Author: staff

ธนาคารกรุงเทพ ชวนอาเซียนผนึกกำลังความร่วมมือตั้งแต่ระดับท้องถิ่น ภูมิภาค ระดับโลก ตอบรับปัจจัยท้าทายที่จะเกิดขึ้นในยุคดิจิทัล พร้อมผลักดันให้กลายเป็นภูมิภาคสำคัญในห่วงโซ่อุปทานโลก สร้างยุคความเปลี่ยนแปลงให้เป็นยุคแห่งโอกาสเติบโต แนะจับตา 3 โจทย์ใหญ่ ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์-โลกร้อนและความยั่งยืน-GenAI เป็นความท้าทายเศรษฐกิจปีงูเล็ก พร้อมเดินหน้าสร้างเครือข่ายความรู้แก่ลูกค้า ด้วยประสบการณ์ที่แข็งแกร่งในฐานะ ‘ธนาคารชั้นนำระดับภูมิภาค’ พาลูกค้าเติบโตอย่างยั่งยืน นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวในโอกาสเปิดงานสัมมนา AEC Business Forum 2025 ซึ่งธนาคารกรุงเทพ ในฐานะ “ธนาคารชั้นนำระดับภูมิภาค” จัดขึ้นในหัวข้อ ASEAN in the Age of Disruption โดยกล่าวว่า อาเซียนจำเป็นต้องสร้างความร่วมมือทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับภูมิภาค และระดับโลก เพราะถือเป็นกุญแจสำคัญในการรับมือกับความท้าทายและโอกาสในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะในอาเซียนเองที่มีศักยภาพเติบโตสูงตามการเพิ่มขึ้นของชนชั้นกลาง จึงมีความต้องการมากขึ้นที่จะบริโภคสินค้าและบริการ การศึกษา การดูแลสุขภาพ และการท่องเที่ยว รวมทั้งควรสนับสนุนการเคลื่อนย้ายผู้คนทั้งในด้านการศึกษา และการค้าทั่วภูมิภาค นอกจากนี้ อาเซียนกำลังเกิดการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เช่น ถนน รถไฟ ท่าเรือ พลังงาน และโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจ ลดต้นทุน และยกระดับการขนส่งข้ามเขตเศรษฐกิจ เสริมศักยภาพของภูมิภาคให้กลายเป็นส่วนสำคัญในห่วงโซ่อุปทานของโลก “เช่นเดียวกันกับในประเทศไทยที่กำลังเดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เช่น โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมกรุงเทพฯ กับพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก และอีกโครงการเพื่อเชื่อมประเทศไทยกับลาว และจีน ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในอีก 5 ปีข้างหน้า รวมถึงการเติบโตของอุตสาหกรรมใหม่ เช่น อุตสาหกรรมชีวภาพ อุตสาหกรรมสีเขียว รถยนต์ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง ที่ผลักดันคำขอส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ในปีที่ผ่านมาให้สูงสุดในรอบ 10 ปี ด้วยมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 1.3 ล้านล้านบาท ดังนั้น อาเซียนต้องพร้อมเปลี่ยนความท้าทายของยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงนี้ให้กลายเป็นโอกาสสำหรับการพัฒนาอย่างยั่งยืนในอนาคตให้ได้” นายชาติศิริ กล่าวอีกว่า นอกจากประเด็นเกี่ยวกับอาเซียนเองแล้ว โลกยังกำลังเผชิญกับปัจจัยความเปลี่ยนแปลงอีกหลายมิติ นำโดยประเด็นความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เกิดขึ้นอย่างกว้างขวางในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทั้งสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง รวมถึงนโยบายของสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ดำเนินนโยบาย…

Read More

บริษัท ไทยวิวัฒน์ โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) แจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ทราบว่าที่ประชุม คณะกรรมการของบริษัทฯ ครั้งที่ 1/2568 จัดประชุมเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2568 ได้มีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของ บริษัทย่อยของบริษัทฯ ได้แก่ บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน) (“TVI”) จำนวน 75,750,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 303,000,000 บาท เป็น 378,750,000 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 75,750,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 20 ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดภายหลังการเพิ่มทุน โดยเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) กล่าวคือบริษัท จีอาร์ แมนเนจเมนท์ (ไทยแลนด์) จำกัด ที่ราคาเสนอขายหุ้นละ 13.66 บาท คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 1,034,745,000 บาท โดยที่ บริษัท จีอาร์ แมนเนจเมนท์ (ไทยแลนด์) จำกัด เป็นบริษัทย่อยในเครือของ ITOCHU Corporation ซึ่งเป็นบริษัทการลงทุนที่มีชื่อเสียงระดับโลก มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในประเทศญี่ปุ่น โดยที่ ITOCHU Group ดำเนินธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรมทั่วโลก อาทิ สิ่งทอ เครื่องจักร โลหะ แร่ธาตุ พลังงาน เคมีภัณฑ์ อาหาร สินค้าทั่วไป อสังหาริมทรัพย์ สารสนเทศ การสื่อสาร เทคโนโลยีและการเงิน ด้วยการสร้างเครือข่ายในระดับสากลที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ ITOCHU Group มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการลงทุนและสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์อย่าง ต่อเนื่องทั่วโลก ซึ่งบริษัทฯ เชื่อว่าธุรกรรมการลงทุนนี้จะเป็นแหล่งเงินทุนเพิ่มเติมและสร้างโอกาสในการขยายธุรกิจของ TVI ต่อไปในอนาคต โดย ภายหลังจากธุรกรรมการลงทุนแล้วเสร็จ บริษัทฯ จะยังคงเป็นผู้ถือหุ้นที่มีอำนาจควบคุมกิจการ ของ TVI โดยถือหุ้นประมาณร้อยละ 79.15 ของจำนวนหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมด ทั้งนี้คณะผู้บริหารของ TVI…

Read More

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ บลจ.อีสท์สปริง เปิดเสนอขายกองทุนเปิดอีสท์สปริง พันธบัตรรัฐมุ่งรักษาเงินต้น 6M33 (ES-GOVCP6M33) อายุประมาณ 6 เดือน เงินทุนโครงการ 7,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นกองทุนรวมตราสารหนี้ที่มุ่งรักษาเงินต้นที่ผู้ลงทุนจะมีโอกาสได้รับเงินต้นคืนเต็มจำนวน และมีโอกาสได้รับผลตอบแทนเพิ่มจากการเพิ่มขึ้นของมูลค่าหน่วยลงทุน ณ วันครบอายุโครงการ โดยเสนอขายครั้งแรกครั้งเดียวระหว่างวันนี้-23 มกราคม 2568 นี้ ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท โดยกองทุน ES-GOVCP6M33 มีนโยบายที่จะนำเงินลงทุนไปลงทุนในตั๋วเงินคลัง และ/หรือพันธบัตรรัฐบาล และ/หรือพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ในอัตราส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน สำหรับเงินลงทุนส่วนที่เหลือจะลงทุนในเงินฝากธนาคาร และ/หรือหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. กำหนดหรือเห็นชอบให้กองทุนลงทุนได้ และกองทุนจะไม่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) ทั้งนี้ กองทุนจะลงทุนเพียงครั้งเดียวและถือครองทรัพย์สินที่ลงทุนจนครบอายุโครงการ (Buy and Hold) โดยคาดหวังจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 1.90% ต่อปี ณ วันครบอายุโครงการ ซึ่งเมื่อหักค่าใช้จ่ายประมาณ 0.15% ต่อปี ณ วันครบอายุโครงการ แล้ว ผู้ลงทุนจะได้รับประมาณการผลตอบแทนอยู่ที่ 1.75% ต่อปีของเงินลงทุนเริ่มแรก (แหล่งที่มาของข้อมูล อัตราผลตอบแทนที่เสนอขายโดยผู้ออกตราสาร ณ วันที่ 14 มกราคม 2568) ทั้งนี้ เมื่อครบกำหนดอายุกองทุน บลจ.อีสท์สปริง จะดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนแบบอัตโนมัติ และทำการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนของกองทุนทั้งจำนวนของผู้ถือหน่วยทุกราย ไปยังกองทุนเปิดอีสท์สปริง ธนรัฐ (ES-TM) หรือกองทุนรวมตลาดเงินอื่นที่บลจ.อีสท์สปริง เปิดให้บริการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน ในวันทำการก่อนวันสิ้นสุดอายุโครงการ อย่างไรก็ตาม หากไม่สามารถลงทุนให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ เนื่องจากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไป ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทนตามอัตราที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ ผู้ลงทุนจะไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ในช่วงระยะเวลา 6 เดือนดังนั้น หากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าว ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก กองทุนอาจไม่ได้รับเงินต้นและผลตอบแทนตามที่คาดหวังไว้ หากผู้ออกตราสารที่กองทุนลงทุนไม่สามารถชำระเงินต้นและดอกเบี้ยคืนได้ บริษัทจัดการขอสงวนสิทธิในการเปลี่ยนแปลงทรัพย์สินที่ลงทุนหรือสัดส่วนการลงทุนได้ เฉพาะเมื่อมีความจำเป็นและสมควรเพื่อประโยชน์ของผู้ลงทุนเป็นสำคัญ โดยการเปลี่ยนแปลงนั้นต้องไม่ทำให้ความเสี่ยงของทรัพย์สินที่ลงทุนเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ และผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน และกองทุนมีความเสี่ยงที่สำคัญ เช่น ความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย ความเสี่ยงจากการขาดสภาพคล่องของตราสาร…

Read More

เอไอเอ ประเทศไทย นำโดย นายโยฮัน ดีทอย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุน จับมือกับ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นำโดย นายสมบัติ พิมพ์ประสิทธิ์ (ที่ 3 จากซ้าย) ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานกลาง ปฏิบัติการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือตามโครงการมอบความคุ้มครองกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุกลุ่มสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่าและบุคลากรประเภทสัญญาจ้างที่ปฏิบัติงานในพื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติ โดยเอไอเอ ประเทศไทย ได้สนับสนุนกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุกลุ่มฟรี แก่เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าประเภทสัญญาจ้างในพื้นที่มรดกโลกครอบคลุมทั้งสิ้น 3 แห่ง ได้แก่ 1) เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่ – ห้วยขาแข้ง 2) กลุ่มป่าดงพญาเย็น – เขาใหญ่ และ 3) กลุ่มป่าแก่งกระจาน (“พื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติ”) รวมจำนวนทั้งสิ้นกว่า 2,104 ราย ระยะเวลาคุ้มครองเริ่มตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์ 2568 นาน 365 วัน หรือ 1 ปี ด้วยวงเงินคุ้มครองชีวิตสูงถึง 100,000 บาทต่อกรมธรรม์ กรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ พร้อมรับผลประโยชน์ค่าชดเชยรายได้ระหว่างการเข้ารักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน กรณีได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ เพื่อมอบเป็นสวัสดิการและส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่มีหลักประกันความคุ้มครองอุบัติเหตุอย่างครบถ้วนและจำเป็นในการปฏิบัติงาน เพื่อหวังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและดูแลเจ้าหน้าที่ให้มีสวัสดิการความคุ้มครองอุบัติเหตุที่เพิ่มขึ้น พร้อมสนับสนุนให้ทุกคนมีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ตามคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives’ โดยภายในงานได้รับเกียรติจาก นายนราพัฒน์ แก้วทอง  ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พลเอกประดิษฐ์ บุญเกิด  เลขาธิการมูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ พันเอกนนท์ จุลานนท์ ที่ปรึกษามูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ นายไพบูลย์ เปี่ยมเมตตา ผู้ช่วยเลขาธิการสายกำกับผลิตภัณฑ์ประกันภัย สำนักงาน คปภ. และ นายสุวิรัช พงศ์เสาวภาคย์ ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการภายนอก เอไอเอ ประเทศไทย ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา

Read More

บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จัดกิจกรรมวันเด็กสุดเอ็กซ์คลูซีฟ “DIY Your Bingsu” มอบประสบการณ์ให้น้องๆและครอบครัว รังสรรค์บิงซูเมนูโปรดโดยการมอบประสบการณ์ในครั้งนี้เป็นการช่วยยกระดับการทานของหวาน พร้อมได้สร้างสรรค์ไอเดียผ่านเมนูโปรด ภายใต้บรรยากาศที่อบอุ่น ซึ่งผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้เลือกรสชาติบิงซูที่ชื่นชอบ พร้อมตกแต่งเมนูในแบบของตนเองไม่เหมือนใคร ณ ร้านชีวิตชีวา สาขาเอ็มสเฟียร์ นับเป็นประสบการณ์แปลกใหม่ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทั้งนี้การจัดกิจกรรมดังกล่าว ถือเป็นส่วนหนึ่งที่แสดงถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการสร้างสรรค์กิจกรรมพิเศษเพื่อมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ตามนโยบายของบริษัทฯ ที่มีลูกค้ามาเป็นที่หนึ่ง และพร้อมอยู่เคียงข้างทุกความเชื่อมั่น ดูแลกันตลอดไป สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามกิจกรรมลูกค้า หรือบริการอื่นๆ ของบริษัทฯ ท่านสามารถติดต่อได้ที่ www.krungthai-axa.co.th หรือ ติดต่อศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ โทร.1159 หรืออีเมล customer.care@krungthai-axa.co.th

Read More

นายบัณฑิต เจียมอนุกูลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ พรูเด็นเชียล ประเทศไทย รับรางวัล “ซีอีโอแห่งปี”  หรือ CEO of the Year จากเวที The Business Leader of the Year  ซึ่งได้มีเกณฑ์การคัดเลือก ถึงความเป็นผู้นำในการบริหารงานที่ยอดเยี่ยม และมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสังคม (Corporate Social Responsibility – CSR) อีกทั้งยังช่วยเพิ่มขีดความสามารถและการเติบโตทางธุรกิจ รวมถึงการดูแลและส่งเสริมด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (Health & Wellbeing) แก่บุคลากร โดยพิธีมอบรางวัลจัดขึ้นที่โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก เมื่อเร็วๆนี้

Read More

บลจ. ไทยพาณิชย์ ปลื้มสุด! เสียงตอบรับสุดปัง กับ 2 กองทุนใหม่รับปีงู ชูกลยุทธ์โอกาสลดเสี่ยงขาดทุนเงินต้น-รับผลตอบแทนเพิ่มจากสัญญาออปชั่นดัชนี SET50 ถูกใจนักลงทุน เปิดเพิ่มกองทุน SCBCR1YV เสนอขาย วันที่ 15-21 มกราคม 2568 นางนันท์มนัส เปี่ยมทิพย์มนัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด (“SCBAM”) เปิดเผยถึงผลงานการเสนอขายกองทุนคอมเพล็กซ์รีเทิร์น (*กองทุน SCBCR1YT และ SCBCR1YU) ที่ SCBAM คัดเลือกและเปิดเสนอขายเป็นกองทุนนำร่องปี 2568 ซึ่งนักลงทุนให้การตอบรับเป็นอย่างดี จึงสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในกลยุทธ์การลงทุนที่ตอบโจทย์ความต้องการนักลงทุน โดยเป็นการลงทุนที่มีโอกาสลดความเสี่ยงจากการขาดทุนเงินต้นในภาวะที่ตลาดยังมีความผันผวน พร้อมเสริมโอกาสการรับผลตอบแทนเพิ่มจากการเคลื่อนไหวของดัชนี SET50 ผ่านการใช้สัญญาออปชั่น ทำให้ทั้ง 2 กองทุนสามารถปิดการเสนอขายได้ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว ด้วยมูลค่าเงินลงทุนเต็มโครงการ กองทุนละ 5,000 ล้านบาท ทั้งนี้ จากความต้องการของนักลงทุนที่ยังมีต่อเนื่อง SCBAM จึงเปิดตัวกองทุน SCBCR1YV หรือ “กองทุนเปิดไทยพาณิชย์คอมเพล็กซ์รีเทิร์น 1YV ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย” กำหนดเสนอขายวันที่ 15-21 มกราคม 2568 เริ่มต้นเงินลงทุนขั้นต่ำ 500,000 บาท โดยกองทุน SCBCR1YV ยังเป็นกองทุน Complex Fund อายุ 1 ปี ที่คงจุดเด่นด้านกลยุทธ์ที่เน้นโอกาสลดความเสี่ยงขาดทุนเงินต้น จากการลงทุนในตราสารหนี้คุณภาพสูง เงินฝากในสถาบันการเงินที่มีความน่าเชื่อถือ พร้อมเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนส่วนเพิ่มจากสัญญาออปชั่นที่เชื่อมโยงกับการปรับตัวของดัชนี SET50 กองทุน SCBCR1YV มีนโยบายลงทุนใน 2 ส่วน คือ (1) การลงทุนตราสารหนี้และเงินฝากระดับ Investment Grade ทั้งในและต่างประเทศ ด้วยสัดส่วนเงินลงทุนประมาณ 99.85% ของทรัพย์สินกองทุน ซึ่งการลงทุนส่วนนี้ เป็นการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความผันผวนต่ำ จึงทำให้มีโอกาสช่วยลดความเสี่ยงการขาดทุนเงินต้น กองทุนจึงมีโอกาสได้รับเงินต้นคืนพร้อมดอกเบี้ยเมื่อครบกำหนดอายุโครงการ (2) การลงทุนโดยการเข้าทำธุรกรรมสัญญาออปชั่น Digital Call ที่มีเงื่อนไขการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับดัชนี SET50 ด้วยสัดส่วนเงินลงทุนประมาณ…

Read More

TAGTHAi เปิดตัว 3 Golf Pass พิเศษ ชวนคอกอล์ฟออกรอบโชว์วงสวิง พร้อมรับภาษีคืนตามสิทธิ์ Easy E-Receipt ประจำปี 2568 ลดหย่อนภาษีเพิ่มได้ 20,000 บาท ในหมวดสินค้าหรือค่าบริการที่จ่ายให้แก่วิสาหกิจเพื่อสังคม รวมลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 50,000 บาท บริษัท ไทย ดิจิทัล แพลตฟอร์ม วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด หรือ ‘TAGTHAi’ ชวนคุณไปอวดวงสวิงกับดีลตีกอล์ฟพิเศษสุดคุ้มกับ 3 TAGTHAi Golf Pass ณ 2 สนามกอล์ฟชื่อดังย่านบางนาอย่าง Lakewood Country Club และ Summit Windmill Golf Club หรือจะไปเที่ยวไทยแบบบุฟเฟต์กับ TAGTHAi Pass ที่กรุงเทพฯ พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ ฯลฯ พร้อมรับสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีในโครงการ Easy E-Receipt 2.0 ให้คุณลดหย่อนภาษีได้ตามยอดที่ซื้อจริง นอกเหนือจากสินค้าปกติ 30,000 บาท เพิ่มได้อีก 20,000 บาท ในหมวดสินค้าหรือค่าบริการที่จ่ายให้แก่วิสาหกิจเพื่อสังคม รวมลดหย่อนมูลค่าสูงสุดได้ 50,000 บาท ตามเงื่อนไขที่รัฐบาลกำหนด นางธีรธิดา คุวันทรารัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย ดิจิทัล แพลตฟอร์ม วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มท่องเที่ยวแห่งชาติ TAGTHAi กล่าวว่า กอล์ฟเป็นหนึ่งในกีฬาที่กำลังได้รับความนิยมในหมู่คนรุ่นใหม่ และมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การทำ Golf Pass ครั้งนี้ จึงมีประโยชน์ทั้งในแง่ของการกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมกีฬากอล์ฟให้คนทั่วไปเข้าถึงมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับแผนงานของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยปี 2568 ที่ต้องการส่งเสริมการท่องเที่ยวควบคู่ไปกับการกีฬา (Amazing Thailand Grand Tourism & Sport Year 2025) โดยมุ่งหวังให้เกิดการใช้จ่ายของทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติมากขึ้น สำหรับดีลพิเศษ TAGTHAi…

Read More

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดงาน Chula the Impact ครั้งที่ 29 ภายใต้หัวข้อ “Chula-KBTG: AI for the Future” ณ เรือนจุฬานฤมิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยภายในงานมีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) ระหว่างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและ กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) พร้อมเปิดตัวระบบ “AI LUCA” และ “Virtual Patient” ที่พัฒนาร่วมกันอย่างเป็นทางการ งาน “Chula-KBTG: AI for the Future” ในครั้งนี้มีเป้าหมายสำคัญในการนำเสนอเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อการศึกษาที่มุ่งยกระดับกระบวนการเรียนการสอนและการพัฒนานิสิตนักศึกษาในยุคดิจิทัล โดยเฉพาะในบริบทของมหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษาในประเทศไทย สำหรับความร่วมมือครั้งนี้ KBTG ได้ร่วมกับคณะพาณิชยศาสตร์การบัญชีพัฒนา ระบบ AI LUCA นวัตกรรมสำหรับการเรียนการสอน เพื่อสนับสนุนการทำงานด้านวิชาการ วิชาชีพ และสังคม เช่น การสร้างคำถามข้อสอบ การตอบคำถามเชิงวิจัย และการอำนวยความสะดวกในการจัดการข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ไปจนถึงการเพิ่มระบบเข้าบัญชีเสริมความปลอดภัย การสร้างเมนูเฉพาะสำหรับอาจารย์ และการพัฒนาให้รองรับการใช้งานในหลากหลายสาขาวิชา ช่วยให้ทั้งนิสิตและคณาจารย์สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ในการวิจัย ระบบ Virtual Patient หรือคนไข้จำลอง พัฒนาต้นแบบจำลองเสมือนจริงสำหรับการเรียนรู้ให้แก่นักศึกษาแพทย์ เพื่อสร้างประสบการณ์และเสริมความเชี่ยวชาญให้แก่นักศึกษาแพทย์ เตรียมความพร้อมเพื่อเข้าสู่สถานการณ์จริงในอนาคต ศ.ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ตนในฐานะตัวแทนของจุฬาฯ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในความร่วมมืออย่างเป็นทางการกับ KBTG เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) สำหรับใช้ในการเรียนการสอน โดย AI ทั้งสองระบบที่จุฬาฯ โดยคณะแพทยศาสตร์ และคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ร่วมกับ KBTG กำลังพัฒนาขึ้นนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นและนิมิตหมายอันดีสำหรับความร่วมมือระหว่างจุฬาฯ และ KBTG และจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการพัฒนาการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพในอนาคตอันใกล้ ทั้งนี้ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภายใต้ยุทธศาสตร์ “Chula Power of Togetherness” มีวัตถุประสงค์หลักคือการสร้างสภาพแวดล้อมในการเรียนการสอนที่นำสมัย โดยมีนิสิตเป็นศูนย์กลาง และเพื่อขับเคลื่อนจุฬาฯ สู่การเป็น…

Read More

เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ “เคทีซี” โดย นางสาวสิรีรัตน์ คอวนิช    (กลางขวา) ผู้บริหารสูงสุด ฝ่ายการตลาดบัตรเครดิต เป็นตัวแทนส่งมอบเงินบริจาคจำนวน 25,513,630 บาท ให้แก่ นางสาวอรุณี อัชชะกุลวิสุทธิ์ (กลางซ้าย) ผู้อำนวยการ แผนกส่งเสริมความร่วมมือภาคเอกชน UNHCR ณ สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ถนนกรุงเกษม โดยเงินบริจาคมาจากสมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีร่วมบริจาคผ่านคะแนนสะสม KTC FOREVER (ทุก 1,000 คะแนน แทนเงิน 100 บาท) รวมถึงการบริจาคตรงเพื่อช่วยเหลือผู้ลี้ภัยที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม ความขัดแย้ง และวิกฤติด้านมนุษยธรรมทั่วโลก นางสาวอรุณี อัชชะกุลวิสุทธิ์ กล่าวถึงความสำคัญของการบริจาคว่า “ปัจจุบันมีผู้ลี้ภัยกว่า 120 ล้านคนทั่วโลก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็กที่ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง เช่นการบริจาคผ่านบัตรเครดิตเคทีซี มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือและคุ้มครองผู้ลี้ภัยในทุกด้าน ซึ่งจากสถิติพบว่า ผู้ลี้ภัยมักตกอยู่ในสถานะนี้เฉลี่ยถึง 17 ปี การสนับสนุนที่ต่อเนื่องจะช่วยให้เรามีงบประมาณเพียงพอเพื่อช่วยชีวิตพวกเขาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างอนาคตใหม่ให้กับกลุ่มที่เปราะบางได้อย่างยั่งยืน” “เคทีซีขอขอบคุณสมาชิกทุกท่านที่ร่วมเป็นพลังสำคัญในการสร้างโอกาสใหม่ให้ผู้ลี้ภัยทั่วโลก และขอยืนยันความมุ่งมั่นในการสนับสนุนโครงการ เพื่อสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นประโยชน์ให้กับสังคมอย่างยั่งยืน” นางสาวสิรีรัตน์ คอวนิช กล่าวปิดท้าย

Read More