บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) โดยนางสาวลสา โสภณพนิช (ยืนกลาง) ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ร่วมบริจาคโลหิต พร้อมให้กำลังใจและขอบคุณพนักงาน ลูกค้า คู่ค้า ตลอดจนประชาชนทั่วไปในพื้นที่ใกล้เคียงที่มาร่วมบริจาคโลหิตให้แก่สภากาชาดไทย ณ อาคารกรุงเทพประกันภัย สำนักงานใหญ่ เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2567 กรุงเทพประกันภัยเห็นความสำคัญของการให้ โดยเฉพาะการให้โลหิตเพื่อสำรองในการรักษาผู้ป่วย จึงได้จัดกิจกรรมบริจาคโลหิตให้แก่สภากาชาดไทย ณ สำนักงานใหญ่และสาขา เป็นประจำทุก 3 เดือนมาอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี
Author: staff
บริษัท ทีคิวเอ็ม อัลฟา จำกัด (มหาชน) หรือ TQM แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท อนุมัติแผนซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน ในวงเงินสูงสุดไม่เกิน 700 ล้านบาท เป็นจำนวนหุ้นที่ซื้อคืนไม่เกิน 30 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 5% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้ทั้งหมด โดยจะดำเนินการผ่านระบบซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ฯ ระหว่างวันที่ 2 มกราคม 2568 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2568 ดร.อัญชลิน พรรณนิภา ประธานบริษัท TQM เปิดเผยว่า บริษัทได้จัดทำโครงการซื้อหุ้นคืนขึ้นเป็นครั้งแรก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการบริหารสภาพคล่องส่วนเกินของกลุ่มให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่นักลงทุนและบริษัท คาดว่าจะส่งผลให้กำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) และอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) และเงินปันผลต่อหุ้น มีแนวโน้มสูงขึ้น เชื่อว่าจะสามารถสะท้อนมูลค่าที่แท้จริงของบริษัทได้ดียิ่งขึ้น ดร.นภัสนันท์ พรรณนิภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีคิวเอ็ม อัลฟา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า TQM ยังมั่นใจในปัจจัยพื้นฐานของบริษัท ทั้งฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และผลการดำเนินงานที่เติบโต อย่างต่อเนื่อง คาดว่าในช่วงไตรมาสที่ 4 นี้ จะสามารถเติบโตตามเป้าได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นช่วง High season ของ TQM ทั้งจากยอดขายประกันรถ ประกันบ้านที่ได้รับความสนใจมากขึ้นจากภัยธรรมชาติ และอุทกภัยในปีนี้ ส่วนประกันสุขภาพและอุบัติเหตุที่มียอดขายเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เสริมด้วยความสนใจ จากลูกค้ามองหาผลิตภัณฑ์ประกันเพื่อลดหย่อนภาษีปลายปี อีกทั้งยังได้เตรียมความพร้อมบุกตลาดประกันชีวิต ในปี 2568 ต่อยอดจากฐานลูกค้าปัจจุบันกว่า 3 ล้านราย
ธนาคารกรุงเทพ จัดสัมมนาพาผู้ประกอบการ เปลี่ยนผ่านองค์กรสู่โลกยุคใหม่ พร้อมชวนกูรูร่วมติวเข้มตีโจทย์ธุรกิจ กระตุกเอสเอ็มอีตื่นตัว ปรับทัพธุรกิจตามแนวคิด ESG มุ่งสร้างความยั่งยืน ชี้อีกไม่นานจะกลายเป็นกติกาใหม่ของสังคมโลก แนะเริ่มต้นสำรวจธุรกิจตนเองให้ชัดถูกกระทบอย่างไรบ้าง พร้อมเตรียมวางแผนเนิ่นๆ ทยอยลงทุน ใช้ประโยชน์จาก ESG ลดต้นทุนเพิ่มผลกำไรให้แก่องค์กรอย่างยั่งยืน ชี้ 6 กลุ่มธุรกิจที่ส่งออกไปอียู คิดเร็วทำไวก่อนมาตรการปรับคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดนเริ่มใช้ปี 2569 ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ กรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารได้จัดสัมมนา “Digital Transformation For SME-EP4” ส่งท้ายปี ให้แก่กลุ่มเอสเอ็มอี ในหัวข้อ ‘แนวทางการรับมือเพื่อ Transform องค์กร ไปรับกติกาใหม่ด้าน ESG ของโลกและสังคม’ เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการปรับตัวเข้าสู่โลกธุรกิจในยุคใหม่ได้อย่างราบรื่น ลดผลกระทบที่จะมีต่อการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะในประเด็นด้านการดูแลสิ่งแวดล้อมต่อสังคมโลก และเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อนำไปสู่การสร้างความยั่งยืน (Sustainability) ให้แก่ธุรกิจในระยะยาว ซึ่งธุรกิจสามารถนำแนวคิดด้าน ESG มาเป็นกรอบการดำเนินงานที่จะนำไปสู่ความยั่งยืนใน 3 มิติ คือ สิ่งแวดล้อม (Environmental) สังคม (Social) และ ธรรมาภิบาล (Governance) “การปรับเปลี่ยนองค์กรไปสู่การปฏิบัติภายใต้หลักการ ESG และนำไปสู่การสร้างความยั่งยืน เป็นประเด็นที่ธนาคารให้ความสำคัญและพยายามส่งเสริมให้สังคมตระหนักรู้เรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง ทั้งแก่พนักงานภายในองค์กร ไปจนถึงลูกค้าผู้ประกอบการทุกขนาด เพราะถือเป็นบริบททางธุรกิจที่กำลังจะทวีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ หลายประเทศกำลังปรับใช้แนวคิดดังกล่าวมาสู่การปฏิบัติจริง เช่น การออกกฎหมาย หรือแนวทางปฏิบัติที่สอดคล้องกับ ESG สำหรับธุรกิจที่จะนำสินค้าเข้ามาขายภายในประเทศ เป็นต้น แม้กระบวนการต่างๆ จะต้องใช้เวลาก่อนเริ่มบังคับใช้ แต่เชื่อว่าทุกคนก็ต้องปรับตัวหากไม่อยากตกขบวนของโลกธุรกิจในอนาคต ขณะเดียวกัน ธนาคารกรุงเทพในฐานะ ‘เพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน’ จึงได้พยายามผลักดันให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีตระหนักถึงความสำคัญการเปลี่ยนไปเป็นองค์กรสีเขียว ด้วยการสนับสนุนทั้งวงเงินสินเชื่อเพื่อการเปลี่ยนแปลงและองค์ความรู้ต่างๆ อย่างรอบด้านทุกมิติ” ดร.พิเชฐกล่าว นางสาวชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ รองประธานกรรมการอาวุโส บริษัท ไทยซัมมิท โอโตพาร์ท อินดัสตรี จำกัด ในฐานะวิทยากรการสัมมนาหัวข้อ ‘แนวทางการรับมือเพื่อ Transform องค์กร ไปรับกติกาใหม่ด้าน ESG ของโลกและสังคม’…
ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีบีบี มุ่งมั่นก้าวสู่การธนาคารเพื่อความยั่งยืน เดินหน้าสานต่อโครงการเพื่อสังคมต่อเนื่อง ผ่านกิจกรรมเปลี่ยนเพื่อชุมชนให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน “fai-fah for Communities” รวมพลังอาสาสมัครทีทีบีนำทักษะและองค์ความรู้เข้าไปช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับชุมชน ตามแนวคิด Make REAL Change ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมองค์กรในการจุดประกายการ “ให้” คืนสู่ชุมชน โดยในปี 2567 มีอาสาสมัครเข้าร่วมจำนวนกว่า 4,000 คน รวมจำนวน 23 โครงการ และตลอดระยะเวลา 11 ปีที่ผ่านมา มีจำนวนโครงการทั้งสิ้น 285 โครงการ นางประภาศิริ โฆษิตธนากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านทรัพยากรบุคคล ทีเอ็มบีธนชาต กล่าวในงาน ttb Volunteer recognition day “ทีทีบีส่งเสริมให้พนักงานใช้ความรู้ ความเชี่ยวชาญที่มีอยู่ในการช่วยเหลือสังคม ด้วยการทำงานอาสาสมัครมาต่อเนื่อง แม้ทุกคนจะมีงานยุ่ง แต่ก็ยังให้ความสำคัญกับการทำกิจกรรมเพื่อชุมชนและเด็ก ๆ โดยอย่างน้อยใน 1 ปีจะมี 1 วันที่สละเวลาให้กับงานอาสาสมัคร ซึ่งทำให้ได้รับพลังงานดี ๆ กลับมา ขับเคลื่อนให้เราไปต่อได้มากกว่า 365 วัน ขอขอบคุณอาสาสมัครทีทีบีที่ร่วมกันสร้างความสุขส่งต่อการให้ โดยนำความรู้และความเชี่ยวชาญที่มีไปช่วยเปลี่ยนชีวิตคนอื่น สร้างประโยชน์ให้ชาวชุมชนทั้งทางตรงและทางอ้อม ถือเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจทั้งของตัวเองและองค์กร” นางสาวพิชญ์อานันต์ญา วัฒนะประภาวงศ์ อาสาสมัครทีทีบี โครงการเดินชิลล์ที่คิวรถเก่า ชุมชนย่อยที่ 8 ตลาดคิวรถเก่า พนัสนิคม-กรุงเทพฯ จ.ชลบุรี ซึ่งเข้าไปช่วยฟื้นฟูตลาดคิวรถเก่าให้กลับมาชีวิตอีกครั้ง กล่าวว่า โครงการนี้มีเป้าหมายต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน โดยจับมือกับศิลปินท้องถิ่นช่วยปรับภูมิทัศน์ทำเป็นสตรีทอาร์ต เพื่อสร้างจุดเช็กอินถ่ายภาพดึงดูดคนให้มาท่องเที่ยวและจับจ่าย พร้อมทั้งทำประชาสัมพันธ์บนโซเชียลมีเดียทำให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ซึ่งตอนนี้ตลาดเปิดทุกวันเสาร์และอาทิตย์มีคนมาเดินมากขึ้น สร้างรายได้ให้กับพ่อค้าแม่ค้าเพิ่มขึ้นราว 10-20% นอกจากนี้ ยังเข้าไปให้ความรู้เรื่องการขายสินค้าออนไลน์ด้วย แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ โครงการนี้ได้จุดประกายให้ชุมชนลุกขึ้นมาร่วมกันพัฒนาท้องถิ่น “เริ่มต้นเข้ามาเป็นอาสาสมัครทีทีบีเพราะเป็นหน้าที่ แต่ทำแล้วก็ติดใจ รู้สึกสนุกและมีความสุข จึงทำต่อเนื่องมา 7 โครงการแล้ว แม้งานจะยุ่งแต่วางแผนดี ๆ ก่อนลงพื้นที่ก็สามารถจัดการได้ ซึ่งการทำงานอาสาสมัคร ส่วนมากคนอาจมองเราเป็นผู้ให้ แต่จริง ๆ เราก็ได้สิ่งดี ๆ กลับมาเช่นกัน ทั้งเรื่องการทำงานเป็นทีม…
นางสาวสุพร สุนทรโรหิต Chief Business Innovation Officer บริษัทอินฟินิธัส บายกรุงไทย ผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” (ขวา) และนายแมนวู จู ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทโกโกลุก ประเทศไทย (ซ้าย) กรุงเทพฯ 25 ธันวาคม 2568 เมื่อเร็วๆนี้ บริษัทอินฟินิธัส บายกรุงไทย ผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน ‘เป๋าตัง’ ร่วมกับ บริษัทโกโกลุก ประเทศไทย ผู้ให้บริการ Whoscall แอปพลิเคชันระบุตัวตนสายเรียกเข้าที่ไม่รู้จัก และป้องกันสแปมสำหรับสมาร์ทโฟน ประกาศยกระดับความปลอดภัยจากมิจฉาชีพออนไลน์ ด้วยการแจกโค้ด Whoscall พรีเมียม เบสิก 10 ล้านโค้ด ให้ผู้ใช้งานแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ฟรี 3 เดือน เพื่อสร้างเกราะป้องกันภัย และลดความเสียหายทางการเงิน เริ่มลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 มกราคม 2568 นางสาวสุพร สุนทรโรหิต Chief Business Innovation Officer บริษัทอินฟินิธัส บายกรุงไทย ผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” กล่าวว่า “นอกจากความมุ่งมั่นพัฒนาและส่งมอบบริการทางการเงินดิจิทัลให้กับคนไทยแล้ว เรายังให้ความสำคัญเรื่องการส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจแก่ผู้ใช้งานแอปฯ “เป๋าตัง” ให้รู้เท่าทันภัยจากมิจฉาชีพในทุกรูปแบบ ซึ่งความร่วมมือ Whoscall ครั้งนี้ถือเป็นการมอบบริการดีๆ เป็นของขวัญปีใหม่ให้กับผู้ใช้ “เป๋าตัง” กว่า 40 ล้านรายทั่วประเทศ ด้วยฟีเจอร์การใช้งานของ Whoscall ที่จะช่วยตรวจสอบ คัดกรอง และป้องกันภัยจากมิจฉาชีพที่มีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยง และการสูญเสียทางการเงิน ทำให้การใช้บริการทางการเงินดิจิทัลปลอดภัยมากขึ้นซึ่งตอบโจทย์และสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้งานแอปฯ เป๋าตังได้ครบทุกมิติ” นายแมนวู จู ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทโกโกลุก ประเทศไทย กล่าวว่า “ในฐานะผู้พัฒนาและผู้ให้บริการเทคโนโลยีเพื่อสร้างความเชื่อมั่น โกโกลุกให้ความสำคัญในการยกระดับการป้องกันภัยจากมิจฉาชีพในทุกรูปแบบ ผ่านบริการของเราบนแอปพลิเคชัน “Whoscall” โดยในปีที่ผ่านมาเราพบว่าการโทรหาเป้าหมายเป็นช่องทางที่มิจฉาชีพยังคงใช้มากที่สุดในการหลอกลวง รองลงมาเป็นการส่งข้อความผ่านมือถือ และการส่งข้อความผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ บนมือถือ ความร่วมมือกับธนาคารกรุงไทยผ่านแอปพลิเคชัน…
ธนาคารกสิกรไทยครองตำแหน่งในดัชนีความยั่งยืนดาวน์โจนส์ ประจำปี 2567 หรือ Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) 2024 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 เป็นธนาคารแรกของไทย ทั้งในระดับโลก (World) และกลุ่มตลาดเกิดใหม่ (Emerging Markets) พร้อมเดินหน้าเชื่อมต่อภาคส่วนสำคัญในระบบนิเวศ เพื่อส่งมอบคุณค่าที่ยั่งยืนให้กับทุกฝ่าย นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทยมีเป้าหมายในการเป็นสถาบันการเงินที่ขับเคลื่อนสังคมสู่ความยั่งยืน มุ่งมั่นเป็นพันธมิตรที่วางใจได้ สร้างและส่งมอบคุณค่าที่ยั่งยืนให้แก่ทุกคน บนหลักการธนาคารแห่งความยั่งยืน โดยได้ผสานแนวคิด ESG เข้ากับทุกมิติในการดำเนินธุรกิจ ดูแลผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม รับผิดชอบต่อสังคม พร้อมให้บริการลูกค้าอย่างเป็นธรรม บนหลักธรรมาภิบาลที่ดีและบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อก้าวสู่การเป็นธนาคารผู้นำด้าน ESG ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานการดำเนินงานให้สอดคล้องกับแนวปฏิบัติทั้งในระดับประเทศและระดับสากล โดยล่าสุด ธนาคารกสิกรไทยได้รับการคัดเลือกเป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ ประจำปี 2567 หรือ Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) 2024 ทั้งในกลุ่มดัชนีระดับโลก DJSI World และกลุ่มดัชนีตลาดเกิดใหม่ DJSI Emerging Markets เป็นปีที่ 9 ติดต่อกัน (ปี 2559-2567) เป็นธนาคารแห่งแรกของไทยและภูมิภาคอาเซียน จากการประเมินผลการทำงานทั้งในมิติสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลและเศรษฐกิจ ซึ่งธนาคารสามารถรักษามาตรฐานไว้ได้อย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงปีที่ผ่านมาธนาคารมีผลการดำเนินงานบนหลัก ESG ที่สำคัญ ดังนี้ ด้านสิ่งแวดล้อม ธนาคารกสิกรไทยได้ประกาศยุทธศาสตร์ด้านสภาพภูมิอากาศ (Climate Strategy) 3 ด้าน ได้แก่ 1. Green Operation การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินงานภายในของธนาคาร (Scope 1 และ 2) เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย Net Zero ในปี 2573 2. Green Finance การปล่อยสินเชื่อรวมถึงการลงทุนเพื่อสนับสนุนภาคธุรกิจในการเปลี่ยนผ่านและ 3. Beyond Banking เช่น…
บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT มอบของขวัญปีใหม่ 2568 ส่งความสุขและความห่วงใยให้กับลูกค้าและพนักงานของ NT ต้อนรับเทศกาล แห่งการเดินทางและเฉลิมฉลอง รับสิทธิพิเศษประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) ฟรี ! ในวงเงินสูงสุดจำนวน 100,000 บาท พร้อมค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุสูงสุด 5,000 บาท ระยะเวลาความคุ้มครอง 30 วัน (นับจาก วันที่ลงทะเบียน) โดยสามารถสแกน QR Code บนสื่อประชาสัมพันธ์ ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2567 – 3 มกราคม 2568 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร.1736
อารีเกเตอร์ (Areegator) แพลตฟอร์มเสนอขายประกันออนไลน์ ภายใต้คอนเซปต์ “จริงใจ เข้าใจ เติบโตไปพร้อมกัน” โดย นายธีระวัฒน์ สาเจริญผู้บริหาร สายงานตัวแทน อารีเกเตอร์ นำทีมจัดกิจกรรม “Areegator Monthly’s Classes ห้องเรียนรู้เสริมทักษะ สร้างรายได้” ประจำเดือนธันวาคม 2567 ในหัวข้อ “เทคนิคการขาย กระตุ้น ต่อยอด บอกต่อ” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับระบบการทำงานของแพลตฟอร์มอารีเกเตอร์ พร้อมส่งเสริมทักษะการขายแบบบอกต่อในยุคดิจิทัล เพื่อให้สมาชิกสามารถนำความรู้ไปปรับใช้ในการเพิ่มยอดขายและสร้างรายได้ให้กับตนเองได้อย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ในช่วงท้ายของกิจกรรม ผู้บริหารอารีเกเตอร์ได้เปิดโอกาสให้สมาชิกได้สอบถามทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับระบบและเทคนิคการขายอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าวได้รับความสนใจจากสมาชิกฯ เป็นจำนวนมาก มีผู้เข้าร่วมอบรม 170 คน โดยจัดขึ้นในรูปแบบออนไลน์ผ่านช่องทาง Zoom เมื่อเร็วๆ นี้ สำหรับนายหน้าประกันหรือนักขายอิสระสามารถเยี่ยมชมข้อมูลอารีเกเตอร์ (Areegator) และสมัครสมาชิกโดยไม่มีค่าใช้จ่ายได้ที่ www.areegator.com และ Facebook อารีเกเตอร์ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Areegator Call Center หมายเลขโทรศัพท์ 02-792-1320 กด 2 (จ.-ศ. เวลา 08.30-17.30 น.) ###
ธนาคารกสิกรไทยคาดยอดผู้ใช้ K PLUS ในปี 2568 เพิ่มล้านราย เป็น 23.9 ล้านราย ตอกย้ำความเป็นผู้นำดิจิทัลแบงกิ้ง ด้วย K PLUS ที่ใช้งานง่าย สะดวก และรวดเร็ว ทำให้มีจำนวนผู้ใช้งานมากที่สุด โดยปัจจุบัน K PLUS มีส่วนแบ่งตลาด30% พร้อมกันนี้ยังมีผลิตภัณฑ์การลงทุนและการให้คำปรึกษาด้านความมั่งคั่งอย่างยั่งยืนแบบองค์รวม ด้วยบริการเวลธ์และเอสเอ็มอีที่ลูกค้าไว้วางใจ และได้รับความพึงพอใจในการบริการเป็นอันดับ 1 เน้นการให้สินเชื่ออย่างมีคุณภาพต่อเนื่อง พร้อมสร้างความประทับใจให้ลูกค้าทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่องต่อไป เดินหน้ายุทธศาสตร์ 3+1 ด้วยความมุ่งมั่นลงมือทำให้สำเร็จยิ่งกว่าเดิม และผลักดัน ROE เป็นเลข 2 หลักให้ได้ภายในปี 2569 นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ภายใต้บริบทของความท้าทายต่างๆ ที่ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ธนาคารกสิกรไทยยังคงมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเต็มที่ เพื่อสามารถตอบสนองการใช้ชีวิตและธุรกิจของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ผ่านการสร้างความประทับใจในทุกมิติ และพร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมๆ กัน อาทิ การพัฒนานวัตกรรมทางการเงินที่ผสมผสานเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญของบุคลากร เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ โดยมี K PLUS เป็นจุดเชื่อมต่อไปยังผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายของธนาคาร และยังคงครองอันดับหนึ่งดิจิทัลแบงก์กิ้งที่มีผู้ใช้งานมากที่สุด โดย K PLUS มีส่วนแบ่งตลาด 30% ของปริมาณธุรกรรมโมบายแบงก์กิ้งทั้งระบบ สะท้อนความไว้วางใจของลูกค้าที่มีต่อบริการของธนาคาร มีผู้ใช้งาน K PLUS จำนวน 22.8 ล้านราย และคาดว่าจะไปสู่ 23.9 ล้านราย ในปี 2568 นอกจากนี้ ธนาคารกสิกรไทย ได้รับคะแนนจากผู้บริโภคเป็นอันดับ 1 ด้านความพึงพอใจและความผูกพันกับแบรนด์ (Net Promoter Score: NPS) ในกลุ่มธุรกิจธนาคารในประเทศไทย จากผลสำรวจของบริษัท นีลเส็นไอคิว (NielsenIQ)บริษัทวิจัยผู้บริโภคชั้นนำของโลก โดยผู้บริโภคให้คะแนนสูงสุดด้านภาพรวมบริการและช่องทางการให้บริการของธนาคาร และ K PLUS เป็นโมบายแบงกิ้งอันดับ 1 ชูความสำเร็จของธนาคารจากความเข้าใจความต้องการของลูกค้าในการใช้บริการผ่านช่องทางต่างๆ ขณะที่ธนาคารครองความเป็นอันดับ 1 ที่ลูกค้ากลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้ความไว้วางใจ จากผลการสำรวจธนาคารหลักที่ลูกค้าเลือกใช้บริการ(Main…
บริษัท ชับบ์ ไลฟ์ แอสชัวรันซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ ชับบ์ ไลฟ์ ประกันชีวิต จัดกิจกรรมเพื่อสังคม “Season Giving ส่งความสุขให้น้องยิ้มได้” โดยมีผู้บริหาร พนักงานจิตอาสาและครอบครัวร่วมฉลองคริสมาสต์ ให้แก่นักเรียนโรงเรียนวัดบางสะแกใน และน้องๆ ที่ขาดโอกาสจากเครือข่ายมูลนิธิสันติสุข เมื่อกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ชับบ์ ไลฟ์ ประกันชีวิต ได้จัดกิจกรรมเพื่อร่วมระดมทุนผ่านการประมูลของรักจากผู้บริหาร และงานเปิดท้ายขายของ โดยบริษัทฯ ได้นำรายได้มาจัดกิจกรรมให้กับน้องๆ อาทิ ซุ้มเกม อาหาร ขนม เครื่องดื่ม และของขวัญมากมาย เพื่อสร้างรอยยิ้มและความสุขให้กับทุกคนที่มาร่วมงาน คุณอลิสา อารีพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า “เรามุ่งมั่นในการสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนไทยที่ขาดโอกาส และตอบแทนสังคมที่เราดำเนินงานอยู่ ผ่านกิจกรรมสาธารณประโยชน์ต่างๆ เพื่อสร้างความสุขให้แก่ชุมชนและผู้คน บริษัทฯ หวังว่ากิจกรรมนี้จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างโอกาสและความหวังให้กับเด็กๆ ทุกคน”