นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมืองไทยประกันชีวิต คัดสรรผลิตภัณฑ์ บริการ และโปรโมชันเด่น เข้าร่วมงานมหกรรมการเงินกรุงเทพฯ ส่งท้ายปี ครั้งที่ 7 “Money Expo Year End 2024” ระหว่างวันที่ 19-22 ธันวาคม 2567 ณ Exhibition Hall 5 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมด้วยกิจกรรมแห่งความสุขและรอยยิ้มมากมาย โดยในพิธีเปิดงานได้รับเกียรติจากนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายวรภัค ธันยาวงษ์ ที่ปรึกษา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายพิสิทธิ์ พัฒนะนุกิจ ที่ปรึกษา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายสันติ วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานจัดงานมหกรรมการเงิน Money Expo พร้อมด้วยนายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ผู้บริหาร ตัวแทนนักวางแผนประกันชีวิต และที่ปรึกษาทางการเงิน ร่วมในพิธีเปิดบูธเมืองไทยประกันชีวิต ทั้งนี้ เมืองไทยประกันชีวิต ได้คัดสรรผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นความคุ้มครองชีวิต สุขภาพ โรคร้ายแรง รวมไปถึงแบบประกันสำหรับผู้ที่ต้องการวางแผนลดหย่อนภาษีโค้งสุดท้ายของปี โดยผลิตภัณฑ์ไฮไลท์ ได้แก่ “ShieldLife – ตัวช่วยให้คุณเบาใจ ในวันที่คุณจากไป…” เริ่มต้นวางแผนการสร้างหลักประกันที่มั่นคงให้คนที่คุณรัก ด้วยแบบประกันชีวิตที่คุณเลือกได้ ทั้งประกันชีวิตแบบตลอดชีพ (Whole Life) ประกันชีวิตแบบคุ้มครองภายในระยะเวลา (Term) หรือประกันชีวิตแบบยูนิเวอร์แซลไลฟ์ (Universal Life) สัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพแบบ ดี เฮลท์ พลัส, อีลิท เฮลท์ พลัส และสัญญาเพิ่มเติม แคร์ พลัส รวมไปถึงแบบประกันภัยพิเศษ 7…
Author: staff
กรุงเทพฯ – 19 ธันวาคม 2567 : กรุงศรี คอนซูมเมอร์ เผยผลประกอบการ 10 เดือนแรก เติบโตแข็งแกร่ง โดยมียอดบัญชีลูกค้าใหม่ 496,000 บัญชี เติบโต 6%, ยอดใช้จ่ายผ่านบัตร 317,000 ล้านบาท เติบโต 8%, ยอดสินเชื่อใหม่ 78,000 ล้านบาท เติบโต 4% และยอดสินเชื่อคงค้าง 139,000 ล้านบาท ชี้ยอดใช้จ่ายหมวดโซเชียลมีเดียและแอปพลิเคชัน, ท่องเที่ยว, ช้อปออนไลน์ เติบโตสูง คาดภายในปี 2567 มียอดบัญชีลูกค้าใหม่ 600,000 บัญชี (+7%), ยอดใช้จ่ายผ่านบัตร 393,000 ล้านบาท (+8%), ยอดสินเชื่อใหม่ 96,000 ล้านบาท (+5%) และยอดสินเชื่อคงค้าง 150,000 ล้านบาท (+1%)คาดปีหน้าธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อต้องเผชิญกับความท้าทายเป็นผลให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัว เผยปี 2568 มุ่งเน้นการเติบโตอย่างมีคุณภาพ เดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ สร้างสรรค์นวัตกรรมทางการชำระเงินตอบโจทย์ลูกค้า พร้อมจับมือพันธมิตรขยายธุรกิจต่อเนื่อง นายอธิศ รุจิรวัฒน์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ผู้ให้บริการด้านบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล อันประกอบไปด้วย บัตรเครดิต กรุงศรี, บัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์, บัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน และบัตรเครดิตโลตัส เปิดเผยว่า “ผลประกอบการของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ตั้งแต่เดือนมกราคม – ตุลาคม 2567 เติบโตเป็นอย่างดี จากความสำเร็จในการเดินกลยุทธ์ของบริษัทซึ่งมุ่งเน้นการสร้างการเติบโตอย่างมีคุณภาพ โดยมีการบริหารความเสี่ยงอย่างรัดกุม ขณะเดียวกันก็มุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์และโปรโมชันที่ตรงใจลูกค้า โดยมียอดบัญชีลูกค้าใหม่ 496,000 บัญชี เติบโต 6%, ยอดใช้จ่ายผ่านบัตร 317,000 ล้านบาท เติบโต 8%, ยอดสินเชื่อใหม่ 78,000 ล้านบาท เติบโต 4% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และยอดสินเชื่อคงค้าง 139,000 ล้านบาท”…
นายบัณฑิต เจียมอนุกูลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พรูเด็นเชียล ประเทศไทย พร้อมด้วย นายอิฎฐ์ อภิรักษ์ติวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานพัฒนาองค์กร เข้าร่วมพิธีรับมอบรางวัลเชิดชูเกียรติและประกาศเกียรติคุณ ในฐานะหน่วยงานที่ทำคุณประโยชน์และคุณูปการต่อกรุงเทพมหานคร จากนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่ง พรูเด็นเชียล ประเทศไทย ได้รับมอบประกาศเกียรติคุณ โล่ และเข็มเชิดชูเกียรติ จากโครงการ “Give the Future: การให้ที่ยั่งยืน คือ การให้ที่ส่งต่อได้” โดยการมอบประกันภัยอุบัติเหตุแก่กลุ่มลูกจ้างกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นกลุ่มคนเปราะบางให้สามารถเข้าถึงประกันได้ จำนวน 51,000 คน ทุนประกันรวม 5,100,000,000 บาท และ ใบประกาศเกียรติคุณ จากกิจกรรม “”Prudential Thailand Run for Growth” โดยเชิญชวนพนักงานมาร่วมสร้างสุขภาพที่แข็งแรงด้วยการวิ่ง-เดิน พร้อมส่งมอบกล้าต้นไม้และจักรยานให้แก่กรุงเทพมหานคร ด้วยการร่วมสนับสนุนโครงการ “Green Bangkok 2030” ซึ่งพิธีมอบรางวัลฯ จัดขึ้นที่ห้องประชุมรัตนโกสินทร์ ชั้น 1 ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เร็วๆนี้./
ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี จัดแคมเปญสุดพิเศษสำหรับผู้ถือบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด ttb Global House ที่รักการแต่งบ้านให้ได้ช้อปอย่างคุ้มค่า เมื่อมียอดใช้จ่าย ที่ Global House ทุกสาขา และทางออนไลน์ www.globalhouse.co.th ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2567 – 31 มีนาคม 2568 รับเครดิตเงินคืนรวมสูงสุด 162,000 บาท รายละเอียดดังนี้ เมื่อชำระเต็มจำนวน: รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 72,000 บาท เมื่อใช้จ่ายตามยอดที่กำหนด จำกัดเครดิตเงินคืนสูงสุด 12,000 บาท / บัญชีบัตรหลัก / เดือน และเครดิตเงินคืนสูงสุด 72,000 บาท ตลอดรายการส่งเสริมการขาย ลงทะเบียนรับสิทธิ์ผ่านแอป ttb touch หรือส่ง SMS พิมพ์ GHF เว้นวรรค ตามด้วยหมายเลขบัตรเครดิต 12 หลักสุดท้าย ส่งมาที่ 4899777 แบ่งชำระ 0% pay plan: สำหรับบัตรเครดิต ttb Global House แบ่งชำระได้นานสูงสุด 10 เดือน ส่วนบัตรกดเงินสด ttb Global House แบ่งชำระได้นานสูงสุด 36 เดือน รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 90,000 บาท จำกัดเครดิตเงินคืนสูงสุด 15,000 บาท / บัญชีบัตรหลัก / เดือน และเครดิตเงินคืนสูงสุด 90,000บาท ตลอดรายการส่งเสริมการขาย ลงทะเบียนรับสิทธิ์ผ่านแอป ttb touch หรือส่ง SMS พิมพ์ GHI เว้นวรรค ตามด้วยหมายเลขบัตรเครดิต 12…
กสิกรไทยและกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF) สนับสนุนคณะนักวิจัยนำโดย Singapore Management University (SMU) ศึกษาการวางแผนเชิงกลยุทธ์ในการบริหารจัดการความยั่งยืนภายใต้กลไกการกำหนดราคาคาร์บอนในมุมมองของผู้บริหารธุรกิจขนาดใหญ่ในประเทศไทย ชี้มาตรการเปิดเผยข้อมูลผลกระทบสิ่งแวดล้อมของบริษัทเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจยอมปรับตัวสู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำเพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์องค์กรรักษ์โลก ควบคู่กับการใช้มาตรการภาษีคาร์บอนซึ่งมีผลโดยตรงต่อต้นทุนธุรกิจ นอกจากนี้การสนับสนุนจากภาครัฐ สินเชื่อสีเขียว รวมถึงการสนับสนุนเรื่ององค์ความรู้ ล้วนเป็นปัจจัยส่งเสริมให้ผู้บริหารเปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจที่ยั่งยืนมากขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่ธุรกิจไทยบนเวทีโลก ดร.กรินทร์ บุญเลิศวณิชย์ รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็น Global Agenda ที่ทั่วโลกเร่งแก้ไข ประเทศไทยก็มีเครื่องมือเชิงนโยบายที่ภาครัฐนำมาใช้ควบคุมบริหารจัดการปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ได้แก่ พระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ พ.ร.บ. Climate Change ที่คาดว่าจะบังคับใช้ในปี 2569 ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่าการบังคับใช้กฎหมายนี้ อาจส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สูงจำนวน 14 อุตสาหกรรม คิดเป็นมูลค่า 6.5 ล้านล้านบาท หรือ 37% ของ GDP โดย พ.ร.บ. ในหมวดที่ 9 เกี่ยวกับระบบภาษีคาร์บอน (Carbon Tax) จะทำให้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่เป้าหมาย Net Zero ได้อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น เนื่องจากเป็นตัวผลักดันให้ธุรกิจลงทุนเพื่อเปลี่ยนผ่านสู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำ ซึ่งหากมีการบังคับใช้กฎหมายนี้ได้ตามแผนในปี 2569 ไทยจะเป็นประเทศที่ 2 ต่อจากสิงคโปร์ที่ประกาศใช้มาตรการนี้ในอาเซียน ดังนั้นธนาคารจึงผลักดันให้ภาคธุรกิจเปลี่ยนผ่านด้วยการสนับสนุนทุกมิติทั้งเงินทุน องค์ความรู้ และการให้บริการโซลูชันด้านสิ่งแวดล้อมอย่างครบวงจร นำมาสู่การสนับสนุนคณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยชั้นนำในเอเชีย เพื่อจัดทำงานวิจัยศึกษาการวางแผนเชิงกลยุทธ์ในการบริหารจัดการความยั่งยืนภายใต้กลไกการกำหนดราคาคาร์บอน ภายใต้ทุนวิจัยจากกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (Capital Market Development Fund: CMDF) ซึ่งธนาคารจะนำผลการวิจัยนี้มาต่อยอดเพื่อใช้วางแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ และหาแนวทางเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขันให้ธุรกิจไทยยืนหยัดได้อย่างแข็งแกร่งบนเวทีโลก นายจักรชัย บุญยะวัตร ผู้จัดการกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF) กล่าวเพิ่มเติมว่า CMDF มีนโยบายสนับสนุนงานวิจัยด้านความยั่งยืนอย่างต่อเนื่องผ่านสถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุน (Capital Market Research Institute: CMRI) เพื่อพัฒนาและเพิ่มศักยภาพการทำวิจัย ด้วยการสนับสนุนทุนวิจัยและส่งเสริมการดำเนินการด้านต่างๆ ให้บรรลุวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการพัฒนาตลาดทุนโดยรวม ได้แก่ โครงการทดลองเพื่อสนับสนุนและส่งเสริมการลงทุน ESG Bond โครงการพัฒนาคุณภาพข้อมูลความยั่งยืนสำหรับบริษัทจดทะเบียนนำร่อง และโครงการให้ทุนสนับสนุนการเรียนหลักสูตรความยั่งยืนระดับสากลเพื่อพัฒนาศักยภาพของบุคลากรในตลาดทุน ปี 2564 – 2569 และล่าสุดได้สนับสนุนคณะนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยชั้นนำในเอเชียเพื่อศึกษาโครงการวางแผนเชิงกลยุทธ์ในการบริหารจัดการความยั่งยืนภายใต้กลไกการกำหนดราคาคาร์บอนในครั้งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอข้อมูลเชิงลึกและหาแนวทางที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้และดำเนินการในบริษัทหรือองค์กร เกี่ยวกับการวางแผนเชิงกลยุทธ์อย่างยั่งยืนภายใต้กลไกการกำหนดราคาคาร์บอนแก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในตลาดทุนทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งงานวิจัยดังกล่าวจะเป็นแนวทางในการวางแผนกำหนดนโยบายและมีส่วนช่วยผลักดันให้ภาคธุรกิจไทยปรับเปลี่ยนเพื่อเดินหน้าสู่ Net…
บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท จำกัด (บสส.) หรือ SAM เปิดเผยว่า SAM ได้คัดสรรทรัพย์มือสองหรือทรัพย์สินรอการขาย (NPA) ในส่วนของทรัพย์เพื่อที่อยู่อาศัยบนทำเลดีทั่วประเทศ พร้อมปรับลดราคาพิเศษ จำนวน 18 รายการ มูลค่ารวม 60 ลบ.ไม่ว่าจะเป็น บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ ห้องชุดพักอาศัย อาคารพาณิชย์ และที่ดินเปล่า เพื่อให้ผู้สนใจเข้าร่วมประมูลได้ในวันที่ 7 ม.ค. 2568 ทั้งนี้ ยังได้จัดโปรโมชัน “SAM ทรัพย์มือสองต้องบอกต่อ” เพียงแนะนำทรัพย์SAM ให้กับเพื่อนหรือคนรู้จัก รับค่าแนะนำสูงสุดถึง 3 ล้านบาทต่อ 1 รายการ (เฉพาะทรัพย์ที่เข้าเงื่อนไข) และ SAM ยังร่วมกับธนาคารชั้นนำ ทั้งธนาคารกรุงเทพ ธนาคารยูโอบี ธนาคารทีเอ็มบีธนชาต (ttb) ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด ตัวอย่างทรัพย์เด่นราคาพิเศษ 1.ทาวน์เฮ้าส์ 3 ชั้น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ เนื้อที่ 27.7 ตร.ว. โครงการบ้านธรรมชาติ ถ.เพชรเกษม (ทล.4) แขวงบางแค เขตบางแค กรุงเทพฯ ทรัพย์ตั้งอยู่ในย่านที่อยู่อาศัย ใกล้โรงเรียนอนุบาลเด่นหล้า โรงพยาบาลบุญญาเวช ห้างบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ เพชรเกษม 1 ห้างเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ เพชรเกษม และห้างโฮมโปร เพชรเกษม ราคาเริ่มต้น 3 ลบ. 2.อาคารพาณิชย์ 4 ชั้น มีชั้นลอย เนื้อที่ 25.3 ตร.ว. ถ.ติวานนท์ ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ทรัพย์ตั้งอยู่ในย่านที่อยู่อาศัย และพาณิชยกรรม การคมนาคมสะดวก สาธารณูปโภคครบครัน …
ไทยกรุ๊ป โฮลดิ้งส์ กลุ่มธุรกิจประกันและการเงิน หนึ่งในสายธุรกิจหลักของกลุ่มทีซีซี ได้รับการประเมินผล “หุ้นยั่งยืน” SET ESG Rating ประจำปี 2567 ในกลุ่มธุรกิจการเงิน ที่ระดับ AA โดยได้รับการประเมินและจัดลำดับจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 สะท้อนความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน มีการบริหารจัดการที่ดี รวมทั้งให้ความสำคัญต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล นายโชติพัฒน์ พีชานนท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยกรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้รับผลการประเมิน “หุ้นยั่งยืน” SET ESG Rating ประจำปี 2567 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยปีนี้ได้รับการจัดลำดับให้อยู่ในระดับ AA จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จากปีที่ผ่านมาอยู่ในระดับ A ซึ่งเป็นความสำเร็จที่เกิดจากความมุ่งมั่นของผู้บริหารและพนักงานร่วมมือร่วมใจกันปรับปรุงกระบวนการทำงาน และปรับพฤติกรรมการดำเนินชีวิต เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนองค์กรก้าวสู่การสร้างความยั่งยืนตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ รวมถึงเป้าหมายด้านความยั่งยืนของประเทศไทย และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (SDGs) ตอกย้ำวิสัยทัศน์ในการมุ่งมั่นเป็นองค์กรชั้นนำในการสร้างความมั่นคงทางการเงินและความเป็นอยู่ที่ดีอย่างยั่งยืนเพื่อคนไทย ผลการประเมินที่ดีขึ้นในปีนี้ นับเป็นความภาคภูมิใจ และสะท้อนถึงการบริหารจัดการที่ดีของบริษัท ที่ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาองค์กรให้เติบโตมั่นคงอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน โดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ความรับผิดชอบต่อสังคม และมีการบริหารงานตามหลักบรรษัทภิบาล รวมถึงให้ความสำคัญต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้ผู้บริหารและพนักงานพร้อมที่จะเดินหน้าไปด้วยกัน การดำเนินงานด้านความยั่งยืนสำหรับภาคอุตสาหกรรมและการเงิน ยังมีความท้าทายและโอกาสที่สามารถพัฒนาให้เกิดความยั่งยืนได้อีกมาก โดยเฉพาะความร่วมมือในการชะลอผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่ส่งผลกระทบต่อโลกและอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งความร่วมมือจากทุกภาคส่วนมีความสำคัญมาก ทั้งนี้ ไทยกรุ๊ปฯ และธุรกิจในเครือ เล็งเห็นความสำคัญของการสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจ ควบคู่การดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมให้มีความยั่งยืนไปพร้อมกัน โดยจัดทำกลยุทธ์พร้อมตั้งเป้าหมายในการดำเนินงานระยะยาว 5 ปี ตั้งแต่ปี 2567 – 2571 ครอบคลุมทั้งมิติธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม พร้อมออกนโยบายที่สำคัญและแนวปฏิบัติเพื่อให้ผู้บริหาร พนักงาน และคู่ค้า ใช้เป็นหลักปฏิบัติอย่างเคร่งครัด อาทิ ด้านจรรยาบรรณธุรกิจ นโยบายและหลักปฏิบัติด้านสิทธิมนุษยชนตามหลักสากล การต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันในทุกรูปแบบ รวมถึงการดูแลและพัฒนาบุคลากรของบริษัทให้มีความรู้ความสามารถและมอบสวัสดิการที่ดีนอกเหนือจากที่กฎหมายกำหนด นอกจากนี้ ยังมุ่งมั่นส่งเสริมความรู้ความเข้าใจด้านการวางแผนการเงินให้กับคนในสังคม การเพิ่มโอกาสการเข้าถึงประกันและการเงินแก่กลุ่มเปราะบาง และการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมขององค์กรตามเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินธุรกิจ 28% ภายในปี 2571…
เมืองไทยประกันชีวิต ประกาศความภาคภูมิใจอีกครั้งด้วยการคว้ารางวัลอันทรงเกียรติ “Superbrands Thailand” ประจำปี 2024 สูงสุด 19 ปีต่อเนื่อง นับเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์แบรนด์ที่แข็งแกร่งและได้รับการยอมรับในระดับสากล รางวัลดังกล่าวสะท้อนถึงความสำเร็จในด้านความน่าเชื่อถือ ความโดดเด่น และความเป็นที่หนึ่งในใจผู้บริโภคที่บริษัทให้ความสำคัญเสมอมา นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “นับเป็นความภาคภูมิใจอีกครั้งของบริษัทฯ ที่ได้รับรางวัล Superbrands Thailand ปี 2024 โดยเป็นองค์กรเพียงแห่งเดียวที่ได้รับรางวัลดังกล่าวต่อเนื่องเป็นปีที่ 19 ซึ่งการได้รับรางวัล Superbrands Thailand ไม่เพียงช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของแบรนด์ในสายตาผู้บริโภค แต่ยังส่งเสริมความเชื่อมั่นให้กับพันธมิตรทางธุรกิจ อีกทั้งยังสร้างโอกาสใหม่ในการขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะในยุคที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือและความโปร่งใส ทั้งนี้ รางวัล Superbrands Thailand นี้ได้รับการยอมรับอย่างสูงจากผู้บริโภคในประเทศไทย รวมถึงผู้ทรงคุณวุฒิในสายงานด้านการตลาด การสร้างแบรนด์ การประชาสัมพันธ์ สื่อมวลชน และตัวแทนคณะกรรมการอิสระ ผ่านกระบวนการพิจารณาที่ครอบคลุมผลการสำรวจการตลาดจากทั่วประเทศ โดยมีนางสาวนิรัตน์ บูชาสุข รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เป็นผู้แทนบริษัทฯ เข้ารับรางวัลจากนางสาวแชมเปญ เทียนแขวะ ผู้อำนวยการซูเปอร์แบรนด์ประเทศไทย โดยงานจัดขึ้น ณ ห้องแกรนด์ฮอลล์ ทรู ดิจิทัล พาร์ค สำหรับรางวัล Superbrands เป็นรางวัลที่มอบให้แก่บริษัทที่ได้รับคะแนนสูงสุดจากการประเมิน 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ คุณภาพของแบรนด์ (Brand Quality) ที่เมืองไทยประกันชีวิตได้รับการยอมรับในด้านการให้บริการที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ การพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต และการดูแลลูกค้าด้วยความใส่ใจอย่างมืออาชีพ ความน่าเชื่อถือ (Brand Trust) ด้วยประวัติการดำเนินธุรกิจที่ยาวนานกว่า 72 ปี เมืองไทยประกันชีวิตได้สร้างความไว้วางใจในกลุ่มลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง การบริหารจัดการด้วยความโปร่งใสและความรับผิดชอบต่อผู้บริโภคคือหัวใจสำคัญของแบรนด์ และการสร้างความแตกต่างและเอกลักษณ์ของแบรนด์ (Brand Distinction) เมืองไทยประกันชีวิตเป็นที่จดจำในฐานะแบรนด์ที่มุ่งมั่นสร้างความสุขและการดูแลสุขภาพครบวงจรผ่านแนวคิด “Happiness Means Everything” ซึ่งสะท้อนถึงพันธกิจหลักในการยกระดับคุณภาพชีวิตของลูกค้า เมืองไทยประกันชีวิตยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและยกระดับมาตรฐานของแบรนด์เพื่อให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงในโลกธุรกิจ พร้อมทั้งส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้คนในสังคม ภายใต้พันธกิจหลักในการเป็นคู่คิดด้านการวางแผนชีวิตและสุขภาพที่ลูกค้าวางใจ ที่พร้อมดูแลและสนับสนุนลูกค้าในทุกช่วงชีวิต “การได้รับรางวัลนี้ไม่เพียงเป็นเกียรติประวัติแก่บริษัทฯ แต่ยังยืนยันถึงความสำเร็จในการสร้างแบรนด์ที่บริษัทฯ ยึดมั่นมาโดยตลอด พร้อมทั้งช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภค…
บมจ.ไทยสมุทรประกันชีวิต รักคือพลังของชีวิต โดยคุณนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ (CEO) ร่วมกับคณะผู้บริหารและพนักงานจิตอาสา จัดกิจกรรม OCEAN LIFE GIFT OF LOVE เพื่อส่งมอบพลังความรักเติมเต็มรอยยิ้ม ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2568 ให้กับเด็กๆ มูลนิธิอนุเคราะห์คนพิการฯ โดยได้มอบเงินและสิ่งของอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่าง ๆ ให้แก่คุณสุพัชนา อัษฎาธร ประธานกรรมการมูลนิธิอนุเคราะห์คนพิการฯ และคุณสมจิตร์ รามนันทน์ ผู้อำนวยการมูลนิธิอนุเคราะห์คนพิการฯ ในโอกาสนี้ได้เลี้ยงอาหารกลางวันเด็กๆ ด้วยไก่ทอดและไอศครีมหลากหลายรสชาติ ถือเป็นการส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่ได้ทั้งอิ่มบุญและอิ่มใจไปพร้อมๆ กัน สำหรับกิจกรรม GIFT OF LOVE นับเป็นกิจกรรมที่ OCEAN LIFE ไทยสมุทรจัดต่อเนื่องมาเป็นเป็นประจำทุกปี เพื่อส่งความรัก มอบความสุขให้กับสังคมไทยอย่างยั่งยืน OCEAN LIFE ไทยสมุทร ใช้ความรักเป็นพลังขับเคลื่อนองค์กรมายาวนาน 75 ปี โดยไม่หยุดพัฒนาในทุกมิติ เพื่อทำให้ประกันชีวิตเป็นเรื่องง่าย ทำให้คนไทยเข้าถึงประโยชน์ของการประกันชีวิตได้มากที่สุด พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลโลกและสังคม เพื่อส่งมอบอนาคตที่ยั่งยืนให้กับคนรุ่นต่อไป สนใจร่วมติดตามข่าวสาร และกิจกรรมดี ๆ ได้ที่ OCEAN CLUB APP / LINE / Facebook / Instagram / Youtube : oceanlife เว็บไซต์ www.ocean.co.th หรือติดต่อศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ 1503
บลจ.กสิกรไทย ชู K-ESGSI-ThaiESG สร้างผลตอบแทนสูงสุดเป็นอันดับ 1 และมีผลการดำเนินงานที่ดีในทุกช่วง ในขณะที่ K-TNZ-ThaiESG ยังได้รับความนิยมจากผู้ลงทุนอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้กองทุนมีขนาดใหญ่ที่สุด และกองทุนผสมน้องใหม่ K-BL30-ThaiESG เน้นกระจายลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้พร้อมลุยในทุกสภาวะตลาด พร้อมรับโปรโมชั่นพิเศษช่วงโค้งสุดท้ายของปี นายวิน พรหมแพทย์, CFA, ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทย ครองส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มกองทุน ThaiESG ด้วยมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) รวมกว่า 3,410.45 ล้านบาท (ข้อมูล AIMC ณ พ.ย. 67) โดยกองทุน K-ESGSI-ThaiESGจากกสิกรไทย สร้างผลตอบแทนสูงสุดเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มกองทุนตราสารหนี้ ThaiESG และมีผลการดำเนินงานที่ดีในทุกช่วง โดยมีผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 เดือน และตั้งแต่จัดตั้ง อยู่ที่ 3.13% และ 5.11%ต่อปี สามารถเอาชนะดัชนีชี้วัด ซึ่งอยู่ที่ 2.63% และ 4.69%ต่อปี ตามลำดับ (ข้อมูล Morningstar ณ วันที่ 29 พ.ย. 67) ทั้งนี้ กองทุน K-ESGSI-ThaiESG เป็นหนึ่งในกองทุน ESG ของ บลจ.กสิกรไทย ที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยมีนโยบายการลงทุนที่เน้นลงทุนตราสารหนี้ภาครัฐของไทยในกลุ่มความยั่งยืนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% และลงทุนในตราสารเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bond) ตราสารเพื่อความยั่งยืน (Sustainability Bond) ตราสารส่งเสริมความยั่งยืน (Sustainability – Linked Bond) รวมถึงลงทุนบางส่วนในเงินฝากหรือตราสารเทียบเท่าเงินฝากทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งผู้ระดมทุนมุ่งนำเงินไปใช้ในโครงการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและเกิดประโยชน์ต่อสังคมไทย ในขณะที่กองทุน K-TNZ-ThaiESG ยังได้รับความนิยมจากผู้ลงทุนอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้กองทุนมีขนาดใหญ่ที่สุดด้วย AUM มูลค่ากว่า 2,278.03 ล้านบาท…