บมจ.ธนชาตประกันภัย ห่วงใยความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนช่วงเทศกาลสงกรานต์ มอบกรมธรรม์ “ประกันภัยกลุ่มสงกรานต์อุ่นใจ นิวนอร์มอล ซุปเปอร์พลัส” คุ้มครองชีวิตจากอุบัติเหตุ ทุนประกันภัยสูงสุด 1 แสนบาท และคุ้มครองการติดเชื้อโควิด -19 รวมถึงผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิด นาน 30 วัน พร้อมทั้งยังแจกเครื่องดื่มอินทนิลฟรี! 10,000 แก้ว เพียงลงทะเบียนขอรับสิทธิ์ผ่าน Line Official Account “ธนชาตประกันภัย”
Author: admin
สุชาติ สถาปนิกานนท์ ผอ. ภาคธุรกิจสินเชื่อยานยนต์กรุงเทพ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร และ ยศ ธัญสุนทรกุล รองประธานฝ่ายธุรกิจสถาบันการเงิน บมจ.เจนเนอราลี่ ประกันชีวิต (ไทยแลนด์) พร้อมด้วยทีมงานจากธนาคารเกียรตินาคินภัทรและเจนเนอราลี่ ร่วมมอบเงินสินไหมกรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ เป็นจำนวนเงิน 1,131,906 บาท ให้แก่ครอบครัวของ ยอดชาย ธรรมศิริ (ผู้เสียชีวิต) โดยมี ขวัญเรือน มาลา ภรรยาของผู้เอาประกันภัยเป็นผู้รับมอบ
AIS จับมือ เมืองไทยประกันชีวิต ส่งมอบความห่วงใยให้กับลูกค้าเอไอเอสทั้งมือถือและเน็ตบ้าน เพียงใช้ AIS Points 10 คะแนน แลกประกันภัย ผ่านแคมเปญ “ประกันภัย สงกรานต์อุ่นใจ นิวนอร์มอลซุปเปอร์พลัส (ไมโครอินชัวรันส์)” มอบกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุและโรคโควิด-19 ในกรมธรรม์เดียวกันฟรี! วงเงินคุ้มครองสูงสุด 100,000 บาท นาน 30 วัน คุ้มครองตลอด 24 ชั่วโมง ทั่วโลก
ดร.สมพร สืบถวิลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ทิพยประกันภัย ส่งทีม TIP Smart Assist พร้อมหน่วยหนุมานทิพยจิตอาสา ลงพื้นที่ร่วมรณรงค์ให้ผู้ขับขี่ ขับรถอย่างปลอดภัยและช่วยอำนวยความสะดวกกรณีรถเสียในเบื้องต้น เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุรวมถึงลดการจราจรติดขัด นอกจากนี้ยังได้มอบน้ำดื่ม กาแฟ เครื่องดื่มบำรุงกำลัง ผ้าเย็น ฯลฯ ให้กับประชาชนเพื่อคลายง่วง คลายความร้อน
บมจ.กรุงเทพประกันภัย นำโดย ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ให้การต้อนรับ ชนะพันธุ์ พิริยะพันธุ์ นายกสมาคมนายหน้าประกันภัยไทย พร้อมผู้บริหารจากบริษัทนายหน้าประกันวินาศภัย ในงานบรรยายพิเศษให้ความรู้ประกันภัยไซเบอร์ ซึ่งกรุงเทพประกันภัยได้พัฒนาแผนประกันภัยขึ้นเพื่อรองรับกับไลฟ์สไตล์ของคนยุคดิจิทัล ครอบคลุมกลุ่มผู้ใช้อินเทอร์เน็ต ทั้งผู้ใช้งานบุคคล และองค์กร หรือสถานประกอบการ
ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คปภ. และ สวัสดิ์ นฤวรวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ และ Chief Life Operation Officer บมจ.ไทยประกันชีวิต ร่วมมอบหมวกนิรภัยใน “โครงการรณรงค์ความปลอดภัยทางถนนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2564” เพื่อลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุและเดินทางบนท้องถนนอย่างปลอดภัยให้แก่อาจารย์และนิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน โดยมี พีรภัทร ตามประดิษฐ์ ผอ.กองบริหารกิจการนิสิต เป็นผู้รับมอบ
แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีรายชื่อผู้บริหารที่หลายปองตำแหน่งนายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย แต่สุดท้ายแล้ว ด้วยผลงานในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาและฝ่ายที่สนับสนุนด้านหลังทำให้โผไม่พลิก “อานนท์ วังวสุ” ได้รับความไว้วางใจจากสมาชิกอย่างเป็นเอกฉันท์ ในการประชุมคณะกรรมการบริหารสมาคมประกันวินาศภัยไทย ครั้งที่ 1/2564-2566 ในวันที่ 19 เมษายน 2564 ได้มีมติเลือก “อานนท์ วังวสุ” ดำรงตำแหน่ง นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย ประจำปี 2564-2566 อย่างเป็นเอกฉันท์ ถือเป็นนายกสมาคมฯ คนที่ 26 ทั้งนี้ อานนท์ วังวสุ ซึ่งได้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมฯ ติดต่อกัน 2 วาระในปี 2556-2560 และวาระที่ 3 ในปี 2562-2564 ได้เปิดเผยถึงภารกิจที่ตั้งใจจะดำเนินการในระยะเวลา 2 ปีข้างหน้า ดังต่อไปนี้ 1) การ Reposition ธุรกิจประกันวินาศภัย เพื่อให้บริษัทประกันวินาศภัยไม่เป็นเพียงแค่ผู้ที่ขายประกันภัยเท่านั้น แต่จะเป็นผู้ที่ดำเนินการด้านการบริหารความเสี่ยงมืออาชีพให้กับทุกภาคส่วนของสังคม โดยในส่วนของภาคประชาชนนั้น จะเน้นการออกแบบกรมธรรม์ประกันภัยสำหรับประชาชนกลุ่มผู้มีรายได้น้อยซึ่งไม่เคยเข้าถึงระบบประกันภัยมาก่อน เพื่อให้มีหลักประกันในการดำเนินชีวิตที่ดีขึ้น และเป็นการช่วยลดภาระของภาครัฐในการจัดหาสวัสดิการสังคมให้กลุ่มคนดังกล่าว สำหรับภาครัฐนั้น จะเน้นการขยายบทบาทของธุรกิจประกันวินาศภัยในการเป็นผู้บริหารความเสี่ยงและการบริหารจัดการงบประมาณด้านภัยพิบัติและสุขภาพของคนในชาติ โดยการขยายประกันภัยพืชผลไปยังพืชเศรษฐกิจต่าง ๆ เพิ่มเติมจากข้าวนาปีและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ รวมถึงประกันภัยสุขภาพสำหรับคนในชาติ แรงงานต่างด้าว และนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศ เพื่อลดภาระของภาครัฐในอนาคต 2) การดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยการดำเนินโครงการธนาคารน้ำใต้ดินอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมซ้ำซากให้มีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งถือเป็นการบริหารความเสี่ยงเชิงรุกในการสร้างความสมดุลและยั่งยืนของแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรและการอุปโภคบริโภค รวมถึงโครงการป้องกันและลดอุบัติเหตุบนท้องถนน เพื่อลดจำนวนผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ และลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจของประเทศไทยเนื่องมาจากอุบัติเหตุทางถนน ซึ่งมีมูลค่าความสูญเสียเฉลี่ยเกินกว่า 5 แสนล้านบาท ในแต่ละปี 3) การส่งเสริมนวัตกรรมและการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยตลอดห่วงโซ่อุปทาน โดยเฉพาะการสร้าง Platform กลางสำหรับการประกันภัยยานยนต์และประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลและสุขภาพ เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพในการให้บริการกับประชาชนและลดค่าใช้จ่ายของภาคธุรกิจ ทั้งด้านการรับประกันภัยและการชดใช้ค่าสินไหมทดแทน และศึกษาการนำเทคโนโลยีภาพถ่ายดาวเทียม โดรน และแอปพลิเคชันต่างๆ มาใช้ในการประเมินความเสียหายของพื้นที่ทางการเกษตร แทนการประเมินโดยเจ้าหน้าที่ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน 4) การนำเสนอให้มีการปฏิรูปกฎหมายประกันวินาศภัยให้เหมาะสมกับ Landscape ในการประกอบธุรกิจในโลกดิจิทัล Business Model รูปแบบใหม่ ตลอดจนพฤติกรรมและความคาดหวังของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อช่วยลดภาระของภาคธุรกิจและประชาชนในการปฏิบัติ และภาระของภาครัฐในการบังคับใช้ และการผลักดันให้เกิดระบบฐานข้อมูลด้านการประกันภัย (Insurance Bureau System) โดยเร็ว 5) การเตรียมความพร้อมให้ภาคธุรกิจในการปฏิบัติตามกฎหมายซึ่งจะมีผลใช้บังคับในเวลาอันใกล้ ทั้งพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และมาตรฐานบัญชี IFRS17 6) ส่งเสริมให้มีการขยายธุรกิจประกันวินาศภัยไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มอาเซียน 7) ขยายบทบาทด้านการลงทุนของธุรกิจประกันวินาศภัย เพื่อสร้างเสริมรายได้ให้กับภาคธุรกิจและเป็นแหล่งทุนสำคัญของประเทศ กรรมการที่ดำรงตำแหน่งต่าง ๆ ประจำปี 2564-2566 อุปนายกสมาคมฯ และกรรมการที่ปรึกษาคณะกรรมการประกันภัยทางทะเลและโลจิสติกส์ สมพร สืบถวิลกุล บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) อุปนายกสมาคมฯ และกรรมการที่ปรึกษาคณะกรรมการประกันภัยทรัพย์สิน บังอร จิระวรสุข บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เลขาธิการ โอฬาร วงศ์สุรพิเชษฐ์ บริษัท ไทยรับประกันภัยต่อ จำกัด (มหาชน) รองเลขาธิการ ปิติพงศ์ พิศาลบุตร บริษัท นวกิจประกันภัย จำกัด (มหาชน) เหรัญญิก และประธานคณะกรรมการการบัญชี-การเงิน และการลงทุน พีระพัฒน์ เมฆสิงห์วี…
“ธนชาตประกันภัย” จับมือ ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) เดินหน้าสานต่อโครงการ “พลังชุมชนสร้างถนนปลอดภัย ปี 2” ใช้งบ 10 ล้านบาทในระยะ 3 ปี ปลุกพลังประชาชนในท้องถิ่นทุกระดับร่วมใจแก้ไขจุดเสี่ยงอุบัติเหตุบนถนนในชุมชน โดยปีนี้เตรียมงบแก้ 10 จุดเสี่ยงทั่วประเทศ ชุมชนละ 200,000 บาทต่อเนื่อง พร้อมเปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 19 เม.ย. ถึง 18 มิ.ย.64 ที่เว็บไซต์ www.พลังชุมชนสร้างถนนปลอดภัย.com พีระพัฒน์ เมฆสิงห์วี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “อุบัติเหตุบนท้องถนน เป็น 1 ใน 5 ของสาเหตุการเสียชีวิตหลักของคนไทย โดยในทุก ๆ วัน คนไทยหลายสิบล้านคนต้องเสี่ยงภัยกับภัยร้ายใกล้ตัวนี้นับตั้งแต่ก้าวออกจากประตูบ้าน ซึ่งที่ผ่านมาจะเห็นว่าการเสียชีวิตส่วนใหญ่ ไม่ได้เกิดขึ้นบนทางหลวง ทางด่วน หรือทางหลวงชนบท แต่เกิดขึ้นบนถนนในเขตเมือง เขตเทศบาล ถนนในชุมชน และมักเกิดขึ้นระหว่างการเดินทางใกล้ ๆ บนถนนสายสั้น ๆ ซึ่งเป็นการเดินทางที่มักจะถูกมองข้ามเรื่องความปลอดภัยและมักคิดว่า “ขับไปแค่นี้เอง คงไม่เป็นไร” หรือ “ทางแยกอยู่ไม่ไกล ย้อนไปแค่นิดเดียว” หรือ “วิ่งข้ามตรงนี้ก็ได้ไม่มีรถมาหรอก” จากความเคยชินจึงกลายเป็นความประมาทที่สร้างความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้ใช้รถใช้ถนน ดังนั้น ธนชาตประกันภัย ในฐานะผู้ประกอบธุรกิจด้านการประกันภัย ตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้น และเชื่อมั่นว่าความปลอดภัยทุกคนมีส่วนสร้างได้ จึงมุ่งมั่นสานต่อโครงการ “พลังชุมชนสร้างถนนปลอดภัย” ที่มุ่งสร้างความปลอดภัยในพื้นที่จุดเสี่ยงภัยอันตรายและเกิดอุบัติเหตุบนถนนสายรองในพื้นที่ชุมชน เพื่อสร้างแต้มต่อให้ชุมชนก้าวสู่ถนนปลอดภัย โครงการ “พลังชุมชนสร้างถนนปลอดภัย” เป็นความร่วมมือระหว่าง บมจ.ธนชาตประกันภัย และศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) วางเป้าหมายให้ชุมชนตื่นตัวและลุกขึ้นมาร่วมสร้างความเปลี่ยนแปลงในการแก้ปัญหาและลดการเกิดอุบัติเหตุบนถนนสายรองในชุมชนร่วมกัน ซึ่งในปีแรกได้รับความสนใจจากชุมชนเป็นอย่างมาก เห็นได้จากมีชุมชนส่งโครงการเข้าร่วมทั้งหมด 127 พื้นที่ และได้รับการคัดเลือกจำนวน 10 พื้นที่ โดยดำเนินการแก้ไขจุดเสี่ยงให้ปลอดภัยแล้ว จำนวน 6 พื้นที่ และคาดว่าจะดำเนินการครบทั้งหมดภายในปีนี้ ในปี 2564 นี้ จึงเดินหน้าสานต่อโครงการ “พลังชุมชนสร้างถนนปลอดภัย ปี…
เลขาธิการ คปภ. ออกคำสั่งนายทะเบียนด่วน ให้กรณีผู้เอาประกันภัยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลสนามและสถานดูแลผู้ป่วยประเภท Hospitel ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ให้ถือว่าผู้เอาประกันเหล่านี้เป็นผู้ป่วยในและสามารถเคลมประกันโควิด-19 ได้ ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ที่ขยายวงกว้างอย่างรวดเร็ว โดยมีการแพร่กระจายไปยังคลัสเตอร์ (Cluster) ใหม่ๆ ในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น และประชาชนยังคงให้ความสนใจในการทำประกันภัยโควิด-19 มาช่วยบริหารความเสี่ยงภัยที่อาจเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564 มียอดทำประกันภัยโควิด-19 รวมทั้งสิ้นเกือบ 11 ล้านฉบับ ซึ่งเป็นยอดกรมธรรม์ประกันภัยที่เพิ่มขึ้นจากสิ้นปีที่แล้ว ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 กว่า 1 ล้านฉบับ และมียอดการจ่ายค่าสินไหมทดแทน รวมทั้งสิ้น 171 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากสิ้นปีที่แล้ว ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 เกือบ 100 ล้านบาท อย่างไรก็ดี สถานการณ์การแพร่ระบาดในขณะนี้ ได้มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนทำให้โรงพยาบาลหลายแห่ง มีเตียงไม่เพียงพอในการรองรับผู้ติดเชื้อ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาในสถานการณ์ดังกล่าว และเพื่อรองรับมาตรการของรัฐบาลที่มีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามและโรงแรมเป็นโรงพยาบาลกักตัว (hospitel) ในหลายพื้นที่ ซึ่งอาจเกิดประเด็นการตีความว่าการที่ผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งทำประกันภัยไว้ และเข้ารับการรักษาในสถานที่เหล่านั้น จะสามารถเคลมประกันได้หรือไม่ ดังนั้น เพื่อให้เกิดความชัดเจนในทางปฏิบัติ สำนักงาน คปภ. จึงได้ประชุมหารืออย่างเร่งด่วนกับสมาคมประกันชีวิตไทยและสมาคมประกันวินาศภัยไทย และได้ข้อสรุปเป็นที่ยุติว่าให้สามารถเคลมประกันได้ เพื่อให้ระบบประกันภัยสามารถเข้าไปให้ความช่วยเหลือประชาชนในวิกฤตนี้ ตนในฐานะนายทะเบียนจึงได้ออกคำสั่งนายทะเบียนที่ 16/2564 เรื่อง การรักษาพยาบาลตามกรมธรรม์ประกันภัยหรือสัญญาเพิ่มเติม เพื่อรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สำหรับบริษัทประกันชีวิต และคำสั่งนายทะเบียนที่ 17/2564 เรื่อง การรักษาพยาบาลตามกรมธรรม์ประกันภัยหรือเอกสารแนบท้าย เพื่อรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สำหรับบริษัทประกันวินาศภัย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่า หากต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลเนื่องจากการติดเชื้อโควิด-19 ในโรงพยาบาลสนามหรือ hospitel จะยังได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัย เช่นเดียวกับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลทั่วไป “ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19…
“กรุงไทยพานิชประกันภัย” เผยตัวเลขผลประกอบการปี 2563 เบี้ยประกันรับรวมอยู่ที่ 3,933 ล้านบาท เติบโต 26.1% พร้อมเดินหน้าผลักดันสามกลยุทธ์ด้วยการผสานเทคโนโลยีดิจิทัล เสริมศักยภาพบุคลากร และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ยืดหยุ่น ตั้งเป้าเบี้ยรับรวมโตขึ้นสองเท่าภายในปี 2567 บริษัท กรุงไทยพานิชประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ เคพีไอ (KPI) บริษัทประกันวินาศภัยในเครือธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ประกาศผลประกอบการภาพรวมตลอดปี 2563 เพิ่มขึ้น แม้เผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 โดยมีเบี้ยรับรวมเพิ่มขึ้นเกือบ 26.1 เปอร์เซ็นต์ จากปี 2562 พร้อมเดินหน้าผลักดันสามกลยุทธ์ด้วยการผสานเทคโนโลยีดิจิทัล เสริมศักยภาพบุคลากร และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ยืดหยุ่น เพื่อต่อยอดการทำธุรกิจให้ตอบโจทย์ทุกความต้องการของกลุ่มลูกค้าในยุคปัจจุบัน ตั้งเป้าเป็นบริษัทประกันวินาศภัยไทยที่เติบโตด้วยยอดขายที่โตขึ้นสองเท่าภายในปี 2567 ตามที่คาดหวังไว้ สำหรับยอดสินทรัพย์รวมของกรุงไทยพานิชประกันภัย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 ที่ 11,822 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่ 10,465 ล้านบาท โดยรายได้ส่วนเบี้ยประกันรับรวมอยู่ที่ 3,933 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 816 ล้าน หรือคิดเป็น 26.1 เปอร์เซ็นต์ จากปี 2562 (3,117 ล้านบาท) โดยแบ่งสัดส่วนเป็นประกันหมวดมอเตอร์ 37 เปอร์เซ็นต์ และนอนมอเตอร์ (Non-Motor) 63 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งรวมถึง ประกันอัคคีภัย ประกันภัยทางทะเล และประกันภัยเบ็ดเตล็ด ดร. พงษ์ภาณุ ดำรงศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กรุงไทยพานิชประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แม้ว่าในปี 2563 เศรษฐกิจไทยและทั่วโลกจะได้รับผลกระทบอย่างมากจากเหตุการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ในอีกด้านหนึ่งถือว่าเป็นโอกาสที่ทำให้ผู้คนหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมากยิ่งกว่าที่เคย ผลคือคนมองหาผลิตภัณฑ์ด้านประกันวินาศภัยรูปแบบต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น กรุงไทยพานิชประกันภัย ได้มีการปรับและพัฒนาองค์กรมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้มีการพัฒนาและปรับวิธีการดำเนินธุรกิจด้วยการนำสามกลยุทธ์หลักมาใช้เพื่อเสริมความคล่องตัวและให้สอดรับกับเทรนด์ของโลกในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาด้านบุคลากร การออกแบบผลิตภัณฑ์ที่คำนึงถึงความต้องการเฉพาะของทุกกลุ่มลูกค้า รวมไปถึงการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเสริมทักษะและศักยภาพในการทำงานต่าง ๆ…