สมาคมประกันชีวิตไทยเดินหน้ามอบทุนและรางวัลการศึกษา ประจำปีการศึกษา 2563 ด้วยงบประมาณกว่า 600,000 บาท ให้กับนิสิต นักศึกษาสาขาการประกันภัย รวม 79 รางวัล จาก 13 สถาบันการศึกษา เพื่อส่งเสริมคนรุ่นใหม่สู่ธุรกิจประกันชีวิต นายสาระ ล่ำซำ เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลากว่า 46 ปี ที่สมาคม ประกันชีวิตไทย ในฐานะองค์กรกลางของธุรกิจประกันชีวิตได้ให้ความสำคัญกับกิจกรรมเพื่อสังคมเสมอมา รูปแบบกิจกรรมส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นการช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะด้านการศึกษา ที่ผ่านมาสมาคมประกันชีวิตไทยให้การสนับสนุนและส่งเสริมเยาวชนไทยที่มีความสนใจในสาขาวิชาประกันภัย พร้อมทั้งมีผลการเรียนดีให้ได้รับโอกาสและทุนทรัพย์ เพื่อนำไปพัฒนาศักยภาพของตนเองจนกลายเป็นคลื่นลูกใหม่ที่จะเข้ามาช่วยขับเคลื่อนวงการธุรกิจประกันภัยไทย ให้มีความแข็งแกร่งและมีเสถียรภาพทัดเทียมระดับสากล ในการนี้ สมาคมประกันชีวิตไทยเดินหน้าประสานความร่วมมือไปยังสถาบันการศึกษาต่างๆ ในการพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนสาขาประกันภัย รวมถึงการส่งเสริมและสนับสนุนเพิ่มพูนความรู้และศักยภาพผ่านโครงการต่างๆ เช่น การกระตุ้นส่งเสริมให้นักศึกษาเปิดมุมมองความต้องการใหม่ๆ ผ่านการเสนอโครงการการวางแผนเชิงธุรกิจประกันชีวิต เป็นต้น พร้อมทั้งจัดสรรงบประมาณเป็นทุนและรางวัลการศึกษาให้กับนิสิต นักศึกษาที่มีผลการเรียนดี สอบได้คะแนนสูงสุดในสาขาดังกล่าว ซึ่งในปีนี้ สมาคมประกันชีวิตไทยให้การสนับสนุนมอบทุนและรางวัลการศึกษาประจำปีการศึกษา 2563 ด้วยงบประมาณ 602,000 บาท รวม 79 รางวัล จาก 13 สถาบันการศึกษา ที่เปิดสอนสาขาการประกันภัย อาทิ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล สถาบันบัณฑิตพัฒน บริหารศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (วิทยาเขตตรัง) มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (คณะวิทยาศาสตร์ และคณะบริหารธุรกิจ) สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยศิลปากร และ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยแบ่งเป็นทุนการศึกษา ทุนละ 10,000 บาท จำนวน 23 ทุน รางวัลการศึกษา รางวัลละ 5,000 บาท จำนวน 10 รางวัล รางวัล ASA – Course I (Exam P–Probability) รางวัลละ 7,000 บาท จำนวน 28…
Author: staff
ทิพยประกันภัย ร่วมกับ ทรูบิสิเนส ผู้นำบริการสื่อสารและโซลูชันครบวงจรสำหรับธุรกิจ ผนึกพลังสนับสนุน SMEs ไทย สู้วิกฤตโควิด-19 จัดแพ็กเกจสุดคุ้ม พร้อมมอบสิทธิพิเศษ ตอบโจทย์การตลาดยุคดิจิทัล ขายออนไลน์ไม่สะดุด กับแพ็กเกจ SME Go Online ตัวช่วยสุดปัง ขายง่าย รายได้พุ่ง พร้อมเสริมความมั่นใจ ไร้กังวลทุกครั้งที่ทำธุรกรรมออนไลน์ ด้วยแผนประกันภัยไซเบอร์ คุ้มครองการถูกโจรกรรมเงินจากบัญชีส่วนตัวผ่านช่องทางออนไลน์ และการถูกฉ้อโกงจากการซื้อสินค้าออนไลน์ พิเศษ! สำหรับลูกค้าทรูบิสิเนสที่สมัครแพ็กเกจ SME Go Online รับฟรีประกันภัย TIP Personal Cyber วงเงินสุงสุด 50,000 บาท คุ้มครองนานสูงสุด 1 ปี สมัครได้แล้ววันนี้ – 30 ก.ย. 2564 จำกัดเพียง 5,000 สิทธิ์เท่านั้น ดร.สมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทิพยประกันภัย กล่าวว่า “ทิพยประกันภัย เป็นบริษัทประกันวินาศภัยของไทยที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการรับประกันภัยและเป็นผู้นำทางด้านดิจิทัลอินชัวรันส์ เรามุ่งมั่นในการเพิ่มศักยภาพในการพัฒนาการให้บริการอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดประกันภัยในยุคดิจิทัล (Digital Insurance) ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าและอุตสาหกรรม ซึ่งในสถานการณ์ปัจจุบันประชาชนได้ให้ความสนใจและหันมาทำธุรกิจ รวมถึงใช้บริการธุรกรรมออนไลน์เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ทำให้กลุ่มมิจฉาชีพก็ได้เข้ามาหาประโยชน์จากช่องทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน เพื่อเป็นการดูแลและลด ความเสียหายจากปัญหาการฉ้อโกงหรือการโจรกรรมข้อมูล ทิพยประกันภัยจึงมอบความคุ้มครองฟรี “ประกันภัย TIP Personal Cyber” ให้ลูกค้ากลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอีของทรูบิสิเนส ที่ใช้แพ็กเกจ SME Go Online จำนวน 5,000 สิทธิ์ ในวงเงินคุ้มครองสูงสุด 50,000 บาท นายพิชิต ธันโยดม หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านธุรกิจองค์กร บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคดิจิทัลเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ประกอบกับวิกฤตโควิด-19 เป็นตัวเร่งให้การค้าผ่านออนไลน์ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งจากการวิเคราะห์โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ธุรกิจ e-Commerce เป็น 1 ใน 12 ธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตน่าสนใจในปี 2564 ภาคธุรกิจต่างๆ จึงต้องเร่งปรับตัว…
การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาสที่สอง ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดระลอกที่สามของโควิด-19 ส่งผลให้เครื่องชี้ทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ปรับตัวลงต่อเนื่อง อาทิ ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ต่ำสุดในรอบ 19 ปี กระทบต่อไปยังการบริโภคและการลงทุนของภาคเอกชน ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวยังไม่สามารถฟื้นตัว เนื่องจากมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม การส่งออกของประเทศไทยปรับดีขึ้นต่อเนื่อง ตามการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า ซึ่งได้เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจไทยในช่วงที่ผ่านมา ร่วมกับการใช้จ่ายของภาครัฐที่มีบทบาทสำคัญในการช่วยพยุงเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยขณะนี้ยังคงมีความไม่แน่นอนสูง มีผู้ติดเชื้อใหม่จำนวนหลายพันรายต่อวัน การกลายพันธุ์ของไวรัสทำให้การระบาดยืดเยื้อ สัดส่วนประชากรไทยที่ได้รับวัคซีนยังไม่มากพอ และแผนการเปิดประเทศ เพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงอยู่ในช่วงเริ่มดำเนินการ ด้วยเหตุนี้ ความต่อเนื่องของมาตรการภาครัฐ ในการช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจและลูกหนี้รายย่อยที่ได้รับผลกระทบ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการประคับประคองและฟื้นฟูเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาธนาคารกรุงเทพได้สนับสนุนมาตรการของภาครัฐและเร่งดำเนินการช่วยเหลือลูกค้าอย่างต่อเนื่องตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 พร้อมดูแลลูกค้าให้เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์และผลกระทบที่เกิดขึ้นกับลูกค้าแต่ละราย ขณะเดียวกัน ธนาคารให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยง ควบคู่กับการรักษาเสถียรภาพฐานะการเงิน สภาพคล่อง และเงินกองทุนให้อยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง กำไรสุทธิของธนาคารกรุงเทพและบริษัทย่อยสำหรับครึ่งแรกของปี 2564 จำนวน 13,280 ล้านบาท ธนาคารกรุงเทพและบริษัทย่อยรายงานกำไรสุทธิครึ่งแรกของปี 2564 จำนวน 13,280 ล้านบาท โดยมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.8 หลัก ๆ จากผลของการรวมธนาคารเพอร์มาตาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2563 และมีส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิอยู่ที่ร้อยละ 2.12 ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งในครึ่งแรกของปีก่อน รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.8 จากค่าธรรมเนียมบริการประกันผ่านธนาคารและบริการกองทุนรวม และค่าธรรมเนียมธุรกิจหลักทรัพย์ รวมถึงการรวมรายได้ค่าธรรมเนียมของธนาคารเพอร์มาตา สำหรับอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ร้อยละ 49.5 ทั้งนี้ ธนาคารมีการตั้งสำรองตามหลักความระมัดระวังโดยคาดการณ์ปัจจัยผลกระทบสำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับความไม่แน่นอนในระยะข้างหน้า ธนาคารกรุงเทพยังคงดำรงฐานะการเงิน สภาพคล่อง และเงินกองทุนให้อยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง ตามแนวทางการดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวังและรอบคอบ เพื่อรองรับผลกระทบจากเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวช้าและมีความไม่แน่นอนมากขึ้น ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2564 ธนาคารมีเงินให้สินเชื่อจำนวน 2,420,305 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.2 จากสิ้นปี 2563 จากสินเชื่อลูกค้าธุรกิจและสินเชื่อกิจการต่างประเทศ แม้ว่าอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตต่อเงินให้สินเชื่อรวมอยู่ในระดับทรงตัวที่ร้อยละ 3.7 ธนาคารยังคงมีการตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ต่อเศรษฐกิจไทย ส่งผลให้อัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตต่อเงินให้สินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ร้อยละ 190.3 ธนาคารมีเงินรับฝาก ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2564 จำนวน 3,046,985 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.4 จากสิ้นปีก่อน เป็นผลจากการที่ลูกค้าต้องการดำรงสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงในภาวะที่มีความไม่แน่นอน ทำให้อัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อเงินรับฝากอยู่ที่ร้อยละ 79.4 ขณะที่อัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้น อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 และอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของต่อสินทรัพย์เสี่ยงของธนาคารและบริษัทย่อยอยู่ที่ร้อยละ 18.4 ร้อยละ 15.9 และร้อยละ 15.0 ตามลำดับ ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงกว่าอัตราส่วนเงินกองทุนขั้นต่ำตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ทิพยประกันภัย สนับสนุนการจัดตั้งศูนย์พักคอย (Community Isolation) ที่สามารถรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 100 เตียง ในพื้นที่ยานนาวา พระรามสาม โดย คุณอาคม ไม้ดัดจันทร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ทิพยประกันภัย มอบอุปกรณ์ของใช้ สำหรับผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อาทิ ที่นอนพร้อมชุดเครื่องนอน มุ้ง พัดลม ในโครงการ TIP ZONE จำนวน 100 ชุด ให้กับ คุณภาวนา ใจเสงี่ยม ผู้อำนวยการเขตยานนาวา โดยมี คุณอรชา มุ้ยเสมา ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตยานนาวา และ คุณอิทธิพล อิงประสาร ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตยานนาวา ร่วมรับมอบ ณ ศูนย์พักคอย หอประชุมโรงเรียนวัดดอกไม้ ยานนาวา กรุงเทพฯ สำหรับศูนย์พักคอยดังกล่าว จัดตั้งขึ้นเพื่อรองรับผู้ป่วยที่มีผลตรวจรับรองว่าติดเชื้อโควิด-19 แยกผู้ป่วยออกมาจากบ้าน มีการคัดกรองอาการและดูแลในเบื้องต้น เพื่อรอการส่งต่อไปรักษายังโรงพยาบาลต่อไป เป็นการลดปัญหาการแพร่ระบาดและติดเชื้อของคนในครอบครัวและในชุมชน
ไทยประกันชีวิตเคียงข้างคนไทยแจ้งปิดศูนย์บริการลูกค้าในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล รับมาตรการลดการแพร่ระบาดโควิด-19 สุขภาพและความปลอดภัยลูกค้า ชูบริการออนไลน์อำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าให้สามารถทำธุรกรรมด้านประกันชีวิตได้รวดเร็วยิ่งขึ้นด้วยตนเองทุกที่ทุกเวลาแอปพลิเคชัน ไทยประกันชีวิต และเว็บไซต์ไทยประกันชีวิต iService นายอังกูร ศรีกัลยาณบุตร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ และ Chief Marketing Officer บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ไทยประกันชีวิตดำเนินนโยบายมุ่งสู่การเป็นทุกคำตอบของชีวิต หรือ Life Solutions ภายใต้แนวคิด “ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง” หรือ Customer Centric ซึ่งจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง บริษัทฯ มีความห่วงใยและใส่ในสุขภาพและความปลอดภัยของลูกค้า ฝ่ายขายและพนักงาน แบะพร้อมให้ความร่วมมือกับภาครัฐตามมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 บริษัทฯ จึงปิดทำการชั่วคราวศูนย์บริการลูกค้า (CSC) ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล จำนวน 12 สาขา ได้แก่ สาขาแม็กซ์แวลู นวมินทร์, สาขาพาราไดซ์ พาร์ค, สาขาแฟชั่น ไอส์แลนด์, สาขาเดอะมอลล์ บางแค, สาขาเมกา บางนา, สาขาซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์, สาขาสีลม คอมเพล็กซ์, สาขาอิมพิเรียล เวิลด์ สำโรง, สาขาฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต, สาขาเดอะมอลล์ บางกะปิ, สาขาอาคารภคินทร์, และสาขาอาคารรุ่งโรจน์ธนกุล ตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ดี เพื่ออำนวยความสะดวกและลดผลกระทบต่อผู้เอาประกันภัย บริษัทฯ จึงได้พัฒนาระบบการให้บริการออนไลน์ต่างๆ ได้แก่ แอปพลิเคชัน ไทยประกันชีวิต และบริการไทยประกันชีวิต iService ผ่านเว็บไซต์ https://iservice.thailife.com เพื่อให้ผู้เอาประกันภัยสามารถเข้าถึงบริการ และทำธุรกรรมด้านประกันชีวิตได้อย่างสะดวกรวดเร็วด้วยตนเองทุกที่ทุกเวลา แอปพลิเคชัน ไทยประกันชีวิต และบริการไทยประกันชีวิต iService พัฒนาภายใต้แนวคิดเพื่อนคู่คิดที่เข้าใจความต้องการ และเป็นทุกคำตอบของบริการด้านธุรกรรมประกันชีวิตแก่ผู้เอาประกันภัย ผ่านหลากหลายบริการ อาทิ การชำระเบี้ยฯ ผ่านบัตรเครดิตหรือ Mobile Banking, บริการรับเงินคืนระหว่างสัญญาผ่านบัญชีพร้อมเพย์หรือบัญชีธนาคาร, การยื่นเคลมค่าชดเชยรายได้ และตรวจสอบประวัติการเคลมสินไหม, การตรวจสอบข้อมูลกรมธรรม์และรายละเอียดความคุ้มครอง, การเปลี่ยนแปลงข้อมูลตามกรมธรรม์, บริการข้อมูลกองทุนรวมภายใต้แบบประกันยูนิตลิงค์ รวมถึงการดาวน์โหลดเอกสารต่างๆ อาทิ หนังสือรับรองการชำระเบี้ยประกันภัย นอกจากนี้ สำหรับ แอปพลิเคชัน ไทยประกันชีวิต ยังมีอีกหลากหลายเมนูการใช้งานด้านการดูแลสุขภาพ อาทิ บริการปรึกษาแพทย์ออนไลน์จากโรงพยาบาลสมิติเวช ไทยประกันชีวิตฮอตไลน์ บริการช่วยเหลือฉุกเฉินทางการแพทย์และการเดินทางฟรีตลอด 24 ชั่วโมง ทุกที่ทั่วโลก การเข้าร่วมโครงการไทยประกันชีวิต ไลฟ์ฟิต เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมด้านสุขภาพและสิทธิพิเศษต่างๆ มากมาย สิทธิประโยชน์จากไทยประกันชีวิต Privilege โดยผู้เอาประกันภัยสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ไทยประกันชีวิตได้ฟรีทั้งจากระบบ IOS และ Android นอกจากนี้ ในช่วงสถานการณ์ที่ต้องเว้นระยะห่าง ผู้เอาประกันยังสามารถติดต่อกับบริษัทฯ ได้ผ่านหลากหลายช่องทาง อาทิ ศูนย์ดูแลสิทธิประโยชน์ผู้เอาประกัน ไทยประกันชีวิตแคร์เซ็นเตอร์ โทร.1124 หรือ E-mail : carecenter@thailife.comและผ่านช่องทาง Online และ Social Media ต่างๆ ได้แก่ เว็บไซต์ www.thailife.com, Facebook : @Thailifepage, Twitter : @ThaiLifePLC
บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต โดย คุณภควิภา เจริญตรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายลูกค้า คว้า 2 รางวัลใหญ่ระดับนานาชาติ จาก International Business Magazine Award 2021 ในสาขา 1. “Health Insurance Provider 2021” และ 2. “Best CSR Initiative 2021” รางวัลนี้ถือเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจ และความสำเร็จของการเป็นผู้นำประกันชีวิตด้านประกันสุขภาพ และตอกย้ำความมุ่งมั่นของบริษัทฯ ในการช่วยเหลือสังคมอย่างยั่งยืนตลอดมา พร้อมทั้งเคียงข้างทุกความเชื่อมั่น ดูแลกันตลอดไป ทั้งนี้ International Business Magazine เป็นนิตยสารทางธุรกิจและรางวัลการเงินชั้นนำ ที่ดำเนินการคัดเลือกองค์กรต่างๆ ที่มี ผลการดำเนินงานเป็นไปตามเกณฑ์ของรางวัล International Business Magazine Award โดยรางวัลดังกล่าวจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งเวที ที่การันตีให้กับองค์กรธุรกิจชั้นนำ ในประเทศต่างๆ ถึงผลงานที่สะท้อนความรับผิดชอบต่อเศรษฐกิจ สังคม ชุมชนและสิ่งแวดล้อม ให้สามารถก้าวไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนและเป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ
นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัท มุ่งมั่นในการเป็นแบรนด์ที่ลูกค้าให้ความวางใจ พร้อมดูแลและเดินเคียงข้างในทุกช่วงของชีวิต คำนึงถึงความสุขและประสบการณ์ที่ดีของลูกค้าเป็นเรื่องสำคัญ ภายใต้กลยุทธ์ “MTL Trusted Lifetime Partner” ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการผ่านช่องทางการตลาดที่หลากหลาย ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าทุก Journey ในแบบที่มีความเฉพาะตัวของบุคคล (Personalization) มากยิ่งขึ้น ตลอดจนการสร้างสรรค์กิจกรรม สิทธิประโยชน์และแคมเปญต่างๆ ต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2564 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 70 ปี เมืองไทยประกันชีวิตผ่าน “เมืองไทยสไมล์คลับ” ที่จะสร้างความสุขและรอยยิ้ม สำหรับสมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับ ซึ่งสมาชิกฯ สามารถร่วมกิจกรรมแลกรับส่วนลด แลกรับสินค้า หรือแลกรับบริการผ่านแอปพลิเคชัน MTL Click ที่เมืองไทยสไมล์คลับจัดเตรียมเป็นพิเศษให้สมาชิกฯ สอดคล้องกับรูปแบบการใช้ชีวิตในปัจจุบัน ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ยังไม่คลี่คลาย บริษัทฯ จึงร่วมส่งเสริมและให้ความสำคัญในการสร้างเสริมสุขภาพของสมาชิกเมืองไทยสไมล์คลับให้ดียิ่งขึ้น และช่วยลดความกังวลใจในการดูแลสุขภาพ ด้วยการส่งมอบผลิตภัณฑ์สุขภาพถึงบ้าน “Healthy From Home” ที่แม้ว่าสมาชิกฯ จะอยู่แต่ในบ้าน ก็สามารถดูแลสุขภาพได้ผ่านการแลกคะแนนสะสม Smile Point บนแอปพลิเคชัน MTL Click ซึ่งมีกิจกรรมให้สมาชิกฯ สามารถเลือกแลกได้หลากหลายตามความต้องการ ดังนี้ สมาชิกฯ ใช้คะแนนสะสม 660 Smile Points แลกรับชุดวิตามิน Immune Defend หรือใช้คะแนนสะสม 1,100 Smile Points แลกรับชุดวิตามิน Immune Defend Plus ซึ่งเป็นชุดวิตามินเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและต้านอนุมูลอิสระ ที่จัดส่งผลิตภัณฑ์ให้สมาชิกฯ ถึงบ้าน จาก โฮลิสติค เมดิคอล เซ็นเตอร์ (Holistic Medical Centre)โดยสมาชิกฯ สามารถแลกคะแนนสะสมได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 ธันวาคม 2564 หรือจนกว่าสิทธิ์ครบกำหนด นอกจากนั้นแล้ว…
ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 อีกหนึ่งหนทางในการช่วยป้องกันและบรรเทาการแพร่ระบาดได้ คือ การฉีดวัคซีนในกลุ่มประชากรชาวไทยให้ได้เยอะที่สุด ‘ShopeePay (ช้อปปี้เพย์)’ ผู้ให้บริการด้านการชำระเงินผ่าน Mobile Wallet ชั้นนำจาก SeaMoney จึงได้ร่วมมือกับ ‘ทิพยประกันภัย’ ส่งความห่วงใยแก่ผู้ใช้งาน ShopeePay ด้วยการมอบประกันภัยคุ้มครองการแพ้วัคซีนโควิด-19 ฟรี! 1 แสนสิทธิ์ พร้อมวงเงินคุ้มครองสูงสุดถึง 1 แสนบาท นายศุภวิทย์ หงส์อมรสิน ผู้อำนวยการ ช้อปปี้เพย์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ShopeePay มุ่งดำเนินงานด้วยการยึดหลักพันธกิจสำคัญในการช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในทุกมิติ ผ่านเทคโนโลยีการชำระเงิน Mobile Wallet เพื่อเป็นการรวมพลังกันฝ่าฟันสถานการณ์โควิด-19 สุดท้าทายครั้งนี้ ShopeePay เล็งเห็นถึงความสำคัญของการฉีดวัคซีนที่เป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการช่วยลดจำนวนผู้ป่วยสาหัสและการเสียชีวิตลง เพราะความปลอดภัยและสุขภาพของทุกคนถือเป็นสิ่งที่เราต้องคำนึงมากที่สุด เราจึงขอเป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงที่สนับสนุนให้คนไทยมาร่วมกันฉีดวัคซีนช่วยชาติ โดยการนำเทคโนโลยีมาช่วยอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงสิทธิประกันภัยคุ้มครองการแพ้วัคซีนโควิด-19 ฟรีแก่ผู้ใช้งาน ShopeePay เพื่อเป็นการเสริมสร้างความมั่นใจและคลายความกังวลให้แก่ประชาชนที่ได้เข้ารับการฉีดวัคซีน เรามุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการส่งมอบสิทธิประกันภัยครั้งนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งในการบรรเทาความเสี่ยง และเป็นการส่งต่อความห่วงใยและกำลังใจให้ชาวไทยมีแรงใจในการต่อสู้กับโควิด-19 ต่อไป” ด้าน ดร.สมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ทิพยประกันภัย เราได้ส่งเสริมให้ประชาชนมีความมั่นใจในการเข้ารับการฉีดวัคซีน รวมถึงให้เข้ารับการฉีดวัคซีนให้เร็วที่สุด เพื่อเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ จะเห็นได้จากที่ผ่านมา เราได้มีการจัดโครงการ “TIP ห่วงไทย สู้ภัย COVID” มอบประกันแพ้วัคซีนให้กับประชาชนฟรี มีผู้ลงทะเบียนเกือบสามล้านคนรวมถึงอีกหลายโครงการ และสำหรับในครั้งนี้ก็เป็นอีก 1 โครงการดีๆ ที่สำคัญ โดยเราได้ผนึกกำลังกับ ‘ShopeePay’ เพื่อส่งต่อความห่วงใย รวมถึงสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในการฉีดวัคซีน โดยมอบประกันแพ้วัคซีนโควิด-19 ฟรี! 1 แสนสิทธิ์ ซึ่งเมื่อประชาชนได้รับการฉีดวัคซีน ร่างกายจะสร้างภูมิคุ้มกันต่อ COVID-19 ลดความรุนแรงจากการติดเชื้อ รวมถึงลดการแพร่ระบาด และการเสียชีวิตลง ซึ่งถือว่าเป็นภาวะวิกฤตที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ ทั้งนี้ เพื่อให้การฉีดวัคซีนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ก็ต้องดูแลตัวเองด้วยการสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์บ่อยๆ และหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีคนอยู่เป็นจำนวนมากด้วย” ‘ShopeePay’ และ ‘ทิพยประกันภัย’ ขอยืนหยัดเคียงข้างคนไทยสู้โควิด-19 ไปด้วยกัน ผู้ใช้งาน…
ไทยประกันชีวิต จัดแคมเปญ “30 วัน ทำดีกับตัวเองและสังคม” ชวนลูกค้าไทยประกันชีวิตฟิตทั้งกายและใจอย่างรอบด้าน ส่งหลักฐานการทำความดีทั้งต่อตนเองและสังคม ผ่านแอปพลิเคชัน ไทยประกันชีวิต รับฟรีโค้ดส่วนลดจาก Tops Online ร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่ 19 กรกฎาคม – 17 สิงหาคม 2564 นายอังกูร ศรีกัลยาณบุตร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ และ Chief Marketing Officer บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ไทยประกันชีวิตมุ่งสู่การเป็นทุกคำตอบของชีวิต หรือ Life Solutions โดยมีเป้าหมายในการดูแลลูกค้าในทุกมิติบนแนวคิด Circle of Wellness ทั้งการดูแลและส่งมอบสุขภาพที่ดีแบบครบวงจร หรือ Eco-Health System ให้กับลูกค้า การสร้างความมั่นคงและมั่งคั่งทางการเงิน รวมถึงการสร้างคุณค่าและความสุขในการใช้ชีวิต ดังนั้นเพื่อเป็นการส่งเสริมการมีสุขภาพดีแบบครบรอบด้าน พร้อมร่วมสร้างคุณค่าให้ชีวิตผ่านการทำความดีให้กับตนเองและสังคม บริษัทฯ จึงจัดแคมเปญ “30 วัน ทำดีกับตัวเองและสังคม” เชิญชวนลูกค้าสมาชิกไทยประกันชีวิต Privilege และลูกค้าที่ถือกรมธรรม์ตามโครงการไทยประกันชีวิต ไลฟ์ฟิต ส่งหลักฐานภาพถ่าย หรือเอกสารข้อมูลการเข้าร่วมกิจกรรมใน 4 ด้าน ของ Circle of Wellness ได้แก่ การดูแลสุขภาพกาย (Self) การดูแลจิตใจ (Sense) ความมั่นคงทางการเงิน (Stability) และการช่วยเหลือและแบ่งปันสู่สังคม (Spirit) ผ่านแอปพลิเคชัน ไทยประกันชีวิต จะได้รับฟรีโค้ดส่วนลดจาก Tops Online มูลค่า 100 บาท ขณะเดียวกันทุกกิจกรรมที่ส่งหลักฐานสำเร็จ บริษัทฯ ยังร่วมบริจาค 100 บาท ให้กับมูลนิธิหนึ่งคนให้ หลายคนรับ เพื่อมอบเป็นทุนการศึกษาหลักสูตรผู้ช่วยพยาบาล คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลอีกด้วย โดยลูกค้าสามารถร่วมแคมเปญได้ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม – 17 สิงหาคม 2564 หรือจนกว่าสิทธิ์จะครบตามจำนวนที่กำหนด “กิจกรรมที่บริษัทฯ กำหนดจะเป็นกิจกรรมที่สร้างประโยชน์ทั้งกับตัวลูกค้าและสังคม เป็นการทำความดีต่อตัวเอง ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ด้วยตัวเองง่ายๆ ที่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมการดูแลสุขภาพกาย สุขภาพใจ การเสริมสร้างทักษะความรู้ให้ตนเอง รวมไปถึงการทำความดีให้กับสังคมในด้านต่างๆ ขณะเดียวกันลูกค้าโครงการไทยประกันชีวิต ไลฟ์ฟิต ยังสามารถนำกิจกรรมเหล่านี้สะสมเป็นคะแนนไลฟ์ฟิต เพื่อรับสิทธิประโยชน์ตามโครงการฯ ได้อีกด้วย” นายอังกูรกล่าว สำหรับขั้นตอนการร่วมแคมเปญ ลูกค้าสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ไทยประกันชีวิตได้ทั้งระบบ IOS และ Android พร้อมลงทะเบียนเข้าใช้ ไปที่ เมนูสิทธิพิเศษ เพื่อกดเข้าร่วมกิจกรรม กรอกแบบสอบถามและแนบภาพถ่ายหรือหลักฐานการเข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 4 กิจกรรม จาก 10 กิจกรรมที่อยู่บน 4 ด้านของ Circle of Wellness โดยสามารถคละหมวดหรืออยู่ในหัวข้อกิจกรรมเดียวกันได้ หลังจากนั้นระบบจะดำเนินการตรวจสอบและแจ้งสิทธิ์ให้ทราบผ่าน SMS ภายใน 3-7 วันทำการ ลูกค้าสามารถตรวจสอบผลการอนุมัติสิทธิ์ และรับโค้ดส่วนลดได้ที่เมนู “ประวัติการรับสิทธิ์” สามารถนำโค้ดที่ได้รับกรอกเป็นส่วนลดสำหรับสั่งซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชันของ Tops Online ลูกค้าสามารถศึกษารายละเอียดเงื่อนไขแคมเปญเพิ่มเติมได้ที่แอปพลิเคชัน ไทยประกันชีวิต “เมนูสิทธิพิเศษ”
จากการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของประชากรสูงวัยนั้น ได้กลายมาเป็นอีกหนึ่งปัจจัยซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของไทยที่หลายภาคส่วนให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ โดยจากการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่ามีผู้สูงอายุเพียง 5.8% เท่านั้น ที่คิดว่ามีเงินเหลือเก็บเพียงพอตลอดช่วงวัยเกษียณ นี่สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการความคุ้มครองด้านรายได้สำหรับไว้ใช้หลังเกษียณของคนไทย นอกจากนี้ จากรายงานของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) คาดการณ์ว่าประเทศไทยกำลังย่างเข้าสู่ ‘สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์’ (Complete Aged Society) ในเร็ววันนี้ โดยจะมีประชากรอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปเกิน 20% ของประชากรทั้งหมด และในปี พ.ศ. 2574 จะเข้าสู่ ‘สังคมสูงวัยระดับสุดยอด’ (Super Aged Society) โดยมีผู้สูงวัยถึง 28% ของประชากรทั้งประเทศ นางแองเจล่า ฮันเตอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ บมจ. ชับบ์ ไลฟ์ แอสชัวรันซ์ ได้กล่าวว่า “การที่จะใช้ชีวิตในยามเกษียณได้อย่างมั่นใจนั้น ทุกคนต้องสร้างหลักประกันทางด้านการเงินเพื่อรองรับค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น เวลานั้นผ่านไปอย่างรวดเร็ว วันก่อนคุณอาจเพิ่งฉลองการได้รับเงินเดือนครั้งแรก และพอมารู้ตัวอีกที เพื่อนร่วมงานก็มาเลี้ยงฉลองการเกษียณอายุงานให้กับคุณแล้ว การเตรียมพร้อมเพื่อการเกษียณ โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ค่ารักษาพยาบาล และค่าใช้จ่ายฉุกเฉินต่างๆ ล้วนเป็นสิ่งที่จำเป็น อย่างไรก็ดี การบรรลุเป้าหมายระยะยาวนี้ไม่ง่าย และนี่คือเหตุผลสำคัญว่าทำไมเราจึงควรวางแผนเกษียณอายุไว้แต่เนิ่นๆ เพื่อให้มีเงินไว้ใช้เพียงพอต่อไปในอนาคต” นอกเหนือจากเงินฝากธนาคาร กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ อีกวิธีที่ดีสำหรับการมีรายได้ที่แน่นอนไว้ใช้ในวัยชรานั่นคือ การมีประกันเพื่อวางแผนเกษียณ ซึ่งช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการวางแผนเพื่อการเกษียณนั้นคือช่วงวัยทำงาน โดยเฉลี่ยระยะเวลาการทำงานของเราจะอยู่ประมาณ 30 – 40 ปี และหากวางแผนไว้ล่วงหน้า ก็จะช่วยลดภาระทางการเงินในระยะยาว และช่วยให้คุณได้มีไลฟ์สไตล์หลังเกษียณในแบบที่ต้องการด้วย สำหรับแบบประกันใหม่ของ ชับบ์ ไลฟ์ ‘เกษียณเพิ่มสุข 15’ นี้ ไม่เพียงมอบผลประโยชน์เงินคืนทุกปีให้แก่ผู้เอาประกันภัยตั้งแต่สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 1 ต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปีกรมธรรม์ที่อายุครบ 89 ปีเท่านั้น แต่ยังเพิ่มจำนวนของเงินคืนเมื่ออายุมากขึ้นด้วย อีกทั้งยังมีเงินก้อนมอบให้ 100% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ณ สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 21 และรับเงินครบกำหนดสัญญาอีก 100% ณ สิ้นปีกรมธรรม์ที่อายุครบ 90 ปี โดยจ่ายเบี้ยประกันภัยเพียง 15 ปี พร้อมรับความคุ้มครองชีวิตนานถึงอายุ 90…