“ไทยสมุทรประกันชีวิต” ใช้กลยุทธ์ Love Mindset เป็นแกนและเปิด 4 แนวทางหลักที่จะใช้เป็นกรอบในการก้าวผ่านปี 2564 ที่ท้าทาย เดินหน้า Transform สู่การเป็น Digital insurer อย่างเต็มรูปแบบ แต่ยังคงให้ความสำคัญกับกองทัพตัวแทน พร้อมพัฒนาตัวแทนให้ก้าวไปเป็นที่ปรึกษาการเงิน นุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยสมุทรประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2563 ที่ผ่านมาเป็นปีแห่งความท้าทายที่สุดในรอบหลายสิบปี ผลกระทบจาก COVID-19 เร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายด้าน ทั้งการปรับตัวระยะสั้น และการเสริมความแข็งแกร่งระยะยาวท่ามกลางวิกฤตที่ต้องเผชิญก็เปิดโอกาสให้เราได้เรียนรู้ ได้ทดลองทำสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อนที่สำคัญคือการได้ใช้พลังความรักที่เราปลูกฝังให้พนักงานและตัวแทนประกันชีวิตใช้เป็น Mindset ในการทำงาน ไม่หยุดทุ่มเทส่งมอบความรักให้ลูกค้าผ่านผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ปี 2564 ยังคงเป็นปีแห่งความท้าทายในการดำเนินธุรกิจ สำหรับ OCEAN LIFE ไทยสมุทร เรายังคงยืนหยัดดูแลคนไทยให้มีชีวิตที่มั่นคง และมีคุณภาพชีวิตที่ดีด้วย 4 แนวทางหลัก คือ (1) Love Empowers Your Life เดินหน้าใช้พลังความรักเป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนธุรกิจ จากบทพิสูจน์ในปีที่ผ่านมา ทำให้เราเชื่อว่าด้วยพลังความรัก และ Love Mindset วิธีคิดที่เริ่มต้นจากพลังความรักของทุกคนในองค์กร สามารถเชื่อมต่อไปถึงลูกค้าทำให้บริษัทฝ่าวิกฤตไปได้ด้วยดีในที่สุด (2) Customer First! ยึดมั่นในการให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นอันดับแรก โดยค้นหาความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า พร้อมนำเสนอ Solution ด้วยผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและการบริการด้านต่างๆ ที่ครอบคลุมการดูแลชีวิตทุกช่วงเวลาสำคัญ เพื่อให้ใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข มีสุขภาพที่ดี มีเงินใช้ และมีคุณค่า (Health – Wealth& Happiness Solution) (3) OCEAN Smart Agent ติดอาวุธให้ตัวแทนประกันชีวิตมืออาชีพด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยให้เข้าใจความต้องการลูกค้ามากขึ้น พร้อมยกระดับสู่การเป็นที่ปรึกษาการเงิน (Financial Advisor) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการเป็นที่ปรึกษาดูแลชีวิตที่มั่นคงให้กับลูกค้าแบบครบวงจร ทั้งชีวิต สุขภาพ และด้านการเงินสุดท้ายคือ (4) Digital Insurer เดินหน้า Transform องค์กรเข้าสู่โลก Digital…
Author: admin
ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศปรับแนวโน้มอันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน “ไทยประกันชีวิต” เป็นแนวโน้มมีเสถียรภาพ และคงอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศที่ AAA(tha) เป็นระดับสูงสุดในภาคธุรกิจไทย ชี้เงินกองทุนสูงและแข็งแกร่ง ผลจากการบริหารจัดการที่ดี ควบคู่นโยบายการลงทุนที่รอบคอบและมีประสิทธิภาพ วรางค์ ไชยวรรณ กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ไทยประกันชีวิตมุ่งดำเนินธุรกิจสู่การเป็นทุกคำตอบของการประกันชีวิต หรือ Life Solutions โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนางานในทุกด้าน สร้างนวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์และบริการ รวมถึงการสร้างความมั่นคงทางการเงิน และการบริหารความเสี่ยงที่ดี เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้เอาประกันของบริษัทฯ ที่มีอยู่ในปัจจุบันกว่า 4 ล้านราย การให้ความสำคัญกับความมั่นคงทางการเงิน ส่งผลให้ในปี 2564 สถาบันจัดอันดับเครดิตทางการเงินระดับโลก ฟิทช์ เรทติ้งส์ (Fitch Ratings) ได้ประกาศปรับแนวโน้มอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศ (National IFS Ratings) และอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากล (Insurer Financial Strength Ratings: IFS Ratings) ของบริษัทฯ เป็นแนวโน้มมีเสถียรภาพ โดยคงอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศที่ระดับ AAA(tha) และคงอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากล (Insurer Financial Strength : IFS) อยู่ที่ระดับ A- ซึ่งถือเป็นอันดับเครดิตทางการเงินสูงที่สุดในภาคธุรกิจไทย ฟิทช์ เรทติ้งส์ พิจารณาว่าไทยประกันชีวิตเป็นบริษัทประกันชีวิตที่มีสถานะทางการเงินและเงินกองทุนอยู่ในระดับแข็งแกร่ง ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ โดยบริษัทฯ มีสัดส่วนเงินกองทุน ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ปี 2563 อยู่ที่ 372% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กำหนดไว้ที่ 120% ด้วยระดับความเสี่ยงด้านสินทรัพย์และการรับประกันภัยของบริษัทฯ ที่มีความสมเหตุสมผล และเชื่อมั่นว่าบริษัทฯ จะสามารถรักษาฐานะของเงินกองทุนให้อยู่ในระดับที่แข็งแกร่งได้ต่อเนื่องตลอดปี 2563 นอกจากนี้ การบริหารทรัพย์สินอย่างรอบคอบและระมัดระวังของบริษัทฯ ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญในการพิจารณาอันดับเครดิตของฟิทช์ฯ ซึ่งไทยประกันชีวิตมีสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้และเงินฝาก รวม 84% ของพอร์ตเงินลงทุนรวม ส่วนการลงทุนในตราสารทุนมีประมาณ 9% ของมูลค่าเงินลงทุนรวม โดยมีกำไรก่อนภาษีเงินได้ต่อทรัพย์สินรวม (pre-tax return…
“เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต” ตอกย้ำแบรนด์ประกันชีวิตที่สนับสนุนให้ทุกคน Celebrate living ผ่านความสุขเล็กๆ ในทุกช่วงเวลาของชีวิต ล่าสุดเปิดตัวทีเซอร์แบรนด์แคมเปญใหม่ คอนเซ็ปต์ ‘แบรนด์ที่อยากให้ทุกคนใช้ชีวิตในแบบที่ชอบไปได้เรื่อยๆๆๆๆๆ’ โดยนำเสนอผ่าน 4 Influencers ระดับท็อป เป็นตัวแทนในการสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมาย ปวริศา ชุมวิกรานต์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานภาพลักษณ์และสื่อสารองค์กร บริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2563 ที่ผ่านมา การระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงทั่วโลก ดังนั้นเพื่อที่จะสื่อสารแบรนด์ FWD ประกันชีวิต ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและบอกเล่าถึงความหมาย Celebrate living ซึ่งเป็นคำมั่นสัญญาและตัวตนหลักของแบรนด์ FWD ประกันชีวิต บริษัทจึงทำวิจัยตลาดเกี่ยวกับความหมายของ Celebrate living กับกลุ่มตัวอย่างอายุระหว่าง 25 – 50 ปีทั่วประเทศไทย และได้คำตอบว่านิยามของการเฉลิมฉลองชีวิตในยุควิถีชีวิตใหม่ หรือ New Normal คือการได้ทำสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่ตัวเองชอบไปได้เรื่อยๆ และนำผลสำรวจนี้มาใช้เป็นแกนหลักในการนำเสนอเรื่องราวของแบรนด์แคมเปญนี้” “แคมเปญทีเซอร์แรกของเราจะช่วยสร้างการรับรู้และตอกย้ำภาพลักษณ์ของแบรนด์ FWD ประกันชีวิต ในการเป็นบริษัทประกันที่เข้าใจการใช้ชีวิต และให้ทุกคน Celebrate living ได้ทุกวัน อย่างไร้กังวล โดยทีเซอร์แบรนด์แคมเปญนี้สนับสนุนให้ทุกคนออกไป “ใช้ชีวิตในแบบที่ชอบไปได้เรื่อยๆๆๆๆๆ” ผ่านการใช้ชีวิตในแบบที่ชอบหลากหลายแง่มุมต่างๆ อาทิ ความชอบเรื่องการกิน ท่องเที่ยว ออกกำลังกาย ใช้เวลากับครอบครัว และใช้เวลาในการทำงานอดิเรก โดยเราได้เลือก 4 Influencers ระดับท็อปมาเป็นตัวแทนในการสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วย ส้ม มารี, Gluta story, อาสาพาไปหลง และ พีท อีทแหลก” นอกจากนี้ ยังขยายการรับรู้ของแบรนด์แคมเปญ โดยได้ชวน Micro Influencers แชร์แนวคิด “ใช้ชีวิตในแบบที่ชอบไปได้เรื่อยๆๆๆๆๆ” ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย สะท้อน Celebrate living ในแง่มุมต่างๆ และเข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย สำหรับกลยุทธ์การสื่อสาร เราใช้กลยุทธ์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุค…
เอไอเอ ประเทศไทย เฉลิมฉลองวันคุ้มครองโลกปีนี้ ด้วย 12 บริการดิจิทัล ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่ ทดแทนการใช้กระดาษ ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน โดยนับตั้งแต่มีการเปิดตัวบริการดังกล่าว ตลอดช่วงปีที่ผ่านมา เอไอเอ ประเทศไทย ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงด้วยการลดการใช้กระดาษไปแล้วปริมาณมากกว่า 6 ล้านแผ่น กฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอ ประเทศไทย กล่าวว่า “เอไอเอ ประเทศไทย มีความภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองเนื่องในวันคุ้มครองโลก ซึ่งเราเชื่อว่าสิ่งแวดล้อมที่ดี ย่อมส่งผลโดยตรงต่อการมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของทุกชีวิตบนโลก อันเป็นพันธกิจที่เอไอเอยึดถือมาโดยตลอด ตามคำมั่นสัญญา “Healthier, Longer, Better Lives – เพื่อสุขภาพและชีวิตที่ดีขึ้น” ปัจจุบันเอไอเอมีลูกค้าที่มอบความไว้วางใจอยู่กว่า 5.2 ล้านราย ดังนั้นเราจึงมุ่งมั่นสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับลูกค้า รวมไปถึงสังคมและสิ่งแวดล้อมผ่านบริการดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ โดยในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา เอไอเอได้ลงทุนในด้านเทคโนโลยีและระบบดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงการเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมประกันชีวิตของไทย ที่นำนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีและดิจิทัลมาใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ รวมถึงการบริการ เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า พนักงาน และตัวแทนประกันชีวิต ควบคู่ไปกับการกระตุ้นให้พนักงานและตัวแทนของเราเอง รวมถึงประชาชนทั่วไปตระหนักถึงความสำคัญในการรักษาทรัพยากรธรรมชาติ และสร้างการมีส่วนร่วมให้ทุกคนได้ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมผ่านกิจกรรมและโครงการต่างๆ ของเอไอเอ” ทั้งนี้ สำหรับบริการดิจิทัลของเอไอเอ ประเทศไทย ครอบคลุมถึงการบริการที่อำนวยความสะดวกให้กับทั้งลูกค้า ตัวแทน และพนังานที่มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างครบวงจร โดยประกอบด้วยบริการต่างๆ ดังนี้ ลดปริมาณการใช้กระดาษ รักษาสิ่งแวดล้อม วิถีองค์กรชั้นนำยุคดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน e-Policy บริการออกกรมธรรม์ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ Cardless ตรวจสอบความคุ้มครองและค่ารักษาพยาบาลผ่านโรงพยาบาลคู่สัญญา ด้วยบัตร ประชาชนเพียงใบเดียว e-Document รับเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ที่มีการเข้ารหัสเพื่อความปลอดภัยทางอีเมล และสามารถ ดูเอกสารย้อนหลังได้บนเว็บไซต์ AIA iService iPoS+ แอปพลิเคชันสำหรับตัวแทนประกันชีวิต รองรับกระบวนการนำเสนอขาย ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตทุกรูปแบบ AIA iService ครบครันทุกบริการหลังการขายสำหรับลูกค้าในรูปแบบออนไลน์ทางเว็บไซต์ และ แอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการตรวจสอบ สถานะเคลม ตรวจสอบข้อมูลกรมธรรม์ วันครบกำหนดชำระเบี้ย และดาวน์โหลด เอกสารต่างๆ iCare เครื่องมือสำหรับตัวแทนในการให้บริการลูกค้า ทั้งเปลี่ยนแปลงข้อมูลกรมธรรม์ และบริการหลังการขาย Tax consent บริการสำหรับลูกค้าสามารถแจ้งความประสงค์ให้บริษัทส่ง…
“เมืองไทยประกันชีวิต” ยกระดับการชำระเบี้ยประกันภัยผ่าน QR Code ขานรับนโยบายภาครัฐ ก้าวสู่สังคมไร้เงินสด ลดความเสี่ยงการแพร่เชื้อ COVID-19 ผ่านการสัมผัสเงิน มั่นใจระบบใหม่สามารถอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าในการชำระเบี้ยประกันภัยได้เป็นอย่างดี สาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเป็นแบรนด์ที่ลูกค้าให้ความวางใจ พร้อมดูแลและ เดินเคียงข้างในทุกช่วงของชีวิต ภายใต้นโยบาย “MTL Trusted Lifetime Partner” ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ บริการที่หลากหลายผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ผ่านแพลตฟอร์ม Digital และ Non-digital ที่สามารถเข้าถึงความต้องการในทุกไลฟ์สไตล์ ล่าสุด บริษัทฯ ขานรับนโยบายภาครัฐพร้อมร่วมส่งเสริมให้คนไทยก้าวสู่สังคมไร้เงินสด (Cashless Society) เพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงของลูกค้าในยุคปัจจุบันให้สามารถรองรับนวัตกรรมการชำระเงิน แบบใหม่ โดยเฉพาะช่องทางการชำระเงินรูปแบบดิจิทัล (Digital Platform) ด้วยการยกระดับการให้บริการ ในรูปแบบการชำระค่าเบี้ยประกันภัยผ่าน QR Code โดยตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนการทำธุรกรรมแบบไร้เงินสดให้มากขึ้น เพื่อลดการใช้เงินสดในการชำระเบี้ยประกันภัย ที่ศูนย์บริการลูกค้าเมืองไทยประกันชีวิตทั่วประเทศได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อีกทั้งเพื่อลดความเสี่ยงจากการแพร่เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ผ่านการสัมผัสเงิน และเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ในการชำระเบี้ยประกันภัย รวมถึงการพัฒนาช่องทางดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ครอบคลุมทุกช่องทางบริการ “เรามั่นใจว่าบริการรับชำระเบี้ยประกันภัยผ่าน QR Code จะสามารถช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าที่ใช้บริการชำระเบี้ยประกันภัยได้เป็นอย่างดี และแม้ว่าการดำเนินธุรกิจในปีนี้ยังต้องเผชิญกับความท้าทายที่หลากหลาย แต่เรายังคงมุ่งมั่นที่จะคิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการให้ครบในทุกด้าน เพื่อตอกย้ำนโยบาย MTL Trusted Lifetime Partner รวมถึงเชื่อมต่อกับเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจ (Ecosystem Partner) ดูแลลูกค้าได้อย่างครอบคลุม” นายสาระ กล่าว นอกจากนั้น ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่กำลังเกิดขึ้นและถือว่าเป็นการระบาดระลอกใหม่จากยอดสะสมผู้ติดเชื้อยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและเพื่อเป็นการมอบความห่วงใยและความอุ่นใจให้กับลูกค้าของเมืองไทยประกันชีวิต บริษัทฯจึงได้มอบความคุ้มครอง COVID-19 ฟรี! ให้แก่ลูกค้าที่มีกรมธรรม์ประกันรายบุคคลหรือประกันกลุ่ม ที่กรมธรรม์ยังมีผลความคุ้มครอง และอายุผู้เอาประกันภัยไม่เกิน 70 ปี เพียงดาวน์โหลด แอปพลิเคชัน “MTL Click” พร้อมลงทะเบียนและเพิ่มกรมธรรม์ที่มีอยู่แล้วให้เสร็จสมบูรณ์จะได้รับสิทธิความคุ้มครองตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน 2564 หรือวันที่ลูกค้าดาวน์โหลดและเพิ่มกรมธรรม์ในแอปพลิเคชัน MTL Click (แล้วแต่เหตุการณ์ใดเกิดขึ้นหลังสุด) และความคุ้มครองจะสิ้นสุด ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2564 สำหรับความคุ้มครองที่มอบให้แก่ลูกค้าเมืองไทยประกันชีวิตนี้ จะคุ้มครองกรณีเสียชีวิตที่มีสาเหตุจากการติดเชื้อไวรัส COVID-19 จำนวน 100,000 บาท หรือรับเงินชดเชยรายวัน 1,000 บาทต่อวัน เมื่อเข้าพักรักษาตัวในฐานะผู้ป่วยในของโรงพยาบาล ที่มีสาเหตุจากการติดเชื้อไวรัส COVID-19 สูงสุดไม่เกิน 30 วัน ต่อการเข้าพักรักษาตัวในฐานะผู้ป่วยในครั้งใดครั้งหนึ่งเพียงครั้งเดียว (ยกเว้นความคุ้มครองกรณีที่ผู้เอาประกันภัยเคยเจ็บป่วยจากไวรัส COVID-19 ก่อนวันที่ 12 เมษายน 2564) โดยลูกค้าสามารถดาวน์โหลด แอปพลิเคชัน “MTL…
“ธนาคารไทยพาณิชย์” จับมือ “เดอะมอลล์ กรุ๊ป” และ “ไทยไพบูลย์ประกันภัย” เปิดตัว “ประกันภัยไซเบอร์ส่วนบุคคลและครอบครัว” ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ที่รักการชอปปิ้งออนไลน์และทำธุรกรรมการเงินผ่านเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์ คุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากอาชญากรบนโลกดิจิทัล เบี้ยเริ่มต้นวันละ 1 บาท ความคุ้มครองสูงสุดถึง 50,000 บาท ปรมาศิริ มโนลม้าย รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ ประกัน ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า “โลกในปัจจุบันเป็นยุคที่ดิจิทัลเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการใช้ชีวิตของผู้คน รวมถึงการทำธุรกรรมทางการเงินและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตประจำวันบนโลกออนไลน์ซึ่งมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ธนาคารให้ความสำคัญในการส่งมอบประสบการณ์ทางการเงินที่ดีที่สุดแก่ลูกค้าที่รักในการชอปปิ้งออนไลน์ รวมถึงการทำธุรกรรมบนโลกดิจิทัลควบคู่ไปกับความปลอดภัยในการทำธุรกรรมการเงิน จึงได้ร่วมกับ “เดอะมอลล์ กรุ๊ป” และ “ไทยไพบูลย์ประกันภัย” นำเสนอ “ประกันภัยไซเบอร์ (Cyber Insurance)” ประกันภัยรูปแบบใหม่ที่เหมาะกับคนยุคปัจจุบัน ซึ่งให้ความคุ้มครองการถูกละเมิดหรือถูกคุกคามทางไซเบอร์ที่หลากหลาย ทั้งการถูกโจรกรรมทางการเงินผ่านอินเทอร์เน็ต การถูกโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคลทางอินเทอร์เน็ต การซื้อสินค้าทางอินเตอร์เน็ตแล้วไม่ได้รับสินค้า การถูกกลั่นแกล้งทางอินเทอร์เน็ต การถูกกรรโชคทรัพย์ทางอินเตอร์เน็ต รวมถึงความคุ้มครองระบบบ้านอัจฉริยะ โดยเบี้ยเริ่มต้นเพียงวันละ 1 บาท และมีแผนประกันให้เลือกภายใต้ความคุ้มครองสูงสุดถึง 50,000 บาท (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์) โดยผู้ถือกรมธรรม์ยังได้รับความสะดวกสบายในการรับกรมธรรม์ในรูปแบบ E-Policy ไปจนถึงการบริการด้านข้อมูลต่างๆ รวมทั้งงานด้านเรียกร้องสินไหมที่สามารถทำบนดิจิทัลแพลตฟอร์มได้อย่างสะดวกสบาย ทั้งนี้ความร่วมมือในครั้งนี้นับเป็นการสานต่อเจตนารมณ์ของทุกองค์กรในการมุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และยกระดับการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านช่องทางออนไลน์ให้สะดวกและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น” วรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า “เราเชื่อมั่นว่าศักยภาพทางเทคโนโลยีด้านการเงินของ “ธนาคารไทยพาณิชย์” และความเชี่ยวชาญด้านประกันภัยของ “ไทยไพบูลย์ประกันภัย” จะช่วยยกระดับประสบการณ์การชอปปิ้งอย่างไร้รอยต่อให้แก่ลูกค้าของเดอะมอลล์ และนับว่าเป็นครั้งแรกในวงการค้าปลีก ที่เรารวบรวมผลิตภัณฑ์ประกันที่หลากหลายมาให้ลูกค้าได้เลือกสรรอย่างครบถ้วนที่เดียวจบในห้างสรรพสินค้าในเครือเดอะมอลล์ กรุ๊ป พิเศษสุด สำหรับลูกค้าที่ซื้อประกันที่บูธ SCB M ภายในห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์, ดิ เอ็มโพเรียม, ดิ เอ็มควอเทียร์ และสยามพารากอน (ยกเว้นเดอะมอลล์ โคราช และบลูพอร์ต หัวหิน) ตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน 2564 – 30 มิถุนายน 2564 รับฟรี ! ความคุ้มครองสองเท่าตลอดปีกรมธรรม์” ชัชฎา…
กลุ่มบริษัทเจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ เผยผลประกอบการปี 2563 ประกันชีวิตมีเบี้ยประกันภัยรับรายใหม่ เติบโตถึง 18% ช่องทางขายผ่านธนาคารเติบโตถึง 28% ส่วนประกันวินาศภัยเติบโตขึ้น 2% พร้อมทั้งประกาศเป้าหมายเบี้ยรวมในปี 2564 ไว้กว่า 2,700 ล้านบาท บัณฑิต เจียมอนุกูลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทเจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ เปิดเผยในการประชุมพนักงาน “ครั้งที่ 1” ประจำปี 2564 เกี่ยวกับผลประกอบการของเจนเนอราลี่ ไทยแลนด์และเจนเนอราลี่ กรุ๊ปในปีที่ผ่านมา โดยมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งท่ามกลางภาวะวิกฤต และเป็นบริษัทที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 190 ปี มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการบริหารสินทรัพย์ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ด้วยเหตุนี้เองกลุ่มบริษัทเจนเนอราลี่จึงสามารถรับมือกับความท้าทายในปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลประกอบการทั้งปี 2563 ของกลุ่มบริษัทฯ มีรายได้จากการดำเนินงานสูงราว 185 พันล้านบาท (5.2 พันล้านยูโร) จากปัจจัยในเชิงบวกและการเติบโตของธุรกิจด้านประกันภัยทรัพย์สินและเบ็ดเตล็ด (P&C) และธุรกิจบริหารสินทรัพย์ รวมถึงธุรกิจโฮลดิ้งและธุรกิจอื่นๆ มีอัตราส่วนรวมค่าสินไหมทดแทนและค่าใช้จ่ายดำเนินงาน (Combined Ratio) อยู่ที่ 89.1% (-3.5 p.p.) อัตรากำไรจากธุรกิจใหม่ (New Business Margin) อยู่ที่ 3.94% และผลกำไรสุทธิหลังปรับปรุง (Adjusted Net Profit) คิดเป็นเงินจำนวนประมาณ 74.1 พันล้านบาท (2,076 ล้านยูโร) (-12.7%) ไม่นับรวมค่าใช้จ่ายจำนวน 3,569 พันล้านบาท (จำนวน 100 ล้านยูโร) จากกองทุนวิสามัญระหว่างประเทศสำหรับ Covid-19 (Extraordinary International Fund for Covid-19) และค่าใช้จ่ายจากธุรกรรมการบริหารหนี้สิน โดยมีอัตราความพอเพียงของเงินกองทุนที่แข็งแกร่งถึง 224% จากการสร้างเม็ดเงินทุนที่สูงเป็นประวัติการณ์ที่ 142 พันล้านบาท (4 พันล้านยูโร) ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทฯ ยังคงมีฐานะเงินทุนที่ยอดเยี่ยมทั้งจากมุมมองทางเทคนิคและในแง่ของฐานะเงินทุน แม้ในสถานการณ์ที่ยังคงมีความไม่แน่นอนสูงเนื่องจากการระบาดของโควิด-19 สำหรับผลประกอบการของเจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ในภาพรวมถือว่าสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยในธุรกิจประกันชีวิตมีเบี้ยประกันภัยรับรายใหม่ เติบโตถึง 18%…
TQM จับมือพันธมิตร กรุงเทพประกันภัย สินทรัพย์ประกันภัย ร่วมพลิกโฉมโปรดักส์ประกันภัยจับกระแส Surf Skate ฟีเวอร์ เจาะลูกค้า Gen Y – Millennium ออกประกัน ‘Surf Skate’ ผ่านคอนเซปต์ ‘Safe Before Surf’ เจ็บมา พังมา TQM ดูแล โดยใช้แนวคิดจาก Insight ผู้เล่นจริงมาออกแบบโปรดักส์ให้มีความคุ้มครองแบบครบทั้งคน บอร์ด และความรับผิดต่อร่างกายและทรัพย์สินของบุคคลภายนอก เอาใจคนรักเซิร์ฟสเก็ตให้สนุกโลดโผนได้อย่างไร้กังวล ดร.อัญชลิน พรรณนิภา ประธาน บริษัท ทีคิวเอ็ม อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ จำกัด กล่าวว่า ประกันภัยนับเป็นสินค้าที่อยู่ในทุกก้าวชีวิตของคน การออกแบบโปรดักส์และความคุ้มครองจึงต้องอาศัยสถิติจากพื้นฐานพฤติกรรมของผู้บริโภคเป็นสำคัญเพื่อให้เกิดการได้ใช้งานและเป็นประโยชน์อย่างแท้จริง ทั้งนี้ เมื่อพฤติกรรมผู้บริโภคเกิดการเปลี่ยนแปลงและยิ่งรวดเร็วมากขึ้นโดยเฉพาะหลังเกิดวิกฤติโควิด-19 โปรดักส์ประกันภัยก็ย่อมพัฒนาเพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคได้อย่างทันท่วงที ขณะเดียวกันโปรดักส์ประกันภัย ‘Surf Skate’ นับเป็นอีกบทพิสูจน์ของ TQM ในการปรับตัวให้ทันสถานการ์ด้วยการเปิดโอกาสและส่งต่อให้คนรุ่นใหม่ได้เข้ามาร่วมสร้างสรรค์จนเกิดเป็นโปรดักส์ประกันภัยที่เข้าใจวัยรุ่น วัยเริ่มทำงาน (First Jobber) เพื่อเปิดตลาดและรุกเข้าเจาะฐานลูกค้า Gen Y และ Millennium จากแนวคิดของคน Gen เดียวกัน ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากกระแสการกลับมานิยมเล่นเซิร์ฟสเก็ตที่เป็นกีฬาเอ็กซ์ตรีม ทำให้หลายคนสนใจมาออกกำลังกายด้วยกีฬาชนิดนี้เป็นจำนวนมาก แม้ไม่ใช่ผู้ที่ชื่นชอบการเล่นกีฬา เอ็กซ์สตรีมก็เริ่มหันมาเล่นกันมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มที่ชอบกีฬาผาดโผน กรุงเทพประกันภัย เห็นถึงโอกาสในการนำเสนอผลิตภัณฑ์เพื่อสนับสนุนผู้เล่นกีฬาประเภทนี้ให้ได้เล่นเซิร์ฟสเก็ตได้อย่างมั่นใจ จึงร่วมกับ TQM ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีความคุ้มครองรองรับการผู้เล่นเซิร์ฟสเก็ตโดยเฉพาะ ด้วยความคุ้มครองที่คุ้มค่าและครอบคลุม ทั้งค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุ ความเสียหายของตัวบอร์ดจากอุบัติเหตุ และความรับผิดต่อร่างกายและทรัพย์สินบุคคลภายนอก สุริยน ศรีอรทัยกุล ผู้อำนวยการ บริษัท สินทรัพย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตามแนวทางการทำงานของสินทรัพย์ประกันภัย ที่เน้นความรวดเร็ว ทันใจ นำสมัย ผ่านผลิตภัณฑ์และการบริการที่มุ่งเน้นการตอบสนองความต้องการและพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การร่วมมือกับ TQM ในครั้งนี้ยิ่งตอกย้ำถึงปรัชญาของบริษัท…
“ทิพยประกันภัย” เปิดตัวโครงการ “TIP Rainbow” เพื่อปลดล็อคทุกเงื่อนไข ให้คุณก้าวข้ามกรอบมอบสิทธิ์ให้กับคนที่คุณรัก คู่รัก คู่ชีวิต โดยผู้รับผลประโยชน์ไม่จำเป็นต้องมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดหรือระบุเพศ สำหรับทุกการประกันภัยส่วนบุคคล (Personal Line) ทุกประเภท ของทิพยประกันภัย พร้อมเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์โครงการ TIP Rainbow “อ๊อฟ ปองศักดิ์ รัตนพงษ์” ดร.สมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทิพยประกันภัย กล่าวว่า จากความสำเร็จของการออกผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่ตอบสนองความต้องการในแต่ละ Lifestyle และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า อาทิ ประกันภัย “TIP Lady” ประกันภัยรถยนต์สำหรับผู้หญิง ที่ให้มากกว่าประกันชั้น 1 , ประกัน “TIP อัพทูไมล์” ประกันรถยนต์ชั้น 1 ขับแค่ไหน จ่ายแค่นั้น ตามระยะไมล์ ที่ได้เปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว สำหรับ “TIP Rainbow” ได้ถูกสร้างสรรค์จากทีมงานคนรุ่นใหม่ของทิพยประกันภัย ที่มีแนวคิดที่ต้องการตอบสนองความต้องการทุก Lifestyle เพื่อจะปลดล็อคข้อจำกัดต่างๆ เพิ่มทางเลือกใหม่ จากแนวคิดนี้ ส่งผลให้ทิพยประกันภัยได้ มีการเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าสามารถเลือกใช้ เพิ่มเติมจากการระบุคำนำหน้าชื่อตามแบบเดิมๆ เช่น นาย นาง นางสาว รวมถึง สามารถระบุคู่ชีวิต คู่รัก ของตนเองเป็นผู้รับผลประโยชน์ได้โดยไม่จำเป็นต้องมีความสัมพันธ์ทางสายเลือด ซึ่งการระบุดังกล่าวจะปรับใช้ในทุกการประกันภัยส่วนบุคคล (Personal Line) ทุกประเภทของบริษัทฯด้วย เพื่อให้คุณและคนที่คุณรักได้รับสิทธิประโยชน์อย่างเต็มที่ พร้อมกันนี้ยังได้เปิดตัวพรีเซ็นเตอร์โครงการ TIP Rainbow “อ๊อฟ ปองศักดิ์ รัตนพงษ์” ศิลปิน นักร้อง นักแสดง ที่เป็นตัวแทนของคนที่มีความชัดเจน มีความหลากหลายในชีวิต เป็น ไอคอนของการก้าวข้ามทุกข้อจำกัดได้อย่างชัดเจนที่สุด หลังจากนี้ทิพยประกันภัยเตรียมเปิดตัวประกันภัยต่างๆที่อยู่ภายใต้โครงการ TIP Rainbow เช่น ประกันสุขภาพและอุบัติเหตุส่วนบุคคล ที่มีความคุ้มครองพิเศษแปลกใหม่นอกเหนือจากประกันสุขภาพและอุบัติเหตุส่วนบุคคลอื่นๆ ประกันรถยนต์ ประกันอัคคีภัย ฯลฯ ทั้งนี้จากการสำรวจกลุ่ม LGBTQ+ ในประเทศไทยที่เปิดเผยตัวตน พบว่ามีอยู่ประมาณ 8 ล้านคน คาดว่าภายใน 3 ปี (2564-2566) จะเข้ามาเป็นลูกค้าของทิพยประกันภัยได้ราว 50% หรือประมาณ 4 ล้านคน โดยตั้งเป้าในปีแรกจะมีลูกค้าเข้ามาได้ประมาณ 8 หมื่นคน คิดเป็นเบี้ยประกันภัยรับ 80 ล้านบาท (อัตราเบี้ยประกันภัยเฉลี่ยประมาณ 10,000 บาทต่อกรมธรรม์) สำหรับผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม TIP Rainbow เบื้องต้นจะนำร่องด้วยกรมธรรม์เรนโบว์ แคร์…
เดอะวัน (The 1) ร่วมกับ “พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย)” เปิดตัว “The 1 Legacy” แผนประกันชีวิตที่ออกแบบมาเพื่อสร้างความอุ่นใจในการเกษียณอายุของสมาชิก The 1 ให้มากขึ้น ด้วยสิทธิประโยชน์มากมาย อาทิ รับเงินคืน 8% ต่อปีของจำนวนเงินเอาประกันชีวิตเริ่มต้น ตั้งแต่ปีแรกของกรมธรรม์จนถึงอายุ 87 ปี และผลประโยชน์เมื่อครบกำหนดของกรมธรรม์ สูงสุดถึง 888% เมื่ออายุครบ 88 ปี นอกจากนี้ ยังพร้อมมอบสิทธิพิเศษเพิ่มเติมเฉพาะสมาชิก The 1 กับสิทธิสะสมคะแนน The 1 โดยทุก ๆ การใช้จ่ายในการซื้อกรมธรรม์ดังกล่าว จำนวน 25 บาท จะได้รับคะแนน The 1 จำนวน 1 คะแนน และหากมียอดใช้จ่ายรวมมากกว่า 1 ล้านบาท สมาชิกฯ ยังจะได้รับการอัพเกรดเป็นสมาชิกเดอะวัน เอ็กซ์คลูซีฟ (The 1 Exclusive) เป็นเวลาหนึ่งปีเพิ่มเติมอีกด้วย ทั้งนี้ สำหรับสมาชิกที่มีสถานะ The 1 Exclusive อยู่ก่อนแล้วจะได้รับสิทธิขยายสถานะออกไปอีกหนึ่งปี กวิน ตั้งอุทัยศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ The 1 กล่าวว่า “การมอบสิทธิประโยชน์ที่ดีที่สุด ที่เข้ากับทุกไลฟ์สไตล์และช่วงชีวิตให้กับสมาชิก The 1 ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของบริษัทฯ ซึ่งการจับมือเป็นพันธมิตรกับพรูเด็นเชียล ประเทศไทย จะช่วยให้เราสามารถตอบสนองความต้องการของสมาชิกฯ ผ่านการพัฒนาและนำเสนอโซลูชันด้านสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งช่วยสร้างความมั่นคงทางการเงินที่แข็งแกร่งมากขึ้น โดย ‘เดอะวัน เลกาซี (The 1 Legacy)’ นี้เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ดีที่สุด ซึ่งออกแบบมาเพื่อตอบสนองสมาชิกที่มีความมั่งคั่งทางการเงิน ซึ่งเป็นสมาชิกมาอย่างยาวนาน ตลอดจนมีความภักดีต่อแบรนด์ที่สูง เพื่อให้พวกเขาสามารถวางแผนสำหรับอนาคตด้วยสิทธิประโยชน์ระดับพรีเมียมที่ดีที่สุด” ทางด้าน เปสลารี ธีระสาสน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานลูกค้า พรูเด็นเชียล ประเทศไทย กล่าวว่า “ในขณะที่ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุเต็มตัว เชื่อว่าประชาชนเริ่มมีความตระหนักถึงการวางแผนทางการเงินที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเรื่อย…