Author: staff

บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านประกันวินาศภัยไทย ตอกย้ำพันธกิจในการขับเคลื่อนองค์กรด้วยแนวคิด ESG (Environment, Social, Governance) เปิดตัวโครงการ “TIP GO GREEN” มุ่งเน้น การอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สร้างจิตสำนึกในการรักษ์โลกผ่านการทำเคลม โดยมอบต้นไม้ฟอกอากาศให้กับลูกค้าของทิพยประกันภัย โครงการนี้เปิดตัวโดย นายอนุกูล เย็นใจ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ด้านรับประกันภัยและสินไหมทดแทน และนายโกสนธ์ พิศภา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานสินไหมทดแทน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูง โครงการ “TIP GO GREEN” เกิดขึ้นเพื่อแสดงจุดยืนของทิพยประกันภัย ในฐานะองค์กรที่ตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อม และต้องการเชิญชวนทุกคนให้ร่วมอนุรักษ์ธรรมชาติ โดยมีกิจกรรมปลูกต้นไม้ขนาดเล็กเพื่อช่วยฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ สำหรับลูกค้าทิพยประกันภัยที่ทำการเคลมในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยมีทีมสำรวจภัย TIP Smart Assist มอบชุดปลูกต้นไม้ เพื่อให้ลูกค้านำไปปลูกและดูแลจนเจริญเติบโตและโพสต์ภาพลงสื่อโซเชียล พร้อมติด Hashtag #TIPปลูกโตโชว์หน่อย โดยจะได้ลุ้นรับของรางวัลพิเศษจากทิพยประกันภัย โครงการ “TIP GO GREEN” เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2568 #TIPGOGreen #TIPปลูกโตโชว์หน่อย #ทิพยประกันภัย #72ปีทิพยประกันภัย

Read More

  ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี เปิดให้ผู้ที่ไม่มีรายได้ประจำหรือผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระ สมัครบัตรเครดิต ttb  โดยไม่ต้องใช้เอกสารรายได้หรือสลิปเงินเดือน เพียงใช้เงินฝากค้ำประกัน เริ่มต้น 15,000 บาท ก็สามารถสมัครบัตรเครดิต ttbได้ทันที พร้อมรับสิทธิประโยชน์ ผ่อน 0% นาน 3 เดือน ได้ทุกรายการ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ที่มีแนวโน้มในการประกอบอาชีพอิสระเพิ่มมากขึ้น ให้มีชีวิตทางการเงินยืดหยุ่นขึ้น พร้อมรับฟรีประกันอุบัติเหตุทันที สูงสุด 3,000บาทต่ออุบัติเหตุ ไม่จำกัดจำนวนครั้ง บัตรเครดิต ttb แบบมีเงินฝากค้ำประกัน เหมาะสำหรับลูกค้าที่เป็น กลุ่มอาชีพอิสระหรือฟรีแลนซ์ ที่มีเงินหมุนเวียนแต่ไม่มีรายได้ประจำ กลุ่มพ่อค้าแม่ค้า ขายของออนไลน์ และกลุ่มนักศึกษา อายุ 20 ปีขึ้นไป ที่มีค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันก็สามารถทำบัตรเครดิตได้ โดยมีสิทธิประโยชน์ที่แตกต่างและคุ้มค่ามากยิ่งขึ้นดังนี้ 1)      สมัครบัตรเครดิตได้โดยไม่ต้องใช้สลิปเงินเดือน เพียงใช้เงินฝากในบัญชีค้ำประกัน เริ่มต้น 15,000 บาท รับวงเงินบัตรเครดิตสูงสุด 100% ของยอดเงินฝากค้ำประกัน (ไม่เกิน 1 ล้านบาท) 2)      คุ้มค่ายิ่งกว่า เมื่อใช้บัตรเครดิต ttb แบบมีเงินฝากค้ำประกัน แทนเงินสดทุกการใช้จ่าย เพราะสามารถรับคะแนนสะสม เงินคืน และสิทธิประโยชน์ ส่วนลด ของแถมต่าง ๆ ได้ 3)      ปรับชีวิตให้ยืดหยุดยิ่งขึ้น เมื่อใช้บัตรเครดิต ttb เพราะมีบริการ ttb so goood สามารถผ่อนชำระ 0% นาน 3 เดือน ได้ทุกร้านค้าทั่วโลก โดยสามารถเลือกและทำรายการผ่อนได้ด้วยตนเองผ่านแอป ttb touch เพียงมียอดใช้จ่ายตั้งแต่ 1,000 บาท ขึ้นไปต่อเซลล์สลิป 4)      ฟรีประกันอุบัติเหตุทันที สูงสุด 3,000 บาทต่ออุบัติเหตุ ไม่จำกัดจำนวนครั้ง เมื่อฝากเงินในบัญชี ttb all free โดยไม่ต้องสำรองจ่ายเมื่อรักษากับสถานพยาบาลที่เข้าร่วม และยังได้รับความคุ้มครองชีวิต 20…

Read More

 บล.ทิสโก้ชี้ก่อนเลือกตั้งสหรัฐฯ ตลาดหุ้นมักจะปรับตัวลง ขณะที่การเมืองไทยยังไม่ชัดคำวินิจฉัยในคดีนายกฯ เศรษฐา มีความไม่แน่นอนสูง แนะนำนักลงทุนควร “มีเงินสดถือไว้บางส่วน” ไว้ในกรณีที่คำตัดสินออกมาในเชิงลบต่อนายกฯ ธีมหุ้นที่น่าสนใจแนะเก็งกำไรหุ้นที่คาดผลประกอบการ Q2 จะออกมาดี และมีแนวโน้ม Q3 ดีต่อเนื่อง นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า ในเดือนสิงหาคมเป็นช่วงที่นักลงทุนควรจับตาการเลือกตั้งของสหรัฐฯ และการเมืองในประเทศ ซึ่งทั้งสองประเด็นจะมีผลต่อความเคลื่อนไหวของหุ้นไทยในเดือนนี้ สำหรับตลาดหุ้นสหรัฐฯ มักจะผันผวนต่อเนื่องในช่วง 3 เดือนก่อนการเลือกตั้ง ขณะที่ทิศทางของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในช่วงก่อนและหลังเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ย้อนหลังตั้งแต่ปี 2473 หรือหลังวิกฤตเศรษฐกิจ “Great Depression” พบว่า ตลาดมักจะเคลื่อนไหวผันผวนโดยเฉพาะในช่วง 2-3 เดือนก่อนการเลือกตั้งมักจะปรับตัวลง ก่อนที่จะกลับมาปรับตัวขึ้นอีกครั้งหลังการเลือกตั้ง ซึ่งคาดว่าเป็นผลจากนักลงทุนใช้ความระมัดระวังการซื้อขายในช่วงใกล้ถึงวันเลือกตั้ง และกลับเข้าสู่ตลาดอีกครั้งหลังมีความชัดเจนของผลการเลือกตั้งแล้ว ด้านปัจจัยการเมืองในประเทศ ประเด็นที่ยังไม่แน่นอนและมีน้ำหนักต่อตลาดจนถึงขณะนี้ คือ คดีนายกฯ เศรษฐา จะขาดคุณสมบัติหรือไม่ เพราะในกรณีคำวินิจฉัยออกมาเป็นลบต่อนายกฯ จะไปนำสู่การเปลี่ยนแปลงตัวนายกฯ และคณะรัฐมนตรีทั้งคณะ ต้องเสียเวลาไม่น้อยกว่า 2 เดือนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ที่มีอำนาจเต็มเข้ามาบริหารประเทศ อาจกระทบต่อการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 ซึ่งเป็นช่วงโค้งสุดท้ายแล้ว และยังมีความไม่แน่นอนของนโยบายรัฐบาลใหม่ด้วยว่าจะสานต่อนโยบายของรัฐบาลเดิม หรือยกเลิก หรือปรับเปลี่ยนใหม่   ด้วยผลคำวินิจฉัยในคดีนายกฯ เศรษฐา มีความไม่แน่นอนสูง คาดการลงมติเสียงของศาลรัฐธรรมนูญจะออกมาแบบก้ำกึ่ง ดังนั้น ในเชิงกลยุทธ์ จังหวะการลงทุนเดือนนี้ควรถือเวลาเป็นเกณฑ์มากกว่าระดับราคาหุ้น รอคดีทางการเมืองมีความชัดเจนก่อนเข้าลงทุนก็ยังไม่สาย โดย บล.ทิสโก้แนะนำนักลงทุนควรมีเงินสดถือไว้บางส่วนไว้ในกรณีที่คำตัดสินออกมาในเชิงลบต่อนายกฯ   สำหรับธีมหุ้นที่น่าสนใจในเดือนนี้ บล.ทิสโก้มองการเก็งกำไรในหุ้นที่คาดผลประกอบการไตรมาส 2/2567 จะออกมาดี และมีแนวโน้มไตรมาส 3/2567 ดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มหุ้นส่งออกและหุ้นที่มีดีมานด์จากต่างประเทศช่วยหนุน ชอบ AMATA, CENTEL, CPF, DMT, ITC, KCE นอกจากนี้ หุ้นที่ราคาปรับตัวลงมามากเกินไป คาดหวังเป็นจุดต่ำ (Bottom Fishing) แนะนำ AP และหุ้นที่คาดกำไรครึ่งปีหลังจะดีกว่าครึ่งปีแรกและมีปัจจัยบวกเฉพาะตัวในระยะสั้น COM7 เพราะฉะนั้นหุ้นเด่นในเดือนสิงหาคม คือ…

Read More

นายเพา จาตกานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจบริหารเงิน ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า “ CIMB THAI ได้รับความไว้วางใจจากกระทรวงการคลัง แต่งตั้งให้เป็นธนาคารตัวแทนจำหน่ายรายใหม่ของพันธบัตรออมทรัพย์รัฐบาล พร้อมเปิดให้ลูกค้าของธนาคารและประชาชนทั่วไป สามารถจองซื้อพันธบัตรออมทรัพย์รัฐบาลผ่านสาขา หรือ แอปพลิชัน CIMB THAI ได้แล้ว นับเป็นอีกก้าวของการเดินตามแผน‘One Stop Service ด้านตราสารหนี้’ ให้ลูกค้า ผ่านผลิตภัณฑ์ตราสารหนี้ที่หลากหลายครบทุกมิติ  พร้อมขยายช่องทางใหม่ๆ และปีนี้ธนาคารจับมือกับพันธมิตรที่แข็งแกร่ง เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้าถึงการลงทุนที่ง่าย สะดวก และรวดเร็ว” นายภูดินันท์ เศรษฐนันท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ พัฒนาผลิตภัณฑ์การเงิน ธุรกิจผลิตภัณฑ์การเงิน และ ผู้บริหารการขายลูกค้าบุคคลธนกิจ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า “การลงทุนในพันธบัตรออมทรัพย์ครั้งนี้ จะเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่เข้ามาช่วยเสริมทัพให้พอร์ตการลงทุนของลูกค้า ตอบโจทย์ทั้งนักออมเงินและนักลงทุนที่ต้องการจัดพอร์ตปลอดภัยท่ามกลางเศรษฐกิจผันผวน ไม่แน่นอน เพราะพันธบัตรออมทรัพย์เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย จ่ายผลตอบแทนสม่ำเสมอ และสามารถล็อคผลตอบแทนสูง ก่อนเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง นอกจากนี้ ธนาคารยังให้บริการรับซื้อและขายคืนพันธบัตรและหุ้นกู้ก่อนครบกำหนด ผ่านตลาดรอง โดยสามารถติดต่อธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ได้ทุกสาขา เพื่อช่วยเสริมสภาพคล่อง และเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถปรับกลยุทธ์การลงทุนให้สอดคล้องกับสภาวะตลาดอีกด้วย” พันธบัตรออมทรัพย์รัฐบาลลอตใหม่ ลงทุนเริ่มต้น 1,000 บาท ไม่จำกัดจำนวนสูงสุด แบ่งเป็น 2 ช่วง ช่วงที่ 1 เปิดจำหน่ายให้บุคคลทั่วไป พันธบัตร รุ่นอายุ 5 ปี ดอกเบี้ยคงที่ 3.00% ต่อปี และรุ่นอายุ 10 ปี ดอกเบี้ยคงที่ 3.40% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เปิดจองซื้อวันที่ 19 – 21 สิงหาคม 2567 ลูกค้าสามารถจองซื้อผ่านสาขา และ แอป CIMB THAI การจัดสรรเป็นรูปแบบ Small Lot…

Read More

นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมืองไทยประกันชีวิต มุ่งมั่นที่จะสร้างการเข้าถึงได้ของประกันชีวิตให้กับทุก ๆ คนในสังคม (Democratizing Insurance) ซึ่งรวมถึงกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย  ทั้งกลุ่มผู้ประกอบการ  กลุ่ม Expat   กลุ่มเกษียณอายุ  และกลุ่มนักเรียนนักศึกษาชาวต่างชาติ  พร้อมรองรับการให้บริการทั้งด้านผลิตภัณฑ์     ช่องทางการขายที่มีศักยภาพทางด้านภาษาต่างประเทศ และบริการหลังการขายครบครัน  สามารถตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่าง และช่วยให้ทุกคนได้อุ่นใจในทุกช่วงจังหวะของชีวิต ล่าสุด เมืองไทยประกันชีวิต ร่วมมือกับ ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด เปิดตัวโครงการ “Thailand Privilege x MTL :  Insure your happiness in Thailand”  เพื่อส่งมอบความสุขด้วยการเพิ่มทางเลือกด้านการดูแลสุขภาพที่ตอบโจทย์ความต้องการที่เหมาะกับยุคปัจจุบัน และสนับสนุนการสร้างสุขภาพดีอย่างยั่งยืน โดยมอบสิทธิพิเศษเฉพาะสมาชิกไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด  ที่เลือกซื้อความคุ้มครองสุขภาพที่เข้าร่วมโครงการ  ได้แก่  ความคุ้มครอง Healthจุใจ(1) ที่ให้ความคุ้มครองสุขภาพแบบผู้ป่วยในเหมาจ่ายตามจริงตั้งแต่ 200,000 – 500,000 บาท(2)  ต่อการรักษาแบบผู้ป่วยในครั้งใดครั้งหนึ่ง  และความคุ้มครองสุขภาพแบบผู้ป่วยนอกเหมาจ่ายสูงสุดถึง 50,000 บาท(2)  ต่อปี โดยสามารถซื้อได้ผ่านช่องทางออนไลน์ ความคุ้มครองสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพ ดี เฮลท์ พลัส (D Health Plus) ที่ให้ความคุ้มครองแบบเหมาจ่ายตามจริงสูงถึง 5 ล้านบาท(2)  ต่อการรักษาครั้งใดครั้งหนึ่ง แอดมิตก็เหมาจ่ายในวงเงินเดียว ทั้งค่าห้องเดี่ยวมาตรฐาน ค่าห้องไอ.ซี.ยู ค่าแพทย์ ค่ายา ค่าตรวจ ค่าผ่าตัด แบบจ่ายตามจริง  และความคุ้มครองสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพ อิลิท เฮลท์ พลัส (Elite Health Plus) ตอบโจทย์ความคุ้มครองสุขภาพแบบเหมาจ่าย ให้คุณพลัสความคุ้มครองที่เหนือระดับได้ตามต้องการ ด้วยวงเงินเหมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลตามจริงสูงถึง 20 ล้านบาท(2)  ต่อปี (พื้นที่ความคุ้มครองประเทศไทย) คุ้มครองห้องเดี่ยวมาตรฐาน และห้องผู้ป่วยหนัก (I.C.U.) เหมาจ่ายตามจริงรวมสูงสุด 365…

Read More

บมจ. หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) โดย นายอารภัฏ สังขรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืนบนเวทีงาน ‘Be the Change ยั่งยืนได้เมื่อเราเปลี่ยน’ จัดโดย สื่อออนไลน์ชื่อดัง The People เผยจุดยืนมุ่งเน้นนโยบายธุรกิจที่รับผิดชอบต่อสังคม เดินหน้าสร้างโอกาสการลงทุนที่เท่าเทียม   นายอารภัฏ สังขรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์(ประเทศไทย) หรือ MST กล่าวว่า “เมย์แบงก์ ให้ความสำคัญกับการดำเนินนโยบายทางธุรกิจที่มุ่งสู่ความยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการพัฒนาใน 3 มิติ ได้แก่ การส่งต่อความรู้ด้านการลงทุนจากภายในสู่ภายนอกองค์กร พิชิตเป้าหมายทุกกลุ่มนักลงทุน เพื่อให้ประชาชนมีความมั่งคั่งและมั่นคงในระยะยาว โดยเริ่มจากปรับวัฒนธรรมภายในองค์กร ให้เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน คิดค้นและคัดสรรผลิตภัณฑ์ให้หลากหลาย  และเพิ่มโอกาสให้คนไทยเข้าถึงการลงทุนภายใต้แนวคิด Democratizing Investment ผ่านการให้ความรู้ด้านการลงทุนที่ถูกต้องและปลอดภัยทั้งแก่นักลงทุนและประชาชนทั่วไปอย่างเท่าเทียม  การดำเนินธุรกิจที่ยึดหลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัด การสร้างสังคมที่น่าอยู่และยั่งยืน โดยเราสนับสนุนเรื่องสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนผ่านการลงทุนในธุรกิจที่ไม่สร้างมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม และการสร้างการตระหนักรู้ในเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อมในองค์กร ทั้งนี้ จะมีการวัดผลด้านความยั่งยืนในระดับโลกภายใต้ธุรกิจในเครือเมย์แบงก์ทั้งหมด” ในประเทศไทย บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ ได้จัดกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง โดยจัดทีมผู้เชี่ยวชาญให้ความรู้ด้านการลงทุน เดินสายโรดโชว์ไปในองค์กรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อให้ความรู้ด้านการลงทุนกับพนักงาน ให้เข้าใจการออม การลงทุน การสร้างความมั่งคั่ง เป็นไปตามวิสัยทัศน์  อีกทั้ง ยังมีแอปพลิเคชัน “Maybank Invest (MBI)” ที่เป็นเครื่องมือ ช่วยให้คนรุ่นใหม่เข้าถึงการลงทุนได้ง่าย ซึ่งไม่เพียงสามารถลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่างๆได้ครบจบในแอปพลิเคชันเดียว แต่ยังมีส่วนในการให้ความรู้และช่วยวางแผนการลงทุนให้สอดคล้องกับพฤติกรรมลูกค้าอย่างละเอียดอีกด้วย   “เมย์แบงก์เรามุ่งมั่นตั้งใจในการสร้างองค์กรแห่งความยั่งยืน เป็นบริษัทที่ปรึกษาการลงทุนที่เน้นย้ำการลงทุนด้วยความรู้ มีบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ มีความพร้อมในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้กับกลุ่มลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ ช่วยจัดการความมั่งคั่งและการลงทุน เดินหน้าตามวิสัยทัศน์ที่มุ่งสร้างโอกาสการลงทุนให้กับทุกคนได้อย่างเท่าเทียม” นายอารภัฏ กล่าวสรุป

Read More

FWD ประกันชีวิต รุกตลาดยูนิตลิงค์ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับช่องทางตัวแทน “เอฟดับบลิวดี ฟรีดอม ลิงค์ พลัส 15/5” ประกันชีวิตควบการลงทุน ชำระเบี้ย 5 ปี คุ้มครองชีวิตสูงถึง 50 เท่าของเบี้ยประกันภัยหลักนาน 15 ปี พร้อมสิทธิ์ในการขอต่ออายุกรมธรรม์ได้อีก 15 ปี จนถึงอายุครบ 99 ปี สร้างความมั่นคง เสริมความมั่งคั่ง จัดพอร์ตการลงทุนได้อิสระตามต้องการ ลงตัวในทุกจังหวะชีวิต ด้วยคำแนะนำการจัดสรรสินทรัพย์และคัดเลือกผลิตภัณฑ์การลงทุน โดยทีมผู้จัดการกองทุนและผู้เชี่ยวชาญที่ปรึกษาการลงทุนสถาบันชั้นนำระดับโลก พร้อมมอบบริการสุดเอ็กซ์คลูซีฟ “FWD Utmost” เอกสิทธิ์แห่งการดูแลสุขภาพและการใช้ชีวิตเหนือระดับ สำหรับลูกค้าที่มีเบี้ยประกันภัยรวมต่อปีตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไป   ปัจจุบันคนไทยหันมาให้ความสนใจด้านการลงทุนเพื่อการออมเพิ่มมากขึ้น จากการศึกษา พบว่าเนื่องด้วยสภาพเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด ส่งผลให้ผู้บริโภคมีพฤติกรรมและมีความต้องการในการลงทุนที่หลากหลาย และมีเป้าหมายในการลงทุนเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ของชีวิตแต่ละช่วง เพราะพวกเขาเผชิญกับความไม่แน่นอนและความผันผวนจากปัจจัยต่าง ๆ ที่อาจส่งผลต่อการลงทุนได้ ดังนั้นเพื่อการต่อยอดเงินออมให้เพิ่มสูงขึ้นตามเป้าหมายที่วางไว้ จึงจำเป็นที่จะต้องวางแผนและคิดทบทวนอย่างรอบคอบก่อนการลงทุน นายเดวิด โครูนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ประจำประเทศไทยและกัมพูชา บริษัท เอฟดับบลิวดีประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ FWD ประกันชีวิต  กล่าวว่า ภายใต้วิสัยทัศน์ของ FWD ประกันชีวิต เรามีความตั้งใจที่จะเปลี่ยนมุมมองของผู้คนที่มีต่อประกันชีวิต เรามุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในทุกไลฟ์สไตล์และช่วงชีวิต โดยมีแนวทางการทำงานที่ยึดความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก (Customer-led) เพื่อสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างและดีที่สุด ซึ่งผ่านการรับฟังและทำความเข้าใจลูกค้าที่กำลังมองหาเครื่องมือทางการเงินที่ให้ทั้งความคุ้มครองชีวิตและให้อิสระในการบริหารการลงทุน ที่สามารถสร้างความมั่นคงและความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน รวมถึงปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ เราจึงมีความตั้งใจที่จะพัฒนาออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ตอบโจทย์สุขภาพทางการเงิน ที่ช่วยวางแผนสู่เป้าหมายทางการเงินในแบบที่เลือกได้เอง เพื่อสร้างความเป็นอยู่ทางการเงินที่ดีในอนาคต กับแบบประกันชีวิตควบการลงทุน (ยูนิตลิงค์) “เอฟดับบลิวดี ฟรีดอม ลิงค์ พลัส 15/5” ก้าวสู่อิสรภาพในการใช้ชีวิตตามแบบเฉพาะคุณ ปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการ ด้วยจุดเด่นที่แตกต่าง อิสระอย่างมั่งคั่งและมั่นคง เลือกปรับเปลี่ยนความคุ้มครองชีวิตให้สอดคล้องกับเป้าหมายทางการเงิน พร้อมเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนด้วยการชำระเบี้ยประกันภัยเพิ่มพิเศษ(Top up) สูงสุดถึง 150 ล้านบาทต่อกรมธรรม์ เลือกกองทุนรวมคุณภาพที่ทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนได้คัดสรรมาจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนชั้นนำ หรือที่เรียกว่า Open Architecture โดยลูกค้าสามารถออกแบบพอร์ตการลงทุนด้วยตัวเองหรือเลือกลงทุนในกองทุนรวมตามโมเดลพอร์ตโฟลิโอ (Model Portfolios) ก็ได้ตามใจต้องการ…

Read More

บมจ.กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต นำโดยคุณบุปผาวดี โอวรารินท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายทรัพยากรบุคคล และภาพลักษณ์องค์กรและการสื่อสารองค์กร ตอกย้ำจุดยืนผู้นำบริษัทประกันชีวิตและสุขภาพ ส่งแคมเปญโฆษณาระดับโลก “อาชีพอิสระ ไม่ควรต้องเสี่ยง” เพื่อรณรงค์ประชาสัมพันธ์ถึงการให้ความสำคัญเรื่องความเสี่ยงต่อกลุ่มคนประกอบอาชีพอิสระ ที่ต้องเผชิญโดย เน้นถึงความเสี่ยงของกลุ่มคนเหล่านี้ ซึ่งมักจะไม่ได้รับผลประโยชน์หรือความคุ้มครองที่ถูกต้องและเหมาะสม โดยเป็นแคมเปญโฆษณาต่อเนื่องจากปีที่แล้ว “เป็นผู้หญิง ไม่ควรต้องเสี่ยง” กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จึงมุ่งมั่นที่จะช่วยให้กลุ่มคนที่ประกอบอาชีพอิสระเหล่านี้ ก้าวผ่านความท้าทายในชีวิตประจำวันของพวกเขา และยังมองว่าผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระ เป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจโลกของเราอีกด้วย จะเห็นได้ว่าทาง กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต ให้ความสำคัญและปกป้องอนาคตของกลุ่มคนที่ประกอบอาชีพอิสระ โดยการสร้างผลิตภัณฑ์และแคมเปญที่เหมาะสำหรับกลุ่มคนเหล่านี้ นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแคมเปญ “คุ้มเว่อร์” ที่ตอบโจทย์กลุ่มคนประกอบอาชีพอิสระ ประกอบไปด้วย ชดเชยคุ้มเว่อร์ : ขาดงาน ไม่ขาดเงิน ชดเชยคุ้มเว่อร์ โรคร้ายคุ้มเว่อร์ : ต่อสู้โรคร้าย เคลมได้หลายครั้ง คลอบคลุมคุ้มเว่อร์ : ทั้งโรคร้ายและชีวิต ดูแลจบในเล่มเดียว เกษียณคุ้มเว่อร์ : แก่แล้วสบาย มีเงินใช้ทุกปี โดยลูกค้าสามารถสอบถามข้อมูลแคมเปญดังกล่าวได้ที่ตัวแทนของบริษัทฯ และที่สำนักงานตัวแทนทั่วประเทศ นอกจากนี้ แคมเปญโฆษณา “อาชีพอิสระ ไม่ควรต้องเสี่ยง” จะเริ่มออกอากาศทางสื่อออนไลน์ สื่อนอกสถานที่ และกิจกรรมการตลาดในหลายพื้นที่ทั่วประเทศระหว่างเดือนสิงหาคม ถึงเดือนกันยายน 2567 นี้ หรือ สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตาม หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ได้ที่ โทร 1159 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง

Read More

สมาคมประกันชีวิตไทย จัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2567 เมื่อวันที่31 กรกฎาคม 2567 โดยมีวาระสำคัญคือการพิจารณาเลือกตั้งนายกสมาคมประกันชีวิตไทยและคณะกรรมการบริหารสมาคมชุดใหม่ ประจำปีบริหาร 2567– 2569 (1 กรกฎาคม 2567 – 30 มิถุนายน 2569) ซึ่งในที่ประชุมได้มีการลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์เลือก นางนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ ให้ดำรงตำแหน่ง นายกสมาคมประกันชีวิตไทย สำหรับรายนามกรรมการบริหารสมาคมประกันชีวิตไทย ประจำปีบริหาร2567 – 2569 มีดังต่อไปนี้ 1. นางนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ ​นายกสมาคมประกันชีวิตไทย 2. นายสาระ ล่ำซำ ​อุปนายกฝ่ายการตลาด 3. นายบัณฑิต เจียมอนุกูลกิจ ​อุปนายกฝ่ายบริหาร 4. นายนิคฮิล อาชวานิ แอดวานี ​อุปนายกฝ่ายวิชาการ 5. นายโชน โสภณพนิช ​เลขาธิการสมาคม 6. นายสุทธิ รจิตรังสรรค์ ​เหรัญญิกสมาคม

Read More

นางนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ นายกสมาคมประกันชีวิตไทยเผยภาพรวมธุรกิจประกันชีวิตในช่วงครึ่งแรกปี 2567 ระหว่าง มกราคม – มิถุนายน มีเบี้ยประกันภัยรับรวม (Total Premium) อยู่ที่ 311,413.63ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.80 เมื่อเทียบกับปี 2566 จำแนกเป็น เบี้ยประกันภัยรับรายใหม่ (New Business Premium) 88,332.86 ล้านบาท อัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.76 และเบี้ยประกันภัยรับปีต่อไป(Renewal Premium) 223,080.77 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.63 และมีอัตราความคงอยู่ร้อยละ 83 สำหรับเบี้ยประกันภัยรับรายใหม่ ประกอบด้วย 1.) เบี้ยประกันภัยรับปีแรก (First Year Premium) 58,266.84 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.21 2.) เบี้ยประกันภัยจ่ายครั้งเดียว (Single Premium) 30,066.02 ล้านบาท เติบโตลดลงร้อยละ 0.92 จำแนกเบี้ยประกันภัยรับรวมแยกตามช่องทางการจำหน่าย ดังนี้ 1. การขายผ่านช่องทางตัวแทนประกันชีวิต (Agency) เบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ที่ 155,522.29 ล้านบาท อัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ1.98 เมื่อเทียบกับปี 2566 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 49.94 2. การขายผ่านช่องทางธนาคาร (Bancassurance) เบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ที่ 122,507.58 ล้านบาท อัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.28 เมื่อเทียบกับปี 2566 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 39.34 3. การขายผ่านช่องทางนายหน้าประกันชีวิต (Broker) เบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ที่ 18,874.47 ล้านบาท อัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ13.42 เมื่อเทียบกับปี 2566 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 6.06 4.การขายผ่านช่องทางโทรศัพท์ (Tele Marketing) เบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ที่ 6,269.10 อัตราการเติบโตติดลบร้อยละ 8.43 เมื่อเทียบกับปี 2566 คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ…

Read More