จากแคมเปญ Roddonjai Flash Sale 12.12 นายชัชฤทธิ์ ตั้งเถกิงเกียรติ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้าผลิตภัณฑ์ธุรกิจสินเชื่อรถยนต์ ทีเอ็มบีธนชาต มอบรางวัลใหญ่ ทองคำแท่งหนัก 1 บาท ให้แก่ผู้โชคดีจากแคมเปญ Roddonjai Flash Sale 12.12 ออกรถยนต์มือสองคุณภาพโดนจาก www.roddonjai.com พร้อมจัดสินเชื่อรถยนต์ใช้แล้วทีทีบีไดรฟ์ ตั้งแต่วันที่ 12 – 25 ธันวาคม 2566 และเกิดสัญญาเช่าซื้อภายในวันที่ 12 มกราคม 2567 เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้า และขอบคุณที่ไว้วางใจซื้อรถจากเว็บไซต์รถโดนใจ พร้อมจัดสินเชื่อรถยนต์ใช้แล้วจากทีทีบีไดรฟ์ สำหรับรายชื่อผู้โชคดีทั้งหมดที่ได้รางวัลทองคำแท่งหนัก 1 บาท จำนวน 12 แท่ง และบัตรของขวัญเซ็นทรัล มูลค่า 1,000 บาท / สัญญา จากแคมเปญ Roddonjai Flash Sale 12.12 ธนาคารได้ประกาศรายชื่อพร้อมเงื่อนไขการรับรางวัลแล้ว สามารถติดตามรายชื่อผู้โชคดีทั้งหมดได้ที่ https://www.roddonjai.com/service/news-campaign/detail…
Author: staff
บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR นำโดย นายกาญจน์ณัฐ เฉลิมจุฬามณี (กลาง) ผู้อำนวยการอาวุโสศูนย์การเรียนรู้เงินติดล้อ เป็นตัวแทนชาวเงินติดล้อต้อนรับคณะผู้บริหารและพนักงาน จากบริษัทในเครือ SCG Décor ได้แก่ บริษัท เอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด (มหาชน), บริษัท สยามซานิทารีแวร์ จำกัด และ บริษัท โสสุโก้ เซรามิค จำกัด จำนวนกว่า 30 คน ร่วมกิจกรรม TIDLOR Culture Wow เพื่อบอกเล่า แนะนำ และแลกเปลี่ยนแนวทางการสร้างค่านิยมและวัฒนธรรมองค์กร อีกทั้งยังได้ถาม-ตอบ (Q&A) กับผู้บริหารและทีม Culture Gangster ที่เกี่ยวข้อง ถึงแนวทางการบริหารธุรกิจ และวิธีการสร้างค่านิยมและวัฒนธรรมองค์กรที่ใช้ได้จริงอย่างใกล้ชิด กิจกรรมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อแบ่งปันความรู้และประสบการณ์การสร้างวัฒนธรรมองค์กรไปยังองค์กรต่างๆ ซึ่งถือเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจของ บมจ.เงินติดล้อ ในปัจจุบัน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นประโยชน์กับการสร้างวัฒนธรรมองค์กรแก่หน่วยงานอื่นๆ ต่อไป กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้น ณ สำนักงานใหญ่ บมจ.เงินติดล้อ อาคารอารีย์ ฮิลล์ เมื่อเร็วๆ นี้ ทั้งนี้หลักสูตร TIDLOR Culture Wow และ TIDLOR Culture Camp ภายใต้โครงการ TIDLOR Academy จัดขึ้นสำหรับบุคคลและบริษัทภายนอกที่สนใจการสร้างวัฒนธรรมองค์กร ผ่านแนวคิดและประสบการณ์จริงในการขับเคลื่อนธุรกิจด้วยวัฒนธรรมองค์กรในแบบฉบับเงินติดล้อ เพื่อเป็นแนวทางให้กับหน่วยงานต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ ในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรให้แข็งแกร่งและยั่งยืนต่อไป สำหรับผู้สนใจออกแบบค่านิยมและวัฒนธรรมองค์กรผ่านเวิร์คช็อปที่สามารถนำไปใช้ได้จริง สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและสมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ที่ www.tidlor.com/academy หรือสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-792-1990
หลังจาก heygoody โบรกเกอร์ประกันออนไลน์น้องใหม่ภายใต้แบรนด์เงินติดล้อ ปล่อยแคมเปญหนังโฆษณาชุด Introvert: Based on true feelings ผ่านช่องทางสื่อออนไลน์ไปเมื่อไม่นานนี้ ล่าสุดคณะกรรมการในวงการโฆษณาจาก Best Ads on TV เว็บไซต์ที่รวบรวมผลงานโฆษณาที่โดดเด่นจากทั่วโลก โดยจะมีการคัดเลือกและจัดอันดับผลงานโฆษณาในทุกสัปดาห์ ซึ่งโฆษณาชุด Introvert: Based on true feelings ได้รับพิจารณาคัดเลือกติดอันดับ 1 ใน 6 ของหนังโฆษณาที่ดีที่สุดจากหนังโฆษณาทั่วโลก โดยหนังโฆษณาดังกล่าว ได้ถูกสร้างขึ้นจากความเข้าใจลูกค้าและมีแนวคิดที่จะสื่อสารกับกลุ่ม introvert ที่ชอบใช้ดิจิทัล โดยมุ่งเน้นไปที่ประสบการณ์การซื้อประกันภัยแบบไม่ต้องรับสายโทรศัพท์ ซึ่งหนังโฆษณาชุดนี้จัดทำโดยทีมทำงานเบื้องหลังที่เป็นกลุ่มคน introvert เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวไปยังกลุ่มคน introvert ที่มีพฤติกรรมและความต้องการเปรียบเทียบและเลือกซื้อประกันด้วยตัวเอง ผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อปฏิวัติรูปแบบธุรกิจ สร้างประสบการณ์โบรกเกอร์ประกันออนไลน์ ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงบริการที่มีมาตรฐาน พร้อมทางเลือกที่หลากหลาย ทั้งประกันรถยนต์ ประกันรถยนต์ไฟฟ้า ประกันเดินทาง ประกันสุขภาพ และประกันอุบัติเหตุ โดยไม่รบกวนความเป็นส่วนตัว ผู้สนใจสามารถรับชมหนังโฆษณาได้ที่ www.heygoody.com/th/heyintrovert หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ LINE @heygoody, Facebook fanpage heygoody หรือซื้อประกันเองเลยที่ https://www.heygoody.com/ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง heygoody เป็นแบรนด์น้องใหม่ บริหารโดย บมจ.เงินติดล้อ และเป็นแพลตฟอร์มนายหน้าประกันภัยออนไลน์ชั้นนำที่สร้างขึ้นเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบการช้อปปิ้งออนไลน์ หรือไม่ชอบการรับสายขายประกัน เราเชี่ยวชาญในการให้บริการประกันรถยนต์ การเดินทาง สุขภาพ อุบัติเหตุ และอีกมากมาย โดยมุ่งเน้นที่ความสะดวกสบาย ความเป็นส่วนตัว และนวัตกรรมที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง
นายสาระ ล่ำซำ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย เผยภาพรวมธุรกิจประกันชีวิตของปี 2566 ระหว่าง มกราคม – ธันวาคม มีเบี้ยประกันภัยรับรวม (Total Premium) อยู่ที่ 633,445 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น ร้อยละ 3.61 เมื่อเทียบกับปี 2565 จำแนกเป็น เบี้ยประกันภัยรับรายใหม่ (New Business Premium) 178,470 ล้านบาท อัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.06 และเบี้ยประกันภัยรับปีต่อไป (Renewal Premium) 454,975 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.06 สำหรับเบี้ยประกันภัยรับรายใหม่ ประกอบด้วย 1.) เบี้ยประกันภัยรับปีแรก (First Year Premium) 112,377 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.83 2.) เบี้ยประกันภัยจ่ายครั้งเดียว (Single Premium) 66,093 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.18 จำแนกเบี้ยประกันภัยรับรวมแยกตามช่องทางการจำหน่าย ดังนี้ 1. การขายผ่านช่องทางตัวแทนประกันชีวิต (Agency) เบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ที่ 338,920 ล้านบาท อัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.21 เมื่อเทียบกับปี 2565 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 53.50 2. การขายผ่านช่องทางธนาคาร (Bancassurance) เบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ที่ 239,112 ล้านบาท อัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.41 เมื่อเทียบกับปี 2565 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 37.75 3. การขายผ่านช่องทางนายหน้าประกันชีวิต (Broker) เบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ที่ 30,808 ล้านบาท อัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 16.19 เมื่อเทียบกับปี 2565 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 4.86 4. การขายผ่านช่องทางดิจิทัล( Digital) เบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ที่ 1,930 ล้านบาท อัตรา…
พ.ต.อ.หญิงศิริกุล ศรีสง่า โฆษกโรงพยาบาลตำรวจ พร้อมด้วย นายพงศ์พันธ์ ประภาศิริลักษณ์ รักษาการผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ร่วมพิธีเปิดโครงการ “CYC Plus รู้ รักในวัยเรียน” จัดโดย สภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย ร่วมกับ เพจ Because We Care และภาคีเครือข่าย เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการป้องกันตนเอง การให้ความช่วยเหลือ และช่องทางการส่งต่อเมื่อประสบเหตุหรือพบเห็นความรุนแรงในเด็กและเยาวชน รวมถึงพัฒนาเครือข่ายเด็กและเยาวชนให้ร่วมกันเป็นกำลังขับเคลื่อนการสร้างองค์ความรู้ในการป้องกันและลดการกระทำความรุนแรงในวัยเรียน อันเป็นการช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้เด็กและเยาวชนรอดพ้นจากปัญหาความรุนแรงทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการใช้คำพูดรุนแรงดูหมิ่นเหยียดหยาม การถูกกลั่นแกล้งในโรงเรียน การล่วงละเมิดทางเพศ การทารุณกรรม และภัยอันตรายจากสื่อสังคมออนไลน์ ทั้งนี้ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) ให้การสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมดังกล่าว มาแล้วอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, ภาคใต้ และกรุงเทพมหานคร เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสังคมในการสร้างเกราะคุ้มกันแก่เด็กและเยาวชนไทยให้ห่างไกลจากความรุนแรงทุกรูปแบบ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ณ โรงเรียนเทพศิรินทร์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร
บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ผู้ให้บริการทางพิเศษและรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินและสายสีม่วง ได้ดำเนินการออกและเสนอขายหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืนชนิดระบุชื่อ ผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน ให้กับผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ (Institutional Investors and/or High Net Worth Investors) มูลค่าเสนอขายรวม 5,000 ล้านบาท ซึ่งประสบความสำเร็จและมียอดจองมากกว่า 5.2 เท่า จากเดิมที่บริษัทตั้งเป้าหมายในการเสนอขายหุ้นกู้ที่ 3,000 ล้านบาท หุ้นกู้เพื่อความยั่งยืนของบริษัท BEM นับว่าเป็นหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืนแรกที่มีการออกและเสนอขายในปีพ.ศ. 2567 ประกอบด้วยหุ้นกู้ทั้งหมด 5 ชุด อายุ 3 – 12 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.07 % – 4.05 % ต่อปี ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ที่ระดับ “A-” เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2567 โดยมีธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และธนาคารออมสิน ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ดร.สมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM กล่าวว่า “บริษัทขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กลุ่มบริษัทประกันชีวิต กลุ่มธนาคาร และกลุ่มสหกรณ์ ที่ให้การสนับสนุนและเลือกลงทุนในหุ้นกู้ของ BEM โดยเล็งเห็นถึงความสำคัญของโครงการที่บริษัทดำเนินการอยู่ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสังคมและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เมื่อดูจากยอดจองซื้อหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืนในครั้งนี้ก็จะเห็นได้ว่านักลงทุนพร้อมที่จะสนับสนุนหาก BEM มีโครงการดี ๆ เพิ่มขึ้นในอนาคต โดยบริษัทจะมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนตามกรอบ ESG เพื่อสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งให้กับบริษัทและความยั่งยืนให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม การออกหุ้นกู้เพื่อความยั่งยืนครั้งนี้นับเป็นการออกหุ้นกู้ครั้งที่สี่ภายใต้กรอบหลักเกณฑ์การระดมทุนเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Financing Framework) ซึ่งตรงตามเกณฑ์คัดกรองทางเทคนิค (Technical Screening Criteria) ของมาตรฐานการจัดกลุ่มกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมของประเทศไทย…
ธนาคารกรุงเทพ ต่อยอดแผนรุกตลาดประกันชีวิต จับมือ เอไอเอ ประเทศไทย เปิดตัวโปรดักต์ใหม่ “บี ทูเกตเทอร์ อินฟินิท 789” ด้วยจุดเด่น “มี” เงินคืน-ครบสัญญา “ที่” จ่ายเบี้ยสั้น 7 ปีแต่คุ้มครองยาวถึงอายุ 89 ปี กรณีเสียชีวิตรับผลประโยชน์สูงสุดถึง 789% ของทุนประกัน และรับเพิ่มเป็น 2 เท่าหากเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ หาซื้อได้ที่ “เดียว” ในสาขาธนาคารกรุงเทพเท่านั้น มั่นใจดันเป็นผลิตภัณฑ์หลักด้านประกันชีวิตของปีนี้ สามารถตอบโจทย์วางแผนการเงินได้ทุก Generations ย้ำเป้าหมายเป็น “เพื่อนคู่คิด” ทุกเรื่องเงินให้ลูกค้า นางสาวพรพิมล ตรงเที่ยงธรรม ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในสถานการณ์ปัจจุบันที่สังคมไทยเข้าสู่ “สังคมผู้สูงอายุ” จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีเครื่องมือทางการที่เข้ามาช่วยตอบโจทย์การวางแผนทางการเงินที่ครอบคลุมเป้าหมายชีวิตทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งธนาคารกรุงเทพให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างมาก และได้นำมาใช้เป็นจุดตั้งต้นสำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพื่อตอบโจทย์ดังกล่าวได้อย่างครอบคลุมผ่านแนวคิด 3 Gens Solution คือการออกแบบผลิตภัณฑ์ ที่สามารถตอบโจทย์ให้กับสมาชิกทั้ง 3 กลุ่มช่วงอายุในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็น Gen ที่ 1 (Baby Boomer) รุ่นคุณปู่-คุณย่า/คุณตา-คุณยาย หรือวัยเกษียณ Gen ที่ 2 (Gen X) หรือ รุ่นคุณพ่อคุณแม่ และ Gen ที่ 3 (Gen Y และ Z) รุ่นลูกหลาน หรือกลุ่มคนรุ่นใหม่ เพื่อช่วยเป็น “เพื่อนคู่คิด” ให้กับลูกค้าของธนาคารในทุก Generations ในครอบครัว ทั้งเรื่อง Wealth Protection การสร้าง Passive Income ไปจนถึงการเตรียมความพร้อมส่งต่อมรดกให้แก่ทายาท ล่าสุดธนาคารได้ร่วมมือกับ เอไอเอ ประเทศไทย ในฐานะพันธมิตรหลักด้านประกันชีวิต เปิดตัว “ประกันชีวิต บี ทูเกตเทอร์ อินฟินิท 789”…
ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี ขานรับนโยบายภาครัฐ ร่วมสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้มากขึ้น สนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่รับงานจากหน่วยงานภาครัฐ ด้วย “สินเชื่อธุรกิจ ทีทีบี เอสเอ็มอี” วงเงินสูงสุด 2 เท่าของหลักประกัน และ “สินเชื่อแฟคตอริ่ง ทีทีบี เอสเอ็มอี” ช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจเข้าถึงการจัดซื้อจัดจ้าง สนับสนุนการส่งมอบงาน ได้เป็นคู่ค้ากับภาครัฐมากขึ้น ต่อยอดธุรกิจให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน นางสาวสุกัญญา ตรีเสน่ห์จิต รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้าบริหารความสัมพันธ์ลูกค้าเอสเอ็มอี ทีเอ็มบีธนชาต เปิดเผยว่า จากนโยบายของภาครัฐ โดยสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ สสว. ร่วมกับกรมบัญชีกลาง ที่ต้องการขยายโอกาสและสร้างรายได้เพิ่มขึ้นให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ภายใต้มาตรการสนับสนุนให้เอสเอ็มอี เข้าถึงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ (THAI SME-GP) โดยมุ่งเน้นให้หน่วยงานภาครัฐ ทำการจัดซื้อจัดจ้างผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่ขึ้นทะเบียนไว้กับทาง สสว. ทั้งนี้จากข้อมูล ณ เดือน มกราคม 2567 พบว่ามีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการ THAI SME-GP แล้วกว่า 158,235 ราย โดยภาครัฐมุ่งหวังให้มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็นไม่น้อยกว่า 50% ของงบประมาณจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงาน และหากดำเนินการได้สำเร็จตามคาดในการเพิ่มมูลค่าวงเงินที่จัดซื้อจัดจ้างได้ถึง 95,000 ล้านบาทต่อปี จะช่วยสร้างรายได้และมูลค่าทางเศรษฐกิจได้มากยิ่งขึ้น ทีทีบี ในฐานะพันธมิตรทางธุรกิจของลูกค้าเอสเอ็มอี มีความเข้าใจผู้ประกอบการเป็นอย่างดีว่าการเข้าถึงโอกาสทางการค้า คือสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการต่อยอดธุรกิจ ธนาคารจึงพร้อมสนับสนุนให้คำปรึกษาแบบองค์รวม เพื่อช่วยวิเคราะห์ วางแผน และนำเสนอแหล่งเงินทุนที่เหมาะสม เพื่อให้ลูกค้าเอสเอ็มอีเพิ่มโอกาสเข้าถึงการเป็นคู่ค้ากับภาครัฐ และสร้างความเติบโตของธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน นางกนกพร จูฑา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้าบริหารผลิตภัณฑ์ธุรกิจ และรักษาการตำแหน่ง หัวหน้าผลิตภัณฑ์สินเชื่อธุรกิจ ทีเอ็มบีธนชาต กล่าวว่า เพื่อให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี สามารถเข้าถึงโอกาสทางการค้ากับภาครัฐ ธนาคารจึงได้จัด “สินเชื่อธุรกิจ ทีทีบี เอสเอ็มอี” สำหรับผู้รับงานจากหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการคล่องตัวยิ่งขึ้น เพราะเป็นการขออนุมัติเพียงครั้งเดียว พร้อมรับวงเงินสูงสุด 2 เท่าของหลักประกัน มาพร้อมกับสินเชื่อหมุนเวียน เสริมศักยภาพและสภาพคล่องให้ธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง และ “สินเชื่อแฟคตอริ่ง ทีทีบี เอสเอ็มอี” ผ่านโปรแกรมแฟคตอริ่ง เปลี่ยนลูกหนี้การค้าเป็นเงินทุนล่วงหน้าสูงสุด 80% หลังส่งมอบงาน สมัครง่าย…
กรุงเทพ 19 กุมภาพันธ์ 2567 – ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย ได้รับ 4 รางวัลจาก The Asset Triple A Digital Awards 2024 และ The Asset Country Awards for Sustainable Finance 2024 โดยได้รางวัล Digital Bank of the Year รางวัล Best Commercial Bank รางวัล Best Corporate and Institutional Adviser และรางวัล Best Bond Advisor (International) สะท้อนความแข็งแกร่งในฐานะธนาคารดิจิทัล ตลอดจนความเชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ บริการ และโซลูชันด้านการเงินสำหรับลูกค้ากลุ่มสถาบันและธุรกิจรายใหญ่ทั่วโลก นางสาวนฤมล จิวังกูร กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย กล่าวว่า ธนาคารซิตี้แบงก์ มีความมุ่งมั่นในการส่งมอบบริการดิจิทัล แบงก์กิ้ง ที่สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยสูงสุดสำหรับลูกค้า ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริการและโซลูชันการเงิน ด้วยเทคโนโลยีล่าสุดอย่างปัญญาประดิษฐ์ (AI) แมชชีนเลิร์นนิง (Machine Learning) และระบบบล็อกเชน (Blockchain) อย่างต่อเนื่อง การได้รับรางวัล “Digital Bank of the Year” จากงาน The Asset Triple A Awards 2024 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 จึงเป็นการตอกย้ำตำแหน่งของซิตี้แบงก์ ในการเป็นธนาคารดิจิทัลชั้นนำที่มีผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าครบวงจร นอกจากนี้ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย ยังได้รับการยกย่องในฐานะธนาคารพาณิชย์และที่ปรึกษาสถาบันธนกิจยอดเยี่ยม การันตีจากรางวัล “Best Commercial Bank” รางวัล “Best…
ธ.ก.ส. หนุนการท่องเที่ยวไทยสู่ Agro-Tourism โดยดึงจุดเด่นของความงามทางธรรมชาติ วิถีชุมชน และผลิตภัณฑ์ชุมชน มาพัฒนาและต่อยอดสินค้าเกษตรสู่มาตรฐานสากล พร้อมผลักดันการยกระดับชุมชนผ่านโมเดล BAAC Agro-Tourism เชื่อมโยงชุมชนและเกษตรกรสู่การท่องเที่ยวเชิงเกษตร ตั้งเป้าสร้างฐานชุมชนท่องเที่ยว ทั่วประเทศ 97 ชุมชน และพัฒนาเครือข่ายท่องเที่ยวมากกว่า 290 ชุมชน รองรับการเติบโตการท่องเที่ยวชุมชนไปสู่ตลาดโลก ชูชุมชนบ้านสามัคคีธรรม จังหวัดกาญจนบุรี ต้นแบบชุมชนท่องเที่ยว ธ.ก.ส. นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เยี่ยมชมชุมชนบ้านสามัคคีธรรม ชุมชนท่องเที่ยว ธ.ก.ส. ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวที่สนใจเข้ามาเยี่ยมชมและสัมผัสการท่องเที่ยววิถีชุมชน ซึ่งสมาชิกชุมชนประกอบอาชีพทางการเกษตรและมีการรวมกลุ่มในการประกอบอาชีพเสริมเช่น การนำไม้ไผ่ที่มีมากในพื้นที่มาแปรรูปเป็นเฟอร์นิเจอร์ และนำวัสดุเหลือใช้จากเศษไม้ไผ่มาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ไม้ไผ่อัดภายใต้แบรนด์ V-WAN และการจักสานผลิตภัณฑ์จากไม้ไผ่ เช่น เฝือกไม้ไผ่ แก้วน้ำไม้ไผ่ และหลอดไม้ไผ่ รวมถึงการทำหน่อไม้ดองในน้ำเกลือ ที่มีการหมักตามธรรมชาติและเก็บไว้ได้นานนับปี ถือเป็นของดีชุมชนบ้านสามัคคีธรรมที่เกิดจากการนำวัตถุดิบที่มีในชุมชนมาสร้างมูลค่าเพิ่ม ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาชมกิจกรรมการเกษตรที่เกิดจากกลุ่มอาชีพต่าง ๆ แล้วยังสามารถเยี่ยมชมอ่างเก็บบ้านน้ำสามัคคีธรรมที่ได้รับการขนานนามว่า ปางอุ๋งไทรโยค ด้วยการเดินหรือปั่นเรือชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามและเงียบสงบ โดยมีคณะผู้บริหารและพนักงาน ธ.ก.ส. ในพื้นที่ให้การต้อนรับ ณ อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการ ธ.ก.ส. เปิดเผยว่า ธ.ก.ส. พร้อมสนับสนุนการพัฒนาชุมชนท่องเที่ยวและเครือข่ายชุมชนท่องเที่ยว เพื่อยกระดับการท่องเที่ยวไทยไปสู่ Agro-Tourism โดยเข้าไปสนับสนุนชุมชนในหลายมิติผ่านโครงการ D&MBA (Design and Management By Area) โดยสามารถพัฒนาลูกค้าและชุมชนไปแล้วกว่า 8,889 ราย ทั้งการเติมองค์ความรู้ด้วยโมเดล 1U1C (1 University 1 Community) โดยร่วมกับเครือข่าย ทั้งภาครัฐ เอกชนและสถาบันการศึกษา เพื่อต่อยอดการพัฒนามาตรฐานสินค้าเกษตรตลอดห่วงโซ่คุณค่าและรองรับการเติบโตใหม่ (New Business) โดยอาศัยทักษะของกลุ่มคนที่ความเชี่ยวชาญในด้านการผลิต การบริหารจัดการธุรกิจ การตลาด การพัฒนาและสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์ด้วยการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมถึงการสร้าง Platform เชื่อมโยงธุรกิจภาคการเกษตร เพื่อกระตุ้นให้เกิดการจ้างงานในชุมชน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ และนำไปสู่การจัดการและแก้ไขปัญหาหนี้สินในชุมชน นอกจากนี้ ธ.ก.ส. ยังนำจุดเด่นของชุมชนมาพัฒนา ต่อยอด…