โบลท์เทค หนึ่งในบริษัทอินชัวเทคระหว่างประเทศที่เติบโตเร็วที่สุด ประกาศเสร็จสิ้นการระดมทุนรอบซีรี่ย์ เอ มูลค่ากว่า 180 ล้านเหรียญสหรัฐ นำโดย เอ็คทิเว็นท์ แคปปิตอล กรุ๊ป (Activant Capital Group (“Activant”)) รวมถึงนักลงทุนรายใหญ่ โทนี่ ฟาเดลล์ (Tony Fadell) – ผู้ก่อตั้ง ฟิวเจอร์ เชป (Future Shape), อัลฟ่า ลีโอนีส พาร์ทเนอร์ (Alpha Leonis Partners), ดอลลิ่ง แคปปิตอล พาร์ทเนอร์ส (Dowling Capital Partners), บี. ไรลี่ เวนเจอร์ แคปปิตอล(B. Riley Venture Capital) และ ทาร์ซาเดีย อินเวสเม้นท์ (Tarsadia Investments) สำหรับรอบการลงทุนนี้ถือเป็น ซีรีย์ เอ ที่ใหญ่ที่สุดสำหรับธุรกิจอินชัวร์เทค โดยโบลท์เทคมีมูลค่าสูงกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นการเติบโตอย่างรวดเร็วสู่ยูนิคอร์นหน้าใหม่แห่งวงการอินชัวร์เทค เพียงหนึ่งปีหลังจากก่อตั้งขึ้นในปี 2563 ด้วยวิสัยทัศน์ของโบลท์เทคที่มุ่งยกระดับและเชื่อมต่อการปกป้องทุกสิ่งมีค่าของลูกค้าด้วยการรับประกันภัยผ่านช่องทางดิจิทัล โบลท์เทคก่อตั้งขึ้นเพื่อเปลี่ยนวิธีการซื้อและขายประกันภัยผ่านช่องทางดิจิทัล และการใช้ข้อมูลเต็มรูปแบบในการขับเคลื่อนความสามารถของธุรกิจ นอกจากนี้ โบลท์เทคยังให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงกันระหว่าง บริษัทรับประกันภัย ช่องทางการจัดจำหน่าย และลูกค้า ทำให้การซื้อและขายผลิตภัณฑ์ประกันภัยและการคุ้มครองทำได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ในส่วนนายหน้าประกันภัยของโบลท์เทคถือได้ว่าเป็นธุรกิจที่มีการทำธุรกรรมขนาดใหญ่ที่สุดในโลกด้วยเบี้ยประกันภัยมูลค่ากว่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และช่องทางการนำเสนอผลิตภัณฑ์มากถึง 5,000 ผลิตภัณฑ์ จากบริษัทรับประกันภัย 150 บริษัท นอกจากการผนึกกำลังของทีมพนักงานและผู้บริหารกว่า 1,400 ชีวิต โบลท์เทคร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ เช่น บริษัท รับประกันภัย, เทลโคส์ (telcos), ผู้ค้าปลีก ธนาคาร อีคอมเมิร์ซ และช่องทางดิจิทัลแบบต่างๆ เพื่อผนึกกำลังการประกันภัยให้สามารถมอบประสบการณ์ที่ราบรื่นแก่ลูกค้าในเวลาที่ต้องการ ปัจจุบันโบลท์เทคได้ขยายธุรกิจในทุกภูมิภาค ให้บริการลูกค้ามากกว่า 7.7 ล้านรายใน 14 ตลาดทั่ว 3 ทวีป…
Author: admin
นายธศพงษ์ รังควร (คนที่ 2 จากซ้าย) ผู้อำนวยการ – ธุรกิจบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ นายเรียว โมริตะ (คนที่ 1 จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจซีบี อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด มอบรางวัล Toyota Yaris Sport Premium ปี 2020 มูลค่า 679,000 บาท ให้กับสมาชิกผู้โชคดีจากแคมเปญ “กินญี่ปุ่น ลุ้นรถญี่ปุ่น กับบัตรเครดิต เคทีซี เจซีบี แพลทินัม” คุณหริศา เอี่ยมสอาด (คนที่ 2 จากขวา) ที่โชว์รูมโตโยต้า สยามออโต้ ซาลอน สาขาสุขาภิบาล 5 เร็วๆ นี้
บมจ.ไทยสมุทรประกันชีวิต รักคือพลังของชีวิต โดยคุณวันเพ็ญ เกตุชาญชัย ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาด และคุณวิลาวัลย์ วรุตพิพัฒน์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคล นำทีมผู้บริหาร และพนักงาน เดินหน้าดูแลคนไทยอย่างต่อเนื่อง ด้วยความห่วงใยและเข้าใจถึงความยากลำบากในการใช้ชีวิตที่ทุกคนต้องเผชิญจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ยังคงทวีความรุนแรงในปัจจุบัน จึงได้จับมือกับ คุณวิลาวัณย์ แซ่อาว จาก Facebook Page โรงทาน Delivery และ คุณพันชนะ วัฒนเสถียร ผู้ก่อตั้งโครงการข้าวเพื่อหมอ Food for Fighters รวมพลังความรักจากผู้บริหารและพนักงาน OCEAN LIFE ไทยสมุทร จัดทำ “ถุง LOVE BAG ส่งรักและกำลังใจ” จำนวน 300 ถุง ภายใต้โครงการ LOVE THAILAND , Protect Your Loved Ones ซึ่งภายในถุงบรรจุด้วยสิ่งของอุปภาคบริโภคที่จำเป็น อาทิ ข้าวสาร บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง นม ไข่ไก่ ฯลฯ ส่งมอบให้กับประชาชนในชุมชนทั่วกรุงเทพและปริมณฑล ซึ่งได้รับผลกระทบจากสถานการณ์วิกฤต COVID-19 มีความจำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างเร่งด่วน และยังได้ร่วมมอบน้ำดื่มไทยสมุทร จำนวน 2,000 ขวด เพื่อส่งต่อให้กับกลุ่มคนไร้บ้านในพื้นที่กรุงเทพฯ อีกด้วย OCEAN LIFE ไทยสมุทร หวังเป็นอย่างยิ่งว่า LOVE BAG ของเราจะช่วยแบ่งเบาความเดือดร้อนในเบื้องต้น ให้ทุกคนได้ใช้ประโยชน์ในการดำรงชีวิตที่ยากลำบากในวันนี้ และขอเป็นพลังใจให้ทุกคนยืนหยัดสู้ไปด้วยกันจนกว่าจะผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้
ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้อัตราการว่างงานมีแนวโน้มที่สูงขึ้น ขณะเดียวกันด้วยสภาพเศรษฐกิจที่ไม่เอื้อต่อการรับแรงงานใหม่ ยิ่งส่งผลต่อการขาดรายได้ และยังมีผลต่อกำลังซื้อในประเทศ บริษัท ไทยพาณิชย์ โพรเทค จำกัด ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคน และเพื่อช่วยบรรเทาปัญหาการว่างงาน และช่วยให้ภาคแรงงานมีรายได้ประจำให้เร็วที่สุด จึงเปิดรับสมัครทีมขายในตำแหน่งที่ปรึกษาด้านความคุ้มครอง (Protection Consultant) ทั่วประเทศรวม 1,500 อัตราในรูปแบบงานสัมมนาออนไลน์ ผ่านระบบ Microsoft Teams ทุกวันเสาร์ ตลอดเดือนกรกฎาคม 2564 เวลา 10.00-12.00 น. ทั้งนี้ ภายหลังจากที่รัฐบาลประกาศยกระดับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 อีกครั้งนั้น บริษัท ไทยพาณิชย์ โพรเทค จึงปรับเปลี่ยนรูปแบบการรับสมัครตลอดเดือนกรกฎาคมนี้ในรูปแบบสัมมนาออนไลน์ เริ่มตั้งแต่การจุดไฟนักขาย ทำความรู้จักธุรกิจประกัน ซึ่งเป็นธุรกิจดาวรุ่งแห่งปี เรียนรู้โอกาสการสร้างรายได้ไม่มีขีดจำกัด การรับสมัครงาน นัดสัมภาษณ์ได้ภายในวันเดียว โดยตลอดทุกขั้นตอน ตั้งแต่การอบรมจนถึงเริ่มงาน จะทำจบครบทางออนไลน์ทั้งหมด จะมีเพียงแค่การสอบใบอนุญาตนายหน้าเท่านั้นที่ต้องเป็นไปตามระเบียบของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) โดยเมื่อสถานการณ์ดีขึ้นแล้ว บริษัทอาจจะปรับรูปแบบเป็นแบบออนทัวร์เพื่อออกไปรับสมัครงานตามหัวเมืองหลักๆ ทั่วทั้ง 4 ภาคภายในเดือนกันยายน 2564 นอกจากโอกาสเข้าร่วมงานกับไทยพาณิชย์ โพรเทคแล้ว ที่ปรึกษาด้านความคุ้มครองทุกคนจะได้รับการอบรมพื้นฐานการเงินที่จะเป็นภูมิคุ้มกันทางการเงินให้ตัวเอง และส่งมอบให้กับลูกค้าเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันได้กับทุกความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในชีวิต ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเพื่อรับลิงก์เข้าร่วมงานได้ที่ http://bitly.ws/f3Zr หรือดูข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งงานได้ที่ www.scbprotect.co.th
เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ มุ่งให้ความสำคัญกับการยอมรับความแตกต่าง เดินหน้าสนับสนุนความเท่าเทียมในองค์กร จัดกิจกรรม “WE GEN, WE PROUD” ซึ่งจัดขึ้นในทุกปีเพื่อร่วมเฉลิมฉลองและต้อนรับ Pride Month เดือนแห่งความภาคภูมิใจของกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQI+) พร้อมสร้างการตระหนักรู้ให้พนักงานในเรื่องความเท่าเทียมทางเพศและผลักดันให้เกิดความเท่าเทียมในองค์กรทุกมิติ นอกจากนี้ยังเชิญชวนให้พนักงานนำสิ่งของมาร่วมประมูลสมทบทุนเพื่อนำเงินที่ได้มอบให้มูลนิธิคนพิการไทย ผ่านการจัดงานในรูปแบบ Virtual Event ภายในงาน ได้รับเกียรติจากนายบัณฑิต เจียมอนุกูลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ กล่าวเปิดกิจกรรมว่า “ในเดือนมิถุนายนของทุกปีถือเป็นเดือนที่ทั่วโลกให้ความสำคัญกับกลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQI+) ซึ่งเจนเนอราลี่ก็ได้ให้ความสำคัญกับความหลากหลาย (Diversity and Inclusion) มาโดยตลอดเช่นกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีมากที่พนักงานทุกคนได้เห็นถึงความสำคัญในการยอมรับและเห็นถึงคุณค่าของความแตกต่างของแต่ละบุคคล เพื่อให้กลุ่มคนเหล่านี้มีพื้นที่ในการแสดงออกถึงความเป็นตัวตน ความคิดสร้างสรรค์ และความคิดที่แตกต่างที่สามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง สังคม และเป็นพลังในการสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ ให้องค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้เจนเนอราลี่ยังให้สำคัญกับกลุ่ม Disability ที่มีศักยภาพและความสามารถเช่นเดียวกับพนักงานคนอื่น ๆ และต้องขอขอบคุณพนักงานทุกคนได้ให้สำคัญกับกิจกรรมนี้และร่วมกันสร้างให้เจนเนอราลี่เป็นองค์กรแห่งความเท่าเทียมในทุกมิติ” นอกจากภายในงานจะมีการสร้างการตระหนักรู้ให้พนักงานทุกคนมีส่วนร่วมในการส่งเสริมและผลักดันให้เกิดความเท่าเทียมในองค์กรทุกมิติแล้ว ยังเปิดโอกาสให้พนักงานในกลุ่ม LGBTQI+ ได้ร่วมแบ่งปันประสบการณ์และบรรยากาศการทำงานที่เจนเนอราลี่ รวมถึงการที่ได้รับการปฏิบัติจากเพื่อนพนักงานด้วยกันอย่างเท่าเทียม โดยได้เชิญนายตรีมินทร์ เกษมวิรัติพงศ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาทัศนคติและดึงศักยภาพ (Mindset Coach) มาร่วมการเสวนาในครั้งนี้ด้วย ปิดท้ายด้วยกิจกรรมที่เชิญชวนให้ผู้บริหารและพนักงานร่วมประมูลของขวัญชิ้นพิเศษ เพื่อนำรายได้จากการประมูลโดยไม่หักค่าใช้จ่ายและรายได้จากการร่วมสมทบทุนบริจาค รวมเป็นเงินจำนวน 67,878 บาท ไปมอบให้กับมูลนิธิคนพิการไทย (THAI WITH DISABILITY FOUNDATION) ต่อไป ถึงแม้กิจกรรมนี้จะจัดในรูปแบบของ Virtual Event แต่ก็ได้รับความสนใจจากผู้บริหารและพนักงานของเจนเนอราลี่เป็นอย่างมาก แสดงให้ถึงการให้ความยอมรับและสนับสนุนกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQI+) สามารถแสดงศักยภาพในการทำงานออกมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และทำให้เจนเนอราลี่เป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนไปสู่ความสำเร็จด้วยความเสมอภาคและเท่าเทียมอย่างยั่งยืน
เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสุขภาพที่ดีอย่างครบรอบด้าน ด้วยการสร้าง Eco-Health System ผสานแนวคิดการเป็นทุกคำตอบของชีวิต บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) จึงพร้อมดูแลคนทุกภาคส่วนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ภายใต้โครงการ “ไทยประกันชีวิต เคียงข้างทุกชีวิต ฝ่าวิกฤติโควิด-19” ด้วยการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อดูแลลูกค้าและคนไทยอย่างต่อเนื่อง รวมถึงส่งเสริมการสร้างภูมิคุ้มกันด้วยการฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยไทยประกันชีวิตร่วมสนับสนุนภารกิจการฉีดวัคซีนโควิด-19 ผ่านกิจกรรมต่างๆ อาทิ การมอบน้ำดื่มไทยประกันชีวิตจำนวนรวม 250,000 ขวด ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนที่เข้ารับบริการฉีดวัคซีน ผ่านหน่วยงานและองค์กรพันธมิตร ได้แก่ ศูนย์บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 หลักของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์, หน่วยบริการฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาล ได้แก่ ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ บางกะปิ ศูนย์การค้าเดอะมอลล์ บางแค และศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ รวมถึงมอบเสื้อยืดไทยประกันชีวิตพร้อมถุงผ้าแก่ศูนย์อนามัยที่ 7 จังหวัดขอนแก่น ในกิจกรรมรณรงค์เชิญชวนประชาชนรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ผ่าน LINE@hpc7 สำหรับชาวขอนแก่น, ร้อยเอ็ด, มหาสารคาม และกาฬสินธุ์ นอกจากนี้ เพื่อร่วมรณรงค์การฉีดวัคซีนโควิด-19 บริษัทฯ จึงได้จัดแคมเปญ “ไทยประกันชีวิตสนับสนุนการฉีดวัคซีนโควิด-19 เพื่อตัวคุณและคนที่คุณรัก” มอบสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าไทยประกันชีวิตที่รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ตั้งแต่เข็มแรก หรือครบสองเข็ม เพียงแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนผ่านแอปพลิเคชัน ไทยประกันชีวิต รับฟรีโค้ดส่วนลด Shopee มูลค่า 100 บาท โดยสามารถรับสิทธิ์ได้จนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2564 หรือจนกว่าสิทธิ์จะครบจำนวน 20,000 สิทธิ์ ไทยประกันชีวิตพร้อมดูแลเคียงข้างทุกชีวิตในสังคมไทย ด้วยการสนับสนุนการดูแลสุขภาพ รวมถึงการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ เพื่อเป้าหมายให้คนไทยสามารถก้าวผ่านวิกฤตการณ์นี้ และกลับสู่การดำเนินชีวิตวิถีปกติโดยเร็ว
กรุงเทพประกันชีวิต ผนึกธนาคารกรุงเทพ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ “เกนเฟิสต์ ซิมเพิล” (Gain 1st Simple) เป็นทางเลือกในการออมเงินในรูปแบบประกันชีวิตและเพิ่มพูนความมั่งคั่งในอนาคต สามารถซื้อผ่านธนาคารกรุงเทพทุกสาขา หรือผ่านช่องทาง www.bangkokbank.com เริ่มง่าย ได้ชัวร์ ชำระเบี้ยเริ่มต้นเพียงเดือนละ 500 บาท คุ้มครองนาน 15 ปี พร้อมรับความคุ้มครองชีวิตสูงสุด 300% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย และยังมีโอกาสได้รับเงินปันผลตอบแทน ในกรณีมีชีวิตอยู่ตลอดสัญญารับผลตอบแทน 186% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ม.ล. จิรเศรษฐ ศุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “กรุงเทพประกันชีวิตได้ร่วมกับธนาคารกรุงเทพ พัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์กับชีวิตของคนในยุคนี้ ที่ต้องการวางแผนการออมแต่ไม่มีเวลาศึกษาและต้องการความรวดเร็วในการตัดสินใจที่มั่นใจ กรมธรรม์สะสมทรัพย์ “เกนเฟิสต์ ซิมเพิล” Gain 1st Simple เป็นผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ ที่สามารถเริ่มได้ง่ายๆ จ่ายเบี้ยเริ่มต้นเพียง 500 บาทต่อเดือน มอบความคุ้มครองยาวนานถึง 15 ปี ตอบโจทย์ทั้งในเรื่องความคุ้มครองชีวิตที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นตามกรมธรรม์ ขณะเดียวกันก็ยังได้ชัวร์ๆ รับเงินคืนทุก 2 ปี สูงสุดถึง 2% และเพิ่มโอกาสในการได้รับเงินปันผลเมื่อครบกำหนดสัญญาทั้งยังสามารถใช้หักลดหย่อนภาษีเงินได้อีกด้วย ที่สำคัญยังเป็นแบบประกันที่สามารถซื้อได้ง่ายๆ ผ่านธนาคารกรุงเทพทุกสาขาทั่วประเทศ และผ่านช่องทางออนไลน์ที่สะดวกสบายบนเว็บไซต์ www.bangkokbank.com” “เกนเฟิสต์ ซิมเพิล” เหมาะสำหรับลูกค้าผู้ที่มีเงินได้ประจำสม่ำเสมอและผู้ที่ต้องการออมเงินเพื่อเป้าหมายอนาคตสำหรับเป็นเงินทุนเพื่อการศึกษา แต่ต้องการสมัครประกันเพื่อเพิ่มความอุ่นใจในความคุ้มครองชีวิตและได้รับผลตอบแทนที่แน่นอนตลอดสัญญาประกันภัย ในกรณีมีชีวิตอยู่ตลอดสัญญารับเงินคืนถึง 186% ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ทั้งนี้ กรุงเทพประกันชีวิต และธนาคารกรุงเทพ ยังร่วมเปิดตัวแบบประกัน “เกนเฟิสต์ ซิมเพิล” ผ่านภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่โดยได้ “นาย ณภัทร” พรีเซนเตอร์ มาร่วมถ่ายทอดเรื่องราวของหนุ่มออฟฟิศที่คอยช่วยคิดเรื่องต่าง ๆ ให้ง่ายขึ้นสำหรับเพื่อนร่วมงานที่ นาย ณภัทร แอบหลงรัก เพื่อสร้างการสื่อสารผ่านกลุ่มผู้บริโภคในทุกไลฟ์สไตล์ และสื่อให้เห็นถึงผลิตภัณฑ์ใหม่ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ “เกนเฟิสต์ ซิมเพิล” Gain 1st Simple ที่เริ่มง่ายๆ ได้ชัวร์ สำหรับผู้สนใจ สามารถสมัครได้ที่ธนาคารกรุงเทพทุกสาขา หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ ธนาคารกรุงเทพทุกสาขา หรือบัวหลวงโฟน โทร.1333 หรือสมัครผ่านบริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)Call Center โทร.02 777 8888 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.bangkokbank.com และ www.bangkoklife.com
นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ร่วมสมทบจัดทำกล่องยังชีพ “กล่องพลังจากใจเบลล่า” จำนวน 20,000 กล่อง ซึ่งภายในกล่องประกอบไปด้วย ข้าวสาร อาหารแห้ง และสิ่งของที่จำเป็นต่อชีวิตเป็นประจำวัน เพื่อนำไปมอบให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความช่วยเหลือของบริษัทฯ ในครั้งนี้จะสร้างพลังใจให้กับทุกครอบครัว ให้มีแรงกายและแรงใจที่เข้มแข็ง พวกเราจะผ่านพ้นเรื่องนี้ไปด้วยกัน ณ เมืองไทยประกันชีวิต สำนักงานใหญ่
การรวมกิจการระหว่างทีเอ็มบีและธนชาตได้ดำเนินการต่อเนื่องมาตามเป้าหมายที่วางไว้ และจะเสร็จสมบูรณ์ในต้นเดือนกรกฎาคม 2564 ซึ่งสิ่งที่เป็นความท้าทายต่อจากนี้ คือ การสื่อสารภาพลักษณ์ใหม่ของ “ทีเอ็มบีธนชาต” หรือ ทีทีบี (ttb) ให้ลูกค้าสัมผัสได้ถึงคุณค่าของแบรนด์ที่จะช่วยยกระดับชีวิตทางการเงินให้ลูกค้าดีขึ้น ทั้งวันนี้และอนาคต นางกาญจนา โรจวทัญญู ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการตลาด ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี (ttb) เปิดเผยว่า การดำเนินกลยุทธ์เพื่อปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ของแบรนด์ (Rebranding) มุ่งเน้นหาจุดลงตัวบนจุดแข็งของทั้งสองธนาคาร ซึ่งตลอด 10 ปีที่ผ่านมา การสร้างแบรนด์สู่ภายนอก ทีเอ็มบีมีความเชื่อมั่นในปรัชญา “Make THE Difference” ส่วนธนชาตดำเนินธุรกิจภายใต้ปรัชญา “Your Everyday Progress” ทั้งนี้ จุดที่ทั้งสององค์กรมีร่วมกัน คือ การยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ดังนั้นจึงเป็นที่มาของแนวคิด การสร้าง Financial Well-being ที่ต้องการช่วยยกระดับชีวิตทางการเงินให้ลูกค้าดีขึ้น “การวางกลยุทธ์เริ่มต้นจากการนำข้อมูลเชิงลึก (Insight) ของลูกค้าเข้ามาเป็นแกนหลัก แล้วหามุมมองของลูกค้าที่มีต่อธนาคารพาณิชย์ในภาพรวม เพราะการรวมกิจการครั้งนี้ไม่ใช่แค่การนำข้อดีของสองธนาคารมารวมกันเท่านั้น แต่เป็นการตั้งต้นจาก เป้าประสงค์ของแบรนด์ (Brand Purpose) ที่ชัดเจนให้เป็นตัวขับเคลื่อน ว่าสองธนาคารมีเป้าหมายร่วมกันอย่างไรและแบรนด์จะอยู่ร่วมกับลูกค้าอย่างไร และเราก็ได้เห็นความแตกต่างของทีเอ็มบีและธนชาตจากธนาคารอื่น คือ การดูแลลูกค้าตั้งแต่ต้นจนจบ โดยไม่ต้องการขายของเป็นรายผลิตภัณฑ์ แต่ทีเอ็มบีธนชาตอยากเป็นธนาคารที่นำเสนอโซลูชันที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการและดีที่สุดสำหรับลูกค้าแต่ละคน ตลอดทุกช่วงชีวิต เพื่อดูแลชีวิตทางการเงินของลูกค้าให้ดีขึ้น เมื่อได้แนวคิดนี้ เราก็ไปเช็กกับลูกค้า พบว่าลูกค้าส่วนใหญ่ให้ความสนใจ และตอบรับเป็นอย่างดี พร้อมบอกว่าเป็นเรื่องที่ยังไม่เคยมีธนาคารไหนพูดมาก่อน จึงเป็นโอกาสที่จะนำมาขับเคลื่อนภาพลักษณ์ใหม่ให้ลูกค้าสามารถจับต้องความแตกต่างที่เรานำเสนอได้อย่างเป็นรูปธรรม” นางกาญจนา กล่าวต่อว่า การมีเป้าประสงค์ของแบรนด์ที่ชัดเจน เป็นเหมือนคู่มือแนะนำแนวทางให้คนภายในองค์กรสามารถทำงานได้ตรงตามเป้าประสงค์ ทั้งทีมกลยุทธ์ ทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ รวมถึงทีมที่สื่อสารกับลูกค้า อย่างไรก็ตาม ความท้าทายอยู่ที่การปรับกระบวนการทำงานภายใน เพราะต้องสื่อสารตั้งแต่ผู้บริหารจนถึงพนักงาน เพื่อให้มีความเข้าใจตรงกัน อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่าประทับใจ คือ เมื่อทุกคนในองค์กรได้รับรู้ข่าวสารก็รู้สึกมีแรงบันดาลใจ และพร้อมที่จะก้าวเดินไปบนเป้าประสงค์ของ แบรนด์ จึงทำให้การพัฒนาแบรนด์ทีเอ็มบีธนชาตไม่ใช่แค่เรื่องของการออกแบบโลโก้ใหม่หรือปรัชญาการ ทำงานแบบใหม่ แต่ความท้าทายที่สำคัญ คือ เรื่องของการทำให้พนักงานในทุกระดับมีความเข้าใจ และใส่ใจในสิ่งที่ลูกค้าต้องการอย่างลึกซึ้ง จนสามารถเปลี่ยนความคิด และกระบวนการทำงานของตนเอง เพื่อให้ลูกค้ามีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นได้ สำหรับการก้าวข้ามการนำเสนอรายผลิตภัณฑ์ เช่น เงินฝาก ประกัน สู่การส่งมอบโซลูชันที่จะช่วยยกระดับชีวิตทางการเงินของลูกค้า จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องทำให้ลูกค้าเชื่อใจ และพูดคุยถึงปัญหา…
“Risk management is a culture, not a cult. It only works if everyone lives it, Not if it’s practiced by a few high priests.” ― Tom Wilson― เมื่อ “ไบรอัน สมิธ” อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) อำลาตำแหน่ง ภายใต้สถานการณ์ที่ธุรกิจประกันภัยกำลังถูกท้าทายอย่างรุนแรงจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีแม่ทัพคนใหม่เข้ามารับภารกิจสำคัญนี้อย่างไร้รอยต่อ ซึ่งผู้ที่จะมารับหน้าที่สำคัญนั้นก็คือ “โทมัส วิลสัน” จริงๆ แล้วก่อนที่จะประกาศแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ “โทมัส (ทอม) วิลสัน” ได้เข้ามาเรียนรู้และทำความเข้าใจธุรกิจประกันภัยในประเทศไทยมาระยะหนึ่ง เพราะเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของกลุ่มอลิอันซ์ที่ผู้บริหารใหม่จำเป็นต้องเรียนรู้ธุรกิจในประเทศที่เขาถูกส่งเข้าไปบริหาร ซึ่งในขณะนั้นมี “ไบรอัน สมิธ” อดีตซีอีโอคอยให้ข้อมูลและให้คำแนะนำ ที่ผ่านมา บมจ. อลิอันซ์ อยุธยา จัดว่าเป็นบริษัทประกันชีวิตแถวหน้าของไทย มีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นภารกิจในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อลิอันซ์ อยุธยา ประกันชีวิต และ ผู้จัดการประจำประเทศไทย กลุ่มอลิอันซ์ ครอบคลุมทั้งประกันชีวิตและประกันวินาศภัย ย่อมมีความท้าทาย เพราะต้องสานต่อสิ่งที่ผู้บริหารคนก่อนได้ก่อร่างวางฐานไว้และยังต้องนำพาองค์กรไปสู่ความสำเร็จอีกระดับหนึ่งในอนาคต ทำความรู้จัก “โทมัส วิลสัน” โทมัส วิลสัน มีประสบการณ์ในธุรกิจประกันชีวิตและการเงินมายาวนาน เขาร่วมงานกับกลุ่มอลิอันซ์มากว่า 12 ปี ตั้งแต่ปี 2008 มีบทบาทในการดูแลบริหารความเสี่ยงของกลุ่มอลิอันซ์ รับผิดชอบนโยบายและแนวทางด้านการควบคุมและบริหารความเสี่ยงระดับโลก และก่อนที่จะมารับตำแหน่งในประเทศไทย เขาดำรงตำแหน่งรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายบริหารความเสี่ยงของกลุ่มอลิอันซ์ ในช่วงที่เกิดวิกฤตการณ์ทางการเงินและอีกหลายความเสี่ยงภัยจากธรรมชาติ โทมัส เป็นผู้มีบทบาทสำคัญที่ช่วยให้กลุ่มอลิอันซ์ผ่านพ้นช่วงเวลาเหล่านั้นมาได้ โทมัส ยังมีประสบการณ์การทำงานเป็นผู้บริหารในสายงานด้านการเงินมากว่า 30 ปี ก่อนหน้าที่จะร่วมงานกับกลุ่มอลิอันซ์ โทมัส เคยเป็นประธานฝ่ายบริหารความเสี่ยงสำหรับการดำเนินงานด้านประกันภัยของกลุ่มบริษัท ING…