Author: staff

เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน แถลงข่าวชี้แจงการแก้ไขเพิ่มเติมร่าง พ.ร.บ. ประกันสังคม โดยมี นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม คณะผู้บริหารกระทรวงแรงงาน คณะผู้บริหารสำนักงานประกันสังคม ร่วมแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ณ ห้องประชุมกระทรวงแรงงาน ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน ถนนมิตรไมตรี เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ชี้แจงหลักการในการเสนอร่าง พ.ร.บ. ประกันสังคม ว่าด้วยกฎหมายประกันสังคมที่ใช้บังคับในปัจจุบัน มีบทบัญญัติบางประการที่ไม่สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งนี้ จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ที่ผ่านมายังคงส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจของผู้ประกันตนในการดำรงชีพ ดังนั้น เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้ผู้ประกันตนมีหลักประกันทางสังคม และได้รับสิทธิประโยชน์ภายใต้ระบบประกันสังคมที่มีการพัฒนาเพิ่มมากขึ้น ซึ่งได้มีการผลักดัน และการเสนอร่างกฎหมาย ฉบับนี้ตั้งแต่ปี 2565 แต่มีการยุบสภา กฎหมายจึงตกไป ร่างพ.ร.บ. ประกันสังคม มีสาระสำคัญ ดังนี้ 1. การขยายความคุ้มครองให้กับผู้ประกันตนเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ โดยการขยายอายุขั้นสูงของผู้ประกันตนตามมาตรา 33 จากเดิม 15-60 ปี เป็น 15-65 ปี การให้ผู้ที่รับเงินบำนาญชราภาพสามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนต่อได้ โดยได้รับความคุ้มครองใน 3 กรณี คือ กรณีเจ็บป่วย กรณีทุพพลภาพ และกรณีตาย 2. การแก้ไขเพิ่มเติมสิทธิประโยชน์ โดยให้ผู้ประกันตนหญิงที่คลอดบุตรได้รับเงินสงเคราะห์กรณีคลอดบุตรเพิ่ม จากเดิม 90 วัน เป็น 98 วัน ซึ่งสอดคล้องกับพ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน ที่ให้ลูกจ้างหญิงสามารถลาคลอดได้เป็นระยะเวลา 98 วัน – ผู้ทุพพลภาพได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้เพิ่ม จากเดิม 50% เป็น 70% – เพิ่มความคุ้มครองกรณีสงเคราะห์บุตรในช่วง 6 เดือน ที่ผู้ประกันตนออกจากงาน – ผู้ประกันตนที่อายุไม่เกิน 60 ปี…

Read More

สมาคมประกันวินาศภัยไทย (TGIA) ลงนามบันทึกความเข้าใจกับ สถาบันพัฒนาการประกันภัยแห่งประเทศเกาหลี (KIDI) เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมประกันวินาศภัยให้มีความเติบโตก้าวหน้า มุ่งสู่ระดับสากล พร้อมพัฒนาทักษะการเรียนรู้ผ่านการจัดประชุม สัมมนา และศึกษาดูงาน แลกเปลี่ยนข้อมูลที่ทันสมัย อันก่อให้เกิดเป็นผลประโยชน์ร่วมกันทั้งสององค์กร ดร.สมพร สืบถวิลกุล นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย กล่าวว่า สมาคมประกันวินาศภัยไทย ได้จัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับ สถาบันพัฒนาการประกันภัยแห่งประเทศเกาหลี (Korea Insurance Development Institute – KIDI) เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา โดยมี Mr. Chang-Eon Heo ประธานสถาบันพัฒนาการประกันภัยแห่งประเทศเกาหลี เป็นผู้ร่วมลงนามในความร่วมมือกันครั้งนี้ของธุรกิจประกันภัยไทยและเกาหลี นับเป็นการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมประกันวินาศภัยให้มีความเติบโตก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาทักษะการเรียนรู้ผ่านการจัดประชุม สัมมนา และศึกษาดูงาน พร้อมแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ทันสมัย รวมถึงระเบียบแนวทางปฏิบัติใหม่ๆ อันก่อให้เกิดเป็นผลประโยชน์ร่วมกันกับทั้งสององค์กร ทั้งนี้ ปัจจุบันประเทศเกาหลีใต้ มีจำนวนบริษัทที่ประกอบธุรกิจประกันภัย จำนวน 42 บริษัท ประกอบด้วย บริษัทสมาชิกประกันชีวิต 22 บริษัท และบริษัทสมาชิกประกันวินาศภัย 20 บริษัท โดยในปี 2565 อุตสาหกรรมประกันภัยเกาหลีมีเบี้ยประกันภัยรับรวม 182,846 ล้านเหรียญสหรัฐ แบ่งเป็น ประกันชีวิต 88,026 ล้านเหรียญสหรัฐ และ ประกันวินาศภัย 94,820 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้มีส่วนแบ่งทางการตลาดโลก 2.7% ส่งผลให้ติดอันดับที่ 7 ของโลก และอันดับที่ 3 ในเอเชีย ซึ่งสถาบันพัฒนาการประกันภัยแห่งประเทศเกาหลี (Korea Insurance Development Institute – KIDI) เป็นองค์กรที่รัฐบาลเกาหลีจัดตั้งขึ้นเพื่อทำหน้าที่ดูแลการดำเนินงานของบริษัทประกันภัย เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของผู้ถือกรมธรรม์ รวมถึงมีส่วนร่วมในการพัฒนาอุตสาหกรรมประกันภัยบนพื้นฐานความรู้ ความเชี่ยวชาญ และความเป็นกลางระหว่างบริษัทประกันภัยกับประชาชน ก่อตั้งขึ้นในปี 1983 และขยายขอบเขตให้ครอบคลุม ไม่เพียงแต่ประกันวินาศภัยเท่านั้นแต่ยังรวมถึงประกันชีวิตด้วย ซึ่งให้บริการตามกฎหมายอุตสาหกรรมประกันภัยตั้งแต่การคำนวณและการตรวจสอบอัตราเบี้ยประกันภัยสุทธิ การจัดทำสถิติการประกันภัย การวิจัยเกี่ยวกับการประกันภัย และการดำเนินงานเครือข่ายคอมพิวเตอร์เพื่อการประกันภัย เป็นต้น…

Read More

ธนาคารกรุงเทพ รุกขับเคลื่อนโครงการ ‘Bualuang Save the Earth : รักษ์ท่าจีน’ จับมือหน่วยงานราชการท้องถิ่น และภาคีเครือข่ายชุมชน จังหวัดสมุทรสาคร ลุยติดตั้งทุ่นดักขยะ ประเดิมพื้นที่นำร่อง ‘คลองหลวงสหกรณ์ และคลองพิทยาลงกรณ์’ ตำบลโคกขาม หวังลดปริมาณขยะที่ไหลลงสู่แม่น้ำท่าจีนและอ่าวไทย ปีละกว่า 148 ตัน พร้อมเร่งศึกษาที่มาของขยะ ตั้งเป้าหมายแก้ให้ถึงต้นตอปัญหา ตอกย้ำบทบาท ‘เพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้าน’ ที่มุ่งมั่นสร้างรากฐานความยั่งยืนในทุกมิติของสังคมไทย พร้อมก้าวสู่ปีที่ 80 อย่างแข็งแกร่ง นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ และเลขานุการบริษัท ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตามที่ธนาคารได้เริ่มต้นดำเนินโครงการ ‘Bualuang Save the Earth : รักษ์ท่าจีน’ เพื่อร่วมดำเนินการแก้ไขปัญหาขยะในแม่น้ำท่าจีน ซึ่งเป็น 1 ใน 5 แม่น้ำสายหลักที่ไหลลงสู่ทะเลอ่าวไทย โดยปัจจุบันได้เริ่มดำเนินงานในระยะที่ 1 อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้ร่วมกับหน่วยงานราชการท้องถิ่น ประชาชน และชุมชนในพื้นที่ ได้แก่ จังหวัดสมุทรสาคร สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 8 สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนบน สมาคมการประมงจังหวัดสมุทรสาคร สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาสมุทรสาคร องค์การบริหารส่วนตำบลโคกขาม วัดสหกรณ์โฆสิตาราม และประชาชนในพื้นที่ เพื่อติดตั้งเครื่องมือดักขยะในพื้นที่นำร่องบริเวณคลองหลวงสหกรณ์ และคลองพิทยาลงกรณ์ ตำบลโคกขาม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร หลังจากศึกษาข้อมูลและสำรวจพื้นที่ร่วมกันพบปัญหาขยะจำนวนมากที่ไหลจากชุมชนต่างๆ มารวมบริเวณนี้ก่อนจะถูกกระแสน้ำพัดพาออกปากแม่น้ำท่าจีนและอ่าวไทย สำหรับเครื่องมือดักขยะที่ติดตั้งในครั้งนี้ จะประกอบด้วย 3 ประเภทเครื่องมือ ได้แก่ ทุ่นดักขยะ (Boom) ผลิตจากพลาสติก HDPE สีเหลือง ขนาด 0.35×0.50 เมตร พร้อมตาข่ายความยาว 15 เมตร และลึกลงไปจากผิวน้ำ 50 เซนติเมตร อายุการใช้งาน 5-7 ปี กระชังไม้ไผ่ดักขยะ เป็นโครงไม้ไผ่ติดอวน ขนาด…

Read More

ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี โดย นายปิติ ตัณฑเกษม (ที่ 2 จากขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วย นางประภาศิริ โฆษิตธนากร (ขวาสุด) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านทรัพยากรบุคคล มอบรายได้จากการจำหน่ายสลากกาชาดทีทีบี ประจำปี 2566 จำนวน 9,152,586.08 บาท ให้แก่สภากาชาดไทย โดยมีนายขรรค์ ประจวบเหมาะ (ที่ 2 จากซ้าย) ผู้อำนวยการสำนักงานจัดหารายได้ สภากาชาดไทย เป็นผู้รับมอบ ณ ทีเอ็มบีธนชาต สำนักงานใหญ่ โดยรายได้ดังกล่าวจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย เพื่อนำไปช่วยเหลือสังคมและสาธารณกุศลต่อไป

Read More

FWDประกันชีวิต ต่อยอดแบรนด์แคมเปญ ใช้ข้อมูลความสนใจของผู้คน พร้อมชวนเหล่าอินฟลูเอ็นเซอร์ ส่งต่อเรื่องราวความสุขและความสนุกในวัยเด็ก เป็นแรงบันดาลใจผ่านช่องทางออนไลน์ ชวนทุกคนไปใช้ชีวิตให้เหมือนที่เคยคิด เพราะชีวิตคิดแล้วต้องใช้ นางสาวปวริศา ชุมวิกรานต์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาด บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) (“FWD ประกันชีวิต”) “FWD ประกันชีวิต เปิดตัวแบรนด์แคมเปญ FWD PlayGrown สนามผู้ใหญ่เล่น ไปเมื่อช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา เพื่อสร้างการจดจำแบรนด์ ซึ่งในครั้งนี้เราสื่อสารความหมายในแบรนด์ของเรา ผ่านการชวนให้ทุกคนก้าวข้ามความกังวล ออกไปเล่นกับสนามผู้ใหญ่เล่น หรือ PlayGrown ซึ่งส่งผลให้ brand awareness เพิ่มขึ้น 5% จากเดือนที่ผ่านมา” จากผลตอบรับของการรับรู้แบรนด์ที่เพิ่มขึ้น และการทำงานสื่อสารแบรนด์อย่างต่อเนื่อง เพื่อทำให้แบรนด์สามารถเข้าไปอยู่ในใจของผู้คน ในครั้งนี้เราได้หยิบผลสำรวจกิจกรรมที่คนไทยช่วงอายุ 20-59 ปี สนใจมากที่สุด มาเป็นเรื่องราวในการสื่อสารให้ตรงใจ ซึ่งพบว่า กิจกรรมที่ได้รับความนิยมสูงสุด ได้แก่ การกินบุฟเฟ่ต์ การวิ่งออกกำลังกาย การเต้นรำ และการเดินทางท่องเที่ยวคนเดียว เราจึงได้นำผลมาต่อยอดสร้างเป็นสื่อเพื่อใช้ในการสร้างการรับรู้และการจดจำแบรนด์แคมเปญในครั้งนี้ โดยนำเสนอเรื่องราวที่ช่วยสร้าง inspiration จากความสุขในวัยเด็กของเหล่าอินฟลูเอ็นเซอร์ ทั้งสายกีฬา สายไลฟ์สไตล์ สายท่องเที่ยว และสายครอบครัว อาทิ แอม – ชีวิตนอกเส้นของ Ampossible.th (@ampossible.th) ที่มีความฝันอยากโตขึ้นเป็นเจ้าของกิจการจากการเล่นของเล่นที่ชอบ ธนายุทธ เติมประยูร (@pure_taichifit) หนุ่มมวยจีน กล้ามแน่น ที่ฝึกฝนตัวเองทำในสิ่งที่ชอบจากการดูหนังบู๊ และมิวกี้ (@milky_chay) เน็ตไอดอลสาวเมืองเชียงใหม่ ที่ชีวิตวัยเด็กฝันอยากจะออกไปท่องเที่ยว เปิดโลกกว้าง รวมทั้งอินฟลูเอ็นเซอร์คนอื่นๆ ที่จะมาร่วมแชร์สิ่งที่คิดอยากจะทำและความฝันในวัยเด็ก และส่งต่อแรงบันดาลใจให้ทุกคนได้ใช้ชีวิตเหมือนที่เคยคิด เพราะชีวิตคิดแล้วต้องใช้ “เพราะ FWD ประกันชีวิต เป็นแบรนด์ที่แตกต่าง โดยเราเลือกเล่าเรื่องราวของประกันชีวิตในแง่บวก เพื่อให้เกิดการจดจำแบรนด์ สำหรับแบรนด์แคมเปญตัวใหม่ของปี 2567 จึงเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนได้ย้อนมองกลับไปในความตั้งใจในวัยเด็ก สนับสนุนให้ทุกคนได้ลองกลับไปใช้ชีวิตให้เหมือนที่เคยคิด เพราะชีวิตคิดแล้วต้องใช้” นางสาวปวริศา กล่าวทิ้งท้าย

Read More

บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ TIP เปิดเผยกำไรปี 2566 ที่ 1,855 ล้านบาท เติบโต 49.8% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โชว์เบี้ยประกันภัยรับ ทำนิวไฮ ที่ 34,797 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจประกันภัยเชิงรุก มุ่งสู่การเป็นผู้นำของธุรกิจประกันภัยยุคใหม่ ด้วยการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์และยกระดับการบริการอย่างครบวงจร และสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ในส่วนของ ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ หรือ TIPH เดินหน้าขยายการลงทุนในธุรกิจประกันภัยทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างการเติบโตให้องค์กรแบบ New S-Curve ดร.สมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผลการดำเนินงานของ ทิพยประกันภัย หรือ TIP ในปี 2566 โดยมีเบี้ยประกันภัยรับรวม 34,797 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,222 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 6.8 ซึ่งถือเป็นเบี้ยประกันภัยรับต่อปีที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของ TIP ประกอบกับมีรายได้และกำไรจากเงินลงทุนรวม 837 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 143 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 20.7 ส่งผลให้ TIP มีกำไรสุทธิรวม 1,855 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 617 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 49.8 จากงวดเดียวกันของปีก่อน บริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPH มีกำไรสุทธิสำหรับปี 2566 จำนวน 1,759 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิต่อหุ้นจำนวน 2.96 บาท ด้านผลการดำเนินงานของบริษัทย่อยภายใต้กลุ่มธุรกิจสนับสนุนประกันภัย…

Read More

บริษัท ทีคิวเอ็ม อัลฟา จำกัด (มหาชน) หรือ TQMalpha รายงานผลประกอบการปี 2566 มีรายได้รวม 3,756.9 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 859.6 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 22.9% ซึ่งรายได้จากการให้บริการเติบโตต่อเนื่อง มาจากทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ประกัน ทั้งประกันรถยนต์ ประกันสุขภาพและอุบัติเหตุ ด้วยทีมขายที่มีการเสริมศักยภาพโดยการเพิ่มประสิทธิภาพพนักงานและใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการทำงานมากขึ้น พร้อมเตรียมเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นขออนุมัติจ่ายเงินปันผล 0.50 บาท ต่อหุ้น เป็นเงินรวม 300 ล้านบาท ดร.อัญชลิน พรรณนิภา ประธานบริษัท ทีคิวเอ็ม อัลฟา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า นับจากวันที่บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ TQMalpha สร้างรายได้นิวไฮได้อย่างต่อเนื่องในทุก ๆ ปี ซึ่งเป็นผลมาจากการพัฒนาด้านเทคโนโลยีเพื่อเสริมประสิทธิภาพ ควบคุมต้นทุนการดำเนินงาน การส่งเสริมศักยภาพบุคลากรอย่างต่อเนื่อง และการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจบริษัทประกันและบริษัทในเครือ ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง ทั้งในความคุ้มครองและราคาของผลิตภัณฑ์ประกันที่สามารถแข่งขันได้ โดยในปี 2567 ตั้งเป้ายอดเบี้ยประกัน 22,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2,000 ล้านบาท รวมไปถึงบริการที่เกี่ยวเนื่อง เช่น บริการด้านสินเชื่อเพื่อซื้อประกันซึ่งเติบโตได้เป็นอย่างดี ในปีนี้ TQMalpha ยังคงมุ่งพัฒนาทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ประกัน การเงิน และเทคโนโลยีแพลตฟอร์ม ให้เติบโตไปด้วยกัน สร้างความเชื่อมโยงและเกื้อหนุนกัน มุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีเข้ามาเสริมศักยภาพในกระบวนการทำงาน เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า โดยในปีนี้มีแผนการใช้ AI ในการจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า เพื่อสร้างการเติบโตขององค์กรและพัฒนาเป็น InsurTech อย่างเต็มตัว ด้านกลุ่มธุรกิจการเงิน ในปี 2566 ได้มีการปล่อยสินเชื่อเพื่อซื้อประกันให้แก่ลูกค้ากว่า 1,800 ล้านบาท โตขึ้น 100% ดร.นภัสนันท์ พรรณนิภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีคิวเอ็ม อัลฟา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “สำหรับปี 2567 คาดว่าตลาดประกันมีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก ทั้งยอดจำหน่ายรถยนต์ในปีที่ผ่านมาก็เพิ่มขึ้น…

Read More

บริษัท กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านบริษัทประกันชีวิต และสุขภาพ ร่วมกับ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) ผู้นำธุรกิจไลฟ์สไตล์เอ็นเตอร์เทนเมนต์ครบวงจร ฉลองเปิด โรงภาพยนตร์ระดับเวิลด์คลาส “Siam Pavalai Royal Grand Theatre by Krungthai-AXA Life” เพื่อสร้างประสบการณ์สุดพิเศษเหนือระดับให้กับลูกค้าคนสำคัญ พร้อมมอบโปรโมชัน และสิทธิประโยชน์ให้กับลูกค้า กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ณ ชั้น 6 พารากอนซีนีเพล็กซ์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน นางแซลลี่ โอฮาร่า ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บริษัทฯ ในฐานะผู้สนับสนุนเนมมิ่งสปอนเซอร์โรงภาพยนตร์ระดับเวิลด์คลาส Siam Pavalai Royal Grand Theatre by Krungthai-AXA Life รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ในการสนับสนุนในครั้งนี้ ทั้งนี้การสนับสนุนดังกล่าว ถือเป็นอีกหนึ่งในแผนการตลาดของบริษัทฯ ในปี 2024 Year of Double Growth เพื่อเป็นการมอบความสุข และการบริการที่เหนือระดับ พร้อมตอบแทนลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจบริษัทฯ ให้ดูแลอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ ได้จัดกิจกรรมที่หลากหลายเพื่อตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ Health Wealth Travel Lifestyle และรวมถึง Entertainment ซึ่งการรับชมภาพยนตร์ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมทางเลือกที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยความร่วมมือกับเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จะมีการจัดแคมเปญสุดพิเศษ รูปแบบใหม่ๆ พร้อมทั้งการบริการระดับเวิลด์คลาสจากโรงภาพยนตร์ Siam Pavalai Royal Grand Theatre by Krungthai-AXA Life ที่จะร่วมสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการสร้างการรับรู้ของแบรนด์ให้เติบโต สร้างประสบการณ์ การบริการที่สุดพิเศษเหนือระดับให้กับลูกค้าคนสำคัญ ของ…

Read More

บมจ.ไทยสมุทรประกันชีวิต รักคือพลังของชีวิต โดยคุณนันทวัฒน์ บุญทันเจริญพงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ และคุณอภิพงศ์ พงศ์เสาวภาคย์ Chief Agency Strategy Office ได้จัดอบรม “TRAIN THE TRAINER” ใน 4 ภูมิภาค เพื่อให้ผู้บริหารฝ่ายขายในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ รวมทั้ง Sale Coach ได้ทำความเข้าใจกระบวนการต่าง ๆ ภายใต้โครงการ Active Club ซึ่งเป็นศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยนความรู้ ระหว่างที่ปรึกษาประกันชีวิต และผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ การจัดกิจกรรมทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ ตลอดจนแนะนำการใช้เครื่องมือส่งเสริมการขายรูปแบบใหม่ ๆ และการดูแลลูกค้าโดยใช้เทคนิคการขายบนพื้นฐานความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า (Need Based Selling) เพื่อช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างผลงานอย่างยั่งยืน ล่าสุดได้จัดขึ้นกิจกรรมดังกล่าวขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ ณ โรงแรมทวินโลตัส จ.นครศรีธรรมราช ในวาระครบรอบ 75 ปี OCEAN LIFE ไทยสมุทร ช่องทางการขายผ่านที่ปรึกษาประกันชีวิต ได้ชูให้ปี 2567 เป็น “Year of Active” ที่จะมุ่งเน้น ผลักดัน ส่งเสริม และพัฒนา ให้ที่ปรึกษาประกันชีวิตยกระดับความรู้ความสามารถ เพิ่มศักยภาพในการดูแลลูกค้ารายเก่า และขยายฐานสู่กลุ่มลูกค้ารายใหม่ เพื่อสร้างผลงานและรายได้อย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน ยังมีส่วนในการสนับสนุนให้คนไทยเข้าถึงประโยชน์ของประกันชีวิตได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรสู่เป้าหมายใหญ่คือการสร้างโลกใหม่เพื่อชีวิตและสุขภาพดีของคนไทยอีกด้วย OCEAN LIFE ไทยสมุทร ไม่หยุดใช้พลังความรักพัฒนาที่ปรึกษาประกันชีวิตกว่า 14,000 คนทั่วประเทศ ให้มีความเป็นมืออาชีพที่เข้าใจความต้องการและความจำเป็นในการทำประกันชีวิตเพื่อปิดความเสี่ยงในโลกยุคใหม่ พร้อมและยินดีให้บริการมอบคำแนะนำที่ดีที่สุดกับลูกค้าทุกคน

Read More

เมืองไทยประกันชีวิตผู้นำด้านการสร้างความคุ้มครองชีวิตและสุขภาพ มอบทางเลือกในการวางแผนความมั่นคงในชีวิต ด้วย “เมืองไทยยูแอล พลัส” และ “เมืองไทยยูนิตลิงค์” มอบความคุ้มครองชีวิต เพื่อส่งต่อความมั่นคงให้คนข้างหลัง พร้อมเสริมความมั่นใจด้วยบริการระดับมืออาชีพ MTL Portfolio Management และ MTL Portfolio Consultants เพื่อสร้างแผนการเงินระยะยาว นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)  เปิดเผยว่า   จากความท้าทายที่คนไทยต้องเผชิญ ทั้งภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน อัตราเงินเฟ้อคงตัวในระดับสูง ตลอดจนการอุบัติของโรคภัยใหม่ ๆ และสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป (Global heating) ทำให้ลูกค้าเริ่มมองหาเครื่องมือทางการเงินที่มีศักยภาพมากขึ้น ทั้งในด้านการให้ความคุ้มครองชีวิตและสุขภาพ พร้อมสร้างโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุนในระดับความเสี่ยงที่เหมาะสม และมีความยืดหยุ่นมากพอในการปรับเปลี่ยนตามความต้องการในแต่ละช่วงจังหวะชีวิต บริษัทฯ ได้ทุ่มเทพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตแบบยูนิเวอร์แซลไลฟ์และยูนิตลิงค์ ตลอดจนบริการหลังการขายเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ตามแนวคิดในการเป็นคู่คิดด้านการวางแผนชีวิตและสุขภาพที่คุณวางใจ (No. 1 Most Trusted Partner in Life & Health Planning) ที่เน้นตอบโจทย์ทุกความเป็นคุณ ในทุกช่วงของชีวิต “แบบประกันชีวิตแบบยูนิเวอร์แซลไลฟ์และยูนิตลิงค์ สามารถนำมาใช้วางแผนการเงินให้เหมาะในทุกช่วงอายุตั้งแต่แรกเกิดจนถึงวัยเกษียณ ด้วยลักษณะเด่นที่มีความยืดหยุ่น สามารถเลือกความคุ้มครองชีวิตได้สูง ออกแบบได้ทั้งเบี้ยประกันภัย วงเงินความคุ้มครองชีวิต และระยะเวลาในการชำระเบี้ยประกันภัย เหมาะกับการวางแผนการเงินระยะยาว เพื่อส่งต่อความมั่งคั่งอย่างมั่นคง โดยบริษัทฯ ได้นำนวัตกรรมมาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการโดยเฉพาะการเพิ่มศักยภาพการให้บริการผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อให้คนไทยมีแผนการเงินที่เข้มแข็งพร้อมแผนสำรองที่ยืดหยุ่น ครอบคลุมความคุ้มครองพร้อมการลงทุนสำหรับการดำเนินชีวิตทั้งปัจจุบันและอนาคต”  นายสาระ กล่าว ทั้งนี้ ประกันชีวิตแบบยูนิเวอร์แซลไลฟ์ ในโครงการ “เมืองไทยยูแอล พลัส” เป็นประกันชีวิตที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกจังหวะชีวิต สามารถเลือกรับความคุ้มครองชีวิต มีการการันตีอัตราผลตอบแทนขั้นต่ำสำหรับมูลค่าการลงทุนพร้อมรับสิทธิลดหย่อนภาษีสูงสุดถึง 100,000 บาท เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังมองหาเครื่องมือทางการเงินเพื่อเก็บออมระยะยาว พร้อมกับเปิดโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น แต่รับความเสี่ยงจากการลงทุนได้น้อย รวมถึงได้รับความคุ้มครองชีวิตตลอดระยะเวลาที่ลงทุน ขณะเดียวกันก็ยังได้รับสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีควบคู่กันไปด้วย จึงนับเป็นทางเลือกการบริหารเงินที่คุ้มค่า ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้หลากหลาย สำหรับลูกค้าที่สามารถรับความเสี่ยงได้ และต้องการโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุนที่มากขึ้น สามารถเลือกประกันชีวิตควบการลงทุนในกลุ่ม “เมืองไทยยูนิตลิงค์” ได้แก่ mDesign mOne mOnePlus และ mGrow 615 ที่รวมประกันชีวิตและการลงทุนในกองทุนรวมเข้าไว้ด้วยกัน โดดเด่นด้วยความยืดหยุ่นที่ให้ลูกค้าออกแบบชีวิตได้เอง เลือกแนบสัญญาเพิ่มเติมสุขภาพได้ เลือกความยืดหยุ่นได้มากกว่า เมื่อมีเหตุฉุกเฉินก็ปรับเปลี่ยนสัดส่วนความคุ้มครองชีวิตและส่วนการลงทุนได้ เลือกความคล่องตัวได้มากกว่า สามารถหยุดพักชำระเบี้ย รวมทั้งเพิ่มหรือถอนมูลค่าการลงทุนในกองทุนรวม เลือกความสะดวกสบายได้มากกว่า ด้วยบริการพิเศษจาก  MTL Click Application เพื่อช่วยให้การวางแผนการเงินในระยะยาวเป็นเรื่องง่ายสำหรับลูกค้า “ด้วยประสบการณ์ในการดูแลลูกค้ากว่า 76 ปี และความพร้อมด้านระบบงาน บุคลากร ตลอดจนเครื่องมือบริหารการลงทุน บริษัทฯ ได้พัฒนา “MTL…

Read More