นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเปิดเสนอขายกองทุนตราสารหนี้ทั่วโลก อายุโครงการประมาณ 1 ปี คือ กองทุนเปิดกรุงไทย โกลบอล ฟิกซ์ อินคัม 1Y24 (KTGF1Y24) ตั้งแต่ วันนี้ จนถึง วันที่ 22 มิถุนายน 2564 ซึ่งกองทุนดังกล่าวมีนโยบายลงทุนในทรัพย์สินประเภทตราสารหนี้ รวมกันทุกขณะไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยกองทุนมี นโยบายการลงทุนในตราสารหนี้ เงินฝาก และ/หรือตราสารการเงินที่มีอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับ ที่สามารถลงทุนได้ (investment grade) และ/หรือลงทุนในหน่วย CIS ของกองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนในทรัพย์สินประเภท ตราสารหนี้ อย่างไรก็ตาม กองทุนอาจพิจารณาลงทุนในตราสารแห่งหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกตราสารต่ำกว่า ที่ สามารถลงทุนได้ (non – investment grade) และ/หรือตราสารแห่งหนี้ที่ไม่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Unrated Securities) ไม่เกินร้อยละ 20 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ทั้งนี้ กองทุนจะพิจารณาลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินที่เสนอขายในต่างประเทศ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน มีกลยุทธ์การลงทุนแบบครั้งเดียว (buy-and-hold) เหมาะกับผู้ลงทุนที่ต้องการแสวงหาโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศภายในระยะเวลาประมาณ 1 ปี หน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ ที่คาดว่ากองทุนเปิดกรุงไทย โกลบอล ฟิกซ์ อินคัม 1Y24 จะมีการลงทุนเกินกว่าร้อยละ 20 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน คือ กองทุน Invesco Asian Bond Fixed Maturity Fund 2022 – IX C(USD) -Accumulation โดยเน้นลงทุนไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวมในตราสารหนี้ ในภูมิภาคเอเชียที่อยู่ในสกุลเงิน USD ที่ออกโดยผู้ออกตราสารที่ถูกพิจารณาคัดเลือกโดยดุลยพินิจของผู้จัดการ (เช่น รัฐบาล หน่วยงานรัฐบาล องค์การระหว่างประเทศที่มีลักษณะเหนือรัฐ (Supranational Entities) กลุ่มบริษัท สถาบันการเงิน และกลุ่มธนาคาร) ซึ่งอาจรวมถึงผู้ออกตราสารที่อยู่ในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ และกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วที่อยู่ในภูมิภาคเอเชียด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ ประเทศในภูมิภาคเอเชีย ในกองทุนนี้ หมายถึง ประเทศทุกประเทศในทวีปเอเชีย ยกเว้นประเทศญี่ปุ่น แต่รวมถึง ประเทศออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ktam.co.th หรือขอรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ. กรุงไทย โทร. 0-2686-6100 กด 9 ในเวลาทำการ และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา และผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุน (ถ้ามี) คำเตือน ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน / มีปัจจัยความเสี่ยงของกองทุน อาทิ ความเสี่ยงจากการขาดสภาพคล่องของหลักทรัพย์ ความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ของผู้ออกตราสาร และความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งกองทุนนี้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
Author: admin
นายแพทย์นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา รับมอบน้ำดื่ม จำนวน 50,000 ขวด และอาหารพร้อมทาน จำนวน 1,000 ชุด จากบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) โดยมี นายณัฐพงศ์ บุญเย็น ผู้จัดการฝ่ายปฎิบัติการภาค 2 (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) พร้อมผู้บริหารสาขาและศูนย์นครราชสีมา และตัวแทนประกันวินาศภัยในพื้นที่ ร่วมมอบ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์ที่เข้าร่วมปฏิบัติงานที่หน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ซึ่งเปิดให้บริการ ณ เอ็มซีซี ฮอลล์ ชั้น 3 ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์โคราช ถนนมิตรภาพ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา
ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา Bao Viet Life ได้ให้บริการสินค้าประกันชีวิตที่เป็นนวัตกรรมแก่ชาวเวียดนามเพื่อมุ่งสนองความต้องการของลูกค้า Pham Ngoc Son ซีอีโอของ Bao Viet Life Corporation ได้ให้สัมภาษณ กับ Global Banking and Finance เกี่ยวกับความสำเร็จของ Bao Viet Life ภาพรวมอุตสาหกรรมประกันชีวิตในเวียดนาม ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต กลยุทธ์ทางธุรกิจ รวมถึงการทำธุรกิจในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 Bao Viet Life ก่อตั้งขึ้นในปี 2539 เป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งแรกในเวียดนาม โดยมีมูลค่าการซื้อขายเพียง 1 พันล้านดองเวียดนาม และ 1,200 สัญญาในปีแรกที่ก่อตั้ง ตลอดระยะเวลากว่า 25 ปีที่ Bao Viet Life เติบโตอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญขององค์กรที่เป็นผู้นำตลาดที่มีเครือข่ายสำนักงานตัวแทน 76 แห่ง สำนักงานภูมิภาคเกือบ 400 แห่ง ครอบคลุม 63 จังหวัด เจ้าหน้าที่เกือบ 2,400 คน และที่ปรึกษาทางการเงินประมาณ 200,000 คน เมื่อเทียบกับบริษัทประกันชีวิตที่เหลืออีก 17 ราย Bao Viet Life จึงถือว่านำอยู่หลายขุม Bao Viet Life เป็นผู้นำอุตสาหกรรมประกันชีวิตในเวียดนามในแง่ของรายได้รวมและรายได้จากเบี้ยประกันชีวิตรายใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2563 มีส่วนแบ่งตลาด 21.5% โดยพิจารณาจากรายรับรวม Bao Viet Life มีรายได้รวม 28 ล้านล้านดองเวียดนาม(ประมาณ 38,000 ล้านบาท) และรายได้จากธุรกิจใหม่มากกว่า 6.3 ล้านล้านดอง (ประมาณ 8,500 ล้านบาท) มีลูกค้า 16 ล้านราย และชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลมากกว่า 150 พันล้านดอง (มากกว่า 200 ล้านบาท) เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค เช่น ญี่ปุ่น…
ดร.สมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ทิพยประกันภัย มอบสับปะรด จำนวน 2.5 ตัน ที่รับซื้อจากเกษตรกรชาวไร่สับปะรด จังหวัดระยอง ตาม “โครงการเกตรเป็นสุข” เพื่อนำไปมอบให้กับ แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา เพื่อเป็นกำลังใจ ในการปฏิบัติหน้าที่ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ด้วยความทุ่มเทและเสียสละ โดยมี นายแพทย์ธรณินทร์ กองสุข ผู้อำนวยการสถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา รับมอบ ทิพยประกันภัยขอส่งกำลังใจให้แก่ พี่น้องเกษตรกร แพทย์บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ป่วย รวมถึงประชาชนทุกๆท่านให้ปลอดภัย ผ่านพ้นวิกฤตการณ์ในครั้งนี้อย่างรวดเร็ว ด้วยความห่วงใยเป็นที่สุด
บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI โดยนายอลงกรณ์ กาศทิพย์ (ที่ 2 จากซ้าย) ผู้จัดการภาคเหนือ ธุรกิจสาขาและการร่วมทุน เป็นผู้แทนบริษัทฯ มอบเครื่องช่วยหายใจชนิดควบคุมด้วยปริมาตรและความดัน จำนวน 1 เครื่อง ให้แก่โรงพยาบาลประสาทเชียงใหม่ โดยมีนางนิรมัย มณีรัตน์ (ที่ 2 จากขวา) รองผู้อำนวยการด้านการพยาบาล เป็นผู้แทนรับมอบ เพื่อใช้ในการรักษาผู้ป่วยรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) รวมถึงผู้ป่วยวิกฤติที่จำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ณ โรงพยาบาลประสาทเชียงใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2564
เมื่อวันที่ 11 มิถุนยน 2564 เวลา 09.09 น. ผู้บริหาร และพนักงานบริษัท สินทรัพย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ร่วมกันฉลองและยินดีในโอกาสที่เปลี่ยนชื่อบริษัทจากเดิม บริษัท สินทรัพย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท เดอะ วัน ประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือชื่อภาษาอังกฤษว่า THE ONE INSURANCE PUBLIC LIMITED โดยทางบริษัท เดอะ วัน ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้ปรับเปลี่ยนการให้บริการที่ทันสมัยเข้ากับยุคดิจิทัล มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อที่จะสามารถให้บริการลูกค้าได้สะดวก รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ บริษัทยังคงมุ่งมั่นในการเพิ่มคุณภาพการให้บริการแก่ลูกค้าทุกท่านและขอให้ท่านมั่นใจว่าท่านจะยังคงได้รับความคุ้มครองตามข้อกำหนดและเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยของท่านเช่นเดิมทุกประการ
ภาคอุตสาหกรรมประกันภัยในกัมพูชาในปี 2563 มีเบี้ยประกันภัยรับรวมเพิ่มขึ้น 7.8% หรือคิดเป็น 264.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 The Khmer Times สื่อชื่อดังของกัมพูชารายงานว่า จากตัวเลขที่เผยแพร่ใน National Bank of Cambodia’s Financial Stability Review จำนวนเบี้ยประกันวินาศภัยเพิ่มขึ้น 10.5% ในปี 2563 นายยุค จำเริญฤทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Forte Insurance Group กล่าวว่า ตลาดประกันภัยของกัมพูชายังมีพื้นที่ว่างสำหรับการเติบโตอีกมาก โดยอัตราการถือครองกรมธรรม์ประกันภัยในประเทศนี้ยังต่ำกว่า 1% หากพิจารณาอย่างละเอียดพบว่า ประกันภัยทรัพย์สินและประกันภัยสุขภาพคิดมีส่วนแบ่งของเบี้ยประกันภัยมากที่สุดประมาณ 35.4% นายยุค กล่าวว่า ประกันสุขภาพได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ลูกค้าเริ่มตระหนักถึงความสำคัญของการปกป้องสุขภาพและการเงิน แต่ประชากรส่วนใหญ่ยังคงไม่มีหลักประกัน ซึ่งแสดงถึงโอกาสอันยิ่งใหญ่ “ปัจจัยที่จะสนับสนุนให้ธุรกิจประกันภัยเติบโตต่อเนื่องไป ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจมหภาคที่เอื้ออำนวย เสถียรภาพทางการเมือง การเติบโตของกลุ่มชนชั้นกลาง การกำหนดกรอบการกำกับดูแลที่แข็งแกร่งขึ้น และการสนับสนุนจากหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งเสริมการเติบโต ความตระหนักรู้ และความเข้าใจตลอดจนความไว้วางใจต่ออุตสาหกรรมประกันภัย” นายยุคยังกล่าวว่าการไม่สามารถพบปะกับลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายแบบเจอหน้าเจอตาได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจประกันภัยในช่วงที่มีการระบาด เนื่องจากการขายประกันจำเป็นต้องมีการพบปะพูดคุย “สถานการณ์ทางการเงินของลูกค้าเป็นปัจจัยที่สำคัญมากในการพิจารณาว่าพวกเขาจะสามารถต่ออายุกรมธรรม์ได้หรือไม่ เราพบว่าลูกค้าจำนวนมากที่ต้องการต่ออายุกรมธรรม์แต่ไม่สามารถต่ออายุกรมธรรม์ได้เนื่องจากสถานะทางการเงินของลูกค้า ผลกระทบทางการเงินยังส่งผลต่ออัตราการซื้อประกันใหม่อย่างเป็นได้ชัด” การเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ทางธุรกิจที่เกิดจากโควิด-19 ทำให้ Forte Insurance Group ต้องเข้าสู่โลกออนไลน์ ซึ่งถือว่าบริษัทประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง “ในช่วงการระบาดนี้ เราได้ริเริ่มและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อนำเสนอทางออนไลน์เท่านั้น เป้าหมายสำคัญประการหนึ่งของเราคือการเป็นผู้นำกลุ่มผลิตภัณฑ์ประกันโควิด-19 ให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมากัมพูชา ผลิตภัณฑ์นี้สามารถหาซื้อได้ทางออนไลน์จากแพลตฟอร์มที่เราพัฒนาและจัดทำขึ้นเท่านั้น” ผู้บริหาร Forte Insurance Group กล่าว Resouce : www.asiainsurancereview.com
นายมนตรี วงศ์ท่าเรือ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) หนึ่งในสายธุรกิจประกันและการเงิน บริษัท เครือไทย โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (กลางซ้าย) ร่วมพิธีส่งมอบกรมธรรม์ประกันโควิดกลุ่ม โดยได้รับความไว้วางใจในการเลือกทำประกันฯ ให้กับบุคลากรกรมส่งเสริมพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ โดยมีนายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม (กลางขวา) และ นายวรพล จันทร์งาม รองอธิบดีกรมฯ ร่วมรับมอบ ณ กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม เมื่อเร็วนี้ๆ
เจนเนอราลี่ ประกันชีวิต ประกาศวิสัยทัศน์ภายใต้แม่ทัพใหม่ช่องทางตัวแทน “ชวลิต ทองรมย์” เดินหน้าพัฒนาศักยภาพตัวแทนสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน เน้นย้ำสู่การเป็น “ตัวแทนที่ดีที่สุดในประเทศ” ด้วยกลยุทธ์ C.S.E.P. นายชวลิต ทองรมย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายช่องทางจัดจำหน่ายผ่านตัวแทน (Chief Agency Officer) บริษัท เจนเนอราลี่ ประกันชีวิต (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) แถลงข่าวภายหลังการเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ วันที่ 5 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมาว่า เจนเนอราลี่ กรุ๊ป มีเครือข่ายที่ครอบคลุมกว่า 50 ประเทศ มีตัวแทนกว่า 150,000 คน ทั่วโลก แบ่งเป็นตัวแทนในภูมิภาคเอเชียจำนวน 57,900 คน โดยประเทศไทยเป็น 1 ในกลุ่มประเทศเอเชียที่ได้รับการสนับสนุนด้านการเติบโตของช่องทางตัวแทนด้วยศักยภาพที่แข็งแกร่ง ด้วยวิสัยทัศน์ในการมองหาโอกาส และการบริหารจัดการที่ยอดเยี่ยม สำหรับเป้าหมายในการบริหารช่องทางตัวแทนของเจนเนอราลี่ที่สำคัญ คือ “มุ่งหน้าสู่การเป็นตัวแทนที่ดีที่สุดในประเทศ” ด้วยกลยุทธ์ 4 ด้านหลัก : C.S.E.P. ดังนี้ Capable people พัฒนาศักยภาพตัวแทน ให้สามารถเป็น Total Financial Solution จากผู้เชี่ยวชาญในการแนะนำแผนประกัน (Insurance specialist ) สู่ผู้ออกแบบและบริหารสินทรัพย์ (Asset designer ) และก้าวสู่ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารการเงินสู่ความมั่งคั่ง ซึ่งเป็นการขยายธุรกิจด้วยการพัฒนาตัวแทนให้เป็นที่ปรึกษาความมั่งคั่ง (Wealth advisor) นั้นเป็นการทำให้ธุรกิจเติบโตรวดเร็วและยั่งยืน เนื่องจากลูกค้าเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง รวมถึงมีปัจจัยสนับสนุนหลายด้าน อาทิ จากกลุ่มเป้าหมายที่มีการออมด้วยเงินฝาก จำนวนเงินในบัญชีเกิน 10 ล้านบาท มีมูลค่ากว่า 7,100 ล้านบาท ในขณะที่ด้านอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลดลงจากสูงสุด 24% เหลือเพียง 0.125-2% และโอกาสด้านการเติบโตของธุรกิจประกันช่องทางเอเจนซี่กว่า 320,000 ล้านบาทคิดเป็นสัดส่วนใหญ่ที่สุดในตลาด โดยในปีนี้เจนเนอราลี่ตั้งเป้าเสริมศักยภาพเพื่อให้ตัวแทนก้าวสู่ Wealth advisor เพื่อนำเสนอ “Solution Products” ให้แก่ลูกค้าเพื่อการเติบโตธุรกิจที่รวดเร็วและยั่งยืน โดยคัดสรรตัวแทนคุณภาพปีนี้ตั้งเป้าที่จำนวน 500 คน Suitable product นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า ครอบคลุมทุกประเภท ความสามารถในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงอายุ เพศ และความต้องการ โดยในครึ่งปีหลังนี้คาดว่าจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งประกันชีวิตและประกันสุขภาพ ที่วางแผนและออกแบบเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องการวางแผนทางการเงินและสุขภาพ ตลอดชีวิตของลูกค้าและครอบครัว Efficiency technology เพิ่มประสิทธิผลด้วยเทคโนโลยี เครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพด้านงานขายและบริการและอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลของกรมธรรม์สำหรับตัวแทน Professional service ให้บริการที่เลิศแก่ลูกค้า การให้บริการด้วยความใส่ใจและสามารถให้คำแนะนำและคำปรึกษาในสิ่งที่ลูกค้าต้องการได้อย่างครบวงจร นายชวลิต กล่าวต่อว่า สำหรับเป้าหมายการพัฒนาช่องทางตัวแทนประกันชีวิตของเจนเนอราลี่ ภายในปีพ.ศ. 2564 นี้ ต้องเพิ่มจำนวนตัวแทนคุณภาพจากปีพ.ศ. 2563 จำนวน 70% เพิ่มจำนวน MDRT 50% ส่งเสริมเพื่อสร้างรายได้เป้าหมายให้ตัวแทนขั้นต่ำที่ 25,000 บาทต่อเดือน และตั้งเป้าส่งมอบรายได้เบี้ยรับปีแรก (FYP) คิดเป็นอัตราเติบโต จากปีพ.ศ. 2563 40% อย่างไรก็ตามสำหรับโครงการ The Lion’s ROAR มีโมเดลการพัฒนาตัวแทนอย่างเป็นระบบตั้งแต่กระบวนการสรรหาคนรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพเข้าสู่เส้นทางอาชีพตัวแทนที่ปรึกษาทางการเงิน (FP) ซึ่ง FP ทุกคนจะต้องผ่านการพัฒนาและการอบรม เพื่อเสริมสร้างทักษะการขายและการเข้าพบลูกค้าอย่างเป็นมืออาชีพ สำหรับแคมเปญ “MDRT 3 ปี รับโบนัส 3 ล้านบาท” ได้รับกระแสการตอบรับที่ดี จึงถือได้ว่าเป็นปีที่เจนเนอราลี่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในการพัฒนาศักยภาพและสร้างฐานของตัวแทน FP ที่มีคุณภาพ ทำให้ล่าสุดบริษัทฯ มีตัวแทนที่ติดคุณวุฒิ MDRT (Million Dollar Round Table) จำนวนทั้งสิ้น 13 คน ซึ่ง 6 คนในนี้เป็นตัวแทน FP ที่ผ่านกฎเกณฑ์ MDRT 3 ปี 3 ล้าน แบ่งเป็นรุ่นที่ 1 จำนวน 2 ท่าน และ รุ่นที่ 2 จำนวน 4 ท่าน ซึ่งแคมเปญดังกล่าวจะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ธ.ค. 2565 โดยบริษัทฯ ได้เตรียมมอบเงินโบนัส จำนวน 18 ล้านบาทให้กับตัวแทน MDRT ทั้ง 6 ท่าน ที่มีสิทธิ์พิชิตแคมเปญ 3 ปี 3 ล้านสำเร็จตามเป้าหมาย “การดำเนินงานที่เร่งด่วนภายในปีนี้ เป้าหมายเพื่อให้ตัวแทนของเจนเนอราลี่สามารถเป็นตัวแทนที่ดีที่สุดในประเทศ ด้วยโครงสร้างและผลประโยชน์ที่ดี รวมถึงการได้รับการสนับสนุนจากบริษัทและมีพฤติกรรมดี ดังเช่น ตัวแทนต้องช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้า ทั้งในด้านการเงินและสุขภาพ อีกทั้งยังต้องซื่อสัตย์และพร้อมบริการเคียงคู่ไปกับลูกค้า เพื่อความสำเร็จและสามารถพัฒนาศักยภาพตัวแทนอย่างต่อเนื่องสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน มุ่งหน้าเป็นบริษัทประกันชีวิตที่มีพลังและเป็นตัวแทนดีที่สุดในประเทศ ในฐานะ Wealth Advisor หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารการเงินสู่ความมั่งคั่ง และพร้อมที่จะวางแผนความมั่นคงในชีวิตให้กับลูกค้าได้อย่างชาญฉลาด ” นายชวลิตกล่าว ภายในงานนายบัณฑิต เจียมอนุกูลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทเจนเนอราลี่ ประเทศไทย ยังได้ย้ำถึงเป้าหมายหลักของเจนเนอราลี่ทั่วโลกในการที่เป็น Lifetime Partner ที่อยู่เคียงข้างลูกค้า ในทุกช่วงเวลาของชีวิต โดยช่องทางตัวแทนซึ่งถือเป็นช่องทางสำคัญของธุรกิจประกันชีวิตของเจนเนอราลี่ และเชื่อมั่นว่าภายใต้การนำของคุณชวลิต ทองรมย์ แม่ทัพตัวแทนคนใหม่นั้นจะสามารถนำพาให้เจนเนอราลี่บรรลุเป้าหมายในปีนี้ได้อย่างแน่นอน
เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ ร่วมกับ ศรีสวัสดิ์ ปั้นโครงการใหม่ “เจนสวัสดี” คอนเท้นต์เสริมสร้างวินัยทางการเงินให้กับคนรุ่นใหม่ ที่มีเนื้อหาเข้าใจง่ายพร้อมภาพประกอบโดยใช้อินไซด์จากกลุ่มเป้าหมายและคำถามที่ถูกค้นบ่อยเกี่ยวกับประกันสินเชื่อ หรือการบริหารจัดการเงิน เพื่อสร้างแนวคิดและพฤติกรรมเพื่อสุขภาพทางการเงินที่ดี โดยใช้ประสบการณ์การบริหารสินเชื่อกลุ่มลูกค้า ของ “ศรีสวัสดิ์” และความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนการเงินจาก “เจนเนอราลี่” ผ่านสื่อดิจิทัลของ 2 พาร์ทเนอร์ นายบัณฑิต เจียมอนุกูลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ กล่าวว่า “จากวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ทั่วโลกต้องปรับตัว ทั้งการดำเนินธุรกิจและการดำรงชีวิต รวมถึงพฤติกรรมของคนไทย โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่หันมาให้ความสำคัญกับการสร้างความมั่นคงให้กับชีวิต เห็นได้จากในโลกออนไลน์ที่มีการตั้งคำถามถึงแนวทางการสร้างรายได้เพิ่มจากงานประจำ การเก็บออม และการลงทุนเป็นจำนวนมาก รวมถึงการประกันสินเชื่อเพื่อปกป้องความเสี่ยง ดังนั้น เจนเนอราลี่ ซึ่งเป็นองค์กรที่มีประสบการณ์ ความแข็งแกร่งในด้านการเงินและการประกันระดับโลก อีกทั้งบริษัทฯ ยังมีแนวคิดในการทำธุรกิจอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งการยกระดับสังคมให้ดีขึ้นในทุกสถานการณ์” เจนเนอราลี่ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญดังกล่าว จึงได้ร่วมกับ บริษัทศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 2014 จำกัด หนึ่งในกลุ่ม บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ศรีสวัสดิ์ เปิดโครงการ “เจนสวัสดี” คอนเท้นต์ออนไลน์ ที่นำเสนอคอนเทนต์สอดแทรกความรู้เกี่ยวกับทางการเงิน อาทิ การประเมินสถานภาพทางการเงินของตนเอง เคล็ดลับการออมเงินและบริหารจัดการหนี้ การวางแผนทางการเงินในอนาคต ฯลฯ โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนการเงินจากเจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ และผู้เชี่ยวชาญจากบริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในด้านประสบการณ์การบริหารสินเชื่อ ทางด้านนางสาวธิดา แก้วบุตตา ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวเสริมว่า “เราทำธุรกิจสินเชื่อ เป้าหมายเพื่อช่วยเหลือลูกค้าในเวลาจำเป็น ซึ่งเราเน้นให้ความรู้แก่ลูกค้าเสมอและส่งเสริมให้ลูกค้ามีความรู้ความเข้าใจ และประโยชน์ของการทำประกันวงเงินสินเชื่อเพื่อให้แน่ใจว่าหากเกิดเหตุไม่คาดฝันต่อผู้ขอสินเชื่อ จะไม่เป็นภาระต่อคนข้างหลัง และทายาทของผู้เอาประกันจะไม่เสียผลประโยชน์ เราจึงได้เจนเนอราลี่มาช่วยทำสินค้าด้านประกันสินเชื่อที่ให้ลูกค้าของศรีสวัสดิ์ได้ประโยชน์อย่างดีที่สุด ศรีสวัสดิ์ เติบโตอย่างรวดเร็ว ลูกค้ายังมีความต้องการด้านสินเชื่ออย่างต่อเนื่อง เราจึงเห็นว่าเป็นโอกาสอันดีที่จะเสริมสร้างวินัยทางการเงินที่ดี ให้กับคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะการทำคอนเท้นต์ผ่านสื่อดิจิทัลที่เข้าถึงง่าย ส่งต่อง่าย อธิบายด้วยภาพให้เข้าใจได้ง่าย ศรีสวัสดิ์ ที่มีกว่า 5,000 สาขาทั่วประเทศ เราจะสื่อสารเนื้อหาดังกล่าวไปยังสาขาของเราด้วย เพื่อส่งต่อเนื้อหาดี ๆ ไปยังลูกค้าของเรา” นายบัณฑิต กล่าวทิ้งท้ายว่า “สำหรับโปรโจค ‘เจนสวัสดี’ จะเป็นอีกหนึ่งส่วนช่วยให้คนรุ่นใหม่ได้มีความรู้ในการวางแผนการเงินในอนาคตที่ดีและมั่นคง รวมถึงนำความรู้ที่ได้ไปแบ่งปันให้กับสังคมรอบข้างให้มีวินัยทางการเงินที่ดีได้เช่นกัน” สำหรับผู้ที่สนใจคอนเทนต์ด้านการเงิน การลงทุน และการออม สามารถเข้าชมเนื้อหาของโปรเจค “เจนสวัสดี” ได้ที่ Facebook Fanpage : Generali Thailand และ ศรีสวัสดิ์ เงินสดทันใจ ได้เร็ว ๆ นี้ สนใจสินเชื่อ ศรีสวัสดิ์ ศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ได้ที่ www.sawad.co.th