Author: staff

  ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี มอบสิทธิพิเศษสำหรับผู้ถือบัตรเครดิต ttb บัตรเครดิต ttb Global House และบัตรกดเงินสด ttb  เมื่อซื้อ Samsung Galaxy Z Fold6 | Z Flip6 ทุกรุ่นที่ร่วมรายการ สำหรับรายการแบ่งชำระ 0% pay plan นานสูงสุด 36 เดือน กับร้านค้าที่ร่วมรายการทั้งช่องทางสาขา และช่องทางออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ รับเครดิตเงินคืนรวมสูงสุด 25% รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 10% ที่ samsung.com / รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 7% ที่ TG / รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 5% ที่ True Shop  (DTAC in True Shop), True Store Online และ dtac online store / รับเครดิตเงินคืน 4% และพิเศษระหว่างวันที่ 10 ก.ค. 2567 – 31 ก.ค. 2567 รับเครดิตเงินคืน 500 บาท ที่ BaNANA, KingKong Phone, true by Com7 และ www.bnn.in.th / รับเครดิตเงินคืน 4% ที่ AIS Shop / รับเครดิตเงินคืน 3% ที่ Jaymart, advice, J.I.B และ IT CITY | CSC พร้อมรับคูปองส่วนลด…

Read More

บมจ. กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ในฐานะผู้นำบริษัทประกันที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม หรือ ‘Green Insurer’ นำโดย คุณ ลาทีฟา ซาอีด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายทรัพยากรบุคคลและการสื่อสารองค์กร แอกซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล มาร์เก็ต (แถวหลัง คนที่ 6 จากซ้าย) พร้อมด้วยคุณบุปผาวดี โอวรารินท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายทรัพยากรบุคคลและภาพลักษณ์องค์กรและการสื่อสารองค์กร (แถวหลัง คนที่ 5 จากซ้าย) สานต่อนโยบายด้าน Climate Change & Biodiversity หรือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และความหลากหลายด้านชีวภาพ จัดโครงการ “Save Our River” โดยสนับสนุนเรือไฟฟ้า (EV boat) และติดตั้งถังขยะรีไซเคิล เพื่อช่วยการจัดการขยะจากต้นทางก่อนไหลลงสู่แม่น้ำ และทะเล  ซึ่งบริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายในการช่วยลดขยะในแม่น้ำเจ้าพระยา จำนวน 43 ตันต่อปีจากการจัดการขยะบนเรือ นอกจากนั้น เรือไฟฟ้าดังกล่าวใช้พลังงานสะอาดในการขับเครื่องยนต์ ซึ่งจะสามารถช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ได้มากถึง 1,200 ตัน ต่อปี พร้อมกันนี้ พนักงานจิตอาสาของบริษัทฯ ได้รวมพลัง Hearts in Action ช่วยเก็บขยะในแม่น้ำเจ้าพระยา และพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อช่วยสร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม และป้องกันมลพิษทางน้ำก่อนไหลลงสู่ทะเล และกลายเป็นขยะทะเลที่เป็นปัญหาใหญ่ด้านสิ่งแวดล้อมในปัจจุบันซึ่งกิจกรรมดังกล่าวเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนด้านสิ่งแวดล้อม สู่ความยั่งยืนของสังคมไทย พร้อมทั้งสอดคล้องกับเป้าหมายสูงสุดของบริษัทฯ ที่จะอยู่เคียงข้างทุกความเชื่อมั่น ดูแลกันตลอดไป สำหรับท่านใดที่สนใจ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม พร้อมติดตามกิจกรรมเพื่อสังคมต่างๆ ของบริษัทฯ ได้ที่ https://www.facebook.com/Hearts.in.action.volunteersหรือ สอบถามได้ที่ ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ โทร. 1159 ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง

Read More

บมจ.ไทยสมุทรประกันชีวิต รักคือพลังของชีวิต โดยคุณนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ (CEO) และคุณสมชัย อาภรณ์ศิริพงษ์ รองกรรมการผู้จัดการ นำคณะผู้บริหารฝ่ายขายช่องทางที่ปรึกษาประกันชีวิต  เข้าร่วมงานสัมมนาครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี “THAIFA Convention 2024 : The Secret of Success”  จัดโดยสมาคมตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน(THAIFA) เพื่อพัฒนาความรู้และประสิทธิภาพในการทำงานขายของที่ปรึกษาประกันชีวิตทั่วประเทศ โดยมีวิทยากรชั้นนำมาร่วมแชร์ประสบการณ์และแบ่งปันแนวคิดในการทำงานสู่ความสำเร็จ อาทิ การทำงานด้วยความรักและความมุ่งมั่น การวางแผนการเงินและการประกันชีวิตเพื่อปกป้องครอบครัว รวมถึงการใช้แนวทาง และเทคนิคใหม่ ๆ ในการทำงานและการดูแลลูกค้าอย่างมืออาชีพ โดยงานจัดขึ้นที่ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี OCEAN LIFE ไทยสมุทร ไม่หยุดใช้พลังความรักพัฒนาที่ปรึกษาประกันชีวิตกว่า 14,000 คนทั่วประเทศ ให้มีความเป็นมืออาชีพที่เข้าใจความต้องการและความจำเป็นในการทำประกันชีวิตเพื่อปิดความเสี่ยงในโลกยุคใหม่ พร้อมและยินดีให้บริการมอบคำแนะนำที่ดีที่สุดกับลูกค้าทุกคน สนใจร่วมติดตามข่าวสาร และกิจกรรมดี ๆ ได้ที่  OCEAN CLUB APP / LINE / Facebook / Instagram / Youtube : oceanlife  เว็บไซต์ www.ocean.co.th หรือติดต่อศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์  1503

Read More

12 ก.ค. 67 กลุ่มทิสโก้ แจ้งผลประกอบการงวดครึ่งแรกของปี 2567 มีกำไรสุทธิ 3,482 ล้านบาท ลดลง 4.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า จากการตั้งค่าใช้จ่ายสำรองสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตและต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้น ท่ามกลางความท้าทายรอบด้าน ทิสโก้พร้อมเดินหน้าดูแลช่วยเหลือลูกค้าทุกกลุ่มอย่างใกล้ชิด ควบคู่กับการสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับคนไทย ในฐานะ “Your Trusted Financial Advisor” สถาบันการเงินที่คุณเชื่อมั่นไว้วางใจได้ นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ (Mr. Sakchai Peechapat, Group Chief Executive, TISCO Financial Group Public Company Limited) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 แม้จะมีแรงหนุนในภาคบริการจากการท่องเที่ยวที่ขยายตัวต่อเนื่อง ภาคการส่งออกที่เห็นสัญญาณฟื้นตัว และแรงส่งจากการใช้จ่ายภาครัฐที่เริ่มกลับมาเร่งตัวขึ้นหลังพ.ร.บ.งบประมาณปี 2567 มีผลบังคับใช้ แต่ภาพโดยรวมยังคงเปราะบางและมีปัจจัยกดดันในหลายด้าน โดยเฉพาะภาคการผลิตและการลงทุนภาคเอกชนยังขยายตัวในระดับต่ำ จากปัญหาเชิงโครงสร้างและความสามารถในการแข่งขันที่ปรับลดลง ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคชะลอตัวจากปัญหาหนี้ครัวเรือนและค่าครองชีพที่ทรงตัวในระดับสูงต่อเนื่อง ยอดขายรถยนต์ใหม่ในประเทศหดตัวลงอย่างรุนแรงจากกำลังซื้อที่ถดถอย รวมถึงคุณภาพหนี้สินที่มีแนวโน้มด้อยลง ท่ามกลางความท้าทาย ในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 กลุ่มทิสโก้มีกำไรสุทธิ 3,482 ล้านบาท ลดลง 4.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ขณะงวดไตรมาส 2/2567 มีกำไรสุทธิ 1,749 ล้านบาท ลดลง 5.7% จากไตรมาส 2 ของปีก่อนหน้า สาเหตุหลักจากการตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่เพิ่มขึ้น เพื่อรองรับความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและแรงกดดันด้านคุณภาพสินทรัพย์ ขณะที่ต้นทุนทางการเงินปรับตัวสูงขึ้นตามภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น แต่ยังได้แรงหนุนจากการเติบโตของสินเชื่อธุรกิจและสินเชื่อจำนำทะเบียนผ่านการขยายสาขาสมหวัง เงินสั่งได้ ส่วนรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจากกำไรจากเงินลงทุน ขณะที่ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจหลักชะลอตัวลงตามภาวะตลาดทุนที่ผันผวน และธุรกิจนายหน้าประกันภัยที่ซบเซา ในระยะข้างหน้า กลุ่มทิสโก้  ยังคงมุ่งดำเนินธุรกิจภายใต้ยุทธศาสตร์ “Sustainable Focus” การขับเคลื่อนองค์กรสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการเติบโตอย่างมีคุณภาพบนพื้นฐานการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างเหมาะสม พร้อมเพิ่มความระมัดระวังรอบคอบในการดำเนินธุรกิจ ขณะเดียวกันจะเดินหน้าเติมเต็มโอกาสทางการเงินเพื่อสร้างความมั่งคั่งและมั่นคงให้แก่ลูกค้า ควบคู่กับการติดตามดูแลลูกค้าในกลุ่มเปราะบางอย่างใกล้ชิด “ในช่วงที่เหลือของปีนี้ กลุ่มทิสโก้ จะเน้นดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบและเติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกับเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยวางกลยุทธ์ ESG in Action ให้สอดรับกับกระบวนการทำงานและการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะในมุมการยกระดับความเป็นอยู่และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีแก่สังคม ซึ่งที่ผ่านมาเราดำเนินการอย่างเข้มข้นเพื่อให้คนไทย “ปลดหนี้และมีเงินออม” อาทิ การจัดกิจกรรม Smart HR Fin Coach ติวเข้มความรู้การเงินให้หน่วยงานทรัพยากรบุคคล (HR) ของบริษัทนายจ้าง ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพทิสโก้ เพื่อการส่งต่อแนวทางการวางแผนทางการเงินสู่วงกว้าง นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการพัฒนาเครื่องมือเสริมทักษะทางการเงินในหลายรูปแบบ โดยเน้นให้เข้าใจง่าย สนุก และใช้งานได้จริง เพื่อให้สามารถบริหารจัดการเงินทองได้อย่างเหมาะสม ทั้งด้านการลงทุน การออม และหนี้สิน เพิ่มเติมจากกิจกรรมที่มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมฉลาดเก็บ ฉลาดใช้ กิจกรรมรู้ไว้เข้าใจหนี้ ค่ายสมหวัง สร้างโอกาส รวมถึงการให้คำปรึกษาเรื่องการรวมหนี้เพื่อช่วยให้ลูกค้ามีภาระดอกเบี้ยที่ลดลง พร้อมให้ความช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มเปราะบางในเชิงรุกผ่านการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ เป็นต้น”  สรุปผลประกอบการสำหรับงวดไตรมาส 2 และครึ่งปีแรกของปี 2567 ผลการดำเนินงานของกลุ่มทิสโก้สำหรับไตรมาส 2 ปี 2567 บริษัทมีกำไรสุทธิจำนวน 1,749 ล้านบาท ลดลง 5.7% จากไตรมาส 2 ปี 2566 สาเหตุหลักมาจากสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected Credit Loss – ECL) ที่เพิ่มขึ้นเพื่อรองรับความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่เพิ่มขึ้น ในส่วนของรายได้รวมจากการดำเนินงานเติบโต 5.5% ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการรับรู้กำไรจากเงินลงทุน และรายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจวาณิชธนกิจจากการเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 0.9% ตามสินเชื่อที่เติบโตเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ของปีก่อนหน้า ในขณะที่ต้นทุนทางการเงินยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตามทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นในตลาด ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจธนาคารพาณิชย์และธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุนฟื้นตัวเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ธุรกิจหลักทรัพย์ยังคงซบเซา เป็นไปตามมูลค่าการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่หดตัว ด้านค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานปรับตัวลดลงจากค่าใช้จ่ายพนักงานและค่าใช้จ่ายทางการตลาด สำหรับผลประกอบการงวดครึ่งปีแรกของปี 2567 กำไรสุทธิมีจำนวน 3,482 ล้านบาท ลดลง 4.5% จากครึ่งปีแรกของปี 2566 เนื่องมาจากผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected Credit Loss – ECL) ที่เพิ่มขึ้น ด้านรายได้รวมจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 3.8% จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่ขยายตัว 3.1% ตามการเติบโตของเงินให้สินเชื่อ ประกอบกับรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยปรับตัวดีขึ้น 5.5% จากกำไรจากเงินลงทุน และรายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจวาณิชธนกิจ ในขณะที่ค่าธรรมเนียมธุรกิจธนาคารพาณิชย์อ่อนตัวลง จากธุรกิจนายหน้าประกันภัย ตามปริมาณการปล่อยสินเชื่อใหม่ที่ชะลอตัว อีกทั้ง ค่าธรรมเนียมธุรกิจหลักทรัพย์ปรับลดลงตามมูลค่าการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ซบเซา ทั้งนี้ บริษัทมีอัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นเฉลี่ย (ROAE) สำหรับครึ่งปีแรกของปี 2567 อยู่ที่ 16.6% เงินให้สินเชื่อรวมของกลุ่มทิสโก้ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 มีจำนวน 233,448 ล้านบาท ลดลง 0.6% จากสิ้นปี 2566 สาเหตุหลักมาจากการชะลอตัวของสินเชื่อเช่าซื้อ สอดคล้องกับยอดขายรถยนต์ในประเทศที่หดตัวลง ในขณะที่สินเชื่อธุรกิจ สินเชื่อ SME และสินเชื่อจำนำทะเบียนยังคงขยายตัว แต่เติบโตในอัตราที่ช้าลง โดยในช่วงที่ผ่านมา บริษัทเพิ่มความระมัดระวังและรอบคอบในการปล่อยสินเชื่อใหม่ท่ามกลางสภาวะหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ณ สิ้นไตรมาสนี้ อยู่ที่ 2.4% ของสินเชื่อรวม เพิ่มขึ้นจากสิ้นปีก่อนหน้า เป็นผลมาจากการขยายสินเชื่อไปในกลุ่มที่มีอัตราผลตอบแทนสูง และผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า โดยบริษัทมุ่งเน้นการติดตามทวงถามหนี้อย่างใกล้ชิด รวมถึงดำเนินนโยบายการบริหารความเสี่ยงและตั้งสำรองอย่างรัดกุม และมีระดับค่าเผื่อสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL Coverage Ratio) อยู่ที่ 162.7% ธนาคารทิสโก้ยังคงรักษาระดับฐานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง โดยมีประมาณการอัตราเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) อยู่ที่ 20.6% สูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำ 11.0% ที่กำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย และมีอัตราเงินกองทุนชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 ต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ 18.6% และ 2.0% ตามลำดับ

Read More

  อลิอันซ์ เอเชียแปซิฟิก เปิดตัวโครงการ #SHEsecures เสริมสร้างศักยภาพผู้หญิงในอุตสาหกรรมประกันภัย ตอกย้ำความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ของอลิอันซ์​ เอเชียแปซิฟิกในเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ การไม่แบ่งแยก และความหลากหลาย   โครงการ #SHEsecures มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ทุกคนร่วมกันทำงานอย่างไม่มีการแบ่งแยก ซึ่งเป็นความท้าทายที่ผู้หญิงในแวดวงการจัดจำหน่ายประกันภัยที่มีการแข่งขันสูงและซับซ้อนต้องเผชิญ อลิอันซ์จะจัดให้มีการฝึกอบรมและการสนับสนุนด้านการศึกษาที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ โอกาสในการสร้างเครือข่ายที่เพิ่มขึ้น การนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ปรับให้เหมาะสม เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และอื่น ๆ อีกมากมายซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามนี้ อีกทั้ง ยังเป็นการเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้หญิงในอุตสาหกรรมประกันภัย เพื่อช่วยให้ผู้หญิงมีความเป็นเลิศในบทบาทของตนเอง และขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในธุรกิจ อลิอันซ์ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของผู้หญิงในอาชีพตัวแทนประกันภัย โดยท่ามกลางตลาดในเอเชียที่เติบโตอย่างรวดเร็ว หัวหน้าตัวแทนและตัวแทนของอลิอันซ์มากถึง 59% เป็นผู้หญิง ซึ่งมีส่วนในการสร้างเบี้ยประกันภัยรายปีถึง 65% ของเบี้ยประกันภัยรายปีทั้งหมด และมากถึง 70% ของผู้เข้ารอบคัดเลือก Million Dollar Roundtable (MDRT) ของอลิอันซ์เป็นผู้หญิงอีกด้วย ซึ่งตอกย้ำถึงความทุ่มเทที่สำคัญต่อความเป็นมืออาชีพ และมีบทบาทสำคัญในการปกป้องครอบครัวหลายล้านครอบครัว รวมถึงการมอบอิสรภาพทางการเงินแก่ผู้ถือกรมธรรม์และลูกค้า อนุชา ทวารัจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารประจำภูมิภาคของอลิอันซ์ เอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า #SHEsecures เป็นโครงการที่ริเริ่มเป็นโครงการแรกในธุรกิจที่ปรึกษาทางการเงิน เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะนำเสนอกิจกรรมลักษณะนี้ ซึ่งจะช่วยให้หัวหน้าตัวแทนและพนักงานผู้หญิงของเราประสบความสำเร็จทั้งในด้านอาชีพและส่วนตัว ด้วยการส่งเสริมสภาพแวดล้อมของการเรียนรู้และประสบการณ์ร่วมกัน #SHEsecures จะช่วยให้บุคคลเหล่านั้นบรรลุศักยภาพสูงสุดและสร้างสังคมที่มีความยืดหยุ่นและความหลากหลายมากขึ้น” โมหิด บาโฮเรีย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายตัวแทน กลยุทธ์ การตลาดและดิจิทัลประจำภูมิภาคของอลิอันซ์เอเชียแปซิฟิก กล่าวเพิ่มเติมว่า การให้ความสำคัญกับการเพิ่มศักยภาพให้กับตัวแทนและหัวหน้าตัวแทนของเราด้วยกิจกรรม #SHEsecures แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาและดูแลผู้ที่มีความสามารถในองค์กร เรามุ่งมั่นที่จะลงและพัฒนาในตัวพวกเขา ผ่านเวิร์กชอปพิเศษ โปรแกรมการฝึกอบรมและการพัฒนาความเป็นผู้นำที่ทันสมัย การให้คำปรึกษาและการฝึกสอนอันทุ่มเทเพื่อให้ทีมของเรามีเครื่องมือและการสนับสนุนที่จำเป็นในการบรรลุความเป็นเลิศในอาชีพ เป้าหมายของเราคือการสร้างสถานที่ทำงานที่ทุกคนทำงานร่วมกันอย่างไม่แบ่งแยก ซึ่งเรารับฟังและเห็นคุณค่าของทุกเสียงของพนักงานอย่างเท่าเทียมกัน อลิอันซ์ เอเชียแปซิฟิกจะยังคงลงทุนเพื่อการพัฒนาตัวแทนขายของเราต่อไป โดยให้การสนับสนุนที่จำเป็นในการพัฒนาทักษะที่ปรึกษาทางการเงินที่ดีที่สุดและมอบบริการที่เป็นเลิศให้กับลูกค้าของเรา”

Read More

   เอไอเอ ประเทศไทย จับมือกับ กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)) เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ กรุงศรี ประกันยูนิตลิงค์ สมาร์ท แพลน มุ่งสนับสนุนคนไทยวางแผนอนาคตด้วยแบบประกันชีวิตควบการลงทุน (ยูนิต ลิงค์) ที่ตอบโจทย์เป้าหมายทางการเงินของลูกค้าที่หลากหลาย พร้อมปกป้องความมั่งคั่งสำหรับครอบครัว และเตรียมความพร้อมเพื่อการเกษียณ หรือมอบให้เป็นของขวัญเพื่ออนาคตสำหรับลูกหลาน ซึ่งแบบประกัน กรุงศรี ประกันยูนิตลิงค์ สมาร์ท แพลน ได้ถูกออกแบบโดยต่อยอดจากความเชี่ยวชาญของเอไอเอ ในฐานะผู้นำในกลุ่มผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน (ยูนิต ลิงค์) ผสานกับความเข้าใจถึงความต้องการลูกค้าอย่างแท้จริงของธนาคารกรุงศรีอยุธยา เพื่อมุ่งส่งเสริมให้คนไทยเริ่มวางแผนทางการเงิน สำหรับอนาคตที่มั่งคั่งอย่างยั่งยืน นางสาวกมลวรรณ อิ่มฤทัยเจริญโชค ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานผลิตภัณฑ์การลงทุนและผลิตภัณฑ์ลูกค้ารายย่อย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า “กรุงศรีมุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์และโซลูชันทางการเงินที่ยึดความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ซึ่งความร่วมมือกับเอไอเอในครั้งนี้นอกจากจะเป็นอีกทางเลือกให้แก่ลูกค้าในการเพิ่มโอกาสด้านการลงทุนเพื่อความมั่นคงทางการเงินในอนาคตแล้ว ยังเติมเต็มช่องว่างระหว่างแผนที่เน้นความคุ้มครองและแผนที่เน้นผลตอบแทนอีกด้วย โดยผลิตภัณฑ์แบบประกันชีวิตควบการลงทุน กรุงศรี ประกันยูนิตลิงค์สมาร์ท แพลน ออกแบบมาให้ลูกค้าสามารถเลือกความคุ้มครองได้เอง เพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายทางการเงินที่วางแผนไว้ โดยสามารถเลือกระยะเวลาในการชำระเบี้ยประกันภัย และเลือกลงทุนผ่านสามกองทุนรวมของกรุงศรี  โดยเสนอขายผ่านสาขาของธนาคารกรุงศรีทั่วประเทศ ที่นอกจากจะให้ความสะดวกสบายแก่ลูกค้าแล้ว ยังมีเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษาเพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกออกแบบแผนการประกันและการชำระเบี้ยได้เหมาะสมกับความต้องการ ซึ่งถือเป็นจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบถ้วนทั้งในด้านความคุ้มครองและการลงทุน ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้ลูกค้าของเราได้มี “ชีวิตง่าย ได้ทุกวัน” ตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้” นางสาวศิริวรรณ มังกรกนก ผู้อำนวยการฝ่ายพันธมิตรธุรกิจ เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า “เอไอเอ และธนาคารกรุงศรีอยุธยา มีเป้าหมายเดียวกัน คือต้องการสร้างความมั่งคั่งเพื่อเสริมความมั่นคงให้กับคนไทยทุกคน ซึ่งเราเล็งเห็นถึงความสำคัญของการวางแผนการเงิน เราจึงได้ร่วมมือกันออกแบบผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน หรือ ยูนิต ลิงค์ โดยใช้ความเชี่ยวชาญด้านการประกันชีวิตของเอไอเอ ผนวกกับความเข้าใจถึงความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริงของธนาคารกรุงศรีอยุธยา ซึ่งสามารถตอบโจทย์ทั้งด้านความคุ้มครองชีวิต พร้อมสร้างโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนในระยะยาว โดย กรุงศรี ประกันยูนิตลิงค์ สมาร์ท แพลน ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าที่มีเป้าหมายหลากหลาย ทั้งกลุ่มที่ต้องการความคุ้มครอง หรือ กลุ่มที่ต้องการวางแผนเก็บเงินเพื่อการเกษียณสำหรับตัวเอง หรือกลุ่มที่ต้องการส่งต่อความมั่งคั่ง หรือให้เป็นของขวัญสำหรับบุตรหลาน ซึ่งเรามั่นใจว่าแบบประกันตัวนี้จะช่วยสนับสนุนให้คนไทยมีสุขภาพชีวิตและสุขภาพการเงินที่ดีขึ้น สอดคล้องตามคำมั่นสัญญา Healthier, Longer, Better Lives – เพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น” สำหรับผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน กรุงศรี ประกันยูนิตลิงค์ สมาร์ท…

Read More

บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR โดย นายมิ่งขวัญ ประเสริฐศิวพร (ที่ 2 จากซ้าย) ผู้ช่วยผู้จัดการงานส่งเสริมการเรียนรู้ด้านการเงิน ร่วมเป็นวิทยากรในกิจกรรม “Happy Money พี่เลี้ยงการเงิน Community Kick Off 2567” จัดโดย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพื่อแบ่งปัน แลกเปลี่ยน เรียนรู้ และแชร์ประสบการณ์จากการเป็นพี่เลี้ยงทางการเงิน ร่วมถึงเทคนิคการเป็นพี่เลี้ยงการเงินที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งในภารกิจการสร้างโอกาสทางความรู้ด้านการเงินที่ยั่งยืนให้กับผู้คนในสังคมไทย นอกจากนี้ ยังได้รับเกียรติจาก นายเศรษฐพล ธรรมจินดา(ซ้าย) ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาความรู้ตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ นายสมชาติ วิสุทธิสาย (ที่ 2 จากขวา) รองผู้อำนวยการ ฝ่าย Employee Relations สายบริหารทรัพยากรบุคคล ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ร่วมแบ่งปันประสบการณ์ของการเป็นพี่เลี้ยงทางการเงินอีกด้วย ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นในรูปแบบออนไลน์ผ่านช่องทาง Cisco Webex เมื่อเร็วๆ นี้

Read More

สมาคมประกันชีวิตไทยร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) สมาคมตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน กองทุนประกันชีวิต และบริษัทประกันชีวิต รวมพลังครั้งยิ่งใหญ่ จัดกิจกรรมปลูกป่าชายเลน เนื่องในงานวันประกันชีวิตแห่งชาติ ครั้งที่ 23 เป็นครั้งแรก เพื่อฟื้นฟูธรรมชาติให้กับสิ่งแวดล้อมทางทะเล ในวันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคม 2567 ณ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติกองทัพบก บางปู จ.สมุทรปราการ นายนิคฮิล แอดวานี ประธานการจัดงานวันประกันชีวิตแห่งชาติ ครั้งที่ 23 ประจำปี พ.ศ.2567 กล่าวว่า คณะกรรมการจัดงานวันประกันชีวิตแห่งชาติ ครั้งที่ 23 ได้มีแนวคิดที่จะจัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติสอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจตามนโยบาย ESG (Environmental (สิ่งแวดล้อม) Social (สังคม) และ Governance (ธรรมาภิบาล)) ของภาคธุรกิจประกันชีวิต ซึ่งปัจจุบันสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ โดยเฉพาะป่าชายเลนได้ถูกทำลายลงไปเป็นอย่างมาก ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของสัตว์และมนุษย์ จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คณะกรรมการจัดงานเล็งเห็นถึงความสำคัญของป่าชายเลน และได้พิจารณาจัดกิจกรรมปลูกป่าชายเลนขึ้น เพื่อเป็นการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าต้นน้ำ ซึ่งเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำ อีกทั้งยังทำหน้าที่ลดความรุนแรงของภัยธรรมชาติที่เกิดจากลมและกระแสน้ำ ช่วยรักษาระบบนิเวศชายฝั่งทะเล สำหรับเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับเยาวชนและประชาชนทั่วไปโดยกิจกรรมปลูกป่าชายเลนในครั้งนี้  ได้รับความอนุเคราะห์จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการสนับสนุนต้นแสม จำนวน 2,000 ต้น รวมถึงกองสถานพักผ่อน กรมพลาธิการทหารบก บางปู ที่เอื้อเฟื้อสถานที่จัดกิจกรรม และช่วยจัดหาต้นแสมให้อีก 6,000 ต้น รวมเป็นจำนวนต้นกล้าทั้งหมด 8,000 ต้น  โดยปลูกบนพื้นที่ป่าชายเลน 3 ไร่ ซึ่งบริเวณที่จัดกิจกรรมจะเป็นป่าชายเลนด้านหน้าชายฝั่งที่มีความสำคัญ เนื่องจากเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ทะเล และเป็นแหล่งประมงพื้นบ้านของชุมชนโดยรอบ อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ดักตะกอนดิน ซึ่งจะช่วยลดปัญหาการกัดเซาะหน้าดินของน้ำทะเล นับว่าสามารถสร้างประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างดียิ่ง ทั้งนี้ ยังได้รับความอนุเคราะห์ความสะดวกจากเทศบาลตำบลบางปู แก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมอีกด้วย นายนิคฮิล แอดวานี กล่าวเพิ่มเติมว่า สมาคมประกันชีวิตไทยมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมให้ภาคธุรกิจประกันชีวิตได้ตระหนักถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ  และร่วมกันดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม  เพื่อความยั่งยืนของระบบนิเวศ ในการจัดกิจกรรมปลูกป่าชายเลนครั้งนี้ จึงได้รับการตอบรับเข้าร่วมกิจกรรมอย่างล้นหลาม โดยมีบุคลากรในธุรกิจประกันชีวิตเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 600 คน นอกจากนี้ ในระหว่างวันที่ 20 – 21 กรกฎาคม 2567 สมาคมประกันชีวิตไทย ยังมีการจัดกิจกรรม งานวันประกันชีวิตแห่งชาติ ครั้งที่…

Read More

ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี มุ่งต่อยอดรูปแบบประกันชีวิตและประกันสุขภาพให้ครอบคลุมความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มได้มากขึ้น พร้อมจับมือพันธมิตรทางธุรกิจ พรูเด็นเชียล ประเทศไทย เปิดตัวผลิตภัณฑ์ “ประกันชีวิตและสุขภาพ ทีทีบี เหมา เหมา อัลตร้า แคร์” ออกแบบมาเพื่อดูแลลูกค้าแบบเหมา ๆ ในทุกช่วงเวลา เหมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยใน สูงสุดถึง 5 ล้านบาท หากตรวจพบโรคร้ายแรง* วงเงินความคุ้มครองผู้ป่วยในจะเพิ่มเป็น 2 เท่า เพื่อดูแลค่ารักษาสุขภาพกาย และพิเศษเพิ่มการดูแลค่ารักษาสุขภาพใจให้กับทั้งตัวลูกค้าและบุคคลในครอบครัว นอกจากนี้หากไม่มีเคลม 2 ปีต่อเนื่อง รับส่วนลดเบี้ยฯ ผู้ป่วยใน 10% ในปีถัดไป จ่ายค่าเบี้ยประกันภัยสุดคุ้มเพียง 42บาท/วัน** เพื่อช่วยลูกค้าวางแผนการใช้จ่ายได้อย่างคุ้มค่า และสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นทั้งวันนี้และอนาคต  นางสาวกนกวรรณ เพชรพิสิฐโชติ ประธานกลุ่ม บริหารผลิตภัณฑ์ธุรกรรมธนาคารและความมั่งคั่งทางการเงิน ทีเอ็มบีธนชาต เปิดเผยว่า ปัจจุบันการทำประกันสุขภาพได้รับความสนใจจากผู้บริโภคมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังสถานการณ์โควิด-19 และจากสถานการณ์ปัญหามลพิษต่าง ๆ ประกอบกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เห็นความสำคัญของการมีประกันเพื่อบรรเทาความเสี่ยงมากขึ้น เห็นได้จากสถิติการเติบโตของประกันสุขภาพในปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ปัจจุบันการรักษามีการพัฒนาไปอย่างก้าวหน้าขึ้น เช่น การผ่าตัดก็ใช้เวลาพักฟื้นน้อยลง มีเทคโนโลยีและเครื่องมือที่ทันสมัยมากขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของอัตราเงินเฟ้อของค่ารักษาพยาบาลและบริการทางการแพทย์ ที่มีราคาสูงในปัจจุบัน และมีแนวโน้มจะสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทีทีบี ในฐานะผู้นำตลาดที่ไม่หยุดนิ่ง ได้จับมือกับ พรูเด็นเชียล ประเทศไทย เดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า “ประกันชีวิตและสุขภาพ ทีทีบี เหมา เหมา อัลตร้า แคร์” ที่ถูกออกแบบมาเพื่อคุ้มครองสุขภาพแบบเหมาจ่ายในทุกช่วงเวลา ในราคาเบี้ยฯ ที่สุดคุ้ม เพื่อคุ้มครองชีวิตลูกค้าได้อย่างคุ้มค่า และเพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับลูกค้าในทุกช่วงชีวิต นายดอน จรรย์ศุภรินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานการพาณิชย์ พรูเด็นเชียล ประเทศไทย กล่าวเสริมว่า พรูเด็นเชียล ฯ ยังมุ่งหน้าในการต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและสุขภาพอย่างต่อเนื่อง  รวมไปถึงยังได้ผนึกกำลังกับ ทีเอ็มบีธนชาต หนึ่งในพาร์ทเนอร์คู่ค้าสำคัญ คิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ นำเสนอโซลูชันการวางแผนประกันชีวิตและสุขภาพให้ครอบคลุมและคุ้มค่าแก่ลูกค้ามากที่สุด ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ได้มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ทีทีบี เหมา เหมา อัลตร้า แคร์ ในรูปแบบของประกันชีวิตและสุขภาพที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมการเจ็บป่วย …

Read More

บลจ.กสิกรไทย เผยความน่าสนใจในตราสารหนี้สหรัฐฯ รับแนวโน้มเฟดลดดอกเบี้ยอีกในปีนี้ ส่ง “KFGB6MA(USD)”  ลงทุนตรงในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ระยะสั้น เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เริ่มต้นลงทุน 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ เปิดขายในวันที่ 12-17 ก.ค. นี้ นายวจนะ วงศ์ศุภสวัสดิ์, CFA, Chief Investment Officer บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า เงินเฟ้อมีแนวโน้มทยอยปรับลดลงเข้าใกล้ระดับเป้าหมายในระยะข้างหน้าอย่างค่อยเป็นค่อยไป และคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะสามารถลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายได้ 1-2 ครั้งในปีนี้ ดังนั้น การเข้าลงทุนตราสารหนี้ในจังหวะนี้ จึงมีความน่าสนใจ โดยเฉพาะการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ระยะสั้น ทั้งนี้  บลจ.กสิกรไทย ได้จัดตั้งกองทุน Term Fund อายุ 6 เดือน สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ภายใต้ชื่อ กองทุนเปิดเค พันธบัตรต่างประเทศ 6MA USD หรือ KFGB6MA(USD) โดยมีกำหนดเปิดขายในระหว่างวันที่ 12-17 กรกฎาคม 2567 “กองทุน KFGB6MA(USD) เป็นกองทุนแรกของกสิกรไทย ที่ให้ผลตอบแทนเป็นสกุลเงิน USD จากการลงทุนตรงในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ระยะสั้น ซึ่งเป็นตราสารที่มีอันดับความน่าเชื่อถือสูง การันตีได้จากอันดับเครดิต A-1+ โดย S&P ซึ่งถือเป็น International Credit Rating ที่ดีที่สุด (ที่มา: Bloomberg ณ วันที่ 2 ก.ค. 67) ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย มองว่าการเข้าลงทุนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ในจังหวะนี้จะเป็นการล็อกอัตราผลตอบแทนในระยะสั้นที่กำลังอยู่ในระดับสูงเอาไว้ได้ โดยผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนเป็นสกุลเงิน USD และได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากการขายหน่วยลงทุนคืนเมื่อกองทุนครบกำหนดอายุโครงการ” นายวจนะกล่าว นายวจนะกล่าวเพิ่มเติมว่า กองทุน KFGB6MA(USD) เหมาะสำหรับผู้ลงทุนบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ที่มีเงินสดหมุนเวียนอยู่ในสกุลเงิน USD…

Read More