงทุน” นางสาวธิดากล่าวปิดท้าย
แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยในปี 2024-2025 ยังอยู่ในระดับทรงตัวหรือปรับตัวลดลง จากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะทยอยกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในช่วงปลายปี 2024 ซึ่งช่วยบรรเทาภาระหนี้ภาคครัวเรือน อีกทั้ง สินเชื่อมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลง ทำให้คณะกรรมการนโยบายทางการเงิน (กนง.) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.25 ต่อปีในการประชุมครั้งล่าสุด เป็นประโยชน์ต่อการลงทุนในตราสารหนี้โดยเฉพาะกลุ่มตราสารหนี้ที่มีอายุเฉลี่ยค่อนข้างยาว ที่จะได้รับประโยชน์จากราคาตราสารหนี้ที่มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น และการสิ้นสุดวัฏจักรขาขึ้นของอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย ทำให้ความเสี่ยงขาลงค่อนข้างมีจำกัด ด้วยภาพรวมตลาดตราสารหนี้ดังกล่าวส่งผลให้การลงทุนในตราสารหนี้ในปัจจุบันยังมีความน่าสนใจ กองทุนเปิด ยูไนเต็ด ตราสารหนี้ไทย ซัสเทนเนเบิล – ชนิดหน่วยลงทุนไทยเพื่อความยั่งยืน ที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีและไม่จ่ายเงินปันผล (UTSB-ThaiESG) ระดับความเสี่ยง 3 ปานกลางค่อนข้างต่ำ มีนโยบายลงทุนในตราสารภาครัฐไทย เช่น ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล หรือพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย พันธบัตร ตั๋วแลกเงิน ตั๋วสัญญาใช้เงิน โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน กองทุนจะลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรที่กระทรวงการคลังค้ำประกันต้นเงินและดอกเบี้ย หรือหุ้นกู้ที่กระทรวงการคลังค้ำประกันต้นเงินและดอกเบี้ยแต่ไม่รวมถึงหุ้นกู้แปลงสภาพ ซึ่งเป็นพันธบัตรหรือหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (green bond) พันธบัตรหรือหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืน (sustainability bond) หรือ พันธบัตรหรือหุ้นกู้ส่งเสริมความยั่งยืน (sustainablility – linked bond) รวมถึงตราสารหนี้อื่นใดในกลุ่มความยั่งยืนตามที่สำนักงาน ก.ล.ต. กำหนดหรือเห็นชอบให้กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน (Thai ESG Fund) สามารถลงทุนหรือมีไว้ได้ โดยมี net exposure ในทรัพย์สินดังกล่าวโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน นอกจากนี้กองทุน UTSB-ThaiESGยังเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของ กองทุนรวมเพื่อความยั่งยืน (SRI Fund)ซึ่งเป็นกองทุนรวมที่มีการเปิดเผยข้อมูลในโครงการและหนังสือชี้ชวนว่ามีการจัดการกองทุนรวมโดยมุ่งความยั่งยืน (Sustainability) ตามหลักสากลอีกด้วย กองทุน UTSB-ThaiESG มีแนวทางบริหารกองทุนด้วยการใช้หลักเกณฑ์ด้านความยั่งยืนมาเป็นองค์ประกอบในกระบวนการลงทุน มีกระบวนการคัดกรองจากปัจจัยด้านความยั่งยืน ESG (Environment, Social and Governance) ประกอบกับการประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ออกตราสาร ใช้ข้อมูลบทวิเคราะห์ทั้งจากภายใน (In House Research) และภายนอก (External Source) และการเยี่ยมชมกิจการของบริษัทจดทะเบียน (Company Visit) รวมถึงการพิจารณาปัจจัยพื้นฐานของบริษัท เช่น สถานะทางการเงิน ความสามารถในการทำกำไร รวมถึงการวิเคราะห์ทางเครดิต…
โลกสมัยนี้ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีที่ทำให้ชีวิตเราสะดวกสบายขึ้น แต่ก็ยังมีความเสี่ยงจากมิจฉาชีพที่ใช้ช่องโหว่เหล่านี้มาเอาเปรียบคุณ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ผู้ให้บริการบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล จึงมีเคล็ดลับมาแนะนำเพื่อให้คุณรู้เท่าทันและป้องกันภัยจากมิจฉาชีพ • คิดก่อนจะทำตามปลายสายบอก : ถ้าได้รับข้อความหรือโทรศัพท์สายแปลก ๆ จากคนที่ไม่รู้จัก อย่าเพิ่งเชื่อว่านั่นคือความจริง ใช้เวลาสักนิดเพื่อคิดและไตร่ตรองให้ดีก่อนทำตามที่ปลายสายบอก หากไม่แน่ใจ วิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยป้องกันตัวเองได้ คือ เลือกไม่กดรับ แล้วบล็อก จากนั้นลบเบอร์นั้นทิ้งด้วยเพื่อป้องกันไม่ให้ได้รับการติดต่อซ้ำ • อย่ากดลิงค์หรือสแกน QR Code ที่ไม่รู้แหล่งที่มา : หากได้รับคำขอแปลก ๆ ผ่าน SMS, e-Mail หรือ Line อาทิ ขอให้โอนเงิน, ขอเลข OTP, ขอเลขบัตรเครดิต, ขอให้กดลิงค์รับรางวัลหรือกดยืนยันรับพัสดุ ฯลฯ ให้คิดไว้ก่อนว่าอาจเป็นมิจฉาชีพที่ส่งมาล่อลวง ตั้งสติให้ดีและอย่าเพิ่งกดลิงค์หรือสแกน QR Code ที่ไม่มั่นใจควรจะตรวจสอบแหล่งที่มาก่อนว่าน่าเชื่อถือหรือไม่ หากไม่แน่ใจให้ลบทิ้งทันที • อย่าเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวทางโทรศัพท์ : หากได้รับโทรศัพท์จากคนที่อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือหน่วยงานใด ๆ ก็ตาม อย่าเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวหรือยอมทำธุรกรรมการเงินตามคำร้องขอ ให้พยายามขอชื่อ-นามสกุล ชื่อหน่วยงานที่สังกัดเพื่อนำไปตรวจสอบว่าข้อมูลนั้นน่าเชื่อถือหรือไม่ และให้รีบหาทางวางสายก่อนที่จะโดนล้วงข้อมูลอื่น ๆ • อย่าใช้รหัสผ่านที่เดาง่าย : เมื่อใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีทุกชนิด เช่น โทรศัพท์มือถือ,คอมพิวเตอร์, แท็บเล็ต, โมบายแอปพลิเคชันต่าง ๆ เป็นต้น ควรตั้งรหัสผ่านที่คาดเดาได้ยากและเปลี่ยนบ่อย ๆ • ตรวจสอบความปลอดภัยของเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน : ก่อนทำธุรกรรมออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ทุกครั้ง ควรตรวจสอบว่าเว็บไซต์มีการเข้ารหัสข้อมูล โดยสามารถสังเกตสัญลักษณ์กุญแจล็อกบนแถบ URL หรือ “https://” (Hypertext Transfer Protocol Secure) เพื่อป้องกันไม่ให้มีใครสามารถอ่านข้อมูลที่ส่งผ่านบนอินเทอร์เน็ตไปใช้งานได้ • ตรวจสอบก่อนเพิ่มเพื่อนใน Line : ก่อนเพิ่มเพื่อนใน Line ควรมั่นใจว่าเป็นบัญชีที่เชื่อถือได้ เพราะถ้าเผลอกดเพิ่ม Line ปลอมที่มิจฉาชีพทำขึ้นเพื่อหลอกเรา อาจทำให้ข้อมูลส่วนตัวถูกขโมย เช่น รหัสผ่านหรือข้อมูลบัตรเครดิต เป็นต้น หรืออาจถูกหลอกให้ติดตั้งมัลแวร์บนอุปกรณ์ ทำให้ข้อมูลถูกขโมยหรืออุปกรณ์ทำงานผิดปกติ เป็นต้น…
นายพงศ์พันธ์ ประภาศิริลักษณ์ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้แทนบริษัทฯ เข้าร่วมพิธี “วันโลกรำลึกถึงผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน” (World Day of Remembrance for Road Traffic Victims) ซึ่งมูลนิธิเมาไม่ขับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และภาคีเครือข่ายรณรงค์ลดอุบัติเหตุภาครัฐ ได้ร่วมจัดขึ้นเพื่อรำลึกถึงเหยื่อผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ รวมถึงครอบครัวของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุทางถนน และเพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักถึงความสูญเสียที่เกิดขึ้น ด้วยการร่วมยืนไว้อาลัย และการวางดอกกุหลาบต่อหน้ารูปเหยื่อผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุบนท้องถนน ณ อาคารสำนักงานองค์การสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย ถนนราชดำเนิน กรุงเทพฯ ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ให้การสนับสนุนกิจกรรมวันโลกรำลึกถึงผู้สูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน (World Day of Remembrance for Road Traffic Victims) มาอย่างต่อเนื่องทุกปี ด้วยตระหนักถึงปัญหาอุบัติเหตุทางถนน ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาวะของประชาชนทั้งร่างกายและจิตใจ ตั้งแต่ระดับบาดเจ็บเล็กน้อย พิการ ไปจนถึงเสียชีวิต โดยในประเทศไทย มีจำนวนผู้เสียชีวิตบนท้องถนนสูงสุดเป็นอันดับที่ 9 ของโลก และอันดับที่ 1 ของทวีปเอเชีย ทั้งยังเกิดความเสียหายทางด้านทรัพย์สินอีกกว่า 5 แสนล้านบาทต่อปี วิริยะประกันภัย จึงร่วมสนับสนุนกิจกรรมดังกล่าว เพื่อสานต่อเจตนารมย์ขององค์การสหประชาชาติ (UN) และมูลนิธิเมาไม่ขับ ในการสร้างพื้นฐานความตระหนักรู้ให้กับประชาชนในสังคม เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนที่ยั่งยืนต่อไป ขอขอบพระคุณที่กรุณาเผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ แผนกประชาสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร โทร. 0-21297416 (คุณนุ้ย) , 0-21297436 (คุณวาวา)
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ บลจ.อีสท์สปริง เปิดเสนอขายกองทุนเปิดอีสท์สปริง พันธบัตรรัฐมุ่งรักษาเงินต้น 6M30 (ES-GOVCP6M30) อายุประมาณ 6 เดือน เงินทุนโครงการ 6,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นกองทุนรวมตราสารหนี้ที่มุ่งรักษาเงินต้นที่ผู้ลงทุนจะมีโอกาสได้รับเงินต้นคืนเต็มจำนวน และมีโอกาสได้รับผลตอบแทนเพิ่มจากการเพิ่มขึ้นของมูลค่าหน่วยลงทุน ณ วันครบอายุโครงการ โดยเสนอขายครั้งแรกครั้งเดียวตั้งแต่วันนี้-12 ธันวาคม 2567 นี้ ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท โดยกองทุน ES-GOVCP6M30 มีนโยบายที่จะนำเงินลงทุนไปลงทุนในตั๋วเงินคลัง และ/หรือพันธบัตรรัฐบาล และ/หรือพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ในอัตราส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน สำหรับเงินลงทุนส่วนที่เหลือจะลงทุนในเงินฝากธนาคาร และ/หรือหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. กำหนดหรือเห็นชอบให้กองทุนลงทุนได้ และกองทุนจะไม่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) ทั้งนี้ กองทุนจะลงทุนเพียงครั้งเดียวและถือครองทรัพย์สินที่ลงทุนจนครบอายุโครงการ (Buy and Hold) โดยคาดหวังจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 2.08% ต่อปี ณ วันครบอายุโครงการ ซึ่งเมื่อหักค่าใช้จ่ายประมาณ 0.18% ต่อปี ณ วันครบอายุโครงการ แล้ว ผู้ลงทุนจะได้รับประมาณการผลตอบแทนอยู่ที่1.90% ต่อปีของเงินลงทุนเริ่มแรก (แหล่งที่มาของข้อมูล อัตราผลตอบแทนที่เสนอขายโดยผู้ออกตราสาร ณ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2567) ทั้งนี้ เมื่อครบกำหนดอายุกองทุน บลจ.อีสท์สปริง จะดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนแบบอัตโนมัติ และทำการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนของกองทุนทั้งจำนวนของผู้ถือหน่วยทุกราย ไปยังกองทุนเปิดอีสท์สปริง ธนรัฐ (ES-TM) หรือกองทุนรวมตลาดเงินอื่นที่บลจ.อีสท์สปริง เปิดให้บริการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน ในวันทำการก่อนวันสิ้นสุดอายุโครงการ อย่างไรก็ตาม หากไม่สามารถลงทุนให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ เนื่องจากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไป ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทนตามอัตราที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ ผู้ลงทุนจะไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ในช่วงระยะเวลา 6 เดือนดังนั้น หากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าว ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก กองทุนอาจไม่ได้รับเงินต้นและผลตอบแทนตามที่คาดหวังไว้ หากผู้ออกตราสารที่กองทุนลงทุนไม่สามารถชำระเงินต้นและดอกเบี้ยคืนได้ บริษัทจัดการขอสงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลงทรัพย์สินที่ลงทุนหรือสัดส่วนการลงทุนได้ เฉพาะเมื่อมีความจำเป็นและสมควรเพื่อประโยชน์ของผู้ลงทุนเป็นสำคัญ โดยการเปลี่ยนแปลงนั้นต้องไม่ทำให้ความเสี่ยงของทรัพย์สินที่ลงทุนเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ และผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน และกองทุนมีความเสี่ยงที่สำคัญ เช่น ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย ความเสี่ยงจากการขาดสภาพคล่องของตราสาร และความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาหลักทรัพย์…
ธนชาตประกันภัย ร่วมสนับสนุนกิจกรรมวิ่งเพื่อพ่อ “LOVE DAD NIGHT FUN RUN” จัดโดย เดอะมอลล์ กรุ๊ป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ 5 ธันวาคม และวันพ่อแห่งชาติ ประจำปี 2567 พร้อมมอบความอุ่นใจด้วยประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล คุ้มครองสูงสุด 100,000 บาท นาน 30 วัน ให้กับนักวิ่งกว่า 1,000 คน อีกทั้งยังได้นำผู้บริหารและพนักงาน ร่วมกิจกรรมวิ่งสร้างสุขภาพที่ดี และออกบูทแจกไอศกรีม เสริมสร้างพลังงาน เพิ่มความสุขความสดชื่นให้กับผู้ที่รักการออกกำลังกาย ณ อุทยานเบญจสิริ กรุงเทพมหานคร นางวิชินี โอรพันธ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในฐานะภาคีเครือข่ายภาคเอกชนที่เข้าร่วมในการจัดกิจกรรมวิ่งเพื่อพ่อ “LOVE DAD NIGHT FUN RUN” ภายในอุทยานเบญจสิริ ถนนสุขุมวิท กรุงเทพมหานคร เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาสุดมิได้ แด่พระมหากษัตริย์ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร 5 ธันวาคม และวันพ่อแห่งชาติ โดยธนชาตประกันภัยได้ส่งมอบความอุ่นใจให้กับนักวิ่งที่เข้าร่วมกิจกรรม ด้วยการมอบประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล คุ้มครองสูงสุด 100,000 บาท นาน 30 วัน และออกบูทมอบไอศกรีม เสริมสร้างพลังงาน เพิ่มความสุขความสดชื่นในกิจกรรมดังกล่าว นอกจากนี้ ผู้บริหารและพนักงานของธนชาตประกันภัย ยังได้เข้าร่วมสร้างสุขภาพที่ดี โดยวิ่งไปพร้อมกับประชาชนชนมากกว่า 1,000 คน ในกิจกรรมวิ่งเพื่อพ่อ ที่จัดในรูปแบบ NIGHT FUN RUN ท่ามกลางบรรยากาศและสีสันยามค่ำคืน ภายในอุทยานเบญจสิริ หนึ่งในแลนด์มาร์คการท่องเที่ยวที่สำคัญของกรุงเทพฯ ที่สร้างความคึกคักและกระตุ้นบรรยากาศการท่องเที่ยวในเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ ในโครงการ “คัลเลอร์ฟูล แบงค็อก” ของกรุงเทพมหานครอีกด้วย” ติดตามความเคลื่อนไหวจากธนชาตประกันภัย เพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊กธนชาตประกันภัย : Thanachartinsurance – TNI และ Line Official Account “ธนชาตประกันภัย”…/
เดอะวิสดอมกสิกรไทย จัดงานสัมมนาใหญ่ด้านการเงิน “Wealth Forum Thailand 2025” ในหัวข้อ “The New Frontiers of Investment Opportunity” ผ่านมุมมองของผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ การเงินและการลงทุน นำโดย K Wealth ร่วมด้วยพันธมิตรระดับโลก J.P. Morgan Asset Management และ Lombard Odier ระบุเศรษฐกิจโลก ปี 2025 เตรียมรับแรงกระแทกจากนโยบายยุคทรัมป์ 2.0 โดยเฉพาะมาตรการกำแพงภาษีที่พุ่งเป้าที่จีน มหาอำนาจเศรษฐกิจโลก สัญญาณสงครามการค้าขยายแนวรบ แนะกระจายความเสี่ยง ขยายพอร์ตลงทุนให้น้ำหนักหุ้นโลก โดยเฉพาะหุ้นสหรัฐฯ และหุ้นญี่ปุ่น ที่มีสัญญาณที่ดี พร้อมเสริมแกร่งด้วยกองทุนตราสารหนี้ ดร. พิพัฒน์พงศ์ โปษยานนท์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า “ หลังจากพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม 2025 คาดว่าจะเห็นนโยบายเร่งด่วนใน 100 วันแรก ของโดนัล ทรัมป์ เช่น นโยบายการลดเงินสนับสนุนทางทหารกับชาติพันธมิตร นโยบายกีดกันผู้อพยพเข้าเมือง นโยบายด้านพลังงาน รวมถึงการลดภาษี ซึ่งโดยรวมแล้วจะสร้างแรงกดดันเงินเฟ้อให้กับเศรษฐกิจสหรัฐฯ จากต้นทุนการนำเข้าที่เพิ่มขึ้น ค่าจ้างแรงงานที่สูงขึ้น รวมถึงการขาดดุลการคลังที่สูงขึ้น ซึ่งแนวโน้มเงินเฟ้อที่สูงขึ้น จะทำให้ภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะดีขึ้นตามนโยบายของทรัมป์ยังมีความไม่แน่นอนอยู่ “สงครามการค้าจะสร้างความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจในฝั่งเอเชียรวมถึงไทยอย่างมากจากการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ การตอบโต้ทางการค้าไปมา การปรับเปลี่ยนห่วงโซ่อุปทานโลก ซึ่งจะส่งผลกระทบทางลบจากโอกาสทางการค้าที่หายไป นอกจากนี้ การปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนอีก 60% จะส่งผลกระทบทางอ้อมให้ประเทศต่างๆ ต้องเผชิญการไหลบ่าเข้ามาของสินค้านำเข้าจากจีนที่ได้เปรียบด้านราคา ซึ่งจะส่งผลกระทบอีกต่อหนึ่งต่อภาคการผลิตในแต่ละประเทศ” สำหรับเศรษฐกิจไทย นอกจากจะเผชิญความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกแล้ว สงครามการค้าจะเป็นความเสี่ยงสำคัญต่อเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า จากการที่สหรัฐฯ ขาดดุลการค้ากับไทยเป็นอันดับที่ 12 ของคู่ค่าทั้งหมดของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นความเสี่ยงต่อสินค้าส่งออกไทยที่จะเจอภาษีสินค้านำเข้าไปยังสหรัฐฯ ที่สูงขึ้น หรือไทยอาจจะต้องเปิดตลาดนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ มากขึ้น ซึ่งโดยรวมแล้วเป็นปัจจัยลบต่อทิศทางดุลการค้าของไทยในระยะข้างหน้าให้เกินดุลได้ลดลง นโยบายยุค “ทรัมป์ 2.0” กระทบเศรษฐกิจ การค้าโลก และเงินเฟ้อ มุมมองจาก Ms. Jin Yuejue Managing Director, Asia Head…