กรุงเทพประกันชีวิต ออกแบบประกันใหม่ผ่านช่องทางตัวแทนประกันชีวิตพร้อมกัน 2 แบบ “เพรสทีจ เซฟวิ่ง 12/6” เน้นออมระยะสั้น 6 ปี คุ้มครอง 12 ปี พร้อมการันตีเงินคืนรายปีสูงถึง 6% ตลอดสัญญา พร้อมคุ้มครองอุบัติเหตุ 300% และ เพรสทีจ ไลฟ์ 99/20 ที่ขยายระยะส่งเบี้ย 20 ปี คุ้มครอง 99 ปี ทุนประกันเริ่มต้น 5 ล้าน เน้นส่งต่อมรดกความมั่งคั่งให้คนที่รัก นายโชน โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าที่บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กรุงเทพประกันชีวิตได้ออกแบบประกันใหม่ผ่านช่องทางตัวแทนประกันชีวิตพร้อมกัน 2 แบบ ได้แก่ เพรสทีจ เซฟวิ่ง 12/6 และ เพรสทีจ ไลฟ์ 99/20 ซึ่งทั้งสองแบบเหมาะสำหรับผู้มีรายได้สูงและมีเป้าหมายในการวางแผนการเงินเพื่อความมั่นคงในอนาคต นายโชนกล่าวว่า “เพรสทีจ เซฟวิ่ง 12/6” มีจุดเด่นที่เป็นแบบประกันที่ชำระเบี้ยระยะสั้น 6 ปี แต่ให้ความคุ้มครอง 12 ปี มีการการันตีเงินคืนปีละ 6% ตั้งแต่สิ้นปีกรมธรรม์ที่ 1 -11 เมื่อครบกำหนดสัญญารับผลประโยชน์รวม 620% ของทุนประกันภัย โดยรับประกันตั้งแต่แรกเกิดถึงอายุ 85 ปี ด้วยทุนประกันภัยเริ่มต้น 300,000 บาท แถมฟรีสัญญาเพิ่มเติมมอบความคุ้มครองการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ 300% ของทุนประกันภัย สูงสุดไม่เกิน 6 ล้านบาท สมัครง่ายไม่ต้องตรวจและตอบคำถามสุขภาพ สำหรับแบบประกัน เพรสทีจ ไลฟ์ 99/20 เป็นแบบประกันที่เพิ่มเติมจากแบบประกันเพรสทีจ ไลฟ์ ซีรีย์ เดิมที่มีระยะเวลาชำระเบี้ยประกัน 5 ปี 10 ปี และ 15 ปี โดยในปีนี้ได้เพิ่มทางเลือกใหม่ด้วยการขยายเวลาชำระเบี้ยประกันถึง 20…
Author: staff
บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด โดยนางสาวพรรณี ปิติกุลตัง กรรมการผู้จัดการ ร่วมพิธีเปิดงานประชุมวิชาการการแพทย์ฉุกเฉินระดับชาติ ในองค์กรภาคเอกชนที่ไม่แสวงหากำไร ครั้งที่ 7 ภายใต้หัวข้อ “นวัตกรรมกู้ชีพ กู้ภัย ช่วยเหลือประชาชนแบบไร้รอยต่อ” โดยเป็นความร่วมมือระหว่างสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) จังหวัดกาฬสินธุ์ สมาคมเมตตาธรรมทิพยสถาน “เต็กก่า” จีโหงวเกาะ,กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย, บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด , สมาคม มูลนิธิเครือข่ายกู้ชีพ กู้ภัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดขึ้น มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงบริการการแพทย์ฉุกเฉินของประชาชน การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การเพิ่มพูนความรู้ และพัฒนาศักยภาพของผู้ปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉินในเครือข่ายองค์กรภาคเอกชนที่ไม่แสวงหากำไร,องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น,บุคลากรทางการแพทย์ในระบบการแพทย์ฉุกเฉิน รวมทั้งพัฒนาความร่วมมือระหว่างองค์กรภาคเอกชนที่ไม่แสวงหากำไรกับหน่วยงานอื่น ๆ กว่า 450 แห่งจากทั่วประเทศ ณ เขื่อนลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์
บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต นำโดยคุณแซลลี่ โอฮาร่า ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร แอกซ่าในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์และเกาหลีใต้ และคุณบุปผาวดี โอวรารินท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายทรัพยากรบุคคล และภาพลักษณ์องค์กรและการสื่อสารองค์กร รับรางวัลแห่งความสำเร็จ Top Employer Awards Thailand 2025 จาก Top Employer Institute เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน และเป็นบริษัทแรกในกลุ่มแอกซ่าในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่ได้รับรางวัลดังกล่าว รางวัลอันทรงเกียรตินี้เป็นการยกย่ององค์กรที่มีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน และสามารถถ่ายทอดวิสัยทัศน์ออกมาเป็นแผนงานอย่างเป็นรูปธรรม โดยยึดมั่นคำสัญญาในการสร้างสถานที่ทำงานที่ดีเลิศและเท่าเทียมสำหรับพนักงานทุกคน พร้อมมุ่งมั่นที่ยกระดับการเรียนรู้ มอบโอกาสเพื่อการเติบโต มุ่งสู่ความสำเร็จไปด้วยกัน โดยคณะกรรมการพิจารณาจากกลยุทธ์และแนวทางปฏิบัติด้านทรัพยากรบุคคลที่ให้ความสำคัญกับการสร้าง พัฒนาและให้โอกาสพนักงานที่มีศักยภาพ ซึ่งนำไปสู่การสร้างผู้นำที่มีคุณภาพในอนาคต ตลอดจนระบบการบริหารผลการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพ และการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน รวมทั้งการดูแลความเป็นอยู่และสุขภาวะของพนักงานแบบองค์รวม ซึ่งสอดคล้องกับวัฒนธรรมด้านทรัพยากรบุคคล “We Care & Dare for Progress”
บลจ.อีสท์สปริง มองหุ้นปันผลทั่วโลกทางเลือกลงทุนลดความผันผวนระยะยาว เปิดขายกองทุนเปิดอีสท์สปริง Global Dividend Equity-Unhedged Fund (ES-GDIV-UH) เน้นลงทุนผ่านกองหลักของเจพีมอร์แกน เพิ่มโอกาสลงทุนในหุ้นบริษัทยักษ์ใหญ่ชั้นนำระดับโลกพื้นฐานดีมีปันผล อาทิ Microsoft , TSMC, Meta Platforms เสนอขายครั้งแรกระหว่าง 28 มกราคม -5 กุมภาพันธ์ 2568 นี้ นางสาวดารบุษป์ ปภาพจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ บลจ.อีสท์สปริง เปิดเผยว่า ความผันผวนของการลงทุนจากหลากหลายสินทรัพย์รวมถึงหุ้นทั่วโลก ณ ปัจจุบัน สร้างสภาพการณ์การลงทุนที่ยากขึ้นเมื่อเทียบสภาวะการลงทุนในอดีต บลจ.อีสท์สปริงมองว่า ธีมหุ้นโลกของบริษัทที่ให้เงินปันผลอาจเป็นทางเลือกการลงทุนที่ช่วยลดความผันผวนในระยะยาวในระดับผลตอบแทนในตราสารทุนที่ต่อเนื่องยั่งยืน เนื่องจากมีความสามารถทนทานต่อสภาวะเศรษฐกิจที่หลากหลาย ซึ่งหุ้นโลกของบริษัทที่ให้เงินปันผลโดยมากนอกจากจะมีผลการดำเนินงานที่ทนทานสภาวะเศรษฐกิจแล้ว ยังมีแบรนด์ที่แข็งแกร่ง มีส่วนแบ่งการตลาดที่โดดเด่น และมีฐานลูกค้าที่ใช้สินค้าและบริการอยู่ทั่วโลก แม้เศรษฐกิจทั่วโลกจะชะลอตัว ขณะเดียวกันหุ้นทั่วโลกที่มีความสามารถในการจ่ายปันผลได้สะท้อนความแข็งแกร่งของการดำเนินงานและกระแสเงินสดของกิจการ ซึ่งกิจการที่มีลักษณะสำคัญที่จะสามารถจ่ายเงินปันผลได้ คือกิจการที่มีผลการดำเนินงานและกระแสเงินสดต่อเนื่อง แม้สภาวะเศรษฐกิจจะชะลอตัวลงและมักเป็นผู้นำในสินค้าและบริการในแต่ละอุตสาหกรรม ดังนั้นเพื่อเพิ่มทางเลือกการลงทุนในระยะยาวไปกับหุ้นปันผลทั่วโลก บลจ.อีสท์สปริง จึงได้เปิดกองทุนเปิดอีสท์สปริง Global Dividend Equity-Unhedged Fund (ES-GDIV-UH) ไม่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท เสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 28 มกราคม จนถึง 5 กุมภาพันธ์ 2568 ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 1 บาท โดยเน้นลงทุนในกองทุน JPMorgan Investment Funds – Global Dividend Fund (กองทุนหลัก) ในหน่วยลงทุนชนิด Class C (acc) USD ในอัตราส่วนโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน บริหารจัดการโดย JPMorgan Asset Management (Europe) ทั้งนี้กองทุนหลัก JPMorgan Investment Funds – Global Dividend…
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมานักลงทุนส่วนใหญ่มักจะเลือกลงทุนในกองทุนเพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษีแบบเป็นก้อนใหญ่ หรือเป็นแบบครั้งเดียวในช่วงปลายปี แต่อาจไม่เหมาะกับนักลงทุนบางท่านที่ไม่ได้ติดตามข่าวสารการลงทุนอย่างใกล้ชิด จึงอาจทำให้เสียโอกาสการลงทุนที่ดีในช่วงเวลาที่เหมาะสม ประกอบกับสถานการณ์การลงทุนที่ยังคงมีความผันผวนจากปัจจัยต่างๆ จึงได้แนะนำให้นักลงทุนพิจารณาการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน หรือที่มักได้ยินคำว่า“DCA” ซึ่งจะช่วยกระจายความเสี่ยง และสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว โดยคัดสรร 2 กลุ่มกองทุนรวมเพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เหมาะสมกับการลงทุนแบบ DCA ประกอบด้วย กลุ่มกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) แนะนำ 4 กองทุน ได้แก่ (1) กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้เพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF2) (ความเสี่ยงระดับ 4) เน้นลงทุนในตราสารหนี้ในประเทศที่ผู้ออก/รับรอง/อาวัลมีความมั่นคงและมีความสามารถในการชำระหนี้ รวมถึงพันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ หุ้นกู้ และตราสารหนี้อื่น ๆ รวมทั้งเงินฝาก โดยมองว่าแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายโลกเป็นขาลงหลังจากที่คงในระดับสูงมานาน ขณะที่ดอกเบี้ยนโยบายในประเทศน่าจะอยู่ในทิศทางทรงตัว และมีโอกาสปรับลดลงในอนาคต ทำให้ผลตอบแทนในประเทศอาจจะปรับไปในทิศทางเดียวกับผลตอบแทนต่างประเทศ และ (2) กองทุนเปิดกรุงไทยผสมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF1) (ระดับความเสี่ยง 5) มีนโยบายกระจายลงทุนในหุ้น ตราสารหนี้ หรือเงินฝาก จากการที่ตลาดหุ้นไทยปรับตัวดีหลังจากความเสี่ยงหลายด้านคลี่คลายไป รวมถึงการมีเม็ดเงินใหม่เข้ามาช่วยสนับสนุนตลาดหุ้นไทย ไม่ว่าจากนักลงทุนต่างชาติ หรือกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง นอกจากนี้ยังมีปัจจัยสนับสนุนจากต่างประเทศอย่างทิศทางดอกเบี้ยขาลงของสหรัฐฯ และยุโรป ทำให้อาจเริ่มมีเม็ดเงินลงทุนเคลื่อนย้ายเข้าสู่ตลาดเอเชีย และอาเซียน ซึ่งในเชิง Valuation (P/E) ตลาดหุ้นไทยยังถือว่าไม่แพงเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยในอดีต (3) กองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ อิควิตี้ เพื่อการเลี้ยงชีพ (KT-WEQ RMF) (ระดับความเสี่ยง 6) เน้นลงทุนใน AB Low Volatility Equity Portfolio (กองทุนหลัก) ซึ่งเน้นลงทุนในหุ้นปัจจัยพื้นฐาน มีความผันผวนต่ำ ที่อยู่ในประเทศพัฒนาแล้วเป็นหลัก รวมถึงกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ โดยมองว่าเศรษฐกิจโลกน่าจะเข้าสู่ภาวะ Soft Landing ขณะที่ดอกเบี้ยเป็นขาลง ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกจะยังเติบโตต่อไปในระยะยาว อย่างไรก็ตาม ความกังวลเรื่องภาวะถดถอยยังจะปะทุกลับมาเป็นครั้งคราว อาจจะทำให้ตลาดมีความผันผวนเพิ่มขึ้นเป็นระยะๆ และอีกหนึ่งกองทุนคือ (4) กองทุนเปิดเคแทม ยูเอส โกรท อิควิตี้…
บริษัท ฟิลลิปประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) จัดงานประชุมผู้บริหารฝ่ายขาย Agency Kick Off 2025 ภายใต้แนวคิด “Agents of Tomorrow” เพื่อรวมพลังทีมฝ่ายขายจากทุกภูมิภาค ทั่วประเทศ พร้อมสร้างขวัญและกำลังใจในก้าวสู่ความสำเร็จอย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยงานจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 25 มกราคม 2568 ณ ห้องเมฆา บอลรูม โรงแรม แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สุรวงศ์ กรุงเทพฯ งานในครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก คุณธฤทธิ์ พรหมนารถ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ฟิลลิปประกันชีวิต เป็นประธานเปิดงาน และแถลงนโยบายสำคัญ รวมถึงแนวทางการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์ประจำปี 2568 โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อเสริมศักยภาพและคุณภาพของตัวแทนประกันชีวิต รวมถึงผลักดันให้ตัวแทนฯ ประสบความสำเร็จในระดับสากล ภายในงานยังมีการเสวนาพิเศษจากผู้ทรงคุณวุฒิในแวดวงประกันชีวิต ได้แก่ • คุณจรุง เชื้อจินดา รองผู้อำนวยการบริหาร สมาคมประกันชีวิตไทย • คุณกรัณยพร ถนอมทรัพย์ อุปนายกสมาคม GAMA Thailand ฝ่ายวิชาการ • คุณกฤษณ์ วณิชเดโชชัย ผู้อำนวยการฝ่ายหลักสูตร สมาคม THAIFA ทั้งสามท่านได้ร่วมแบ่งปันแนวคิด และเคล็ดลับสำคัญในการเป็นตัวแทนประกันชีวิตที่ประสบความสำเร็จ พร้อมเน้นย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนาตัวแทนฯ ให้พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในโลกธุรกิจยุคใหม่เสริมแรงบันดาลใจสู่การเป็นตัวแทนประกันชีวิตมืออาชีพ ในโอกาสนี้ ฟิลลิปประกันชีวิตได้เน้นย้ำถึงพันธกิจในการสร้างแรงบันดาลใจแก่ตัวแทนฯ ทุกคน โดยยกระดับความสำคัญของบทบาทตัวแทนประกันชีวิตให้เป็นมากกว่างาน แต่เป็นการมอบคุณค่าและสร้างความมั่นคงให้แก่ลูกค้า คุณธฤทธิ์ พรหมนารถ กล่าวในงานว่า “ตัวแทนประกันชีวิตไม่ได้เป็นเพียงผู้ขายกรมธรรม์ แต่เป็นผู้สร้างความเปลี่ยนแปลงและความมั่นคงให้แก่สังคม ฟิลลิปประกันชีวิตพร้อมที่จะมอบความรู้ ทักษะและแรงบันดาลใจที่จะช่วยให้ทุกคนก้าวข้ามทุกข้อจำกัด เพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จในการเป็นนักขายมืออาชีพ” นอกจากนี้ยังมีการประชาสัมพันธ์กิจกรรมสนับสนุนความสำเร็จของฝ่ายขาย เช่น การเข้าร่วมคุณวุฒิการแข่งขันระดับประเทศและนานาชาติ อาทิ Annual Convention 2025 และ MDRT 2026 เพื่อส่งเสริมเป้าหมายการเติบโตขององค์กร ฟิลลิปประกันชีวิต ยังคงยึดมั่นในพันธกิจสำคัญในการพัฒนาศักยภาพฝ่ายขายทั่วประเทศให้ มีความเป็นมืออาชีพ พร้อมทั้งมอบคำแนะนำที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า เพื่อก้าวสู่อนาคตที่สดใส และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนในทุกมิติ
บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPH บริษัท Insurance and Finance เจ้าแรกของประเทศไทย จับมือกับ บริษัท เบริล 8 พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ BE8 Tech company ครบวงจร ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญ เปิดตัว บริษัท ฮอไรซอน ที 8 จำกัด “HoriXonT8” หรือ “T8” เพื่อยกระดับ Insurance Ecosystem ให้กับอุตสาหกรรมประกันภัย ด้วย AI-Powered Digital Transformation เสริมศักยภาพพันธมิตรด้านนวัตกรรมประกันภัยทั้งในประเทศและภูมิภาคอาเซียน ด้วยบริการที่ตอบสนองความต้องการแบบ MORE + Better + Faster ของ HoriXon T8 ดร.สมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “โลกปัจจุบันกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในหลายมิติ ทั้งการเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรมผู้บริโภค ด้านสภาพแวดล้อม และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะ AI ที่เข้ามามีบทบาทในทุกอุตสาหกรรมทั่วโลก เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมประกันภัยก็ต้องเผชิญกับความท้าทายเหล่านี้ โดย Insurance Ecosystem ถือเป็นระบบนิเวศสำคัญ ทั้งในมิติของบริษัทประกันภัย, ตัวแทน/นายหน้า และคู่ค้า ตลอดจนผู้ให้บริการนอกอุตสาหกรรม เช่น สถาบันการเงิน, สถานพยาบาล, E-commerce และ Market Place ต่าง ๆ เราจึงเล็งเห็นโอกาสเพื่อปลดล็อคข้อจำกัดเดิม ๆ เพื่อให้สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการด้านประกันภัยในรูปแบบใหม่ที่มีความหลากหลาย รวดเร็ว และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคให้ดียิ่งขึ้นแบบไร้รอยต่อ ช่วยให้เราสามารถขยายฐานลูกค้าและเปิดตลาดใหม่ได้อย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ ด้วยประสบการณ์กว่า 72 ปีของทิพยประกันภัย ที่มีความเข้าใจในระบบประกันภัยและความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า การร่วมมือกับ BE8…
ดร.พงษ์ภาณุ ดำรงศิริ ผู้อำนวยการบริหาร สมาคมประกันวินาศภัยไทย นำทีมเจ้าหน้าที่สมาคมฯ ร่วมสัมมนาแผนงานประจำปี 2568 (TGIA Strategic Planning Seminar 2025) ภายใต้แนวคิด “The Power Of Connect” เพื่อกำหนดเป้าหมายและกลยุทธ์การดำเนินงานที่เสริมสร้างความร่วมมือภายในองค์กรให้มีทิศทางที่ชัดเจนเป็นระบบในการพัฒนาสมาคมฯ ให้เติบโตอย่างมั่นคง พร้อมจัดกิจกรรมศึกษาดูงานเพื่อเรียนรู้แนวทางการบริหารจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินงานของสมาคมฯ ในการส่งเสริมความยั่งยืน 2 แห่ง ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงขยะ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) และศูนย์การเรียนรู้การจัดการขยะชุมชนบ้านไผ่ จังหวัดระยอง เมื่อวันที่ 24-26 มกราคม 2568 ณ โรงแรมอีสติน รีสอร์ท ระยอง
นายสยม โรหิตเสถียร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขันกอล์ฟ “Viriyah Invitational Golf Tournament 2025” โซนภาคกลางและภาคตะวันตก โดยมี นายอนุสรณ์ ตรียะเวชกุล ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการภาค 4 (ภาคกลางและภาคตะวันตก) นำคณะผู้บริหาร และบุคลากรในสังกัด รวมถึงกลุ่มคู่ค้าและพันธมิตรทางธุรกิจ เข้าร่วมงานอย่างคับคั่งกว่า 130 คน เพื่อกระชับความสัมพันธ์อันดี ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างบริษัทและกลุ่มคู่ค้า และร่วมกันขับเคลื่อนธุรกิจอย่างมั่นคงและยั่งยืน ณ สนาม Grand Prix Golf Club อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี ทั้งนี้ จากเสียงตอบรับอันดีของการจัดการแข่งขันกอล์ฟเป็นรูปแบบทัวร์นาเมนต์ ภายใต้ชื่อ “Viriyah Invitational Golf Tournament” ในปีที่ที่ผ่านมา และในปี 2568 นี้ บริษัทฯ จึงยังคงสานต่อการจัดกอล์ฟทัวร์นาเมนต์อย่างต่อเนื่อง โดยใช้กิจกรรมนี้เป็นพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เสริมสร้างเครือข่ายธุรกิจ และตอกย้ำความมุ่งมั่นของวิริยะประกันภัยในการสนับสนุนกลุ่มคู่ค้าในทุกมิติ ซึ่งการแข่งขันครั้งถัดไป จะถูกจัดขึ้นที่สนามกอล์ฟโซนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ และส่งไม้ต่อไปยังภูมิภาคอื่น ๆ ในเดือนถัด ๆ ไป จนสิ้นสุดฤดูกาลแข่งขันครบทั้ง 6 โซน 6 ภูมิภาค
ปี 2567 พิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นปีที่โดดเด่นสำหรับสินทรัพย์เสี่ยง แม้จะเผชิญกับความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์และการเลือกตั้งในหลายประเทศทั่วโลก ดัชนี MSCI World ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 24 แม้แต่จีนที่ยังคงเผชิญกับความตึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐอเมริกา หุ้นจีนก็สามารถพลิกฟื้นจากการขาดทุนในปีก่อนหน้า โดยปิดการซื้อขายด้วยผลตอบแทนร้อยละ 20 ปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง แม้ว่าดัชนี S&P 500 จะปรับเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 62 นับตั้งแต่ต้นปี 2566 แต่ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นในปี 2568 สำหรับภาวะเศรษฐกิจ ยังคงแข็งแกร่งอย่างน่าประหลาดใจ แม้ในช่วงเวลาของนโยบายการเงินที่เข้มงวด ธนาคารกลางสหรัฐ (Federal Reserve) ได้ส่งสัญญาณว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 1 ครั้ง ในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ และจะคงอัตราดอกเบี้ยไปตลอดทั้งปี ซึ่งเป็นการปรับนโยบายเพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเงินเฟ้อและการเติบโตทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน ทรัมป์ 2.0: โอกาสและความเสี่ยง การได้รับเลือกตั้งอีกครั้งของประธานาธิบดีทรัมป์ โดยได้รับการสนับสนุนจากเสียงข้างมากของพรรครีพับลิกันทั้งในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา คาดว่าจะสร้างแรงหนุนเพิ่มเติมให้กับเศรษฐกิจ โดยมีนโยบายสำคัญๆ ได้แก่ มาตรการลดภาษี การผ่อนคลายกฎระเบียบ การกำหนดภาษีศุลกากร และการปฏิรูปการเข้าเมือง พระราชบัญญัติการลดภาษีและการจ้างงาน หรือที่รู้จักกันในชื่อ “การลดภาษีของทรัมป์” มีแนวโน้มว่าอาจจะได้นำกลับมาใช้ใหม่ในช่วงปลายปี 2568 ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการเติบโตของผล ประกอบการบริษัทและการลงทุนในสหรัฐฯ นอกจากนี้การผ่อนคลายกฎระเบียบจะช่วยกระตุ้นกิจกรรมในภาคพลังงานและการเงิน อย่างไรก็ตาม บางส่วนของพระราชบัญญัติการลดเงินเฟ้อที่ให้เงินอุดหนุนพลังงานหมุนเวียนอาจถูกยกเลิก การใช้มาตรการกำแพงภาษีศุลกากรซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของรัฐบาลทรัมป์สมัยแรกจะขยายวงกว้างขึ้น ทรัมป์ได้ส่งสัญญาณจัดเก็บภาษีนำเข้าร้อยละ 25 สำหรับเม็กซิโกและแคนาดา และเพิ่มภาษีนำเข้าจากจีนอีกร้อยละ 10 ในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดี ทรัมป์ได้เสนอให้เก็บภาษีนำเข้าจากจีนในอัตราร้อยละ 60 และร้อยละ 10 สำหรับสินค้านำเข้าจากประเทศอื่นๆ การบังคับใช้กำแพงภาษีแบบครอบคลุมนี้จะส่งผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ เนื่องจากไม่สามารถทดแทนการนำเข้าทั้งหมดได้ในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งจะนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าอุปโภคบริโภค อันเป็นต้นทุนทางการเมือง ดังนั้น การบังคับใช้ขั้นสุดท้ายน่าจะมีความละเอียดอ่อนและทยอยดำเนินการมากกว่า มาตรการภาษีศุลกากรสำหรับสินค้านำเข้าจากจีนจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เนื่องจากสหรัฐฯ มองว่าจีนเป็นภัยคุกคามสำคัญ ในปี 2566 สหรัฐฯ ขาดดุลการค้ากับจีนมากกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้การใช้มาตรการภาษีศุลกากรเพื่อลดการขาดดุลการค้ากับจีนตั้งแต่ปี 2561 ยังไม่สามารถลดขาดดุลได้อย่างมีนัยสำคัญ สาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากความต้องการสินค้าของสหรัฐฯ รวมถึงมีมาตรการยกเว้นภาษีหลายประการ อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ว่าการขาดดุลการค้าดังกล่าวอาจสูงมากขึ้น หากพิจารณาผลกระทบจากการเบี่ยงเบนการค้าของจีนที่ส่งออกผ่านประเทศอื่นๆ ไปยังสหรัฐฯ เช่น เม็กซิโกและเวียดนาม ความแข็งแกร่งของสหรัฐฯ: ผลกระทบที่กระจายไปยังกลุ่มล่างน้อยลง จากสถิติที่ผ่านมา…