บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD ผู้ดำเนินธุรกิจการเงินชั้นนำของประเทศไทย ประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อรายย่อย ภายใต้เครื่องหมายบริการ ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ รวมถึงให้บริการสินเชื่อประเภทที่อยู่อาศัย บ้าน ที่ดินและพื้นที่เกษตรกรรม ประสบความสำเร็จในการยกระดับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ล่าสุดได้รับการประเมิน SET ESG Ratings ระดับ “AA” ในกลุ่มธุรกิจการเงิน (Financials) ประจำปี 2567 จัดขึ้นโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งสะท้อนถึงความโดดเด่นในการดำเนินงานภายใต้เกณฑ์ ESG ครอบคลุมมิติด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล บริษัทจดทะเบียนที่ได้รับการประเมินและผ่านเกณฑ์มาตรฐาน จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นางสาวธิดา แก้วบุตตา ผู้อำนวยการกลยุทธ์องค์กร บมจ.ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวถึงความสำเร็จครั้งนี้ว่า “เราภูมิใจอย่างยิ่งที่ SAWAD ได้รับการจัดอันดับในระดับ AA ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า เราให้ความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ผ่านการดำเนินงานภายใต้กรอบ ESG (Environmental, Social and Governance) ในทุกมิติ โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ความรับผิดชอบต่อสังคม และมีการบริหารงานตามหลักบรรษัทภิบาล พร้อมรับมือต่อปัจจัยการเปลี่ยนแปลงทั้งทางด้านสังคม และสิ่งแวดล้อม มุ่งเน้นการสร้างการมีส่วนร่วมและตอบสนองต่อความคาดหวังของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม เพื่อการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืนและพร้อมผลักดันกลยุทธ์ที่มุ่งสู่การเป็นผู้นำธุรกิจการเงินที่ขับเคลื่อนด้วย ESG” SAWAD จะเดินหน้าดำเนินงานตามกรอบ ESG สะท้อนผ่านการพัฒนาโครงการที่ตอบสนองความต้องการของชุมชน เช่น การให้สินเชื่อเพื่อเพิ่มโอกาสทางการเงินอย่างเท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในทุกมิติ เกี่ยวกับบริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD กลุ่มบริษัทประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อรายย่อย ภายใต้เครื่องหมายบริการ “ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ” ซึ่งประกอบด้วย 5 ธุรกิจหลัก ได้แก่ 1) สินเชื่อรายย่อยแบบมีหลักประกันประเภท ทะเบียนรถเก่าทุกประเภท บ้านและโฉนดที่ดิน 2) สินเชื่อรายย่อยแบบไม่มีหลักประกันภายใต้การกำกับ 3) บริหารสินทรัพย์ 4) รับจ้างติดตามหนี้ 5) บริการที่ปรึกษาและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการทำธุรกิจสินเชื่อ
Author: staff
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย มอบเข็มกลัดชมรมจรรยาบรรณหอการค้าไทย ปี 2567 แก่ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) โดยมี นายประสาน นิลมานัตต์ กรรมการและที่ปรึกษาบริษัท เป็นผู้รับมอบ ภายในพิธีประกาศเกียรติคุณจรรยาบรรณดีเด่น หอการค้าไทย ครั้งที่ 22 ประจำปี 2567 (TCC Best Awards 2024) ในฐานะที่บริษัทฯ ดำเนินธุรภิจภายใต้หลักจรรยาบรรณและธรรมมาภิบาล มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม อันก่อให้เกิดการยอมรับ เชื่อถือ ศรัทธา แก่ลูกค้าผู้เอาประกันภัย บุคลากรผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และสังคมสาธารณะอย่างกว้างขวาง โดยพิธีการมอบจัดขึ้น ณ ห้อง UTCC EVENTS LAB อาคาร 23 ชั้น 7 มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย สำหรับ “โครงการประกาศเกียรติคุณจรรยาบรรณดีเด่น” ประจำปี 2567 นี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “กู้วิกฤตศรัทธา ด้วยจรรยาบรรณ” เพื่อประกาศเกียรติคุณแก่องค์กร ที่ดำเนินธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต และเป็นธรรม ต่อผู้บริโภค บุคลากรผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และสาธารณะชน พร้อมกับการมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ผ่านหลักเกณฑ์การพิจารณาของคณะวิจัยของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และคณะกรรมการตัดสินโครงการฯ โดย บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) จะยังคงยึดมั่นในการดำเนินงานตามหลักแนวทางการกำกับดูแลกิจการที่ดี มีธรรมาภิบาลและความโปร่งใส พร้อมดำเนินภารกิจเพื่อสังคมในทุกมิติ รวมถึงเป็นแบบอย่างที่ดีในการดำเนินธุรกิจด้วยจรรยาบรรณอย่างยั่งยืนต่อไป
กรุงเทพฯ 17 ธันวาคม 2567 – ธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน) โดย กลุ่มบริหารธุรกิจไมโครไฟแนนซ์และสาขาสินเชื่อ ส่งมอบเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น เช่น ข้าวสาร อาหารปรุงสำเร็จพร้อมรับประทาน ให้กับเทศบาลนครหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสงขลา โดยการส่งมอบเครื่องอุปโภคบริโภคในครั้งนี้สะท้อนถึงปรัชญาการดำเนินธุรกิจของธนาคาร “Everyone Matters ทุกคนคือคนสำคัญ” เพื่อสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืนแก่ประเทศไทย
เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ จัดกิจกรรมพาลูกค้าคนพิเศษร่วมงานเทศกาลดนตรีสุดยิ่งใหญ่แห่งปี “Chang Music Connection Presents Overcoat Music Festival 2024 ครั้งที่ 14 ยกพลขึ้นเขา” หนึ่งในกิจกรรมภายใต้แคมเปญ Customer FIRST ที่เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ ให้การสนับสนุน เพื่อมอบประสบการณ์สุดพิเศษแบบไม่ซ้ำใครกับการชมดนตรีจากศิลปินชื่อดังระดับประเทศกว่า 15 ศิลปิน ท่ามกลางลมหนาวของเขาค้อ จังหวัดเพชรบุรี ภายในงานได้รับเกียรติจาก นางสาวช่อฟ้า ยุกตะนันท์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดและบริหารลูกค้า กลุ่มบริษัท เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ นำทีมพนักงาน ร่วมต้อนรับลูกค้าเข้าร่วมสนุกในงานเทศกาลดนตรี “Chang Music Connection Presents Overcoat Music Festival 2024 ครั้งที่ 14 ยกพลขึ้นเขา” พร้อมร่วมสนุกกับการแสดงดนตรีของ 15 ศิลปินดัง ได้แก่ MUSKETEERS, PURPEECH, YOURMOOD, MIRRR, PIXXIE, 4EVE, SLOT MACHINE, JOEY BOY, ONLY MONDAY, COCKTAIL, PAPER PLANES, PARADOX, ASIA7, TWO POPETORN และ MILLI อีกทั้งกิจกรรมในครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้แคมเปญ Customer FIRST เพื่อมอบประสบการณ์สุดพิเศษให้กับลูกค้าคนสำคัญ นอกเหนือจากการชมดนตรีแล้ว ยังมีการจัดบูธ GEN 365 ภายในงานเพื่อมอบสิทธิพิเศษให้ลูกค้าเจนเนอราลี่ทุกท่านได้ร่วมสนุกกับการเล่นเกมและลุ้นรับของรางวัลสุดพิเศษมากมาย เมื่อเร็ว ๆ นี้ ณ Jollyland Starlight Amphitheater อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์
K PLUS พัฒนาฟีเจอร์ใหม่ “K+ Go Inter” รวมบริการเที่ยวต่างประเทศครบจบในที่เดียว อำนวยความสะดวกสบายให้กับลูกค้าตลอดการเดินทางครบวงจร ได้แก่ เช็กเรทแลกเงิน ซื้อประกันเดินทาง ใช้ K PLUS โทรฟรีเพื่อติดต่อ K-Contact Center แลก K Point ใช้บริการ K Point KLUB ที่สนามบินสุวรรณภูมิ จองทริปท่องเที่ยวกับ Gother เป็นต้น ที่สำคัญสามารถใช้สแกนจ่ายที่ต่างประเทศได้สะดวก เรทดี ไม่มีชาร์จ ฟรีค่าธรรมเนียม สามารถใช้ K PLUS สแกนจ่ายได้เลย โดยไม่ต้องผูกบัตรหรือเติมเงิน และไม่ต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอื่นๆ เพิ่มเติม ล่าสุด K PLUS พร้อมให้บริการในสาธารณรัฐประชาชนจีน ลูกค้าสามารถใช้ K PLUS สแกนจ่าย QR ได้ทั่วประเทศจีน เพียงมองหาสัญลักษณ์ Weixin Pay (เว่ยซิน เพย์) YunShanFu (หยุนฉานฟู) และ UnionPay QR ครอบคลุมร้านค้าทั่วจีน เช่น ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า นอกจากนี้ Weixin Pay (เว่ยซิน เพย์) ยังครอบคลุมไปถึงร้านค้าสตรีทฟู้ด และการเดินทางขนส่งสาธารณะ ทำให้ลูกค้า K PLUS สแกนจ่าย QR ได้สะดวก เหมือนสแกนจ่ายในประเทศไทย โดยระบบจะแสดงอัตราแลกเปลี่ยนบนหน้าจอให้อัตโนมัติก่อนยืนยันชำระเงินด้วย
กรุงเทพฯ, 17 ธันวาคม 2567 – ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี มอบความคุ้มค่าให้กับลูกค้าที่กำลังมองหาผลิตภัณฑ์สำหรับลดหย่อนภาษีในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2567 นี้ แคมเปญ “เซฟภาษี แบบคุ้มเวอร์ที่ ทีทีบี กับประกันชีวิตสะสมทรัพย์ ทีทีบี อี แท็กซ์ เซฟเวอร์ 10/4 ซื้อผ่าน แอป ทีทีบี ทัช อีกทางเลือกสำหรับลูกค้ากลุ่มคนวัยทำงานที่มองหาผลิตภัณฑ์เพื่อลดหย่อนภาษี จ่ายค่าเบี้ยฯ สั้น 4 ปี คุ้มครองยาว 10 ปี รับเงินคืนทุกปี ปีละ 4% ของทุนประกันภัย ตั้งแต่สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 1-9 และเมื่อครบสัญญาปีที่ 10 รับเงินก้อนโตอีก 404% ของเงินทุนประกันภัย รวมผลประโยชน์ทั้งหมดตลอดสัญญา 440% ของเงินทุนประกันภัย เพื่อลดหย่อนภาษี ได้ทั้งความคุ้มครอง ได้ทั้งลดหย่อนภาษี พร้อมรับโปรโมชันสุดพิเศษ ทีทีบี ส่งมอบความคุ้มค่าส่งท้ายปีกับแคมเปญ “เซฟภาษี แบบคุ้มเวอร์ที่ ทีทีบี” กับประกันชีวิตสะสมทรัพย์ ทีทีบี อี แท็กซ์ เซฟเวอร์ 10/4 อีกทางเลือกสำหรับลูกค้าที่มองหาผลิตภัณฑ์เพื่อลดหย่อนภาษี จ่ายค่าเบี้ยฯ สั้น 4 ปี คุ้มครองยาว 10 ปี รับเงินคืนทุกปี ปีละ 4% ของทุนประกันภัย ตั้งแต่สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 1-9 สามารถนำค่าเบี้ยประกันภัยไปใช้ลดหย่อนภาษีสูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท ต่อปี (เงื่อนไขเป็นไปตามเกณฑ์กรมสรรพากร) พร้อมรับเงินก้อนกรณีเสียชีวิตสูงสุดถึง 404% ของทุนประกันภัย โดยมีโปรโมชันสุดพิเศษมอบตามค่าเบี้ยประกันภัย พร้อมเพิ่มความคุ้มค่าพิเศษ เพียงซื้อ 2 ความคุ้มครองคู่ ได้แก่ ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ ทีทีบี อี แท็กซ์ เซฟเวอร์ 10/4 และ ประกันมะเร็ง…
เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา- KBank Private Banking ร่วมกับพันธมิตรชั้นนำระดับโลก ผู้ให้บริการไพรเวทแบงก์จากสวิตเซอร์แลนด์ Lombard Odier จัดงาน “Perfect Wealth Perfect Night, An Evening of Sharing” ฉลองครบรอบ 10 ปีแห่งความร่วมมือที่ได้ร่วมกันส่งมอบบริการบริหารความมั่งคั่งครบวงจรในระดับสากล เพื่อส่งมอบความมั่งคั่งและอนาคตที่สมบูรณ์แบบให้กับลูกค้าบุคคลสินทรัพย์สูงของธนาคารกสิกรไทย พร้อมหลากหลายกิจกรรม ที่สร้างคุณค่าทางใจและมีส่วนช่วยยกระดับสังคมให้ดียิ่งขึ้น ผ่านการจัดงานภายใต้ธีม “ค่ำคืนแห่งการแบ่งปัน (An Evening of Sharing)” เพื่อสะท้อนแนวคิดของ KBank Private Banking และ Lombard Odier ที่ให้ความสำคัญด้านความยั่งยืน ท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่นของสวนของบ้านปาร์คนายเลิศ ให้แขกผู้ร่วมงานทุกท่านได้ใกล้ชิดธรรมชาติ พร้อมของที่ระลึกและของตกแต่งงานที่เป็นผลิตภัณฑ์จากชุมชนท้องถิ่นทั่วประเทศไทย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และยังสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ เช่น ผ้าหมักโคลนย้อมครามจากจังหวัดอำนาจเจริญ พัดไม้ไผ่สีสุกสานมือย้อมสีน้ำเงินจากจังหวัดพิจิตรและปราจีนบุรีและเพิ่มความพิเศษยิ่งขึ้นด้วยการเขียน Calligraphy บนด้ามใบพัด ดอกไม้ที่ใช้ตกแต่งในงานมาจากโครงการหลวงที่ส่งเสริมให้ชาวบ้านปลูกพืชพรรณเมืองหนาว แทนการปลูกฝิ่น สะท้อนถึงความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืนและกระจายรายด้ายสู่ชมชนในทุกองค์ประกอบ นอกจากนี้ แขกผู้ร่วมงานยังได้สัมผัสกับอาหารไทยต้นตำรับที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถันจากร้านที่มีประวัติยาวนานและส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งเมนูอาหารเหล่านี้ยังได้รับการการันตีด้วยรางวัลระดับ Michelin Bib Gourmand และ Michelin Guide เพื่อมอบประสบการณ์อันน่าจดจำแก่แขกผู้ร่วมงานได้อย่างน่าประทับใจ นอกจากนี้ ภายในค่ำคืนฉลองทศวรรษแห่งความร่วมมือ ยังมีการบรรเลงบทเพลงจากวง Thai Blind Symphony Orchestra (TBSO) ที่บรรเลงด้วยฝีมือและหัวใจของเด็กนักเรียนตาบอดกว่า 25 ชีวิตที่เดินทางมาจากจังหวัดขอนแก่น สร้างความประทับใจให้แขกผู้เข้าร่วมงานเป็นอย่างมาก และอีกไลท์สำคัญของค่ำคืนที่น่าจดจำนี้ ด้วยคือการแสดงคอนเสิร์ต โดยมีวง ETC., เจนนิเฟอร์ คิ้ม และเบน ชลาทิศ ศิลปินชั้นนำของไทยร่วมขับร้อง บทเพลงแห่งความรักและมิตรภาพที่สื่อถึงความสัมพันธ์อันยั่งยืน ผ่านการเรียบเรียงใหม่อย่างพิเศษ นับเป็นการส่งมอบประสบการณ์การเฉลิมฉลองครบรอบทศวรรษรผ่านค่ำคืนที่น่าจดจำอย่างแท้จริง สำหรับค่ำคืนฉลองครบรอบทศวรรษแห่งความร่วมมือของ KBank Private Banking และ Lombard Odier ในครั้งนี้ นำโดย ดร.พิพัฒน์พงศ์ โปษษยานนท์ ผู้จัดการใหญ่…
ชาวไทยยังคงพร้อมเที่ยวต่อในปีหน้าแต่มีแนวโน้มลดการใช้จ่ายลง จากภาวะเศรษฐกิจไทยที่เติบโตชะลอตัว ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง และค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการท่องเที่ยวต่างประเทศที่จะลดลงมากกว่าการท่องเที่ยวในประเทศ ซึ่งแนวโน้มการลดค่าใช้จ่ายด้านท่องเที่ยวนี้ยังเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับการใช้จ่ายด้านอื่น ๆ อย่างไรก็ดี การท่องเที่ยวยังคงเป็นหนึ่งในกิจกรรมยอดฮิตที่ชาวไทยให้ความสำคัญ จากสัดส่วนผู้ที่จะเลิกใช้จ่ายในการท่องเที่ยวในประเทศมีเพียง 9% ซึ่งต่ำกว่าการเลิกใช้จ่ายในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องแต่งกาย อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า SCB EIC ได้สำรวจความคิดเห็นผู้บริโภคชาวไทยเกี่ยวกับแนวโน้มการใช้จ่ายด้านท่องเที่ยว พบว่า แม้นักท่องเที่ยวไทยจะได้รับแรงกดดันด้านกำลังซื้อเพิ่มขึ้น แต่กลุ่มผู้มีสถานะการเงินที่มั่นคงยังมีแนวโน้มใช้จ่ายในการท่องเที่ยวมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่ไม่มีภาระหนี้ กลุ่มรายได้ดี และโดยเฉพาะกลุ่มที่คาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นก็ยิ่งมีแนวโน้มใช้จ่ายในการท่องเที่ยวมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่กลุ่มผู้มีสถานะการเงินเปราะบางมากกว่าครึ่งหนึ่งมีแนวโน้มท่องเที่ยวลดลงหรือยกเลิกแผนเที่ยว ทั้งนี้การใช้จ่ายเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวไทยส่วนใหญ่ สำหรับการท่องเที่ยวในประเทศจะอยู่ที่ไม่เกิน 3,000 บาทต่อคนต่อวัน และการใช้จ่ายเฉลี่ย สำหรับการท่องเที่ยวต่างประเทศจะอยู่ที่ขั้นต่ำ 10,000 บาทต่อคนต่อวัน โดยนักท่องเที่ยวกลุ่ม LGBTQIA+ และกลุ่มวัยทำงานเป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มใช้จ่ายในการท่องเที่ยวต่างประเทศสูงกว่ากลุ่มอื่น ๆ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงกดดันการใช้จ่ายของชาวไทย 4 วิธีที่นักท่องเที่ยวไทยเลือกใช้ในการปรับตัวด้านการท่องเที่ยวเรียงตามลำดับได้ดังต่อไปนี้ 1. วิธีลดความถี่ในการท่องเที่ยว 2. วิธีลดช็อปปิงสินค้า 3. วิธีเลือกที่พักที่ราคาประหยัดมากขึ้น และ 4. วิธีชะลอแผนการท่องเที่ยว โดยกลุ่มผู้ที่เผชิญภาวะรายได้ไม่พอจ่ายจะมีการปรับพฤติกรรมการท่องเที่ยวค่อนข้างมาก โดยผู้มีปัญหาทางการเงินบ่อยครั้งจะเลือกชะลอแผนการท่องเที่ยวมากกว่ากลุ่มอื่น ๆ ส่วนผู้มีปัญหาเป็นบางครั้งจะเลือกลดความถี่ในการท่องเที่ยวแทน นอกจากนี้ ช่วงอายุที่แตกต่างกันจะส่งผลต่อการปรับตัวที่แตกต่างกันด้วย โดยกลุ่มวัยรุ่น/วัยเริ่มทำงานกับกลุ่มผู้สูงวัย จะพยายามคงแผนท่องเที่ยวเดิมแต่จะเลือกปรับพฤติกรรมการเที่ยวแทน เช่น กลุ่มวัยรุ่น/วัยเริ่มทำงานจะยอมลดความสะดวกสบายในระหว่างท่องเที่ยวด้วยการลดค่าใช้จ่ายในการกินอยู่ ทั้งการเลือกที่พักราคาสบายกระเป๋าและการประหยัดค่าอาหาร ส่วนกลุ่มผู้สูงวัยจะเลือกปรับตัวด้วยการเปลี่ยนแผนมาเที่ยวในประเทศมากขึ้นหรือใช้บริการกรุ๊ปทัวร์เพื่อลดค่าใช้จ่าย ขณะที่กลุ่มวัยทำงานซึ่งเป็นกลุ่มที่มีภาระค่าใช้จ่ายสูงจะเลือกชะลอแผนการท่องเที่ยวออกไปมากกว่ากลุ่มอื่น ๆ การเจาะกลุ่มตลาดนักท่องเที่ยวกำลังซื้อค่อนข้างดี การเพิ่มความคุ้มค่าของสินค้าหรือบริการท่องเที่ยวให้ตรงจุดกับนักท่องเที่ยวแต่ละกลุ่มตามช่วงวัย และการบริหารจัดการต้นทุนค่าใช้จ่ายของธุรกิจ เป็น 3 กลยุทธ์สำคัญที่ธุรกิจด้านการท่องเที่ยวอาจนำมาพิจารณาเพื่อตอบโจทย์การปรับตัวของพฤติกรรมนักท่องเที่ยวไทยในภาวะเศรษฐกิจที่ยังมีความเปราะบางสูง โดยกลยุทธ์แรก : การเจาะกลุ่มตลาดนักท่องเที่ยวกำลังซื้อดี แม้นักท่องเที่ยวไทยโดยรวมจะมีแนวโน้มลดการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวลง แต่กลุ่มผู้มีรายได้ค่อนข้างดีหรือผู้ที่คาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็นกลุ่มที่จะยิ่งใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวมากขึ้นทั้งการท่องเที่ยวในประเทศและต่างประเทศ จึงทำให้ตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ยังคงเติบโตได้ค่อนข้างดีต่อเนื่อง กลยุทธ์ที่ 2 : การเพิ่มความคุ้มค่าให้ตรงกับนักท่องเที่ยวในแต่ละกลุ่ม ด้วยพฤติกรรมการปรับตัวของนักท่องเที่ยวที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงวัย ดังนั้น การนำเสนอบริการที่ตรงใจกลุ่มเป้าหมายในแต่ละกลุ่มจะช่วยดึงดูดได้อย่างตรงจุด เช่น การดึงดูดนักท่องเที่ยววัยรุ่น/วัยเริ่มทำงานด้วยการนำเสนอกิจกรรมที่น่าสนใจและเหมาะกับการสร้างคอนเทนต์ ส่วนนักท่องเที่ยวกลุ่มผู้สูงวัยที่เน้นความสะดวกสบายควรใช้วิธีเพิ่มความคุ้มค่าจากบริการพิเศษที่เหมาะสมแทน เช่น การบริการขนมหวาน การเข้าชมการแสดงโชว์ หรือคลาสออกกำลังกาย แต่สำหรับกลุ่มวัยทำงานซึ่งยังมีความระมัดระวังในการใช้จ่ายมาก การเลือกวิธีจัดทำโปรโมชันลดราคาจึงเป็นแนวทางที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ได้ดีกว่าวิธีอื่น และกลยุทธ์ที่ 3 : การบริหารจัดการต้นทุนค่าใช้จ่ายของธุรกิจ จากกำลังซื้อของนักท่องเที่ยวไทยที่ลดลง ทำให้ภาคธุรกิจต้องบริหารจัดการต้นทุนเพื่อนำเสนอแพ็กเกจราคาประหยัดให้กับนักท่องเที่ยวได้ ซึ่งการบริหารจัดการต้นทุนสามารถทำได้หลายวิธี…
ธนาคารกรุงเทพ จับมือ ยูเนี่ยนเพย์ อินเตอร์เนชั่นแนล ต่อยอดความร่วมมือ ขยายบริการผ่าน ‘โมบายแบงก์กิ้งธนาคารกรุงเทพ’ แค่เปิดแอปฯ ก็สแกน Weixin Pay QR หรือที่รู้จักกันในไทยว่า “วีแชท เพย์” และ UnionPay QR จ่ายได้ทันทีไม่มีสะดุด ครอบคลุมร้านค้าต่างๆในประเทศจีน กว่า 90% หรือ กว่า 100 ล้านจุดรับชำระเงินหมดห่วงเรื่องพกเงินสด ไม่ต้องแลกเงิน ให้เรทดี ไม่มีค่าธรรมเนียมการใช้บริการ ไร้กังวลภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยขั้นสูง พิเศษ! ใช้ ‘โมบายแบงก์กิ้งธนาคารกรุงเทพ’ สแกน Weixin Pay QR ในประเทศจีน และ UnionPay QR ณ ร้านค้าในต่างประเทศ รับเงินคืน 10 บาททุกการสแกนจ่าย ตั้งแต่ 20 ธันวาคม 2567 ถึง 31พฤษภาคม 2568 นายโชค ณ ระนอง ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการสายบัตรเครดิต ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในฐานะ ‘ธนาคารชั้นนำระดับภูมิภาค’ มุ่งมั่นพัฒนาบริการและแพลตฟอร์มดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำเสนอ Total Digital Payment Solutions ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การทำทุกธุรกรรมการเงิน ซึ่งรวมถึงการพัฒนาขีดความสามารถของการทำธุรกรรมในต่างประเทศ โดยเฉพาะบริการการชำระเงินข้ามประเทศแบบสแกน QR (Cross-Border QR Payment) ล่าสุด ธนาคารได้ต่อยอดความร่วมมือกับบริษัท ยูเนี่ยนเพย์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้นำด้านบริการทางการเงินของประเทศจีน พัฒนาบริการสแกน Weixin Pay QR จ่ายผ่าน ‘โมบายแบงก์กิ้งธนาคารกรุงเทพ’ ได้โดยตรง ซึ่งธนาคารกรุงเทพนับเป็นธนาคารแรกที่รองรับการสแกน Weixin Pay QR และ UnionPay QR จ่ายชำระเงินในประเทศจีน และ ‘โมบายแบงก์กิ้งธนาคารกรุงเทพ’…
วันศุกร์ ที่ 20 ธันวาคม 2567 เวลา 08.30 – 17.00 น. ณ ลานด้านหน้าธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ ถนนสีลม – ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) นำโดย นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ กรรมการบริหาร และ นายทัฬห์ สิริโภคี ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ จัดงาน “วันเกษตรก้าวหน้า ประจำปี 2567”ภายใต้แนวคิด “80 ปี ธนาคารกรุงเทพ เพื่อนคู่คิด มิตรคู่เกษตรไทย” ประกอบด้วย 3 กิจกรรมไฮไลท์ ไฮไลท์ที่ 1 การเปิดพื้นที่ ณ ลานด้านหน้าธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ ถนนสีลมให้เกษตรกรก้าวหน้า นำสินค้าเกษตรคุณภาพมาตรฐานสากลมาจำหน่ายถึงมือผู้บริโภคโดยตรง ในราคาผู้ผลิต รวมทั้งสิ้น 55 ร้านค้ามีทั้งสินค้าชุมชน สินค้ากลุ่มนวัตกรรมและเทคโนโลยี สินค้ากลุ่มเกษตรปลอดภัยต่อสุขภาพ และสินค้าของผู้ได้รับรางวัลเกษตรก้าวหน้า ประจำปี 2567 เช่น ผลิตภัณฑ์จากกาแฟคาร์บอนต่ำ สินค้าแปรรูปจากแมคคาดาเมีย สตอร์เบอร์รี่สดและแปรรูป ไข่ไก่สดออร์แกนิก กล้วยไม้และไม้ประดับนานาพันธุ์ ผลไม้เกรดส่งออกหลากหลายชนิด ไส้อั่วเผาเตาหลวง และ ผงโปรตีนจากแมลงพร้อมทาน เป็นต้น ไฮไลท์ที่ 2 การประกาศมอบรางวัล “เกษตรก้าวหน้า ปี 2567” ให้แก่เกษตรกรผู้ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ผู้บริหารห่วงโซ่การผลิตทางการเกษตร และเกษตรกรรุ่นใหม่ ที่มีผลงานดีเด่น เป็นแบบอย่างในการพัฒนาภาคการเกษตรให้สามารถแข่งขันและเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป ไฮไลท์ที่ 3 การสัมมนาพิเศษ “เกษตรก้าวหน้า 2567” แนะเกษตรกรและผู้ประกอบการเกษตรไทยรับมือความท้าทายจากระเบียบการค้าโลกใหม่ด้านเกษตรและสิ่งแวดล้อม และการปรับใช้เทคโนโลยี AI กับภาคการเกษตร ที่ไม่ใช่เพียงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต แต่ยังช่วยสร้างโอกาสใหม่ๆ ทำให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลกยุคใหม่ จากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญและมากประสบการณ์ รวมถึงผู้ประกอบการตัวจริงที่ประสบผลสำเร็จจากการปรับตัว ผู้สนใจร่วมฟังสัมมนาได้ ตั้งแต่เวลา 13.00 – 16.00…