บัตรเครดิต ทีทีบี เติมเต็มความสุขให้คนรักบ้านได้ช้อปสุดคุ้ม ทั้งรับเครดิตเงินคืนรวมสูงสุดถึง 55,000 บาท แลกรับเครดิตเงินคืนสูงสุด 15% เมื่อใช้จ่ายในร้านค้าที่ร่วมรายการ ได้แก่ บ้านแอนด์บียอน, ดูโฮม, แกรนด์โฮมมาร์ท, ฮาร์ดแวร์เฮาส์ , เมกาโฮม, เอสซีจี, โกลบอลเฮ้าส์ และ ไทวัสดุ ตั้งแต่วันนี้ ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2565 พิเศษ 1 รับเครดิตเงินคืนรวมสูงสุด 55,000 บาท เมื่อมียอดใช้จ่ายตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไป โดยลงทะเบียน SMS เพื่อรับสิทธิ์ พิมพ์ THL ตามด้วยหมายเลขบัตรเครดิต 12 หลักสุดท้าย ส่งมาที่ 4806026ลงทะเบียนครั้งเดียวใช้ได้ตลอดรายการ สำหรับบัตรเครดิต ttb reserve สามารถรับสิทธิ์ได้โดยไม่ต้องลงทะเบียน พิเศษ 2 รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 15% เมื่อแลกคะแนนสะสมเท่ายอดใช้จ่าย โดยบัตรเครดิต ทีทีบี รีเซิร์ฟ อินฟินิท (ttb reserve infinite) และบัตรเครดิต ทีทีบี รีเซิร์ฟ ซิกเนเจอร์ (ttb reserve signature) แลกรับเครดิตเงินคืน 15% และบัตรเครดิตทีทีบี ประเภทที่มีคะแนนสะสม รับเครดิตเงินคืน 10% โดยลูกค้าสามารถส่ง SMS เพื่อแลกคะแนน ส่งทุกครั้งที่ร่วมรายการ พิมพ์ PHL ตามด้วยคะแนนเท่ายอดใช้จ่าย เว้นวรรค ตามด้วยหมายเลขบัตรเครดิต 12 หลักสุดท้าย ส่งมาที่ 4806026 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ ttb contact center 1428
Author: staff
พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี กรรมการและเลขาธิการ มูลนิธิพระดาบส (ที่ 3 จากซ้าย) ให้เกียรติรับมอบเงินบริจาค จำนวน 100,000 บาท จากนายสาระ ล่ำซำ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย (ที่ 3 จากขวา) พร้อมด้วย นายพิชา สิริโยธิน ผู้อำนวยการบริหารสมาคมฯ (ที่ 2 จากขวา) นายจรุง เชื้อจินดา รองผู้อำนวยการสมาคมฯ (ซ้ายสุด) นายฐิติ ยศอนันตกุล (ขวาสุด) และนางพิตราภรณ์ บุณยรัตพันธุ์ (ที่ 2 จากซ้าย) คณะกรรมการจัดงานวันประกันชีวิตแห่งชาติ ประจำปี 2564 เพื่อให้โรงเรียนพระดาบสใช้เป็นทุนการศึกษาและค่าใช้จ่ายในการพัฒนาและการฝึกอาชีพแก่เยาวชน ณ ทำเนียบองคมนตรี ถนนสราญรมย์ แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ เมื่อวันอังคารที่ 11 มกราคม 2565
กลุ่มทิสโก้ เปิดกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ ปี 2565 เน้นการเติบโตอย่างมีคุณภาพ ภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างช้าๆ และมีความเปราะบาง ชูธีมบริการแบบ “Hybrid Advisory” ตอบโจทย์ลูกค้ายุค COVID Disruption มุ่งเป็นที่ปรึกษาที่ดี ควบคู่กับผลิตภัณฑ์ที่สร้างคุณค่า พร้อมนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยยกระดับบริการให้ลูกค้า ขณะที่ผลประกอบการในปี 2564 มีกำไรสุทธิ 6,781 ล้านบาท เติบโต 11.8% และยังคงความระมัดระวังด้วยระดับเงินสำรอง Coverage ratio สูงถึง 236.7% พร้อมเงินกองทุนที่แข็งแกร่งที่ BIS ratio 25.2% นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ (Mr. Sakchai Peechapat, Group Chief Executive, TISCO Financial Group Public Company Limited) เปิดเผยว่า ในปี 2565 เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยประเมินว่าการขยายตัวจะอยู่ที่ระดับ 3.3% ซึ่งมีแรงสนับสนุนจากอุปสงค์ในประเทศและการส่งออกที่ปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น แต่ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของ COVID – 19 ดังนั้น กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของกลุ่มทิสโก้ในปีนี้ จึงให้ความสำคัญกับ “การเติบโตอย่างมีคุณภาพ” ภายใต้รูปแบบการให้บริการที่เน้นตอบโจทย์ลูกค้าในธีม “Hybrid Advisory” ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างการให้ “คำแนะนำที่ดี” ควบคู่กับการมี “ผลิตภัณฑ์ที่สร้างมูลค่าเพิ่ม” ให้แก่ลูกค้า รวมถึงการนำ “เทคโนโลยี” เข้ามาช่วยยกระดับบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ “เศรษฐกิจไทยเข้าสู่โหมดของการทยอยฟื้นตัวอย่างช้าๆ โดยยังมีความไม่แน่นอนจากการแพร่ระบาดของ COVID – 19 สายพันธุ์ Omicron และโอกาสการกลายพันธุ์ที่ยังไม่จบ ซึ่งเป็นความท้าทายที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ทำให้การขับเคลื่อนธุรกิจของกลุ่มทิสโก้ โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีแรก จึงเน้นการเติบโตอย่างระมัดระวัง จากนั้นหากสถานการณ์การแพร่ระบาดเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น จะเร่งระดับของการเติบโตขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี ขณะที่การให้บริการจะเห็นการนำเทคโนโลยีเข้ามาผสมผสาน กับจุดแข็งของความเชี่ยวชาญในการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินที่ดี (Top Advisory) ที่กลุ่มทิสโก้มุ่งเน้นมาโดยตลอดมากขึ้น เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้า พร้อมแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ” นายศักดิ์ชัยกล่าว สำหรับยุทธศาสร์การเติบโตในแต่ละกลุ่มธุรกิจของทิสโก้กำหนดเป้าหมายไว้ ดังนี้ กลุ่มธุรกิจรายย่อย จะมุ่งสนับสนุนเงินให้สินเชื่อแก่ลูกค้าเช่าซื้อ จำนำทะเบียนรถ…
อลิอันซ์ อยุธยา ยืนหนึ่งดูแลลูกค้าในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ประกาศเดินหน้าต่อมาตรการช่วยเหลือลูกค้า ครอบคลุมการคุ้มครองการแพ้วัคซีน และลดระยะเวลารอคอยการให้บริการสำหรับลูกค้าใหม่ พร้อมเปิดตัวเลขจ่ายประกันสุขภาพการรักษาพยาบาลและเสียชีวิตจากเชื้อโควิด-19 ไปแล้วกว่า 17,700 เคส ยอดเคลมกว่า 900 ล้านบาท นางสาวพัชรา ทวีชัยวัฒนะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารงานลูกค้า บริษัท อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังคงอยู่และยังมีความไม่แน่นอนว่าจะทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น อลิอันซ์ อยุธยา พร้อมที่จะเดินหน้าดูแลลูกค้า คุ้มครองการรักษาเป็นผู้ป่วยใน ทั้งในโรงพยาบาล โรงพยาบาลสนาม และหอผู้ป่วยเฉพาะกิจ (hospitel) ตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ และการให้บริการที่สะดวกรวดเร็ว เราจึงขยายมาตรการช่วยเหลือพิเศษเพื่อให้ครอบคลุมกับความต้องการของลูกค้าดังนี้ § ให้ความคุ้มครองกรณีมีอาการแพ้จากการฉีดวัคซีน สำหรับลูกค้าที่มีสัญญาเพิ่มเติมคุ้มครองสุขภาพ ภายหลังจากฉีดวัคซีนแล้ว ไม่เกิน 60 วัน โดยมีอาการแพ้ หรือ ได้รับผลกระทบข้างเคียง และมีความจำเป็นทางการแพทย์ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลหรือคลินิก ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.65 และเป็นวัคซีนที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ของประเทศไทย เท่านั้น § ลดระยะเวลารอคอยให้ลูกค้าได้รับความคุ้มครองเร็วขึ้น กรณีที่ลูกค้ามีการซื้อสัญญาเพิ่มเติมคุ้มครองสุขภาพฉบับใหม่ โดย ลดระยะเวลารอคอยการเข้ารับการรักษาด้วยโรคโควิด-19 จาก 30 วันเป็น 14 วัน และสามารถใช้บริการเคลมแบบที่ลูกค้าไม่ต้องสำรองจ่ายออกไปก่อน (แฟกซ์เคลม) จากเดิม ที่จะใช้สิทธิ์ได้ต้องรอ 90 วัน ลดเหลือเพียง 30 วันก็สามารถเคลมแบบไม่ต้องสำรองจ่ายได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพร้อมของรพ.คู่สัญญา และ เงื่อนไขกรมธรรม์ด้วย สำหรับสถานการณ์การเคลมด้วยโรคโควิด-19 นี้ ตั้งแต่ต้นปี 2564 จนถึงปัจจุบัน บริษัทได้จ่ายเคลมรวมไปแล้วกว่า 17,700 เคส เป็นเงินรวมกว่า 900 ล้านบาท โดยประมาณ 16,200 เคส เป็นค่ารักษาพยาบาลการเจ็บป่วยจากโควิด-19 และประมาณ 1,200 เคส เป็นการชดเชยจากการแพ้วัคซีน และ ประมาณ 300…
วิริยะประกันภัย ขยายตลาดกลุ่มลูกค้ารถยนต์ รุกประกันภัยคุ้มครองด้านอะไหล่รถยนต์ หลังระยะรับประกันคุณภาพของค่ายรถยนต์หมดลง ด้วยผลิตภัณฑ์ใหม่ ประกันภัยการขยายเวลารับประกัน (สำหรับอะไหล่รถยนต์) “Extended Warranty” เพิ่มอุ่นใจ คลายกังวล และมั่นใจได้ในมาตรฐานการบริการและคุณภาพอะไหล่รถยนต์ ชูจุดเด่นซ่อมห้างเคลมได้ไม่จำกัด ไม่ต้องตรวจสุขภาพรถ รับความคุ้มครองทันทีเมื่อทำประกันภัย ครอบคลุมค่าซ่อม ค่าแรง และอะไหล่สูงสุด 278 รายการ ด้วยเบี้ยประกันภัยเริ่มต้นที่ 2,555 บาท นางฐวิกาญจน์ เตชทวีทรัพย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัญหารถเสีย นับเป็นปัญหาสุดคลาสสิคที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา จะรถเก่า รถใหม่ รถมือสอง ก็มีโอกาสเสีย จะเสียมาก เสียน้อย ก็ซ่อมกันไปตามอาการและงบประมาณที่มี แต่วันนี้วิริยะประกันภัย ผู้เชี่ยวชาญด้านประกันภัยครบวงจร โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านรถยนต์ พร้อมเคียงข้างและเข้าใจถึงปัญหาของคนที่รถเสียหลังหมด Warranty จากศูนย์บริการเป็นอย่างดี และด้วยปณิธานที่มุ่งมั่นของบริษัทฯในการที่จะดูแลลูกค้าอย่างดีที่สุดและสร้างการบริการที่เหนือความคาดหมายเพื่ออำนวยความสะดวกและรองรับทุกความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ เราไม่เคยหยุดนิ่งที่จะสร้างสรรค์และพัฒนานวัตกรรมบริการด้านประกันภัยใหม่ๆ เพื่อส่งมอบให้ลูกค้าได้รับประโยชน์จากการทำประกันภัยสูงสุด บริษัทฯ จึงได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ ประกันภัยการขยายเวลารับประกัน (สำหรับอะไหล่รถยนต์) “Extended Warranty” หรือ “ประกันอะไหล่รถซ่อมห้าง” อะไหล่เสีย เราเคลียร์ให้ ซ่อมครบ จบที่ศูนย์ ไม่ว่ารถเก่า รถใหม่ รถมือสอง ซ่อมห้างให้ ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ไม่ต้องตรวจสุขภาพรถ รับความคุ้มครองทันทีเมื่อทำประกันภัย ครอบคลุมค่าซ่อม ค่าแรง และอะไหล่สูงสุด 278 รายการ เพราะเราทราบดีว่า เรื่องรถเสียเป็นเรื่องปกติที่ไม่สามารถเลี่ยงได้ และนำมาซึ่งภาระค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงตามอาการหรือความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์เป็นหลัก ซึ่งชิ้นส่วนอะไหล่แต่ละชิ้นมีระยะเวลาเสื่อมสภาพที่ช้าเร็วต่างกันไป รวมถึงราคาชิ้นส่วนอะไหล่ที่ต่างกันด้วย ซึ่งถ้าผู้ใช้รถไม่ได้วางแผนเตรียมสำรองเงินไว้ใช้ในยามฉุกเฉินสำหรับค่าใช่จ่ายในการซ่อมบำรุงรักษารถยนต์เอาไว้ล่วงหน้า ก็อาจสร้างความกังวลใจกับภาระก้อนใหญ่ที่จะเกิดขึ้นได้ ดังนั้นการมีประกันภัย “Extended Warranty” ที่เปรียบเสมือนผู้ช่วยดูแลการซ่อมบำรุงรักษารถยนต์ นอกจากช่วยคลายความกังวลในเรื่องภาระค่าใช้จ่ายก้อนโตแล้ว ผู้เอาประกันภัยยังมั่นใจในมาตรฐานการซ่อมที่มีคุณภาพจากศูนย์บริการคู่สัญญาอีกด้วย นางฐวิกาญจน์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับประกันภัยการขยายเวลารับประกัน (สำหรับอะไหล่รถยนต์) “Extended Warranty” ภายใต้ความคุ้มครองจาก บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) จะให้ความคุ้มครองต่อเนื่องได้ทันทีเมื่อระยะการรับประกันศูนย์ผู้ผลิตสิ้นสุดลง ไม่มีค่าเสียหายส่วนแรก…
บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัดโดย นายคมเนตร เนตรประไพ รองประธานบริหารสายงานการตลาด (ที่ 4 จากซ้าย) ในฐานะตัวแทนบริษัทฯ มอบเงินอัดฉีดทีมนักฟุตบอลชาติไทย ชุด ‘ช้างศึก’ เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจในโอกาสที่คว้าแชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 โดยมี ‘มาดามแป้ง’ นางนวลพรรณ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติไทย (ที่ 5 จากซ้าย) พร้อมทีมนักฟุตบอลเป็นผู้รับมอบ ณ เมืองไทยประกันภัย ถ.รัชดาภิเษก เมื่อวันเร็วๆ นี้
ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า ก่อนอื่นผมต้องขอขอบคุณผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้างสำนักงาน คปภ. และทุกความห่วงใย ที่ได้ส่งกำลังใจมาให้ผมอย่างต่อเนื่อง และรู้สึกซาบซึ้งกับทุกความห่วงใยที่ทุกท่านมีให้ ซึ่งผมเพิ่งจะทราบว่าติดเชื้อ โควิด-19 ในวันนี้ จึงขอแจ้งไทม์ไลน์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาดังนี้ วันจันทร์ที่ 10 มกราคม 2565 ประชุมที่สำนักงาน คปภ.เนื่องจากมีความจำเป็น วันอังคารที่ 11 มกราคม 2565 บันทึกเทปสัมภาษณ์รายการโทรทัศน์ที่สำนักงาน คปภ. ในช่วงบ่ายประชุมออนไลน์และเดินทางไปประชุมนอกสถานที่ (สวมหน้ากากอนามัยสองชั้นตลอด) วันพุธที่ 12 มกราคม 2565 ประชุมออนไลน์ที่สำนักงาน คปภ. (เช้า-บ่าย) (สวมหน้ากากอนามัยสองชั้นตลอด) วันพฤหัสบดีที่ 13 มกราคม 2565 ประชุมออนไลน์ (WFH) วันศุกร์ที่ 14 มกราคม 2565 ช่วงเช้าแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนบริเวณหน้าตึกศาลปกครองกลางและเข้าชี้แจงคดีที่ห้องพิจารณาคดี ศาลปกครองกลาง (สวมหน้ากากอนามัยสองชั้นตลอด ยกเว้นช่วงรับประทานอาหารกลางวันที่ห้องอาหารศาลปกครองกลาง ซึ่งแยกมาทานโต๊ะเดี่ยว) วันเสาร์ที่ 15 มกราคม 2565 เริ่มมีอาการคล้ายๆ แพ้อากาศ คัดจมูก และมีไข้เล็กน้อย จึงตรวจ ATK (ช่วงบ่าย) ผลเป็นบวก จึงรีบไปตรวจ RT- PCR ที่โรงพยาบาล แล้วรีบกักตัวทันที และวันอาทิตย์ที่ 16 มกราคม 2565 ทราบผลตรวจว่าติดเชื้อโควิด จึงเข้ารับการรักษาและกักตัวแล้ว สำหรับการฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิป้องกันโควิดนั้น ได้รับการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 4 เป็น Moderna เมื่อวันศุกร์ที่ 7 มกราคม 2565 ส่วนการรับประทานอาหารส่วนใหญ่เป็นที่บ้านหรือที่ห้องทำงาน ช่วงเวลาใน Timeline ไม่ได้ไปเดินห้าง ไม่ได้ไปซื้อของข้างนอก และไม่ได้ไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหารใดๆ จึงไม่ทราบว่าติดเชื้อโควิดจากที่ใด โดยผมได้ประสานแจ้งบุคคลที่ผมใกล้ชิด ได้พบและประชุมให้ทราบ พร้อมได้รายงานผู้บังคับบัญชาแล้ว สำหรับบุคลากรของสำนักงาน คปภ.ท่านใดที่จัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยง หรือกลุ่มเฝ้าระวัง…
บริษัท กรุงไทยพานิชประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ เคพีไอ (KPI) ได้รับรางวัลจรรยาบรรณดีเด่น หอการค้าไทยประจำปี 2564 ในงาน “TCC Best Awards 2021: คว้าโอกาส ฝ่าวิกฤต ด้วยจรรยาบรรณ” ปีที่ 19 (TCC Best Award 2021) โดยมีศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เกษม วัฒนชัย องคมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี รางวัลนี้แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์และการบริหารงานของบริษัทที่มุ่งดำเนินธุรกิจโดยยึดจรรยาบรรณ ตามหลักธรรมาภิบาล และการกำกับดูแลกิจการที่ดี โดยยึดถือความโปร่งใส ซื่อสัตย์สุจริต มีความรับผิดชอบต่อลูกค้าและผู้บริโภค พร้อมทั้งยังแบ่งปันประโยชน์คืนสู่สังคม ดร.พงษ์ภาณุ ดำรงศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กรุงไทยพานิชประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “รางวัลนี้ถือเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของเคพีไอและเป็นสิ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความเอาใจใส่ต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท ในช่วงที่มีความท้าทายจากหลาย ๆ ด้าน ทั้งจากสภาวะเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 หรือผลกระทบจากภัยภิบัติต่าง ๆ บริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะดูแลลูกค้าด้วยการพัฒนาและรักษามาตรฐานการทำงาน เพื่อมอบประโยชน์และบริการที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า คู่ค้า ประชาชนและพันธมิตรธุรกิจ ด้วยความจริงใจ ซื่อสัตย์ และโปร่งใส” รางวัลจรรยาบรรณดีเด่น โดยหอการค้าไทย เป็นโครงการที่จัดขึ้นมาอย่างต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 19 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกย่อง เชิดชูเกียรติ และส่งเสริมให้ภาคธุรกิจเอกชนในการเป็นต้นแบบที่ดีในการประกอบธุรกิจด้วยจรรยาบรรณ ตามหลักบรรษัทภิบาลและการกำกับดูแลกิจการที่ดี โดยยึดถือความโปร่งใส ซื่อสัตย์สุจริต มีความรับผิดชอบต่อลูกค้าและสังคม มุ่งสร้างประโยชน์แก่ส่วนรวมตลอดจนสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล อันจะเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้ประเทศเจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืน
บมจ. ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น เผยแนวโน้มพื้นฐานยังเติบโตดี ย้ำประกันโควิด-19 โดยเฉพาะกรณีเจอ จ่าย จบ ไม่มีผลกระทบ เพราะ TQM เป็นธุรกิจนายหน้าประกันภัยไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงการจ่ายค่าสินไหม แต่ทำหน้าที่เป็นคนกลางประสานงานให้ความช่วยเหลือดูแลลูกค้า ขณะที่สถานการณ์ระบาดของโอมิครอนส่งผลให้ผู้บริโภคตื่นตัวซื้อประกันสุขภาพผ่านออนไลน์มากขึ้น คาดจะเข้ามาแทนประกันโควิดได้ในบางส่วน แย้มผลงานไตรมาส 4/2564 ซึ่งเป็น High Season มีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และผลประกอบการปี 2564 ดีเกินคาดอาจทำ All – Time High เตรียมแผนการเติบโตในปี 2565 รุกเข้าลงทุนในธุรกิจ โดยเฉพาะส่วนธุรกิจรับประกันภัยต่อ ตอกย้ำการเป็นผู้นำในธุรกิจนายหน้าประกันภัยอย่างครบวงจรที่สุด เผยยังคงจ่ายปันผลในสัดส่วนที่สูงและจ่ายได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมได้ฤกษ์ดี 13 มกราคม 2565 เทรดหุ้นพาร์ใหม่ 0.50 บาท เพื่อเพิ่มสภาพคล่องของหุ้น TQM ในตลาด ดร.อัญชลิน พรรณนิภา ประธาน บริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TQM เปิดเผยว่า แนวโน้มพื้นฐานของ TQM ยังคงเติบโตได้ดี ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 กับการระบาดใหม่ของไวรัสกลายพันธุ์โอมิครอน กลับยิ่งทำให้ผู้บริโภคตระหนักถึงการป้องกันความเสี่ยงด้านสุขภาพ และมีส่วนผลักดันให้เปลี่ยนพฤติกรรมมาซื้อประกันผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ด้านยอดขายประกันรถยนต์ก็ยังคงเติบโตได้ดี เนื่องจากผู้บริโภคมองว่ายังเป็นเรื่องสำคัญและจำเป็น ทั้งนี้ ปัจจัยที่กดดันราคาหุ้นในปัจจุบันเป็นเพียงสภาวะโดยรวมของกลุ่มธุรกิจประกันภัยที่ได้รับผลกระทบ ในกรณีประกันโควิด-19 แบบเจอ จ่าย จบ แต่ในส่วนของธุรกิจ TQM นั้น ไม่มีผลกระทบ เนื่องจากเป็นนายหน้าประกันภัยที่ทำหน้าที่เป็นคนกลางระหว่างลูกค้ากับบริษัทประกัน จึงไม่ได้รับความเสี่ยงด้านการจ่ายค่าสินไหม อย่างไรก็ตาม TQM ยังคงมีศักยภาพที่แข็งแกร่ง เห็นได้จากผลงานใน 3 ไตรมาสแรกของปีที่ผ่านมาที่ทำได้ถึง 95% ของปี 2563 และสำหรับผลงานในไตรมาส 4 ที่เป็น High Season นั้น ยังคงเติบโตได้ดี ต่อเนื่องจากไตรมาส 3 มั่นใจผลประกอบการปี 2564 จะสามารถทำ All – Time…
KBank Private Banking (เคแบงก์ ไพรเวทแบงกิ้ง) รุกนำเสนอนวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์การลงทุนเพื่อผลตอบแทนที่มั่นคงในทุกภาวะเศรษฐกิจ ส่งLH-THAIPE1UI (LH Fund Thai Private Equity 1 Not for Retail Investors) กองทุนแรกของไทยที่ลงทุนในสินทรัพย์ตราสารทุนนอกตลาด เน้นบริษัทขนาดกลางที่มีศักยภาพสูงสอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจไทย ผนึกพันธมิตรระดับโลก Fullerton Fund Management พร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านหุ้นนอกตลาดในไทย คัดสรรธุรกิจเด่น ผลักดันมูลค่าธุรกิจเพื่อปั้นกำไรใน 7 ปี ดร.ตรีพล ภูมิวสนะPrivate Banking Business Head Private Banking Group ธนาคารกสิกรไทยเปิดเผยว่า “KBank Private Banking มุ่งมั่นที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อเพิ่มขอบข่ายการลงทุนและโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นสินทรัพย์ทางเลือก เช่น ตราสารทุนนอกตลาด หรือ ไพรเวทอิควิตี้(Private Equity)ผ่านรูปแบบของกองทุน ท่ามกลางสถานการณ์ปัจจุบันที่ราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์มีการแกว่งตัวสูง และมีโอกาสในการทำกำไรที่ยากขึ้น ไพรเวทอิควิตี้จึงถือเป็นสินทรัพย์ที่สามารถลดความผันผวนของพอร์ต และสร้างผลตอบแทนในระยะยาว ก่อนหน้านี้ KBank Private Banking ได้นำเสนอกองทุนไพรเวทอิควิตี้ซึ่งลงทุนในหุ้นนอกตลาดของบริษัทต่างประเทศไปแล้ว 2 กองทุน ซึ่งกองแรกสามารถสร้างผลกำไรเฉลี่ยกว่า 40% ในช่วง 2 ปีกว่าที่ผ่านมา และกองที่สองก็มีแนวโน้มที่จะสร้างผลตอบแทนที่โดดเด่นได้เช่นกัน” ล่าสุด KBank Private Banking ได้ร่วมกับ บลจ. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เปิดตัวกองทุนใหม่ LH-THAIPE1UI ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มีการเสนอขายหุ้นนอกตลาดของบริษัทไทยในรูปแบบของกองทุน โดยจะทำการลงทุนผ่านกองทุนหลัก Fullerton Thai Private Equity Fund ที่สิงค์โปร์เน้นลงทุนในธุรกิจขนาดกลาง8 – 12 บริษัท โดยบริษัทเหล่านี้จะถูกคัดเลือกอย่างเป็นระบบจากหลากหลายแหล่ง จากนั้นผู้จัดการกองทุน จะนำทีมงานเข้าไปช่วยผลักดันให้บริษัทมีการเติบโตตามเป้าหมาย และทำให้บริษัทที่ลงทุนมีความพร้อมที่จะระดมทุน IPO ในตลาดหลักทรัพย์ได้ จึงจะขายเพื่อทำกำไรหรือนำเข้าตลาดหลักทรัพย์ในที่สุด กองทุน LH-THAIPE1UI มีเกณฑ์หลักๆ ในการคัดเลือกบริษัทเป้าหมาย คือ…