Author: staff

   ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี จัดโปรโมชันอิ่มอร่อยคุ้มค่าให้แก่ผู้ถือบัตรเครดิต ttb เอาใจสาย Korean Food Lover กับแคมเปญ “อิ่มจัง ซารังเฮ” คัดมาเน้น ๆ กับ 30 ร้านเกาหลี อาทิ ร้าน BORNGA, ร้าน CHIBING CHICKEN AND BINGSU, ร้าน CHOONGMAN CHICKEN, ร้าน DAMEE KOREAN CUISINE, ร้าน DOOKKI TOPOKKI, ร้าน DREAM PREMIUM KOREAN BBQ BUFFET, ร้าน GULJAK TOPOKKI CHICKEN, ร้าน NICE TWO MEAT U เป็นต้น ระหว่างวันที่ 1 ก.ค. 2567 – 30 ก.ย. 2567 รับสิทธิพิเศษ 3 ต่อ ดังนี้ สิทธิพิเศษ 1 : รับส่วนลดสูงสุด 10% หรือ สิทธิพิเศษอื่น ๆ สำหรับร้านอาหารที่ร่วมรายการ สิทธิพิเศษ 2 : รับเครดิตเงินคืน 100 บาท เมื่อมียอดใช้จ่ายครบ 1,200 บาทขึ้นไป / เซลล์สลิป สำหรับบัตรเครดิต ttb ทุกประเภท เพียงลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิ์ผ่านแอป ttb touch หรือส่ง SMS พิมพ์ KORC ตามด้วยหมายเลขบัตรเครดิต 12 หลักสุดท้าย ส่งมาที่ 4806026 (3…

Read More

เศรษฐกิจโลกเริ่มส่งสัญญาณชะลอลงตามคาด ภาพรวมกิจกรรมเศรษฐกิจของประเทศพัฒนาแล้วชะลอตัวทั้งภาคบริการและภาคการผลิต ขณะที่กิจกรรมเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาชะลอตัวจากภาคบริการเป็นหลัก ขณะที่ภาคการผลิตเร่งตัวขึ้นเล็กน้อย ในปีนี้การเลือกตั้งทั่วโลกยังเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องจับตา ผลการเลือกตั้งในสหราชอาณาจักรมีแนวโน้มจะทำให้นโยบายเศรษฐกิจเปลี่ยนจากเดิม โดยพรรคแรงงานที่ชนะการเลือกตั้งอาจเน้นการใช้จ่ายและลงทุนภาครัฐเพิ่มขึ้น เปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจสีเขียว เก็บภาษีผู้มีรายได้สูงเพิ่ม และหันมาฟื้นฟูการค้ากับสหภาพยุโรปมากขึ้น ขณะที่ผลการเลือกตั้งในฝรั่งเศสจะทำให้ความไม่แน่นอนทางการเมืองสูงขึ้นและความพยายามปฏิรูปเศรษฐกิจที่ดำเนินมาอาจทำได้ไม่ต่อเนื่อง เพราะไม่มีกลุ่มการเมืองใดได้ที่นั่งเบ็ดเสร็จ และแต่ละกลุ่มมีทิศทางนโยบายต่างกันมาก ในระยะข้างหน้าการเลือกตั้งในสหรัฐฯ จะเป็นประเด็นสำคัญต่อเศรษฐกิจและการค้าโลก นโยบายการเงินโลกจะลดความตึงตัวลงในช่วงครึ่งปีหลัง SCB EIC ประเมินว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในเดือน ก.ย. และ ธ.ค. รวม 50 BPS จากอัตราเงินเฟ้อที่ปรับชะลอลงและการสื่อสาร Dovish มากขึ้นของ FOMC ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 2 ครั้ง รวม 50 BPS ในเดือน ก.ย.และ ธ.ค. หลังจากปรับลดครั้งแรกในไตรมาส 2 ขณะที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีแนวโน้มจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 1 ครั้งในช่วงครึ่งหลังของปี หลังจากปรับขึ้นครั้งแรกในไตรมาส 1 สำหรับในระยะข้างหน้าการทยอยลดความผ่อนคลายของนโยบายการเงินญี่ปุ่นจะเป็นไปอย่างระมัดระวังมากขึ้น เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจญี่ปุ่นปรับแย่ลงและเงินเฟ้อจะชะลอลงตามราคาสินค้านำเข้าและค่าจ้าง เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้าตามที่ประเมินไว้ SCB EIC ยังคงมุมมองการขยายตัวเศรษฐกิจไทยปี 2567 ที่ 2.5% ในครึ่งหลังของปีมีแรงส่งหลักจากภาคบริการตามการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มเร่งตัวขึ้นจากครึ่งปีแรก ด้วยปัจจัยสนับสนุนทั้งมาตรการวีซ่าใหม่ การขยายเที่ยวบิน และการจัดงานอิเวนต์ขนาดใหญ่ รวมถึงภาคส่งออกที่เริ่มกลับมาขยายตัวได้ดีขึ้น มองไปข้างหน้า ปัจจัยกดดันเศรษฐกิจที่สำคัญยังคงมาจากภาคการผลิตที่ยังไม่เห็นสัญญาณฟื้นตัวชัดเจนนัก สะท้อนจากความเชื่อมั่นผู้ประกอบการตลาดในประเทศที่ลดลงต่อเนื่อง อีกทั้ง สินค้าคงคลังยังอยู่ในระดับสูงและมีแรงกดดันจากอุปสงค์ในประเทศ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ได้รับผลกระทบชัดเจนและมีแนวโน้มหดตัวในปีนี้แบบBroad-based โดยยอดการผลิตถูกฉุดรั้งจากอุปสงค์ในประเทศที่ซบเซาและคาดว่าในปี 2567 จะหดตัวต่ำสุดในรอบ 14 ปี ประกอบกับแนวโน้มการบริโภคสินค้าคงทนแผ่วลง สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับลดลงต่อเนื่องตามแนวโน้มเศรษฐกิจที่ฟื้นช้าและราคาพลังงานที่ปรับสูงขึ้น นอกจากนั้น การเร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนภาครัฐเริ่มชะลอตัวลง SCB EIC ประเมินว่าการเร่งเบิกจ่ายในช่วงที่เหลือของปีนี้จะไม่สามารถชดเชยการหดตัวรุนแรงในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ ซึ่ง พ.ร.บ. งบประมาณปี 2567 ประกาศใช้ล่าช้าได้ ในด้านเงินเฟ้อ SCB EIC ประเมินเงินเฟ้อทั่วไปจะทยอยเร่งตัวกลับสู่เป้าหมายเงินเฟ้อที่ 1-3% ได้ในช่วงสิ้นปี ตามการเร่งตัวของราคาพลังงานจาก (1)…

Read More

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) รับรางวัลกองทุนยอดเยี่ยมแห่งปี2567 ประเภท กองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ (Foreign Fixed Income Fund) จากกองทุนเปิดเคแทม โกลบอล เครดิต อินคัม ฟันด์ ชนิดสะสมมูลค่า (KT-GCINCOME-A) โดยมีนางชวินดา หาญรัตนกูล (ซ้าย) กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้แทนรับมอบรางวัลจาก ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ (กลาง) ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย และนายสันติ วิริยะรังสฤษฎ์ (ขวา) ประธานกรรมการบริหาร บจก.มีเดีย แอสโซซิเอตเต็ด และวารสารการเงินธนาคาร จากงาน Money & Banking Awards 2024 ซึ่งจัดโดยวารสารการเงินธนาคาร เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำหรับรางวัลนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นเลิศในการบริหารของทีมบริหารจัดการกองทุนตราสารหนี้ทั้งผู้จัดการกองทุน ฝ่ายบริหารความเสี่ยง และฝ่ายวิเคราะห์เครดิตของตราสารที่มีกระบวนการลงทุนที่แข็งแกร่ง รวมถึงการให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยง โดยคำนึงถึงปัจจัยรอบด้านทั้งในเชิงเศรษฐกิจ ภูมิศาสตร์ การกระจุกตัวในรายกลุ่มอุตสาหกรรม และปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งคณะกรรมการจัดการลงทุนที่ช่วยกลั่นกรองให้การลงทุนอยู่ภายใต้ความเสี่ยงที่เหมาะสม เพื่อให้การลงทุนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเกณฑ์การตัดสินรางวัลประเภทนี้จะพิจารณาจากกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ โดยใช้ 3 ปัจจัยในการประเมินผลการดำเนินงานของกองทุน ได้แก่ ผลตอบแทนรวม ความผันผวนของราคารายวัน ขนาดของกองทุน และผลงานโดยเฉลี่ยของบริษัทจัดการกองทุน ภายใต้กรอบระยะเวลาที่กำหนด กองทุนเปิดเคแทม โกลบอล เครดิต อินคัม ฟันด์ ชนิดสะสมมูลค่า (KT-GCINCOME-A) (ความเสี่ยงกองทุนระดับ 5) เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของ Schroder International Selection Fund Global Credit Income (กองทุนหลัก) ซึ่งกองทุนหลักมีนโยบายการลงทุนอย่างน้อย 2 ใน 3 ของมูลค่าสินทรัพย์รวมของกองทุนในตราสารการเงินที่มีการจ่ายผลตอบแทนแบบอัตราดอกเบี้ยคงที่ และอัตราดอกเบี้ยลอยตัวที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับที่สามารถลงทุนได้ และหลักทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงที่ออกโดยรัฐบาล หน่วยงานภาครัฐ องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศ และบริษัทต่าง ๆ ทั่วโลก รวมถึงประเทศในตลาดเกิดใหม่…

Read More

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2567 มีมติเห็นชอบแต่งตั้ง ดร. มหัทธนะ อัมพรพิสิฏฐ์ เป็นผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นไป นายมหัทธนะ อัมพรพิสิฏฐ์ อายุ 47 ปี เป็นผู้มีประสบการณ์การทำงานในตำแหน่งสำคัญทั้ง หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน อาทิ รองประธานกรรมการบริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเอเอส ออโต้เซอร์วิส จำกัด  กรรมการ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน)  กรรมการบริหาร สมาคมประกันวินาศภัยไทย  กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) กรรมการ กรรมการบริหาร กรรมการบริหารความเสี่ยง และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ผู้อำนวยการส่วนนโยบายประกันภัย สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ด้านคุณวุฒิการศึกษา นายมหัทธนะ จบการศึกษาระดับปริญญาเอกและปริญญาโทเศรษฐศาสตร์ Claremont Graduate University ประเทศสหรัฐอเมริกา และปริญญาโทการเงินระหว่างประเทศ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  ปริญญาโทเศรษฐศาสตร์ Suffolk Universityประเทศสหรัฐอเมริกา  ปริญญาตรีเศรษฐศาสตร์ University of California ประเทศสหรัฐอเมริกา

Read More

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน มอบรางวัลทองคำแท่งหนัก 10 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 26.5 ล้านบาท (ราคา ณ วันที่ 23 เมษายน 2567) ให้แก่ คุณกานดา กาญจนเพิ่มพูน ลูกค้าธนาคารออมสิน สาขาด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี โดยเป็นผู้โชคดีจากการถูกรางวัลสลากออมสินพิเศษ 1 ปี งวดที่ 606 หมวดอักษร G หมายเลขสลาก 8178397 เพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบ 111 ปี ซึ่งมีการออกรางวัลไปเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยคุณกานดา เป็นลูกค้าธนาคารออมสิน และมีการออมเงินกับธนาคารมาอย่างต่อเนื่อง แต่ได้มีการฝากสลากออมสินเพียง 4 ปี หลังทราบข่าวว่ามีการลุ้นรางวัลใหญ่ และเป็นการเก็บออมเงินด้วย จึงอยากเชิญชวนประชาชนให้มาออมเงินด้วยการฝากสลากออมสิน นอกจากจะได้ลุ้นรางวัลแล้ว การเป็นลูกค้าธนาคารออมสินเท่ากับเราได้ช่วยสังคม ณ ธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่ เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2567 สำหรับสลากออมสินพิเศษ 1 ปี หน่วยละ 100 บาท ไม่จำกัดวงเงินรับฝากสูงสุด เมื่อฝากครบกำหนด 1 ปี จะได้รับเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยหน่วยละ 0.25 บาท และยังมีสิทธิ์ลุ้นรางวัลที่ 1 มูลค่า 10 ล้านบาท และรางวัลอื่น ๆ ได้ทุกวันที่ 16 ของทุกเดือน รวม 12 ครั้ง ผู้สนใจสามารถฝากสลากออมสินได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศ และแอป MyMo

Read More

องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) (TGO) เครือข่ายคาร์บอนนิวทรัลประเทศไทย (TCNN) ร่วมกับธนาคารกสิกรไทยและศูนย์วิจัยกสิกรไทย อัพเดทสถานการณ์ตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจของไทย พร้อมแนวโน้มตลาดในอนาคต ผ่านงานวิจัย “The 2024 Thailand’s Voluntary Carbon Market” ผลวิจัยชี้ผู้เล่นหน้าใหม่ต้องการความรู้เกี่ยวกับคาร์บอนเครดิต และการพัฒนามาตรฐานคาร์บอนเครดิตให้เทียบเท่าระดับสากล ส่วนกลุ่ม SMEs ต้องการทั้งความรู้และเงินทุน ซึ่งข้อมูลจากงานวิจัยที่ได้จะนำไปประกอบการพิจารณา เสนอแนะนโยบายส่งเสริมและผลักดันการพัฒนาตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจของประเทศไทย ดร. ณัฐริกา วายุภาพ นิติพน รองผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก รักษาการผู้อำนวยการ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก กล่าวว่า โครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (T-VER) เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2557 จนถึงปัจจุบัน มีที่ขึ้นทะเบียนโครงการจำนวนรวมทั้งสิ้น 438 โครงการ มาจากแบบ Standard T-VER จำนวน 434 โครงการ และแบบ Premium T-VER จำนวน 4 โครงการ ซึ่งในจำนวนนี้มีโครงการที่ได้รับรองคาร์บอนเครดิต จำนวน 169 โครงการ มาจากแบบ Standard T-VER เท่านั้น โดยมีปริมาณคาร์บอนเครดิตที่ได้รับการรับรองแล้ว 19.53 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซต์เทียบเท่า (MtCO2eq) ขณะที่เริ่มมีการซื้อขายคาร์บอนเครดิต TVERs ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 จนถึงปัจจุบัน (ล่าสุดมิถุนายน 2567) มีปริมาณการซื้อขายคาร์บอนเครดิตเกิดขึ้นในตลาดแรกและตลาดรอง จำนวนกว่า 3.42 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซต์เทียบเท่า (MtCO2eq)  มูลค่าซื้อขายรวมกว่า 299 ล้านบาท ซึ่งมูลค่าตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจของไทยในระยะ 9 เดือนของปีงบประมาณ 2567 เติบโตขึ้นกว่า 17% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า รวมถึงโอกาสที่ตลาดจะขยายตัวจากแรงกระตุ้นของร่าง พ.ร.บ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พ.ศ. … ที่จะปรับใช้ในอนาคต อีกด้วย นายพิพิธ เอนกนิธิ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ในประเทศไทยปริมาณการซื้อขายคาร์บอนเครดิตถือว่ายังอยู่ในระดับต่ำ คิดเป็นสัดส่วนเพียง 0.77% ของปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของไทยทั้งหมด อุปสรรคสำคัญหนึ่งก็คือต้นทุนในการดำเนินการ ทั้งต้นทุนค่าประเมินและรับรองคาร์บอนเครดิต…

Read More

  ธนชาตประกันภัย ร่วมแสดงความยินดี “มหาพญาเทียน” วัดศรีประดู่ คว้ารางวัลชนะเลิศ ประเภทติดพิมพ์ขนาดใหญ่ จากการประกวดต้นเทียนพรรษา ในงานประเพณีแห่เทียนพรรษาจังหวัดอุบลราชธานี ประจำปี 2567 ได้รับถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี “มหาพญาเทียน” รังสรรค์โดยทีมช่างฝีมือของชุมชนวัดศรีประดู่  อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี โดยมีพุทธศาสนิกชนร่วมกันแกะสลักลายเทียน และ บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด (มหาชน) สนับสนุนงบประมาณในการดำเนินงาน เป็นชิ้นงานพุทธศิลป์ที่วิจิตรงดงามและยิ่งใหญ่ สมกับงานประเพณีที่โด่งดังในระดับโลก โดยเป็นต้นเทียนจากแรงศรัทธาที่ถ่ายทอดเรื่องราวของ เจ้าชายสิทธัตถะ ขณะออกบวช ซึ่งต้องเผชิญกับพญามารที่พยายามมาขัดขวาง มีพระนารายณ์ทรงครุฑ เป็นเทวดานำทัพออกบวช  สื่อความหมายตามคำสอนขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้าว่า หากมีความตั้งใจที่แน่วแน่ แม้จะมีอุปสรรคระหว่างทาง แต่ก็จะสามารถฟันฝ่า จนบรรลุเป้าหมาย และประสบความสำเร็จได้ในที่สุด ทั้งนี้ ธนชาตประกันภัย ได้ให้การสนับสนุนวัดศรีประดู่ เพื่อนำผลงาน “มหาพญาเทียน” เข้าประกวดในงานประเพณีแห่เทียนพรรษา จังหวัดอุบลราชธานี ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เพื่อร่วมอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น และเป็นกำลังใจให้กับช่างทำเทียนได้ทำหน้าที่สืบศาสตร์งานศิลปะได้อย่างเต็มความภาคภูมิใจ สำหรับผลงานประกวดต้นเทียนพรรษา วัดศรีประดู่ –            ปี 2567 รางวัลชนะเลิศ ประเภทติดพิมพ์ ขนาดใหญ่ (ธนชาตประกันภัย สนับสนุน) –            ปี 2566 รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 ประเภทติดพิมพ์ ขนาดใหญ่ (ธนชาตประกันภัย สนับสนุน) –            ปี 2565 รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 ประเภทติดพิมพ์ ขนาดกลาง –            ปี 2562 รางวัลชนะเลิศ ประเภทติดพิมพ์ ขนาดใหญ่ –            ปี 2561 รางวัลชนะเลิศ ประเภทติดพิมพ์ ขนาดใหญ่ –            ปี 2560 รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 ประเภทติดพิมพ์ ขนาดใหญ่ –            ปี 2559 รางวัลชมเชย ประเภทติดพิมพ์ ขนาดใหญ่ ธนชาตประกันภัย ขอเชิญชมเสน่ห์แห่งเทียน ความสวยงามของขบวนต้นเทียน ที่เข้าร่วมในงานประเพณีแห่เทียนพรรษา จังหวัดอุบลราชธานี ประจำปี 2567 ในกิจกรรม “เทียนอุบล ยลได้ตลอดเดือน”  ที่จัดขึ้นบริเวณห้วยวังนอง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี  ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 22 สิงหาคม 2567 ติดตามความเคลื่อนไหวของกิจกรรมดี ๆ จากธนชาตประกันภัย ได้ทาง Facebook: Thanachartinsurance – TNI และ Line Official Account “ธนชาตประกันภัย” …/ #ธนชาตประกันภัย #ดูแลไวตรงใจคุณ #ThanachartInsurance #งานประเพณีแห่เทียนพรรษา2567 #แห่เทียนอุบล #อุบลราชธานี #UbonCandleFestival2024

Read More

บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR โดย คุณเบอร์นาร์ด โช ผู้บริหารระดับสูง ฝ่ายการตลาดและพัฒนาธุรกิจ เป็นตัวแทนรับรางวัลMarketeer No.1 Brand Thailand 2024 ในฐานะแบรนด์ยอดนิยมอันดับ 1 หมวดธนาคาร บริการทางการเงิน ประเภทสินเชื่อทะเบียนรถ (Vehicle Title Loan) ในประเทศไทย ที่ได้รับความไว้วางใจ เชื่อถือ และเลือกใช้บริการ ซึ่งเป็นผลสำรวจจากประชาชนกลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศ จึงถือเป็นอีกหนึ่งตัวชี้วัดสำคัญที่ชี้ให้เห็นถึงความไว้วางใจที่ผู้บริโภคมีต่อแบรนด์ “เงินติดล้อ” อย่างต่อเนื่อง คุณเบอร์นาร์ด กล่าวว่า “การได้รับรางวัลแบรนด์อันดับ 1 ในครั้งนี้ เป็นผลมาจากความพยายามและความมุ่งมั่นของพนักงานเงินติดล้อทุกคน และพวกเราขอขอบคุณลูกค้าและประชาชนที่ให้ความไว้วางใจตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา ทำให้พวกเรามีกำลังใจที่จะมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อยกระดับ พัฒนา ผลิตภัณฑ์และบริการด้านการเงิน เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ภายใต้เจตนาในการดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างโอกาสทางการเงินที่เป็นธรรมและโปร่งใส พร้อมเป็นที่พึ่งด้านการเงิน เพื่อให้ชีวิตหมุนต่อได้” รางวัล Marketeer No.1 Brand Thailand 2024 จัดโดย Marketeer Group ร่วมกับ บริษัท มาร์เก็ตติ้งมูฟ จำกัด เพื่อสำรวจทัศนคติการตัดสินใจของผู้บริโภคทั่วประเทศกว่า 6,000 ตัวอย่าง ที่มีความเชื่อถือและความไว้วางใจต่อแบรนด์ชั้นนำในหมวดธุรกิจแต่ละประเภท ภายในประเทศไทย นอกจากนี้ “เงินติดล้อ” ยังถือเป็นแบรนด์ที่ได้รับความไว้วางใจอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมาได้รับรางวัล Thailand’s Most Admired Brand ในฐานะแบรนด์ที่ผู้บริโภคไว้วางใจมากที่สุด ในหมวดธนาคารและบริการทางการเงิน กลุ่มธุรกิจสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน จากนิตยสาร BrandAge ติดต่อกันถึง 6 ปีซ้อน อีกด้วย สำหรับผู้สนใจติดตามข้อมูลเงินติดล้อเพิ่มเติมได้ที่www.tidlor.com และ Facebook Fan page เงินติดล้อ หรือติดต่อสอบถามผลิตภัณฑ์และบริการได้ที่ call center หมายเลขโทรศัพท์ 088-088-0880ตลอด 24 ชม.

Read More

    เอไอเอ ประเทศไทย โดย นางสาวรพีพร วงศ์ทองคำ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรและภาพลักษณ์ รับรางวัลอันทรงเกียรติ “Marketeer No.1 Brand Thailand 2024” ติดต่อกันเป็นปีที่ 13 โดยในปีนี้เอไอเอ ประเทศไทย ได้รับรางวัลแบรนด์ยอดนิยมอันดับ 1 ของประเทศไทย ถึง 2 รางวัล ในสาขาประกันชีวิต และสาขาประกันสุขภาพ ซึ่งรางวัลดังกล่าวเป็นรางวัลที่มาจากผลการทำวิจัยของนิตยสารมาร์เก็ตเธียร์(Marketeer) ร่วมกับ บริษัท มาร์เก็ตติ้ง มูฟ จำกัด สำรวจกลุ่มตัวอย่างจำนวนกว่า6,000 ตัวอย่างทั่วประเทศ ซึ่งนับเป็นความภาคภูมิใจ และสะท้อนถึงความเชื่อมั่น ตลอดจนความไว้วางใจของคนไทยที่มีต่อแบรนด์เอไอเอ อีกทั้งยังตอกย้ำถึงความสำเร็จของเอไอเอ ในฐานะบริษัทประกันชีวิตและสุขภาพอันดับ 1 ที่อยู่เคียงข้างคนไทยมาอย่างยาวนาน ด้วยความมุ่งมั่นที่ต้องการสนับสนุนคนไทยและผู้คนทั่วเอเชียกว่าหนึ่งพันล้านคนให้มีสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น ภายในปี 2030 ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการที่มีนวัตกรรม เพื่อดูแลคนไทยทั้งในด้านสุขภาพร่างกาย สุขภาพจิตใจ และสุขภาพทางการเงิน ตามคำมั่นสัญญา ‘Healthier, Longer, Better Lives – เพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น’ ซึ่งพิธีมอบรางวัลดังกล่าวจัดขึ้น ณ โรงแรมสยาม เคมปินสกี้ กรุงเทพ เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา

Read More

 ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เดินหน้ายกระดับประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจและส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืน ให้แก่ผู้ประกอบการร้านอาหารในประเทศ ปัจจุบันธุรกิจร้านอาหารมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากการฟื้นตัวของภาคธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศ และจำนวนนักท่องที่ยวต่างชาติที่กลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง เห็นได้จากภาพรวมของธุรกิจร้านอาหารในประเทศที่มีผู้ประกอบการธุรกิจมากกว่า 384,000 ราย[1] โดยธุรกิจร้านอาหารและภัตตาคารเป็น 1 ใน 3 ประเภทธุรกิจที่ได้รับความนิยมจดทะเบียนจัดตั้งและเติบโตสูงสุดในปี 2566 ที่ผ่านมา[2] สอดคล้องกับการประเมินของ ททท. ที่ระบุว่านักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยจะใช้จ่ายด้านค่าอาหารและเครื่องดื่มอยู่ที่ร้อยละ 20-25 และร้อย 77 เลือกที่จะรับประทานอาหารร้านจากอาหารท้องถิ่นจากผู้ประกอบการรายย่อยมากกว่าไฟน์ ไดนิ่ง (Fine Dining) ยูโอบีเล็งเห็นศักยภาพการเติบโตของธุรกิจร้านอาหารจึงร่วมกับ ททท. จัดงานสัมมนา “Road to Top of Mind Restaurant” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับขีดความสามารถของร้านอาหารไทย สู่การเป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยว ผู้ประกอบร้านอาหารรายย่อยที่เข้าร่วมงานนอกจากจะได้รับคำแนะนำโซลูชันทางการเงิน และการบริหารธุรกิจแบบครบวงจรจากธนาคารแล้ว ยังมีโอกาสในการการสร้างเครือข่าย และขยายโอกาสทางธุรกิจกับหน่วยงานพันธมิตรจากหลากหลายภาคส่วนด้วย นางสยุมรัตน์ มาระเนตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจเอสเอ็มอี ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่า “ธุรกิจร้านอาหารมีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศ แต่ปัจจุบันผู้ประกอบการร้านอาหารหลายรายยังประสบปัญหาในการเข้าถึงทรัพยากร และขาดโอกาสในการเชื่อมต่อและการแสวงหาเครือข่ายพันธมิตรที่จะช่วยผลักดันธุรกิจให้เติบโตไปข้างหน้า ซึ่งแต่เดิมทีธนาคารยูโอบีมีความร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) ภายใต้โครงการ Sustainability Innovation (SIP)[3]  ที่สนับสนุนธุรกิจเอสเอ็มอีในภาคท่องเที่ยว จึงได้ขยายความร่วมมือเพิ่มเติม โดยเจาะจงไปที่กลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหารรายย่อยซึ่งเป็นกำลังหลักของภาคธุรกิจท่องเที่ยว เราพร้อมนำเสนอโซลูชันทางการเงินและตัวช่วยทางธุรกิจ บนแพลตฟอร์ม UOB BizSmart ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ผู้ประกอบการให้การดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และพัฒนากิจการไปสู่ความยั่งยืน” นายนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาดการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  กล่าวว่า “การท่องเที่ยวคือแรงหนุนหลักที่ช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโต และการท่องเที่ยวเชิงอาหารเป็นแรงดึงดูดที่สำคัญที่ทำให้นักท่องเที่ยวอยู่ในประเทศไทยนานมากขึ้น ในปีนี้ ททท. ตั้งเป้าหมายในการดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าสู่ประเทศไทยให้มากกว่า 35 ล้านคนภายในสิ้นปี เราจึงมุ่งมั่นในการแสวงหาเครือข่ายที่จะช่วยยกระดับประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวเชิงอาหาร ดังนั้นเรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับความร่วมมือจากธนาคารยูโอบี ประเทศไทยที่พร้อมจะเข้ามาสนับสนุนผู้ประกอบการร้านอาหารไทย เราเชื่อมั่นว่ายูโอบีมีแหล่งเงินทุน และมีเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจที่จะช่วยเสริมศักยภาพในการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการร้านอาหารได้เป็นอย่างดี” งานสัมมนาในครั้งนี้ ได้เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการร้านอาหารที่เข้าร่วมงาน ส่งรายชื่อร้านอาหารของตน เพื่อรับการพิจารณาเข้าร่วม แคมเปญกินเที่ยวยั่งยืน จากโครงการยั่งยืนนิยมของททท. ที่เน้นรวบรวมร้านอาหารที่ผ่านเกณฑ์ความยั่งยืนขั้นต้นเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวที่สนใจการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน ผู้ประกอบการยังได้รับคำแนะนำเกี่ยวบริการดิจิทัลโซลูชันแบบครบวงจรบนแพลตฟอร์ม UOBBizSmart ที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพในกระบวนการทำงาน…

Read More