ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดตัวชุดยูนิฟอร์มใหม่ ภายใต้แคมเปญ “SCB UnewForm : ชุดใหม่ คิดใหม่ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” สะท้อนถึงกลยุทธ์องค์กร “Digital Bank with Human Touch” ที่เน้นย้ำบทบาทกับพนักงาน ในฐานะกำลังสำคัญของการสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า และเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญสู่เป้าหมายการเป็นธนาคารที่น่าชื่นชม พร้อมทั้งสะท้อนแนวคิด “อยู่ อย่าง ยั่งยืน” (Live Sustainably) ที่มุ่งเน้นการส่งเสริมความยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งในระดับธนาคาร ลูกค้า และสังคม ชุดยูนิฟอร์มใหม่นี้เป็นมากกว่าเครื่องแต่งกายของพนักงาน โดยเป็นเครื่องมือสำคัญในการปลูกฝังจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมและแสดงออกถึงความมุ่งมั่นของธนาคารในการสร้างโลกที่ดีขึ้น SCB UnewForm ยูนิฟอร์มใหม่นี้ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล โดยใช้ขวดพลาสติกกว่า 1 ล้านขวด แปลงเป็นเส้นใยผ้ารีไซเคิลเพื่อนำมาผลิตเป็นยูนิฟอร์มที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมช่วยลดผลกระทบต่อธรรมชาติและปลูกฝังจิตสำนึกด้านความยั่งยืนในองค์กร โดยนายวรวัจน์ สุวคนธ์ Chief People Officer กล่าวว่า “ธนาคารเชื่อมั่นว่า ความยั่งยืนไม่ได้จำกัดเพียงด้านการเงิน แต่ยังครอบคลุมถึงการดูแลสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาสังคมให้ดียิ่งขึ้นควบคู่กัน เพื่อสะท้อนความมุ่งมั่นนี้ ธนาคารจึงออกแบบชุดยูนิฟอร์มพนักงานใหม่สำหรับปี 2568 ภายใต้แคมเปญ SCB UnewForm ซึ่งผสานความใส่ใจสิ่งแวดล้อม ความเป็นมืออาชีพ และความทันสมัยของพนักงาน อีกทั้งธนาคารยังให้ความสำคัญกับพนักงานในฐานะศูนย์กลางขององค์กร โดยเริ่มจากการฟังเสียงของพนักงานเพื่อสร้างยูนิฟอร์มที่ตอบโจทย์ทั้งด้านความสะดวกสบาย ความเหมาะสม และความภาคภูมิใจ พร้อมกับการผสานเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจและสร้างความยั่งยืนไปพร้อมกันอย่างแท้จริง” แคมเปญ SCB UnewForm ชุดใหม่ คิดใหม่ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ประกอบด้วย 3 มิติหลัก ได้แก่ 1) New Uniform (ชุดใหม่) ที่ออกแบบให้ทันสมัย สวมใส่สบาย ใช้งานได้จริง และผลิตจากวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม 2) New Mindset (คิดใหม่) ที่ส่งเสริมให้พนักงานตระหนักถึงความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ ที่ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อม โดยที่ทุกคนสามารถคิดและลงมือทำได้ในทุกมิติของการใช้ชีวิต และ 3) New World (ใส่ใจสิ่งแวดล้อม) ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญในการสร้างโลกที่ยั่งยืน ทั้งนี้ ธนาคารได้ร่วมมือกับสอง แบรนด์ชั้นนำ ได้แก่ Asava และ Songsmai (ทรงสมัยซังฮี้)…
Author: staff
กรุงเทพฯ 9 มกราคม 2568 – กองทุนเปิด เอไอเอ อินคัม ฟันด์ (AIA-IC) บริหารจัดการโดย บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุนเอไอเอ (ประเทศไทย) จำกัด ได้รับการจัดอันดับ 5 ดาว จาก Morningstar Thailand ประเภทกองทุน Mid/Long Term Bond ทั้งในส่วนของผลตอบแทนโดยรวม (Performance Overall) และผลตอบแทน 3 ปี (3-Y Performance) ซึ่งกองทุนที่ได้รับการจัดอันดับนั้นต้องมีผลตอบแทนอย่างน้อย 3 ปีขึ้นไป และวิธีการจัดอันดับนั้นใช้วิธีคำนวณเดียวกันทั่วโลก สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถของทีมผู้จัดการกองทุนของ บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย) ในการสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงมีการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม ทั้งนี้ กองทุนเปิด เอไอเอ อินคัม ฟันด์ มีนโยบายการลงทุนในตราสารหนี้ และ/หรือเงินฝาก หรือตราสารเทียบเท่าเงินฝาก ที่ออกโดยภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ สถาบันการเงิน และ/หรือ ภาคเอกชน ทั้งใน และ/หรือต่างประเทศ ซึ่งมีอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารที่อยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) รวมกันทุกขณะไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV ผลการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุน AIA Income Fund ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 ผลการดำเนินงานย้อนหลังแบบปักหมุด (%ต่อปี)* YTD 1เดือน 3เดือน 6เดือน 1 ปี 3 ปี ตั้งแต่จัดตั้ง (14สิงหาคม 2563) กองทุน 3.74% 0.52% 1.25% 2.51% 4.48% 2.20% 2.04% ดัชนีชี้วัด 3.35%…
เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2568 กลุ่มเอสซีบี เอกซ์ โดยธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ร่วมส่งความสุขให้กับน้องๆ ที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลทุรกันดาร ขาดแคลนโอกาส และอุปกรณ์การศึกษา โดยผู้บริหารและพนักงานบริษัทในกลุ่มเอสซีบี เอกซ์ นำโดย นายกฤษณ์ จันทโนทก กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้ร่วมกันจัดเตรียมของขวัญที่น้องอยากได้ ในโครงการ “ของ (ขวัญ) พี่ให้น้อง” ซึ่งจัดมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 ในปีนี้ส่งมอบของขวัญให้แก่โรงเรียนต่าง ๆ รวม 9 โรงเรียน ใน 4 ภูมิภาค จำนวน 964 กล่อง ดังนี้ 1. โรงเรียน ตชด. บ้านหางแมว จ.จันทบุรี 2. โรงเรียน ตชด. สิงคโปร์แอร์ไลน์สฯ จ.จันทบุรี 3. โรงเรียน ตชด. บ้านแพรกตะคร้อ จ.ประจวบคีรีขันธ์ 4. โรงเรียน ตชด. นเรศวรป่าละอู จ.ประจวบคีรีขันธ์ 5. โรงเรียนวัดดงข่อย จ.พิษณุโลก 6. โรงเรียนบ้านตระแบกงาม จ.พิษณุโลก 7. โรงเรียนวัดโคกสลุด จ.พิษณุโลก 8. โรงเรียนบ้านสี่แยก จ.สระแก้ว 9. โรงเรียน ตชด.การบินไทย จ.สระแก้ว นอกจากจัดเตรียมของขวัญแล้ว ผู้บริหารและพนักงานกลุ่มเอสซีบี เอกซ์ ยังได้ร่วมเขียนการ์ดอวยพรขนาดใหญ่ลำเลียงของขวัญขึ้นรถและปล่อยขบวนรถของขวัญไปยังสาขาของธนาคารไทยพาณิชย์ในจังหวัดต่างๆ ซึ่งพี่ๆ ที่สาขาจะเป็นตัวแทนเดินทางไปส่งมอบกล่องของขวัญจนถึงมือน้องๆ ที่โรงเรียนเพื่อเติมเต็มความสุขและเป็นกำลังใจในการศึกษาเล่าเรียน ให้เติบโตมาเป็นคนดีและคนเก่งของประเทศชาติต่อไป
ปีใหม่ไม่เพียงแต่เป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลอง แต่ยังเป็นโอกาสที่ดีในการเริ่มต้นวางแผนการเงินสำหรับอนาคต ด้วยค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาล หลายคนอาจกำลังมองหาแหล่งเงินทุนที่เหมาะสมเพื่อให้ชีวิตราบรื่นยิ่งขึ้น “ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ” พร้อมเป็นเพื่อนคู่คิดด้านการเงินด้วยผลิตภัณฑ์ ‘สินเชื่อเงินด่วน’ ที่หลากหลายและบริการที่เข้าถึงง่าย เพื่อทุกความต้องการทางการเงิน ก้าวใหม่ของการเงิน เริ่มต้นด้วยการวางแผนที่ดี การจัดการการเงินในช่วงปีใหม่เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณใช้ชีวิตได้อย่างมั่นคงและมีความสุข ศรีสวัสดิ์แนะนำแนวทางง่ายๆ ในการวางแผนการเงิน กำหนดเป้าหมายการใช้จ่าย:ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นและเลือกลงทุนในสิ่งที่สร้างคุณค่า จัดสรรงบประมาณล่วงหน้า:เพื่อให้สามารถบริหารการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ มองหาทางเลือกสินเชื่อที่เหมาะสม:หากต้องการเงินทุนเพิ่มเติม การเลือกสินเชื่อที่ตรงกับความต้องการและสถานการณ์ของคุณเป็นสิ่งสำคัญ สินเชื่อหลากหลายจาก ‘ศรีสวัสดิ์’ ที่พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการ สินเชื่อรถยนต์ สินเชื่อที่ช่วยให้คุณมีเงินทุนใช้จ่ายด่วน โดยไม่ต้องโอนเล่มทะเบียนและยังใช้รถได้ตามปกติ อนุมัติไวภายใน 24 ชั่วโมง พร้อมอัตราดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้นเพียง 17.85% ต่อปี ผ่อนชำระได้นานสูงสุดถึง 54 งวด สินเชื่อรถมอเตอร์ไซค์เหมาะสำหรับผู้ที่มีรถมอเตอร์ไซค์และต้องการเงินทุนในเวลาอันรวดเร็ว อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 0.75% ต่อเดือน รู้ผลอนุมัติไวใน 15 นาที ใช้เพียงบัตรประชาชนใบเดียว สินเชื่อบ้านและที่ดินแปลงทรัพย์สินให้เป็นเงินทุนด้วยสินเชื่อโฉนดบ้านและที่ดิน ดอกเบี้ยต่ำเริ่มต้นเพียง 0.66% ต่อเดือน ผ่อนชำระได้นานสูงสุดถึง 72 งวด พร้อมเงื่อนไขยืดหยุ่นสำหรับทุกความต้องการ สินเชื่อรถบรรทุกตอบโจทย์ผู้ประกอบการที่ต้องการเงินทุนเพื่อขยายกิจการ ครอบคลุมรถบรรทุกทุกประเภท อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 1.09% ต่อเดือน และผ่อนชำระได้ยาวนานถึง 54 งวด สินเชื่อรถการเกษตรเหมาะสำหรับเกษตรกรที่ต้องการเงินทุนเสริมในการประกอบอาชีพ อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นที่ 21.42% ต่อปี พร้อมเงื่อนไขที่เข้าใจง่าย ไม่ยุ่งยาก ข้อควรพิจารณาก่อนเลือกสินเชื่อ ก่อนตัดสินใจ ‘กู้เงิน’ ควรเปรียบเทียบเงื่อนไขและอ่านรายละเอียดสัญญาให้ครบถ้วน เพื่อให้แน่ใจว่าสินเชื่อที่เลือกเหมาะสมกับความต้องการและความสามารถในการชำระหนี้ของคุณ ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ พร้อมช่วยเหลือประชาชนเพื่อบรรลุเป้าหมายทางการเงินทุกช่วงเวลา โปร่งใสและถูกกฎหมาย สามารถติดต่อ “ศรีสวัสดิ์” สาขาใกล้บ้านคุณ หรือที่เว็บไซต์ www.sawad.co.th LINE Official: @srisawad และโทร. 1652 เพื่อคำปรึกษาฟรีเริ่มต้นปีใหม่อย่างมั่นใจ วางใจในศรีสวัสดิ์ คู่ชีวิตทางการเงิน หมายเหตุ : สินเชื่อรถยนต์ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 17.85% – 24% ต่อปี ระยะเวลาผ่อนสูงสุด 54 งวด สินเชื่อรถมอเตอร์ไซค์ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 17.04%…
บลจ.กสิกรไทย ปลื้มผู้ลงทุนให้ความไว้วางใจและให้การตอบรับกองทุน ThaiESG กสิกรไทยเป็นอย่างดี ส่งผลให้ขึ้นแท่นผู้นำตลาดกองทุน ThaiESG อันดับ 1 ของอุตสาหกรรม ชู K-ESGSI-ThaiESG และ K-TNZ-ThaiESG สร้างผลตอบแทนได้สูงที่สุด ส่วน K-BL30-ThaiESG สร้างยอดขายช่วงเปิดตัวเพียงเดือนเดียวได้สูงที่สุดในกลุ่มกองทุนผสม ThaiESG ประเภท Conservative Allocation พร้อมรับโปรโมชั่นพิเศษตั้งแต่ต้นปี นายวิน พรหมแพทย์, CFA ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า ในช่วงปลายปีที่ผ่านมาผู้ลงทุนได้ให้ความไว้วางใจและเลือกลงทุนในกองทุน ThaiESG จากกสิกรไทยกันอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บลจ.กสิกรไทย ครองแชมป์กองทุน ThaiESG อันดับ 1 ของอุตสาหกรรม ด้วยมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) รวมทั้งสิ้นกว่า 7,479 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 25% ของตลาดโดยรวม (ข้อมูล Morningstar ณ วันที่ 31 ธ.ค. 67) นายวินกล่าวต่อไปว่า กองทุน K-ESGSI-ThaiESG สามารถกวาดยอดขายได้สูงที่สุดเป็นอันดับ 1 ด้วยมูลค่ากว่า 3,927 ล้านบาท รองลงมาเป็นกองทุน K-TNZ-ThaiESG และ K-BL30-ThaiESG เป็นมูลค่า 3,253 และ 299 ล้านบาท ตามลำดับ นอกจากนี้ กองทุน K-ESGSI-ThaiESG ยังสามารถสร้างผลการดำเนินงานได้สูงสุดทั้งในช่วง 1 เดือน และ 3 เดือน อยู่ที่ 5.61% และ 3.01% ชนะดัชนีชี้วัด ซึ่งอยู่ที่ 5.10% และ 2.30% ตามลำดับ (ข้อมูล Morningstar ณ วันที่ 30 ธ.ค. 67) ด้านกองทุน…
นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เป็นประธาน จัดงาน “KICK OFF 2025” บานเย็น…บานสะพรั่งทั่วประเทศ รวมพลังผู้บริหารและตัวแทนฝ่ายขาย ทั่วประเทศอย่างยิ่งใหญ่ ปลุกพลังชาวสีบานเย็นในการก้าวสู่เส้นชัยของเป้าหมายที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนไปด้วยกัน พร้อมมอบนโยบายและแนวทางการดำเนินงาน ตามแผนยุทธศาสตร์ของปี 2568 ที่มุ่งเน้นการส่งมอบความสุขและรอยยิ้มแก่ลูกค้าคนสำคัญ ด้วยการเป็นคู่คิดด้านการวางแผนชีวิตและสุขภาพที่ลูกค้าวางใจ พร้อมอยู่เคียงข้างดูแลในทุกช่วงของชีวิต โดยมีนายภูมิชาย ล่ำซำ ที่ปรึกษาประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดร.สุธี โมกขะเวส กรรมการผู้จัดการ และคณะผู้บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ร่วมในงาน โดยงานจัดขึ้น ณ ห้องรอยัลจูบิลี่ บอลรูม อิมแพ็ค เมืองทองธานี
บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ในฐานะพันธมิตรหลักอย่างเป็นทางการของสโมสรลิเวอร์พูล ร่วมกับ อาริฟุตบอล จัดกิจกรรมเชียร์ฟุตบอลคู่แดงเดือด ระหว่าง ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นำโดย คุณสุกัญญา อิสรานุวัฒน์ชัย รองประธานอาวุโส ฝ่ายสื่อสารการตลาดและภาพลักษณ์องค์กร (คนที่ 2 จากซ้าย) ให้เกียรติกล่าวเปิดงาน ทั้งนี้กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อสร้างประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟในการรับชมสดของการแข่งขันแมตช์ใหญ่ให้แก่ลูกค้า และผู้โชคดีจากกิจกรรมของบริษัทฯ โดยการเนรมิตพื้นที่ของ อาริฟุตบอล สาขา วัน แบงค็อก เป็นพื้นที่เสมือนการไปรับชมที่สนามจริง เพื่อให้แฟนคลับทีมฟุตบอลได้ร่วมเชียร์อย่างสนุกสนานผ่านจอยักษ์ ภายในกิจกรรมยังได้ความสนุกจากนักวิเคราะห์กีฬาฟุตบอลชื่อดัง “ยักษ์ ดอยแดง” และ “บอ บู๋” ที่ได้มาร่วมเติมเต็มประสบการณ์แห่งความสนุกและความประทับใจให้ผู้เข้าร่วมงานในครั้งนี้ ทั้งนี้สำหรับผู้ที่สนใจกิจกรรมลูกค้าเพิ่มเติม สามารถติดตามได้ที่ https://www.krungthai-axa.co.th/ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกิจกรรมต่างๆ และผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ โทร.1159 หรืออีเมล customer.care@krungthai-axa.co.th
รายงานของ Munich Re ชี้ให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นอย่างมากของความเสียหายจากภัยพิบัติทางธรรมชาติในปี 2024 โดยความเสียหายที่ได้รับการประกันภัย (Insured Loss) สูงถึง 1.4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจาก 1.06 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2023 และความเสียหายที่ได้รับประกันภัยไว้นั้นสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอัตราเงินเฟ้อในช่วง 10 ปีและ 30 ปีที่ผ่านมา รายงานของ Munich Re เน้นประเด็นสำคัญดังนี้: ความเสียหายที่ทำลายสถิติ: ปี 2024 ติดอันดับปีที่ 3 ที่มีความเสียหายจากภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ได้รับการประกันภัยสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 1980 สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มที่น่ากังวล ความเสียหายทั้งหมดรวมถึงเหตุการณ์ที่ไม่ได้รับการประกันภัยอยู่ที่ 3.2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ผลกระทบของภัยพิบัติที่ไม่ใช่ภัยพิบัติหลัก: อุทกภัย ไฟป่า และพายุฝนฟ้าคะนองรุนแรงก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมาก รวมเป็น 1.36 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ได้รับการประกันภัย 6.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) แม้ว่าจะลดลงเล็กน้อยจากตัวเลขในปี 2023 แต่ก็สูงกว่าค่าเฉลี่ยสิบปีอย่างมีนัยสำคัญ ความเสียหายจากเฮอริเคนมิลตัน: เฮอริเคนเฮเลนและมิลตันเป็นเหตุการณ์ที่ทำลายล้างสูงที่สุดของปี โดยมิลตันก่อให้เกิดความเสียหายทั้งหมด 3.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ได้รับการประกันภัย 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) แม้จะพลาดเมืองแทมปาไปอย่างหวุดหวิด คลื่นพายุซัดเข้าชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของฟลอริดาและทำให้เกิดความเสียหายจากลมอย่างรุนแรงทั่วทั้งรัฐ แผ่นดินไหวในญี่ปุ่น: แผ่นดินไหวในวันขึ้นปีใหม่ในญี่ปุ่น แม้จะไม่ใช่เหตุการณ์ที่มีความเสียหายสูงสุดในแง่ของความเสียหายที่ได้รับการประกันภัย แต่ก็ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมาก ส่งผลให้ความเสียหายทั้งหมด 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และความเสียหายที่ได้รับการประกันภัย 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ความเสียหายสูงในอเมริกาเหนือ: อเมริกาเหนือแบกรับความเสียหายส่วนใหญ่ คิดเป็นประมาณ 60% ของความเสียหายทั่วโลก (ความเสียหายทั้งหมด 1.9 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้รับการประกันภัย 1.08 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ย 10 ปีที่ 54% บทบาทของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ: Munich Re เชื่อมโยงการเพิ่มขึ้นของความถี่และความรุนแรงของเหตุการณ์เหล่านี้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโดยตรง โดยอ้างถึงอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นและการเพิ่มขึ้นของไอน้ำในบรรยากาศ รายงานเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการเตรียมพร้อมของสังคมและการดำเนินการระดับโลกที่เข้มแข็งขึ้นเพื่อบรรเทาผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยสรุป รายงานนี้แสดงภาพที่น่าหดหู่ของการเพิ่มขึ้นของความเสียหายจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ขนาดของผลกระทบทางการเงิน ควบคู่ไปกับความทุกข์ทรมานของมนุษย์ เน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการดำเนินมาตรการเชิงรุกเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและลดช่องว่างการคุ้มครอง ความเสียหายที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาและค่าเฉลี่ยในอดีตทำหน้าที่เป็นคำเตือนที่ทรงพลังเกี่ยวกับภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นจากเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้ว ข้อมูลจาก www.reinsurancene.ws
ธนาคารทิสโก้ เคาะ 3 กองทุน สร้างโอกาสปกป้องความเสี่ยงจากนโยบายทรัมป์ (Asset Shield) ได้แก่ กองทุนเปิดอีสท์สปริง Global Income (ES-GINCOME) ลงทุนในตราสารหนี้ทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วโลก กองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลพร็อพเพอร์ตี้ (KFGPROP) ลงทุนในทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) โลก และกองทุนเปิด ทิสโก้ โกลด์ ฟันด์ (TGOLD) เน้นลงทุนในทองคำแท่ง คาดตราสารหนี้ระยะสั้นถึงระยะกลาง และ REITs โลกได้รับประโยชน์จากช่วงดอกเบี้ยขาลง และราคาทองคำแท่งอาจปรับขึ้นช่วงหนี้สาธารณะสหรัฐฯ พุ่ง นางวรสินี เศรษฐบุตร ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์กองทุน และสื่อสารการตลาด สายธุรกิจธนบดี ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2568 สำหรับลูกค้าที่ต้องการลงทุนในสินทรัพย์ที่ช่วยปกป้องความผันผวนจากนโยบายนายโดนัล ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ (Asset Shield) พร้อมทั้งเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว ธนาคารทิสโก้แนะนำให้ลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นถึงระยะกลาง ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) ระดับโลก และทองคำ โดยมี 3 กองทุนรวมที่แนะนำ ดังนี้ 1. กองทุน ES-GINCOME เน้นลงทุนในตราสารหนี้ทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วโลก 2. กองทุน KFGPROP ลงทุนใน REITs และอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลก และ 3. กองทุน TGOLD ลงทุนในกองทุน SPDR Gold Trust (กองทุนหลัก) ซึ่งมีนโยบายเน้นลงทุนในทองคำแท่ง สำหรับรายละเอียดของ 3 กองทุนในธีม Asset Shield ที่ธนาคารทิสโก้แนะนำ มีดังนี้ กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นถึงระยะกลาง แนะนำลงทุนในกองทุน ES-GINCOME กองทุนเปิดอีสท์สปริง Global Income (ES-GINCOME) ความเสี่ยงระดับ 5 (เสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูง) เน้นลงทุนในกองทุน PIMCO GIS Income Fund ซึ่งลงทุนในตราสารหนี้ทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วโลกอย่างน้อย 2…