บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต นำโดย คุณนิสิต สีหะวงษ์ Head of Customer Relations & Event Management (แถวหน้า คนที่ 6 จากซ้าย) จัดกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ “ไหว้พระเสริมดวงครึ่งปีหลังกับหมอช้าง ทศพร ศรีตุลา” พาลูกค้าขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองที่ศาลหลักเมืองกรุงเทพมหานคร และไหว้พระวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เพื่อความเป็นสิริมงคลให้มีความเจริญรุ่งเรืองทั้งในเรื่องของชีวิตและหน้าที่การงาน รับฟังดวงตามลักขณาราศีต่างๆ ในครึ่งปีหลัง พร้อมร่วมรับประทานมื้อเที่ยงที่ร้านอาหารหอสมุทร โดยกิจกรรมได้สร้างความสนุกสนาน และส่งมอบความประทับใจให้กับลูกค้าคนสำคัญ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของบริษัทฯ ที่จะอยู่เคียงข้างทุกความเชื่อมั่น ดูแลกันตลอดไป สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามกิจกรรมลูกค้าเพิ่มเติมได้ที่ https://ktaxa.live/customer-activity-pr หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกิจกรรม การบริการ และผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ได้ที่ โทร 1159 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง
Author: staff
ดร.สมพร สืบถวิลกุล นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย เปิดเผยว่า จากการแถลงข่าวร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) และ กองทุนประกันวินาศภัย เรื่องการดำเนินการด้านการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชนผู้เอาประกันภัยกรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยของ บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) นับตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นมา ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบกับผู้ที่ทำประกันภัยที่ยังมีผลบังคับใช้อยู่นั้น สมาคมประกันวินาศภัยไทย จึงได้ประสานความร่วมมือกับบริษัทสมาชิกของสมาคมฯ เข้าร่วมใน “โครงการบรรเทาผลกระทบต่อผู้เอาประกันภัยที่มีสัญญาประกันภัยกับบริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน)” เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยให้ได้รับความคุ้มครองจากกรมธรรม์ประกันภัยอย่างต่อเนื่อง และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับธุรกิจประกันวินาศภัยอีกทางหนึ่งด้วย การดำเนินการเพื่อช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบต่อผู้เอาประกันภัย กรณีเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) ผู้เอาประกันภัยสามารถเลือกดำเนินการได้ 2 กรณี ดังนี้ กรณีที่ 1 ผู้เอาประกันภัยติดต่อซื้อประกันภัยกับบริษัทประกันภัยที่เข้าร่วมโครงการ(กรมธรรม์ประกันภัยของบริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) สิ้นสุด ณ วันที่ซื้อกรมธรรม์ประกันภัยใหม่) ผู้เอาประกันภัยสามารถนำค่าเบี้ยประกันภัยที่มีสิทธิได้รับคืนตามระยะเวลาที่เหลืออยู่มาใช้แทนเงินสดในการซื้อกรมธรรม์ประกันภัยใหม่ กับบริษัทประกันวินาศภัยที่เข้าร่วมโครงการช่วยเหลือผู้เอาประกันภัย ซึ่งจะช่วยให้ผู้เอาประกันภัยจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยเพียงบางส่วน ตามระยะเวลาความคุ้มครองที่เพิ่มเติมขึ้นมา โดยบริษัทประกันวินาศภัยที่เข้าร่วมโครงการจะทำหน้าที่รับภาระในการไปเรียกร้องค่าเบี้ยประกันภัยคืนจากกองทุนประกันวินาศภัยเอง ทั้งนี้ ผู้เอาประกันภัยที่มีกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ และกรมธรรม์ประกันภัยประเภทอื่น ๆ ที่ยังมีผลบังคับใช้อยู่ สามารถดำเนินการติดต่อทำประกันภัยฉบับใหม่ ได้ที่บริษัทประกันภัยที่เข้าร่วมโครงการ ดังนี้ ผู้เอาประกันภัยติดต่อขอซื้อกรมธรรม์ประกันภัยฉบับใหม่ กับบริษัทประกันวินาศภัยที่เข้าร่วมโครงการฯ โดยวันเริ่มต้นความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันภัยฉบับใหม่ ให้ถือว่าเป็นวันสิ้นสุดของกรมธรรม์ประกันภัยฉบับเดิม (ระยะเวลาความคุ้มครอง 1 ปี) บริษัทประกันวินาศภัยจะคำนวณเบี้ยประกันภัยตามกรมธรรม์ประกันภัยฉบับใหม่ที่มีระยะเวลาความคุ้มครอง 1 ปี และจะคำนวณเบี้ยประกันภัยตามกรมธรรม์ประกันภัยฉบับเดิมในส่วนที่มีสิทธิได้รับคืนตามระยะเวลาที่เหลืออยู่ (เบี้ยประกันภัยสำหรับกรมธรรม์ประกันภัยฉบับเดิมที่นำมาคำนวณเป็นเบี้ยประกันภัยสุทธิ ไม่รวมภาษีและอากร) ผู้เอาประกันภัย โอนสิทธิเรียกร้องค่าเบี้ยประกันภัยที่มีสิทธิได้รับคืนจากกองทุนประกันวินาศภัย (ตามระยะเวลาที่เหลืออยู่) ให้บริษัทประกันวินาศภัยที่รับประกันภัยใหม่ บริษัทประกันวินาศภัยเรียกเก็บค่าเบี้ยประกันภัยจากผู้เอาประกันภัย หักด้วยเบี้ยประกันภัยที่มีสิทธิได้รับคืน บริษัทประกันวินาศภัยรับภาระการไปเรียกเงินค่าเบี้ยประกันภัยคืนจาก กองทุนประกันวินาศภัย แทนผู้เอาประกันภัย ในกรณีที่ผู้ถือกรมธรรม์ประกันภัยของบริษัท สินมั่นคงประกันภัยฯ ไม่ประสงค์จะซื้อกรมธรรม์ประกันภัยใด ๆ ผู้เอาประกันภัยสามารถติดต่อไปที่ “กองทุนประกันวินาศภัย” เพื่อยื่นขอรับชำระหนี้ได้ ตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน 2567 ถึง วันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 ตามช่องทางที่กองทุนประกันวินาศภัยประกาศกำหนด…
ทิพยประกันภัย จัดโครงการทิพยสืบสาน รักษา ต่อยอด นวัตกรรมศาสตร์พระราชา ครั้งที่ 42 พาครูอาจารย์ นักเรียน และผู้ที่สนใจ ถอดรหัสนวัตกรรม “เกษตรสองน้ำ” ณ โครงการฟาร์มทดสอบและสาธิตมีนเกษตร “สองน้ำ” มูลนิธิชัยพัฒนา ตำบลท่าไข่ จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อเผยแพร่แนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามศาสตร์พระราชา โครงการฟาร์มทดสอบและสาธิตมีนเกษตร “สองน้ำ” เป็นตัวอย่างอันโดดเด่นของการพัฒนาแบบองค์รวมตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยโครงการนี้ได้นำเสนอแนวคิดการบริหารจัดการการเกษตรบนพื้นที่ “สองน้ำ” อันหมายถึงพื้นที่ที่มีทั้งน้ำจืด และน้ำเค็ม หรือน้ำกร่อย สะท้อนให้เห็นถึงการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างชาญฉลาด นอกจากนี้ ยังมีการทำเกษตรแบบผสมผสาน การแปรรูปผลิตภัณฑ์ และการใช้พลังงานทดแทน แสดงให้เห็นถึงการบูรณาการความรู้จากหลากหลายศาสตร์เพื่อสร้างระบบที่ยั่งยืน หนึ่งในภารกิจสำคัญของโครงการ คือการพัฒนาการเลี้ยงกุ้งแบบไม่ใช้สารเคมี และไม่เติมจุลินทรีย์ลงในน้ำ เพื่อให้สัมพันธ์กับวงจรชีวิตสัตว์น้ำ และวงจรห่วงโซ่อาหาร ผ่านการบูรณาการศาสตร์แขนงต่าง ๆ เช่น นิเวศวิทยา ปฐพีวิทยา อุตุนิยมวิทยา ซึ่งเป็นการผสมผสานศาสตร์ความรู้ และเทคนิคการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำสมัยใหม่ เข้ากับภูมิปัญญาชาวบ้าน เพื่อให้ได้ผลผลิตสัตว์น้ำที่ปลอดภัย และเกษตรกรสามารถนำไปประกอบอาชีพพึ่งพาตนเองได้ โดยกระบวนการเพาะเลี้ยงต่าง ๆ สามารถบำบัดตัวเองให้กลับคืนสู่สภาพสมดุลได้อย่างปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การจัดการพื้นที่สองน้ำนี้ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจในระบบนิเวศท้องถิ่น แต่ยังสะท้อนถึงหลักการทรงงานของในหลวงรัชกาลที่ 9 ในการ “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” โดยการศึกษาและเข้าใจสภาพแวดล้อม ก่อนที่จะพัฒนาให้สอดคล้องกับบริบทพื้นที่ ผ่านการประยุกต์ใช้ทั้งเทคโนโลยีสมัยใหม่ และภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สำคัญ โครงการนี้ไม่เพียงแต่มุ่งเน้นการพัฒนาด้านเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังคำนึงถึงมิติทางสังคมและสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง การผลิตอาหารที่ปลอดภัยและยั่งยืนในโครงการนี้ยังช่วยสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับชุมชน นางวิชชุดา ไตรธรรม ที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ว่า “โครงการนี้ จะทำให้ผู้เข้าร่วมโครงการฯ ได้เข้าใจถึงความสำคัญของการปรับตัว และความยืดหยุ่นในการรับมือกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นในการวางแผนชีวิตและอาชีพ นอกจากนี้ โครงการยังแสดงให้เห็นถึงพลังของการบูรณาการความรู้ โดยการผสมผสานความรู้จากหลายศาสตร์และภูมิปัญญาท้องถิ่นเข้าด้วยกัน อีกทั้งยังได้เห็นตัวอย่างของการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า โดยการใช้พื้นที่และทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด” นางวิชชุดา กล่าวเสริมว่า “โครงการนี้ได้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของแนวคิดการพัฒนาที่สมดุลทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งสามารถนำไปปรับใช้ในการวางแผนชีวิตและอาชีพที่คำนึงถึงผลกระทบระยะยาวได้ ดังนั้น โครงการฟาร์มทดสอบและสาธิตมีนเกษตร “สองน้ำ” นี้ จึงไม่เพียงแต่เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการเกษตรเท่านั้น แต่ยังเป็นแบบอย่างของการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในทุกมิติของชีวิตด้วย”…
นายวรัญญู ศิลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วยนายสุธี สมาธิกรรมการผู้จัดการ บริษัท สหการประมูล จำกัด (มหาชน) หรือ AUCT ให้การต้อนรับและมอบของที่ระลึกแด่นายสุวัชชัย ใจข้อ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารข้อมูลและดาต้าอนาไลติกส์ ธนาคารแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยทีมงาน ในโอกาสร่วมประชุมเพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ตลาดรถยนต์มือสอง ทั้งเรื่องปริมาณรถยนต์ที่เข้าประมูล ราคาขาย รวมทั้งปัจจัยต่าง ๆ ที่มีผลต่อภาวะและแนวโน้มของอุตสาหกรรมยานยนต์ รวมถึงข้อเสนอแนะเชิงนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อภาครัฐบาลและ ธปท. เพื่อจัดเก็บข้อมูลภายใต้โครงการแลกเปลี่ยนข้อมูลเศรษฐกิจและธุรกิจ ระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทยกับภาคธุรกิจ ปี 2567
บริษัท แรบบิท ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ Rabbit Life เร่งเครื่องรับครึ่งปีหลัง เดินเกมรุกตลาดประกันออนไลน์ (Digital Insurance) อัปเลเวลบริการช่องทางการขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์รูปแบบใหม่ ตอบรับอินไซต์ผู้บริโภคปัจจุบันที่มีสถิติการใช้งานออนไลน์สูงถึง 88% จากจำนวนประชากรทั้งประเทศ เพื่อขยายศักยภาพการเติบโตสู่ประกันยุคใหม่รับเทรนด์ดิจิทัลไลฟ์ และสร้าง New Experience ในการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าคนสำคัญได้อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมชูกลยุทธ์ 5 ด้าน ตอบโจทย์ ที่สุดทุกความต้องการ ได้แก่ ที่สุดด้านผลตอบแทน, ที่สุดด้านความหลากหลาย, ที่สุดด้านความคุ้มค่า, ที่สุดด้านความคุ้มครอง และที่สุดด้านประสบการณ์การใช้งาน ตอกย้ำผู้นำประกันชีวิตออนไลน์ ที่ให้คุณสุดทุกความต้องการ โดยตั้งเป้ายอดขายเติบโตสูงขึ้นกว่า 50% ในปี 2567 นายกรณ์ ชินสวนานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แรบบิท ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “แรบบิท ประกันชีวิตได้เปิดช่องทางการขายออนไลน์นับตั้งแต่ปี 2565 และ มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงมกราคม –เมษายน 2567 มีสัดส่วนการเติบโตของช่องทางออนไลน์เติบโตขึ้นถึง 90% สอดรับกับเทรนด์ของผู้บริโภคในปัจจุบันที่ใช้ดิจิทัลเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน โดยผลสำรวจจาก We Are Social พบว่าประเทศไทยมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตรวม 63.21 ล้านคน คิดเป็น 88% จากจำนวนประชากรทั้งหมด สะท้อนให้เห็นพฤติกรรมผู้บริโภคที่เกิดการเปลี่ยนแปลงและมีความต้องการที่หลากหลาย โดยเฉพาะความคาดหวังด้านเทคโนโลยีที่จะสามารถอำนวยความสะดวกและความรวดเร็วในการรับบริการต่างๆ แรบบิท ประกันชีวิต ในฐานะประกันของคนยุคใหม่ที่คิดแตกต่าง เพื่อยกระดับชีวิต ด้วยประกันชีวิตที่ตอบโจทย์และเข้าใจง่าย จึงได้เดินหน้ารีโนเวทบริการและช่องทางขายสำหรับการซื้อผลิตภัณฑ์ออนไลน์เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า ตอกย้ำการเป็นผู้นำประกันชีวิตออนไลน์ ที่ให้คุณสุดทุกความต้องการ ” แรบบิท ไลฟ์ ปรับโฉมช่องทางออนไลน์รูปแบบใหม่ มาพร้อมกับการดีไซน์ฟังก์ชันการใช้งานที่ทันสมัยและตอบโจทย์ พร้อมให้บริการผ่าน Self Service ด้วยตนเองได้อย่างง่ายดายตลอด 24 ชั่วโมง นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถซื้อผลิตภัณฑ์และเข้าถึงการใช้งานได้อย่างครบวงจร ทั้งการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล การวิเคราะห์ และนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้แก่ลูกค้าได้ตอบโจทย์และมีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมชูกลยุทธ์ ที่สุดทุกความต้องการ ผ่านสิทธิประโยชน์ 5 ด้าน เพื่อให้ลูกค้าคนสำคัญได้รู้สึกประทับใจทุกครั้งที่เลือกซื้อผลิตภัณฑ์กับแรบบิท…
นายอรรถวิท รักจำรูญ กรรมการฯ รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) รับมอบเงินสนับสนุนการจัดซื้อรถวีลแชร์ จำนวน 50,000 บาท จาก บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) โดยมีนางสาวกานดา วัฒนายิ่งสมสุข ที่ปรึกษาฝ่ายการตลาด เป็นผู้แทนมอบ เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยด้อยโอกาสที่มีปัญหาด้านการเคลื่อนไหว ให้สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างสะดวกและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ภายใต้โครงการ “ทุกการเดินทางขับเคลื่อนความสุขสู่คนไทยด้วยวีลแชร์” ซึ่งจัดขึ้นเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนา บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ครบรอบ 94 ปี “Change for The Better : เปลี่ยนเพื่อสิ่งที่ดีกว่า” ณ อาคารสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) ถนนกำแพงเพชร 2 กรุงเทพมหานคร
บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR โดย นายมิ่งขวัญ ประเสริฐศิวพร ผู้ช่วยผู้จัดการงานส่งเสริมการเรียนรู้ด้านการเงิน (ซ้าย ล่าง)เป็นตัวแทนเปิดบ้านต้อนรับคณะผู้บริหารและพนักงานจาก บริษัท บริหารสินทรัพย์ อัลฟาแคปปิตอล จำกัด จำนวน 10 ท่าน เข้าร่วมกิจกรรม Financial Education Program for Social Impact เพื่อร่วมเรียนรู้ แนวคิด และวิธีการจัดกิจกรรมความรู้ทางการเงินให้กับประชาชน ผ่านการทำเวิร์กชอปที่เข้มข้น พร้อมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับทีมงานอาสาอย่างใกล้ชิด เพื่อแชร์ประสบการณ์ตรงในการทำกิจกรรมส่งเสริมความรู้ทางการเงิน นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมฯ ยังได้เข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมความรู้ด้านการเงินของ บมจ.เงินติดล้อ ภายใต้โครงการ “นำความรู้สู่ชุมชน เพื่อชีวิตหมุนต่อได้” ให้กับชาวชุมชนบึงพระราม 9 พัฒนา กทม. ร่วมเรียนรู้วิธีการและขั้นตอนการจัดกิจกรรมจากสถานการณ์จริง เพื่อให้เกิดความเข้าใจและสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ในการสร้างโครงการส่งเสริมความรู้ด้านการเงินให้กับองค์กรของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป ทั้งนี้ หลักสูตร Financial Education Program for Social Impact(ความรู้ด้านการเงินเพื่อชีวิตหมุนต่อได้) ถือเป็นหนึ่งในหลักสูตรภายใต้ “TIDLOR Academy” จัดขึ้นสำหรับบุคคลหรือหน่วยงานภายนอกที่สนใจและให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความรู้การเงินให้กับประชาชน ผ่านแนวคิดและประสบการณ์จริงในแบบฉบับเงินติดล้อ เพื่อเป็นแนวทางให้กับหน่วยงานต่างๆ ในการส่งต่อโอกาสความรู้การเงินให้กับประชาชนเพื่อสังคมที่ดีขึ้นต่อไปสำหรับหน่วยงานผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-792-1990 หรือ Email Academy@tidlor.com และสามารถเยี่ยมชมข้อมูลเงินติดล้อได้ที่ www.tidlor.com หรือ Facebook Fan page เงินติดล้อ
ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน)กราบอาราธนาท่านเจ้าคุณพระวิเทศวัชราจารย์ (พระครูอินเดีย) เลขานุการหัวหน้าพระธรรมทูต สายประเทศอินเดีย-เนปาล เจ้าอาวาสวัดสิทธารถราชมณเฑียร สาธารณรัฐอินเดีย ด้วยความเคารพและศรัทธา มาสาธยายธรรมในหัวข้อ วิถีธรรม วิถีแห่งการดำเนินชีวิต โดยเผยแผ่หลักคำสอนของพระพุทธเจ้า อาทิ มงคล 38 ประการ หลักอิทธิบาท 4 เพื่อให้เกิดความเข้าใจและสามารถนำไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันทั้งชีวิตส่วนตัวและการทำงานได้อย่างสมดุล พร้อมเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เพื่อการเรียนรู้ของกรุงเทพประกันภัย และให้การต้อนรับนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) นายอภิศักดิ์ ธนเศรษฐกร กรรมการบริหาร บริษัท ไทยนิวส์ เน็ตเวิร์ค (ทีเอ็นเอ็น) จำกัด และผู้บริหารซึ่งเป็นพันธมิตร เข้าร่วมเยี่ยมชมและฟังการสาธยายธรรมดังกล่าว ณ อาคารกรุงเทพประกันภัย ถนนสาทรใต้ เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2567
บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต ผู้นำในธุรกิจประกันชีวิตและสุขภาพของไทย เปิดตัวแคมเปญ “พร้อมทุกเกมพลิก” ดึงธีมโอลิมปิกสร้างกระแสการรับรู้ กระตุ้นคนไทยให้เห็นความสำคัญของการทำประกันสุขภาพให้พร้อม ก่อนเกิดวิกฤติ นางสาวพัชรา ทวีชัยวัฒนะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารงานลูกค้า บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต กล่าวว่า ด้วยสภาพแวดล้อมปัจจุบันของโลก และไลฟ์สไตล์ที่ก่อให้เกิดความเครียดที่เพิ่มขึ้น ส่งผลต่อการเกิดโรคภัยไข้เจ็บมากมาย อลิอันซ์ อยุธยา ในฐานะผู้นำในธุรกิจประกันชีวิตและสุขภาพของไทย ได้ตอกย้ำถึงความจำเป็นของการมีประกันสุขภาพมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้คนไทยได้ตระหนักและพร้อมรับมือกับสถานการณ์ความไม่แน่นอนด้านสุขภาพ โดยล่าสุดปีนี้ ในโอกาสที่กลุ่มอลิอันซ์เป็นพันธมิตรระดับโลกอย่างเป็นทางการให้กับการแข่งขันโอลิมปิกและพาราลิมปิก อลิอันซ์ อยุธยา จึงได้ต่อยอดธีมมหกรรมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่กำลังเป็นกระแสความสนใจของคนทั่วโลก มาเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญการตลาด ด้วยการชวนคนไทย เตรียมพร้อมรับมือโรคร้าย ภายใต้แคมเปญ ‘พร้อมทุกเกมพลิก’ แคมเปญ ‘พร้อมทุกเกมพลิก’ สื่อสารความจำเป็นของการมีประกันสุขภาพ ผ่าน 3 เรื่องราวเกมพลิกของมนุษย์วัยทำงาน ชวนให้ฉุกคิดถึงความไม่แน่นอนที่อาจจะเกิดขึ้นได้กับทุกคนผ่านการใช้ “สถิติโรค” โดยเรื่องแรก “เส้นชัย” เรื่องของผู้ชายวัยกลางคนที่มีลูกมาเชียร์ขณะวิ่งมาราธอน แต่เกิดล้มหมดสติก่อนถึงเส้นชัย และพบเป็นโรคหัวใจ เรื่องที่สอง “ไลฟ์สด”เรื่องของแม่ค้าออนไลน์ ที่เกิดมีเลือดกำเดาไหลขณะไลฟ์ และตรวจพบมะเร็งโพรงจมูก และเรื่องที่สาม “โบนัส” พนักงานบริษัทกำลังคุยโทรศัพท์กับคุณแม่ขณะอยู่ในลิฟท์ แต่เกิดล้มหมดสติ และตรวจพบว่าเป็นโรคหลอดเลือดสมอง โดยทั้ง 3 เรื่องราวนี้ถูกพัฒนาเป็นหนังโฆษณาความยาว 30 วินาที และ 15 วินาที เพื่อสื่อสารบนสื่อช่องทางต่างๆ ทั้งทาง โทรทัศน์ และบนสื่อออนไลน์ โดยมี คุณภาคย์ วรรณศิริ Chief Creative Officer บริษัท VML Thailand เป็นผู้คิดคอนเซปต์แคมเปญครั้งนี้ นอกจากนั้น ควบคู่ไปกับการสื่อสารแคมเปญ ‘พร้อมทุกเกมพลิก’ อลิอันซ์ อยุธยา ได้ตอกย้ำถึงผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพสุดคุ้ม ประกัน สุขภาพ ปลดล็อค “ดับเบิลแคร์” เป็นผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพเหมาจ่ายที่ให้ความคุ้มครองแบบดับเบิ้ลเมื่อตรวจพบว่าเป็นโรคร้ายแรง ให้ความคุ้มครองนานถึงอายุ 90 ปี มีทั้งหมด 3 แผน ประกอบด้วย แผน…
นางสาวสุชาวดี แสงอนงค์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กรุงไทยพานิชประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ เคพีไอ เข้ารับมอบใบประกาศเกียรติคุณ “CAC” จากงาน CAC Certification Ceremony 2024 ภายใต้หัวข้อ “Business Beyond CAC: Spotlight on Supply Chain” หรือ “ห่วงโซ่ธุรกิจโปร่งใส ภาคธุรกิจไทยยั่งยืน” เพื่อมอบใบประกาศนียบัตรให้แก่บริษัทเอกชนที่ผ่านการรับรองจาก CAC ตอกย้ำจุดยืนสู่สาธารณชน ในการเป็นสมาชิกแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชัน เพื่อรับรองว่า เคพีไอ เป็นบริษัทที่มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจบนหลักธรรมาภิบาล ดำเนินธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใส ตรวจสอบได้ ปราศจากการคอร์รัปชันในองค์กร โดยมีดร.กุลภัทรา สิโรดม ประธานกรรมการ สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (Thai IOD) เป็นประธานในพิธี เมื่อวันศุกร์ที่ 12 กรกฎาคม 2567 ณ โรงแรมนิกโกกรุงเทพฯ เคพีไอ ให้ความสำคัญและยึดมั่นต่อการปฏิบัติตามนโยบายและแนวปฏิบัติในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน ภายใต้พันธสัญญาการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงหลักบรรษัทภิบาลที่ดี มีความซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ โดยยึดถือนโยบายป้องกันการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันอย่างเคร่งครัด และเป็นแนวร่วมในต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันในทุกรูปแบบ CAC Certification Ceremony 2024 จึงเป็นเวทีแห่งการประกาศความสำเร็จ ของการสร้างสังคมไร้คอร์รัปชันซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกองค์กร ทุกภาคส่วน เป็นห่วงโซ่ของภาคธุรกิจเอกชนที่เริ่มจากการสร้างความโปร่งใสภายในองค์กรแล้วค่อยขยายวงกว้างสู่ Supply Chain และขยายความโปร่งใสไปยังภาคธุรกิจให้มากขึ้น จนทำให้ภาคธุรกิจไทยมีความแข็งแกร่งปราศจากการคอร์รัปชันได้อย่างยั่งยืน ปัจจุบัน มีบริษัทที่ร่วมประกาศเจตนารมณ์ในการต่อต้านคอร์รัปชันและเข้าเป็นสมาชิกของ CAC แล้วกว่า 1,600 บริษัท มีบริษัทที่ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการ CAC แล้วจำนวน 555 บริษัท