Author: staff

นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมืองไทยประกันชีวิตยังคงมุ่งมั่นในการเป็นแบรนด์ที่ลูกค้าให้ความไว้วางใจ ภายใต้นโยบาย “MTL Trusted Lifetime Partner” และด้วยสถานการณ์ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่มีการแพร่ระบาดมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง  บริษัทฯ พร้อมดูแลลูกค้าคนสำคัญ เพื่อให้สามารถผ่านสถานการณ์ครั้งนี้ไปด้วยกัน โดยบริษัทฯ ขอมอบความอุ่นใจสำหรับลูกค้าเมืองไทยประกันชีวิต ด้วยความคุ้มครองการรักษาผ่านเครือข่ายโรงพยาบาลคู่สัญญา 337 แห่ง  รวมถึงหอผู้ป่วยเฉพาะกิจ (Hospitel) ที่เครือข่ายโรงพยาบาลคู่สัญญาเปิดให้บริการ และโรงพยาบาลสนาม (Field Hospital) ตามเกณฑ์การส่งตัวจากโรงพยาบาลต้นทางและได้รับการอนุมัติให้จัดตั้งขึ้นตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข โดยให้คุ้มครองกรณีการเข้ารับการรักษาเป็นผู้ป่วยใน (IPD) สำหรับผู้ป่วย COVID-19 ตามผลประโยชน์ความคุ้มครอง ทั้งประกันสุขภาพรายบุคคลและรายกลุ่ม ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาล และค่าชดเชยรายวันการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล สำหรับผู้ป่วยโรคทั่วไป บริษัทฯ  ยังได้จัดเตรียมทีมงาน “MTL Health Buddy” ซึ่งเป็นบริการผู้ช่วยด้านสุขภาพครบวงจร สิทธิพิเศษที่มอบให้เฉพาะลูกค้าเมืองไทยประกันชีวิต ที่พร้อมให้คำปรึกษาปัญหาสุขภาพ ค้นหาศูนย์แพทย์เฉพาะทาง ค้นหาแพทย์ที่เหมาะกับโรค ทำการ  นัดหมาย ปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และสิทธิพิเศษแบบเหนือระดับอีกมากมาย เพียงโทรเข้ามาที่ 02-290-2424  จากนั้นแจ้งข้อมูลและความต้องการใช้บริการหรือข้อมูลด้านสุขภาพที่ต้องการแก่ MTL Health Buddy ได้ทันที โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบรายชื่อโรงพยาบาลคู่สัญญาที่มี Hospitel ให้บริการ ได้ที่ www.muangthai.co.th  หากต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่ โทร. 1766 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง หรือติดต่อเครือข่ายโรงพยาบาลคู่สัญญาได้โดยตรง หมายเหตุ: – การพิจารณาเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล และ Hospitel เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดและได้รับการประเมินอาการโดยสถานพยาบาลต้นทางแต่ละแห่ง –  เงื่อนไขความคุ้มครองเป็นไปตามที่ระบุในกรมธรรม์

Read More

ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี (ttb) เสนอโซลูชันช่วยคนไทยจัดการหนี้ได้อย่างเหมาะสม ภายใต้แนวคิด “รอบรู้เรื่องกู้ยืม” โดยใช้สินทรัพย์ที่มีให้เกิดประโยชน์ ทั้งบ้าน รถ ใบแจ้งหนี้ค่าใช้จ่ายที่จำเป็น นำไปเสริมสภาพคล่อง ลดภาระดอกเบี้ย และปลดหนี้ได้เร็วขึ้น ด้วยการรวบหนี้ที่มีอยู่เป็นก้อนเดียว ลดภาระการผ่อนชำระ ผ่านผลิตภัณฑ์สินเชื่อบ้านแลกเงินทีทีบี สินเชื่อรถแลกเงิน ทีทีบีไดรฟ์ (ttb DRIVE) และสินเชื่อบุคคลทีทีบี แคชทูแคร์ (ttb cash2care) ช่วยให้ชีวิตสามารถเดินต่อไปได้ภายใต้สถานการณ์วิกฤต จากสถานการณ์เศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากผลกระทบของโควิด-19 สะท้อนให้เห็นความเปราะบางทางด้านการเงินของคนไทยได้อย่างชัดเจน เมื่อรายได้ลดลง แต่ยังมีภาระผ่อนหนี้สินจากหลาย ๆ แห่ง ทำให้ขาดสภาพคล่องในการใช้จ่ายเพื่อดำรงชีวิต ทีเอ็มบีธนชาต ตระหนักถึงปัญหาภาระหนี้ของคนไทย จึงได้พัฒนาโชลูชันการจัดการหนี้สินที่ตอบโจทย์ ภายใต้พื้นฐานการเงินด้าน “รอบรู้เรื่องกู้ยืม” ที่ช่วยจัดการหนี้อย่างเหมาะสม โดยใช้สินทรัพย์ที่มีอยู่นำมาเป็นหลักประกันในการรวบหนี้ (Debt Consolidation) ช่วยลดภาระผ่อนต่อเดือนและเสริมสภาพคล่องให้แก่ลูกค้า นายอนุวัติร์ เหลืองทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารลูกค้าบุคคล ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี (ttb) กล่าวว่า ทีเอ็มบีธนชาต เข้าใจความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลาของชีวิต โดยมองลูกค้าเป็นศูนย์กลาง โดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบันที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 คนส่วนใหญ่อาจมีปัญหาขาดสภาพคล่องที่จะนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน หรือหมุนเวียนธุรกิจ และต้องการสินเชื่อจากธนาคารเป็นอีกแหล่งเงินทุนเพื่อเสริมสภาพคล่อง ดังนั้น ทีทีบี จึงต้องการสนับสนุนให้ลูกค้ามีความรอบรู้ทางด้านการเงิน โดยเฉพาะการจัดการเรื่องกู้ยืม เพื่อให้เข้าใจและเลือกใช้สินเชื่อได้อย่างเหมาะสม โดยหากมีภาระหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงจากหลาย ๆ แห่ง ธนาคารแนะนำให้ลูกค้าเลือกใช้โซลูชันการรวบหนี้ (ttb debt consolidation) มารวมเป็นก้อนเดียวไว้กับทีทีบี ซึ่งมีผลิตภัณฑ์หลากหลายรูปแบบที่จะเข้ามารองรับความต้องการของแต่ละคน คิดดอกเบี้ยถูกลง ลดภาระผ่อนชำระต่อเดือนให้น้อยลง จึงมีเงินเหลือสำหรับใช้จ่ายในเรื่องจำเป็น และจัดการสภาพคล่องได้ดีขึ้น โดยเชื่อมั่นว่าจะช่วยส่งเสริมให้ลูกค้ามีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นได้ในอนาคต นายป้อมเพชร รสานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านสินเชื่อรถยนต์ ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี (ttb) กล่าวว่า ในฐานะผู้นำในตลาดสินเชื่อรถยนต์ ttb DRIVE มีลูกค้าให้ความไว้วางใจเป็นจำนวนมาก เมื่อ สถานการณ์ปัจจุบันทำให้ลูกค้าจำเป็นต้องใช้เงินก้อนเพื่อมาเสริมสภาพคล่อง เราก็ได้พัฒนาโซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้ตรงจุด เพื่อช่วยแก้ปัญหา ช่วยเคลียร์ ช่วยรวบหนี้ให้ในเมื่อลูกค้ามีรถยนต์อยู่ ซึ่งรถถือเป็นสินทรัพย์ที่มีหลักประกัน ทำให้ดอกเบี้ยไม่สูง ค่างวดลดลง และได้วงเงินที่สูงขึ้น…

Read More

บมจ.อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต รายงานผลการดำเนินธุรกิจครึ่งปีแรก เติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่อง เบี้ยประกันภัยรับปีแรกเติบโต 5% สอดรับความสำเร็จแคมเปญกระตุ้นยอดขายช่องทางตัวแทน และผลตอบรับทีดีจาก ผลิตภัณฑ์ใหม่ “ปลดล็อคสบายกระเป๋า” เร่งเครื่องเดินหน้าดันธุรกิจโตแกร่งทุกช่องทาง มร.โทมัส วิลสัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต เปิดเผยว่า “ครึ่งปีแรก 2564 ถือเป็นครึ่งปีที่ท้าทายสำหรับทุกธุรกิจรวมถึงธุรกิจประกันชีวิต เนื่องมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ที่ทวีความรุนแรงขึ้นอีกครั้ง หากแต่ อลิอันซ์ อยุธยา ยังสามารถสร้างผลงานได้เป็นที่น่าพอใจ สามารถสร้างเบี้ยประกันรับปีแรกเติบโตถึง 5% อยู่ที่ 2,974 ล้านบาท โดยมาจากช่องทางขายผ่านธนาคาร 1,014 ล้านบาท เติบโต 56% สะท้อนถึงผลิตภัณฑ์การลงทุนและการออมที่ให้ผลตอบแทนที่ดีเหนือตลาด ช่องทางตัวแทน 1,091 ล้านบาท เติบโต 4% ซึ่งเป็นผลมาจากช่องทางตัวแทนที่เข้มแข็ง ประกอบกับความสำเร็จจากการออกผลิตภัณฑ์คุ้มครองสุขภาพใหม่ “ปลดล็อคสบายกระเป๋า” ที่เป็นแบบประกันสุขภาพที่ให้ความคุ้มครองสุขภาพแก่ลูกค้าในราคาที่คุ้มค่า ทั้งยังมีกิจกรรมและเครื่องมือดิจิทัลเพื่อสนับสนุนให้ตัวแทนขายสินค้าได้ง่ายขึ้น ปัจจุบัน สุขภาพ ปลดล็อค สบายกระเป๋า มียอดขายแล้วกว่า 3,000 กรมธรรม์ ตั้งแต่เปิดตัวกลางเดือนมีนาคม ส่วนช่องทางขายตรง เติบโตลดลง 23% อยู่ที่ 735.7 ล้านบาท เป็นผลมากจากสถานการณ์โควิดที่ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของลูกค้าในช่วงที่เศรษฐกิจซบเซา ถึงแม้สถานการณ์โควิดจะยังคงอยู่และส่งผลกระทบต่อธุรกิจ แต่สำหรับอลิอันซ์ อยุธยา ด้วยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และการปรับตัวเข้าสู่ดิจิทัลก่อนใคร ทำให้ธุรกิจของเรายังคงเติบโตไปได้ในทุกช่องทาง ปัจจุบันช่องทางตัวแทนมีการส่งใบคำขอผ่านเครื่องมือดิจิทัล ที่เรียกว่า Allianz Discover (AZD) ถึง 99% และจากกลุ่มนี้ มีอยู่ถึง 45% ที่เป็นการขายแบบไม่ต้องพบลูกค้า (Non Face-to-Face) ซึ่งเป็นการส่งเสริมการทำงานภายใต้สถานการณ์โควิดและรักษา social distancing ได้เป็นอย่างดี และล่าสุดได้มีการจัดงาน AL Seminar ACTIV 21 งานสัมมนาผู้บริหารตัวแทน รูปแบบออนไลน์ครั้งแรก ที่เน้นการสร้างกำลังใจ การทำงานเป็นทีมเพื่อเป้าหมายการเติบโต นอกจากนั้น ยังมีโปรแกรมกระตุ้นการสร้างผลงานมากมาก อาทิ โครงการ Friend Of Agency ชวนเพื่อนแนะนำเพื่อน มีผู้เข้าร่วมกว่าพันคนภายในหนึ่งเดือน โครงการ Allianz Elite Agency คือ เป็นการนำโมเดลที่ประสบความสำเร็จไปใช้พัฒนาตัวแทนกลุ่มอื่นๆเพื่อเร่งการสร้างผลงาน ซึ่งตัวแทนที่อยู่ในโปรแกรมนี้ พบว่าจะสร้างผลิตผลได้มากกว่าเดิมถึง 6 เท่า ขณะเดียวกัน กลุ่มอลิอันซ์ ผู้ถือหุ้นหลักของ บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต รายงานผลกำไรจากการดำเนินการของอลิอันซ์ในเอเชียเพิ่มขึ้น 37% เป็น 343 ล้านยูโร หรือประมาณ 1.35 หมื่นล้านบาท โดยรายได้ทั้งหมดในเอเชียเพิ่มขึ้น 14% เป็น 4.1 พันล้านยูโร หรือประมาณ 1.61 แสนล้านบาท และมีผลกำไรจากการดำเนินงานด้านประกันชีวิตและสุขภาพเพิ่มขึ้น 46% เป็น 279 ล้านยูโร หรือประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาท มร. โซลมาส อัลทิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารประจำภูมิภาค อลิอันซ์ เอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า “ท่ามกลางภาวะของตลาดที่ท้าทายและผลกระทบของโควิด-19 ซึ่งยังคงส่งผลต่อทุกด้านของชีวิต อลิอันซ์ เอเชีย        แปซิฟิค ยังคงมีรายได้และผลกำไรจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในครึ่งแรกของปี 2564” กลยุทธ์ของเราประสบความสำเร็จด้วยดีจากการทำงานหนักและความทุ่มเทของพนักงาน เราจะยังคงให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ที่ดี ความปลอดภัย และสุขภาพจิตของพนักงานเป็นอันดับต้นๆ การปรับตัวสู่ดิจิทัลตั้งแต่ก่อนการระบาดของโควิด-19 ช่วยให้เรายังคงสามารถให้บริการและช่วยเหลือลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจในภูมิภาคนี้ รวมถึงหลายตลาดในเอเชียที่ดำเนินธุรกิจอยู่ แม้ว่าความท้าทายที่เกี่ยวข้องกับโรคระบาดจะยังคงส่งผลกระทบต่อตลาด แต่เรามั่นใจว่าเราจะสามารถสร้างกลยุทธ์ทางธุรกิจผ่านทางโมเดลที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และสิ่งนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับเราในการรักษาความเป็นที่หนึ่งในบริษัทประกันที่ใหญ่ที่สุดและมีความมั่นคงมากที่สุดในโลก เราจะพัฒนาผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นต่างๆ ให้ดียิ่งขึ้น เพื่อช่วยลดภาระด้านการเงินของลูกค้า…

Read More

บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต มอบเงินสนับสนุน จำนวน 250,000 บาท จากแคมเปญพิเศษ “Know You Can be Confident” เพื่อสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าในพระราชูปถัมภ์ฯ ในการช่วยเหลือวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 โดยมี พ.อ.หญิง รุ้งขจี อุทัยมงคล หัวหน้าสำนักงานมูลนิธิโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าในพระราชูปถัมภ์ฯ รับมอบเงินสนับสนุนดังกล่าว เมื่อเร็วๆ นี้ กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ขอส่งกำลังใจให้บุคลากรทางการแพทย์ ลูกค้า และประชาชนทุกท่าน ก้าวผ่านวิกฤตินี้ไปด้วยกัน โดยบริษัทฯ พร้อมจะอยู่เคียงข้างทุกความเชื่อมั่น ดูแลกันตลอดไป ทั้งนี้ท่านสามารถติดตามกิจกรรมที่น่าสนใจของบริษัทฯ ได้ที่ www.krungthai-axa.co.th หรือ โทร 1159 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

Read More

“เมืองไทยประกันภัย” ร่วมกับ “มูลนิธิมาดามแป้ง” #ส่งต่อน้ำใจคนไทยไม่ทิ้งกัน มอบอุปกรณ์ทางการแพทย์แก่ โรงพยาบาลราชวิถี เพื่อใช้สำหรับดูแลผู้ป่วยภายใต้โครงการ Home Isolation มูลค่ารวม 100,000 บาท ซึ่งประกอบไปด้วย เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว และปรอทวัดไข้แบบดิจิตอล โดยมี นพ.กนกพจน์ จันทร์ภิวัฒน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านบริการทางการแพทย์ และนายแพทย์ชำนาญการพิเศษด้านเวชกรรม พร้อมด้วยตัวแทนบุคลากรผู้ดูแลโครงการฯ เข้าร่วมรับมอบ เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2564 ณ ตึกสิรินธร ชั้น 10 โรงพยาบาลราชวิถี นอกจากนี้ ทุกท่านสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการให้ ด้วยการบริจาคและสมทบทุนได้ที่บัญชี ธนาคารกสิกรไทย เลขที่บัญชี 092-2-61340-0 ชื่อบัญชี มูลนิธิมาดามแป้ง เพื่อโครงการสร้างสังคมแห่งการให้ #ส่งต่อน้ำใจคนไทยไม่ทิ้งกัน #เมืองไทยประกันภัย #มูลนิธิมาดามแป้ง

Read More

เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ แสดงความห่วงใยลูกค้าเจนเนอราลี่ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เดินหน้าจัดทำคู่มืออินโฟกราฟฟิคการแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) แนะแนวทางการดูแลตัวเองฉบับเข้าใจง่ายสำหรับผู้ป่วยโควิด-19 ขั้นสีเขียว พร้อมตอกย้ำความมั่นใจ ยืนหยัดอยู่ดูแลลูกค้าทุกช่วงเวลาของชีวิตลูกค้า ด้วยการขยายความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล และค่าชดเชยรายวันสำหรับลูกค้าทุกกรมธรรม์ที่ติดเชื้อโควิด-19 ที่ได้เข้ารับการรักษาพยาบาลแบบ Home Isolation (การดูแลตนเองที่บ้าน) และ Community Isolation (การดูแลตนเองในระบบชุมชน)* นายบัณฑิต เจียมอนุกูลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทเจนเนอราลี่ ประเทศไทย กล่าวว่า “จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย ที่ทวีความรุ่นแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีผู้ป่วยติดเชื้อใหม่เกินกว่า 20,000 คนต่อวัน ส่งผลให้ในปัจจุบันมียอดผู้ป่วยที่กำลังรักษาตัวสะสมสูงถึงกว่า 200,000 คน ทั้งผู้ป่วยที่มีอาการไม่มากไปจนถึงผู้ป่วยอาการหนัก ทำให้จำนวนเตียงไม่เพียงพอต่อการรักษาผู้ป่วยวิกฤต ทางภาครัฐจึงได้นำเสนอนโยบายการแยกกักตัวที่บ้าน หรือ Home Isolation มาปรับใช้สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 สีเขียว เพื่อเพิ่มจำนวนเตียงรักษาสำหรับผู้ป่วยสีเหลืองและสีแดง แต่ต้องยอมรับว่ากลุ่มผู้ป่วยสีเขียวหลายคนยังขาดความเข้าใจที่ถูกต้องในการดูแลตัวเองเมื่อต้องทำการกักตัวที่บ้าน อันเนื่องมาจากหลายสาเหตุ ทั้ง ขาดการรับรู้ข้อมูล หรือได้รับข้อมูลมากจนเกินไปจนสับสน รวมไปถึงการได้รับข้อมูลที่ผิด จึงทำให้เกิดความวิตกกังวลในการรับมือกับการดูแลตัวเอง ด้วยความห่วงใยและเข้าใจถึงปัญหาดังกล่าว ทางเจนเนอราลี่ จึงได้จัดทำคู่มือฉบับเข้าใจง่าย “คู่มือ Home Isolation สำหรับผู้ป่วยโควิด-19 (ผู้ป่วยสีเขียว)” เพื่อใช้เป็นแนวทางการดูแลรักษาตนเองที่บ้านอย่างถูกวิธี โดยเนื้อหาได้ผ่านการคัดกรองความถูกต้อง พร้อมนำมาจัดทำในรูปแบบ Infographic ที่เข้าใจง่าย เริ่มตั้งแต่ ข้อดีของการแยกกักตัวที่บ้าน ขั้นตอนการเข้าสู่ระบบขอกักตัวที่บ้าน รวมถึงสิ่งที่ควรปฏิบัติ และเช็คลิสต์ของใช้ที่จำเป็นเมื่อต้องกักตัวที่บ้าน นอกจากนี้ยังแนะนำถึงอาการที่ควรรีบพบแพทย์หากพบเจอในระหว่างกักตัว ตลอดจนข้อควรปฏิบัติหลังหายป่วย โดยปัจจุบันทางเจนเนอราลี่ได้จัดทำเรียบร้อยพร้อมเผยแพร่ผ่านช่องทาง Facebook page : Generali Thailand สามารถเข้าไปดาวน์โหลดมาเก็บไว้ในสมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์ที่สามารถเปิดอ่านได้สะดวก นายบัณฑิต กล่าวเพิ่มเติมว่า “นอกจากนี้เจนเนอราลี่ยังได้ขยายความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลและค่าชดเชยรายวันสำหรับลูกค้าทุกกรมธรรม์ที่ติดเชื้อโควิด-19 ภายใต้เงื่อนไขกรมธรรม์แต่ละประเภท* ที่ได้เข้ารับการรักษาพยาบาลแบบ Home Isolation (การดูแลตนเองที่บ้าน) และ Community Isolation (การดูแลตนเองในระบบชุมชน) เพื่อตอกย้ำความมั่นใจให้แก่ลูกค้าว่าเจนเนอราลี่พร้อมยืนหยัดอยู่เคียงข้างลูกค้าทุกช่วงเวลาของชีวิตและพร้อมดูแลลูกค้าให้ผ่านพ้นช่วงเวลาวิกฤตได้อย่างปลอดภัยและไร้ความกังวล โดยสามารถดูรายละเอียดผลประโยชน์และความคุ้มครองโควิด-19 ของเจนเนอราลี่เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://generali.co.th/services/covid-19-faq/ หรือ ติดต่อทางศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ โทร 1394 “เจนเนอราลี่จะขอให้ความเชื่อมั่นแก่ลูกค้าทุกคน…

Read More

นายโกสนธ์ พิศภา ผู้อำนวยการฝ่ายสินไหมรถยนต์ ทิพยประกันภัย และนายศุภกิจ จิตร์เพิ่มพูลผล รก.ผอ.ฝ่ายสื่อสารองค์กรและความรับผิดชอบต่อสังคม นำทีม TIP Smart Assist รับมอบนวัตกรรมสเปรย์ฆ่าเชื้อโรค คุ้มครอง 6 ชั่วโมง จาก ดร. ดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธานมูลนิธิธรรมดี เพื่อปกป้องทีมจิตอาสา Tip Smart Assist ที่ช่วยเหลือประชาชนบนท้องถนน และที่ประสบปัญหาจากสถานการณ์โควิด-19  ภายใต้คอนเซปต์ “มาไว ใส่ใจ ไม่มากเรื่อง” ให้ปลอดภัยจากการติดเชื้อ และอาสานำส่งสเปรย์ฆ่าเชื้อโรคให้ศูนย์พักคอยและโรงพยาบาลสนามต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ ด้วยความห่วงใยเป็นที่สุด ทั้งนี้ มูลนิธิธรรมดีได้บริจาคนวัตกรรมสเปรย์ฆ่าเชื้อโรค #ธรรมดีด้วยหัวใจห่างไกลโควิด #ปกป้องแพทย์พยาบาลอาสาสมัครด่านหน้า และพระสงฆ์ ให้โรงพยาบาล หน่วยงานอาสาสมัคร และวัดทั้งหมด 85 แห่งทั่วประเทศ ได้แก่ โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลสงฆ์ โรงพยาบาลกุมภวาปี อุดรธานี มูลนิธิร่วมกตัญญู วัดชลประทานรังสฤษฏ์ฯ วัดป่าบ้านตาดฯลฯ ประชาชนผู้มีจิตศรัทธาสามารถร่วมบริจาคที่ บัญชีมูลนิธิธรรมดี เพื่ออุปกรณ์การแพทย์ ธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่ 059-284322-3 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ มูลนิธิธรรมดี Line @dfoundation โทร 090-910-2332

Read More

นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) มอบเงินสนับสนุน 1.7 ล้านบาท เพื่อตอบแทนในความมุ่งมั่นทุ่มเทและเป็นขวัญ กำลังใจให้กับนักกีฬาและหัวหน้าผู้ฝึกสอนสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทยที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 32 โตเกียว 2020 ณ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งประสบความสำเร็จชนะเลิศการแข่งขันเทควันโดประเภทหญิง รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 49  กิโลกรัม คว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์เหรียญแรกให้กับกีฬาเทควันโด ของสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทยโดยมี นายเลิศ นิตย์ธีรานนท์ อุปนายกและเหรัญญิก สมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย นางสาวพาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ นักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย จำนวน 1 ล้านบาท ดร.เช ยอง ซอก หัวหน้าผู้ฝึกสอนนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย จำนวน 5 แสนบาท และนายรามณรงค์ เสวกวิหารี นักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย จำนวน 2 แสนบาท รับมอบ ณ เมืองไทยประกันชีวิต สำนักงานใหญ่ ทั้งนี้ เมืองไทยประกันชีวิต ได้เป็นผู้สนับสนุนสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทยมาตลอดอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 13 ปี และยังได้สนับสนุนกรมธรรม์ประกันชีวิตและสุขภาพกลุ่ม แก่สมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทยอีกเช่นกัน ซึ่งการสนับสนุนกรมธรรม์ประกันชีวิตและสุขภาพกลุ่มนี้จะครอบคลุมค่ารักษาพยาบาล และค่าประกันอุบัติเหตุ ทุกครั้งที่ได้รับบาดเจ็บจากการฝึกซ้อมและเข้ารักษาตัวเป็นผู้ป่วยในโรงพยาบาล ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับกีฬาประเภทต่อสู้ โดยบริษัทฯ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งต่อนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทย ที่ได้รับชัยชนะและได้รับเหรียญรางวัลในครั้งนี้มาครองสำเร็จ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ขอเป็นกำลังให้กับสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย รวมถึงนักกีฬาเทควันโดทีมชาติไทยทุกท่าน ในการทำงานและฝึกซ้อมอย่างหนักต่อไปและบริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นองค์กรที่ให้การสนับสนุนในด้านสังคม การกีฬา การศึกษา ศิลปวัฒนธรรม ศาสนา รวมถึงสิ่งแวดล้อม เพื่อตอบแทนสิ่งดีๆ คืนสู่สังคมต่อไป ตามพันธกิจในการส่งมอบความสุขและรอยยิ้มให้แก่สังคมผ่านกิจกรรมเพื่อสังคมและมุ่งมั่นในการเป็นแบรนด์ที่ลูกค้าให้ความวางใจ พร้อมดูแลและเดินเคียงข้างในทุกช่วงของชีวิต คำนึงถึงความสุขและประสบการณ์ที่ดีของลูกค้าเป็นเรื่องสำคัญ ภายใต้กลยุทธ์ “MTL Trusted Lifetime Partner” 

Read More

บมจ.ธนชาตประกันภัย ส่งแคมเปญพิเศษเอาใจผู้บริโภคยุควิกฤตโควิด-19 ออก “ประกันภัยรถยนต์ ธนชาต 2+จัดเต็ม สุดในรุ่น” คุ้มครอง ชน หาย ไฟไหม้ และให้เพิ่มความคุ้มครองภายหลังการชน ทั้งชดเชยรายได้ ช่วยเหลือฉุกเฉิน และชดเชยค่าเดินทาง คุ้มค่าที่สุดในอุตสาหกรรมประกันภัยรถยนต์ การันตีด้วย 2 รางวัล ตอบโจทย์คนใช้รถน้อยที่ทำงานอยู่กับบ้าน (Work from Home) และผู้ต้องการรักษาสภาพคล่องทางการเงิน สามารถผ่อนได้ 0% 10 เดือน เฉลี่ยเดือนละ 799 บาท พร้อมรับโปรโมชั่นได้ 2 ต่อ เมื่อซื้อที่ธนาคารทหารไทยธนชาตทุกสาขา วันนี้ถึง 31 ธันวาคม 2564 นายคงศักดิ์ หาญแสวงสิน รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในสถานการณ์ปัจจุบันที่โรคโควิด -19 กำลังแพร่ระบาด บริษัทฯ เข้าใจในปัญหาสภาพคล่องของประชาชน จึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยรถยนต์เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคมีทางเลือกตามความพร้อมด้านการเงินของตนเอง โดยได้ออกแคมเปญ “ประกันภัยรถยนต์ ธนชาต 2+จัดเต็ม สุดในรุ่น” ที่ให้ความคุ้มครอง รถชน รถหาย รถไฟไหม้ และให้เพิ่มความคุ้มครองถึงภายหลังอุบัติเหตุรถชนด้วย จึงจัดเต็มในเรื่องชดเชย ฉุกเฉิน เดินทาง โดยจะมีเงินชดเชยรายได้ให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารทุกคนระหว่างการพักรักษาตัวในโรงพยาบาล 1,000 บาท/วัน ไม่เกิน 30 วัน สูงสุด 7 คน และให้บริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งยังมีเงินชดเชยค่าเดินทางให้ลูกค้าในกรณีที่ส่งรถเข้าซ่อม 1,000 บาท/ครั้ง ได้ถึง 3 ครั้ง/ปี ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายผิดหรือฝ่ายถูก เป็นการอัพเกรดความคุ้มครอง ซึ่งคุ้มค่าที่สุดในอุตสาหกรรมประกันภัยรถยนต์ของประเทศไทย แคมเปญนี้จึงเหมาะกับคนที่ใช้รถน้อยเพราะต้องทำงานอยู่ที่บ้าน (Work from Home) และคนที่ต้องการรักษาสภาพคล่องทางการเงิน โดยค่าเบี้ยประกันภัยเริ่มต้น 7,999 บาท สามารถผ่อนชำระค่าเบี้ยได้ 0% นาน10 เดือน ผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ เฉลี่ยเดือนละ 799 บาทเท่านั้น พร้อมรับโปรโมชั่น 2 ต่อ เมื่อซื้อผ่านธนาคารทหารไทยธนชาตทุกสาขา ต่อที่ 1 รับฟรี e-coupon ร้าน Dunkin Donuts มูลค่า 79 บาท ต่อที่ 2 เมื่อซื้อคู่กับประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล, ประกันภัยโรคมะเร็ง หรือประกันภัยโรคร้ายแรง (CI) และมีค่าเบี้ยประกันภัยรวมกัน 15,000 บาทขึ้นไป จะได้รับฟรี e-coupon เติมน้ำมัน PT มูลค่า 300 บาทด้วย ทั้งนี้ จากการที่บริษัทพัฒนาผลิตภัณฑ์ออกมาสนองตอบผู้บริโภคได้อย่างตรงจุดและให้ความคุ้มครองที่คุ้มค่า จึงทำให้ “ประกันภัยรถยนต์ ธนชาต 2+จัดเต็ม” ของธนชาตประกันภัย ได้รับรางวัลผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยมแห่งปี (Product of the year 2020 ) จากมหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับนิตยสาร Business+  นอกจากนี้ ยังได้รับรางวัลด้านการจัดการเคลมยอดเยี่ยม  “Best Claims Management”  จัดโดย นิตยสาร International Finance Magazine (IFM) จากประเทศอังกฤษ ถึง 2 ปี ซ้อน คือ ปี 2019 – 2020  ซึ่งมาจากนโยบายของบริษัทที่มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาการให้บริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ด้วยการนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาเชื่อมต่อกับทุกมิติของระบบงานให้มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากล ภายใต้แนวคิด “ธนชาตประกันภัย ดูแลไว ตรงใจคุณ”

Read More

ครึ่งแรกปี 64 กรุงเทพประกันภัยกวาดเบี้ยประกันภัยรับรวม 11,997.4 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 7.8 กำไรสุทธิ 1,710.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.8 สำหรับไตรมาส 2 คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติงดจ่ายเงินปันผลผู้ถือหุ้นตามที่ คปภ.ขอความร่วมมือ ยืนยันฐานะทางการเงินมีความมั่นคงแข็งแกร่ง ด้วยการบริหารจัดการความเสี่ยงที่ดี และมีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนสูงกว่าอัตราขั้นต่ำที่กำหนด ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI เผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2 ของปี 2564 (เม.ย.-มิ.ย.) มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 5,840.2 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563 เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.9 กำไรสุทธิจากการรับประกันภัยหลังหักค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและต้นทุนทางการเงินแล้ว 694.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.0 รายได้สุทธิจากการลงทุน 371.4 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 28.6 กำไรก่อนค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ 1,066.1 ล้านบาท และเมื่อหักค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้แล้ว บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 893.9 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 4.1 กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน 8.40 บาท สำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนของปี 2564 (ม.ค.-มิ.ย.) มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 11,997.4 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563 เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.8 มีกำไรสุทธิจากการรับประกันภัยหลังหักค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานแล้ว 1,137.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 27.3 มีรายได้สุทธิจากการลงทุน 857.8ล้านบาท ลดลงร้อยละ 12.5 มีกำไรก่อนค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ 1,995.1 ล้านบาท เมื่อหักค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้แล้ว บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 1,710.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.8 และมีกำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน 16.06 บาท ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ…

Read More