คุณอนุกูล เย็นใจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายรับประกันภัย 1 ดร.พลรัตน์ เอกโยคยะ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานกลยุทธ์ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) คุณสุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด ร่วมมอบประกันภัยแพ้วัคซีนโควิด-19 ตามโครงการ “TIP ห่วงไทย สู้ภัยโควิด” และน้ำดื่มทิพย จำนวน 304,500 ขวด ให้กับประชาชนที่มารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ตลอดระยะเวลาของโครงการ เพื่อเป็นการสนับสนุนให้ประชาชนเข้ารับวัคซีน ลดการแพร่ระบาด ลดความรุนแรงหากติดเชื้อ ลดจำนวนผู้ป่วย โดยสิทธิ์นี้จะให้ความคุ้มครองการเกิดภาวะแทรกซ้อนหรือผลข้างเคียงจนเกิดภาวะโคม่าจากการฉีดวัคซีน ทุนประกัน 100,000 บาท ระยะเวลาคุ้มครอง 60 วัน หลังจากการฉีดวัคซีน ณ ไอคอนสยาม
Author: admin
นายพิชา สิริโยธิน ผู้อำนวยการบริหารสมาคมประกันชีวิตไทย เปิดเผยว่า สมาคม ฯ ได้รับการร้องเรียนจากผู้เอาประกันภัยกรณีมีบุคคลภายนอกที่แสวงหาผลประโยชน์ในฐานะคนกลางประกันภัย โดยอ้างตนมาจากบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน และเป็นเจ้าหน้าที่จากส่วนกลางของทุกบริษัทประกันชีวิต ได้รับมอบหมายให้มาตรวจสอบกรมธรรม์ประกันภัย เมื่อผู้เอาประกันภัยหลงเชื่อแจ้งข้อมูลกลับไป ก็จะนำข้อมูลนั้นมาเทียบกับผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ต้องการนำเสนอขาย และมักให้เหตุผลว่ากรมธรรม์ฉบับเดิมผลประโยชน์ตอบแทนน้อยกว่าผลิตภัณฑ์ประกันภัยแบบใหม่ จากนั้นก็จะเสนอให้เวนคืนหรือยกเลิกกรมธรรม์ฉบับเดิมเพื่อทำฉบับใหม่กับตนเอง ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วผลิตภัณฑ์ประกันภัยแต่ละแบบมีรายละเอียด และจุดเด่น ตลอดจนความคุ้มค่า เหมาะสมกับผู้เอาประกันภัยในแต่ละช่วงวัยที่แตกต่างกันออกไป หากผู้เอาประกันภัยหลงเชื่อยกเลิกกรมธรรม์ฉบับเดิมก็จะทำให้แผนความคุ้มครองและการบริหารความเสี่ยงที่เคยมีต้องจบลงก่อนครบกำหนดสัญญา จำนวนเงินเวนคืนกรมธรรม์ประกันภัย โดยเฉพาะในปีแรกๆ จะน้อยกว่าค่าเบี้ยประกันภัยที่ชำระไปแล้วทั้งหมด เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและค่าความคุ้มครองชีวิตในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา พร้อมเสียสิทธิเรื่องการลดหย่อนภาษีเงินได้ด้วยเบี้ยประกันภัยจากกรมธรรม์ประกันภัยที่มีกำหนดระยะเวลาคุ้มครอง ตั้งแต่ 10 ปี ขึ้นไป สูงสุดถึง 100,000 บาท ด้วยเช่นกัน และเมื่อทำประกันชีวิตฉบับใหม่อาจต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยที่สูงขึ้น รวมทั้งต้องแถลงข้อความจริงเกี่ยวกับสุขภาพต่อบริษัทใหม่ เนื่องจากอายุที่เพิ่มขึ้นทำให้มีความเสี่ยงภัยมากกว่าเดิม ซึ่งหากมีปัญหาสุขภาพบริษัทอาจปฏิเสธการรับประกันภัย หรือรับประกันภัยโดยการเพิ่มเบี้ยประกันภัย ในส่วนของสัญญาเพิ่มเติมประกันสุขภาพยังมีระยะเวลารอคอย (Waiting period ) หรือระยะเวลาที่ไม่คุ้มครอง ตั้งแต่ 30-120 วัน ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัทประกันภัย เพราะอาจมีอาการเจ็บป่วยมาก่อนทำประกันภัย สมาคมประกันชีวิตไทยจึงขอเตือนผู้เอาประกันภัยอย่าหลงเชื่อ บุคคลภายนอกที่แอบอ้างเพราะจะทำให้เสียผลประโยชน์ เนื่องจากผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตได้ออกแบบมาให้คุ้มค่ามากที่สุดก็ต่อเมื่อครบกำหนดสัญญา ส่วนผู้ที่มีพฤติกรรมชักชวนดังกล่าวมาแล้วข้างต้น ถือเป็นการแสวงหาผลประโยชน์ในฐานะคนกลางประกันภัย จะมีความผิดตามประกาศคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการออก การเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยของบริษัทประกันชีวิตและการปฏิบัติหน้าที่ของตัวแทนประกันชีวิต นายหน้าประกันชีวิต และธนาคาร พ.ศ. 2561 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2562 โดยมีบทลงโทษถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาต (ตัวแทนประกันชีวิต/นายหน้าประกันชีวิต) ทั้งนี้ หากผู้เอาประกันภัยมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ของบริษัทประกันชีวิตตามหมายเลขที่แจ้งไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย หรือ ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สมาคมประกันชีวิตไทย เบอร์โทรศัพท์ 02-679-8080 e – mail : tlaa@tlaa.org หรือ http://www.tlaa.org
กรุงเทพประกันชีวิต ยังคงเดินหน้าพัฒนาระบบและช่องทางการขายแบบดิจิทัลเพื่ออำนวยความสะดวกและตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าทุกไลฟ์สไตล์ ด้วยความเข้าใจและเข้าถึงทุกความต้องการ ส่งผลิตภัณฑ์ “พีเอ อุ่นใจรัก” และ “บีแอลเอ แฮปปี้เซฟวิ่ง 126” ผ่านช่องทางจำหน่ายบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ช Shopee ภายใต้ชื่อร้านค้า “BangkokLife Official” เริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ม.ล.จิรเศรษฐ ศุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บริษัทฯ เราให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบเทคโนโลยีรวมถึงช่องทางการขายที่ตอบโจทย์และอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า ทั้งในด้านการบริหารจัดการภายในองค์กร การบริการลูกค้า ไปจนถึงการเพิ่มช่องทางการขายที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ทางบริษัทฯ จึงขยายช่องทางการขายผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ช Shopee ภายใต้ชื่อร้านค้า “BangkokLife Official” พร้อมวางจำหน่าย 2 ผลิตภัณฑ์ “พีเอ อุ่นใจรัก” และ “บีแอลเอ แฮปปี้เซฟวิ่ง 126” ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ลูกค้าเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายขึ้น ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ที่สะดวกทุกที่ ทุกเวลา” ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์และความต้องการของตลาดในปัจจุบัน บริษัทฯ จึงออกแบบประกันใหม่ “บีแอลเอ แฮปปี้เซฟวิ่ง 126” สำหรับช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ (Shopee Online) ซึ่งมีระยะเวลาเอาประกันภัย 12 ปี และระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัย 6 ปี พร้อมรับผลประโยชน์รวมตลอดสัญญา 663% และเป็นการออมที่การันตีเงินเป้าหมาย มีเงินคืนทุกปี และช่วยสร้างวินัยในการออม โดยประกันประเภทนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการวางแผนการเงินทั้งระยะสั้นและระยะยาว ได้ผลตอบแทนมั่นคงและแน่นอนพร้อมได้ความคุ้มครองชีวิต “พีเอ อุ่นใจรัก” แบบประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) ที่มอบความคุ้มครองอุบัติเหตุหลัก พร้อมความคุ้มครองเพิ่มเติม ทั้งกรณีอุบัติเหตุในวันหยุดนักขัตฤกษ์ รับความคุ้มครองและผลประโยชน์สูงสุด 3 เท่าขึ้นอยู่กับกรณีที่เกิด คุ้มครองกระดูกแตกหักหรืออาการบาดเจ็บภายใน และค่าชดเชยรายได้กรณีเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล คุ้มครองอุบัติเหตุตลอด 24 ชั่วโมง ทุกพื้นที่ทั่วโลก เบี้ยประกันเริ่มต้นเพียงวันละ 8 บาท ให้คุณอุ่นใจไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนเวลาใดก็ตาม ซึ่งแบบประกันดังกล่าวมีระยะเวลาเอาประกันภัย 1 ปี และระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัย 1 ปี สำหรับผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://shopee.co.th/bangkoklife_officialshop?categoryId=2085&itemId=5464616916 หรือค้นหาคำว่า “bangkoklife official” บนแพลตฟอร์ม Shopee สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) โทร. 02-777-8888 เว็บไซต์ www.bangkoklife.com
อาคเนย์ประกันภัย หนึ่งในสายธุรกิจหลักด้านประกันและการเงิน บริษัท เครือไทย โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เปิดตัวประกัน “COVID-19 Plus” คุ้มครองครอบคลุมการเจ็บป่วยโควิด พร้อมชดเชยรายได้ สูงสุดวันละ 1,000 บาท เงินปลอบขวัญ สูงสุด 50,000 บาท และคุ้มครองการเจ็บป่วยสูงสุด 1,000,000 บาท นายมนตรี วงศ์ท่าเรือ กรรมการผู้จัดการบริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากผลตอบรับกรมธรรม์ประกันภัย “อาคเนย์ COVID-19” แบบเจอ จ่าย จบ ที่ได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากลูกค้าในช่วงที่ผ่านมา และเพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายจากภาครัฐที่ต้องการสร้างความอุ่นใจในการเข้าถึงการป้องกันและรักษาโรคไวรัสโควิด-19 ทุกรูปแบบ อาคเนย์ออกแบบความคุ้มครองที่ครอบคลุมให้ลูกค้าคลายความกังวลใจด้วยประกัน “COVID-19 Plus” ที่นอกจากจะคุ้มครองเรื่องการติดเชื้อและการแพ้วัคซีนแล้ว ยังเพิ่มเงินชดเชยรายได้แบบรายวันและเงิน ปลอบขวัญ ตอบโจทย์ลูกค้าที่แม้จะต้องขาดงานแต่ก็ยังมีรายได้ สำหรับแผนประกันภัยดังกล่าวมีเบี้ยเริ่มต้นเพียงปีละ 369 บาท เปิดรับตั้งแต่อายุ 1 ปี – 99 ปี แบ่งเป็น 4 แผน โดยจะมอบการดูแลตามเงื่อนไขกรมธรรม์ที่สมัคร ตั้งแต่ตรวจพบการติดเชื้อโควิด-19 เป็นครั้งแรกรับเลย 50,000 บาท ให้ความคุ้มครองการเจ็บป่วยด้วยภาวะที่มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อโควิด-19 สูงสุด 1,000,000 บาท คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจ่ายตามจริงสูงสุด 100,000 บาท พร้อมเงินชดเชยรายได้สูงสุดวันละ 1,000 บาท นานสูงสุด 15 วัน กรณีรักษาตัวในโรงพยาบาล และทุกแผนประกันภัยจะได้รับเงินปลอบขวัญกรณีที่แพ้วัคซีนโควิด-19 สูงสุด 50,000 บาท นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมอบผลประโยชน์จากการเสียชีวิต การสูญเสียอวัยวะ สายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิงจากอุบัติเหตุ สูงสุดถึง 50,000 บาท “อาคเนย์เข้าใจคนไทยที่มีความกังวลใจเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการดูแลตัวเองเมื่อติดหรือแพ้วัคซีนโควิด-19 ถึงแม้ว่าจะมีการสนับสนุนค่ารักษาพยาบาลจากภาครัฐ เราจึงคิดผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มความคุ้มครองในเรื่องของเงินชดเชยและเงินปลอบขวัญ ที่จะเป็นส่วนเสริมให้คนไทยสามารถรับมือกับความเสี่ยงได้อย่างมั่นใจมากขึ้น พร้อมก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้และกลับมามีสุขภาพที่แข็งแรงไปด้วยกัน” นายมนตรี กล่าว ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกัน “COVID-19 Plus” จากอาคเนย์ประกันภัยได้ที่ ศูนย์ดูแลลูกค้าโทร.1726 กด 9, แอดไลน์อาคเนย์ Line @Southeast.th ,เว็บไซต์ www.seic.co.th หรือ เฟซบุ๊ก อาคเนย์ Southeast คลิก www.facebook.com/Segsoutheastpage/
บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI โดยนายชัย โสภณพนิช (กลาง) ประธานกรรมการ พร้อมด้วยดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน (ที่ 3 จากซ้าย) ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ มอบเครื่องช่วยหายใจอัตราการไหลสูง รุ่น Airvo2 สำหรับผู้ใหญ่ จำนวน 12 เครื่อง รวมมูลค่า 2,400,000 บาท ให้แก่ โรงพยาบาลรามาธิบดี จำนวน 4 เครื่อง โรงพยาบาลราชวิถี จำนวน 4 เครื่อง โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี จำนวน 2 เครื่อง และโรงพยาบาลธัญบุรี จำนวน 2 เครื่อง เพื่อใช้ใน การรักษาพยาบาลผู้ป่วยจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) รวมถึงผู้ป่วยวิกฤติที่จำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ โดยมีบุคลากรทางการแพทย์จากโรงพยาบาลทั้ง 4 แห่ง เป็นผู้รับมอบ ณ อาคารกรุงเทพประกันภัย ถนนสาทรใต้ เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2564
ธ.ก.ส. พร้อมรับทำการประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปีการผลิต 2564 หนุนเกษตรกรสร้างภูมิคุ้มกันและบริหารจัดการความเสี่ยงด้านการผลิต กรณีเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติและภัยจากศัตรูพืช โดยรัฐบาลสนับสนุนค่าเบี้ยประกันภัย 96 บาทต่อไร่ และกรณีเป็นเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. จะได้รับเงินสมทบค่าเบี้ยประกันภัยฟรี พร้อมแนะทำประกันภัยส่วนเพิ่มเพื่อขยายวงเงินคุ้มครอง โดยเปิดรับทำประกันภัยแล้วตั้งแต่บัดนี้ ผ่านแอปพลิเคชัน “BAAC INSURE” และที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)เปิดเผยว่า ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2564 เห็นชอบให้ ธ.ก.ส. ดำเนินโครงการประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปีการผลิต 2564 เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในการสร้างภูมิคุ้มกันและเป็นการบริหารจัดการความเสี่ยงด้านการผลิต โดยใช้การประกันภัยเป็นเครื่องมือในการบรรเทาความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากภัยธรรมชาติและโรคระบาด พื้นที่เป้าหมาย 2.92 ล้านไร่ โดยคุ้มครองในกรณีเกิดภัยธรรมชาติ 7 ภัย ได้แก่ ภัยน้ำท่วม/ฝนตกหนัก ภัยแล้ง/ฝนแล้ง/ฝนทิ้งช่วง ลมพายุ/พายุไต้ฝุ่น ภัยอากาศหนาว/น้ำค้างแข็ง ลูกเห็บ ไฟไหม้ และช้างป่า วงเงิน 1,500 บาทต่อไร่ และกรณีเกิดภัยศัตรูพืช/โรคระบาด วงเงินคุ้มครอง 750 บาทต่อไร่ สำหรับเงื่อนไขโครงการประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปีการผลิต 2564 เกษตรกรที่เป็นผู้เอาประกันภัยต้องขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2564/65 กับกรมส่งเสริมการเกษตรหรือที่สำนักงานเกษตรอำเภอ โดยรัฐบาลอุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัยให้กับเกษตรกรทุกรายในอัตรารายละ 96 บาทต่อไร่ ซึ่งการรับประกันภัยประกอบด้วย การประกันภัยขั้นพื้นฐาน (Tier 1) กรณีเกษตรกรลูกค้าที่ใช้บริการสินเชื่อ ธ.ก.ส. คิดอัตราค่าเบี้ยประกันภัย 160 บาทต่อไร่ เท่ากันทุกพื้นที่ความเสี่ยง โดยทุก ๆ ยอดสินเชื่อจำนวน 4,000 บาท ธ.ก.ส. จะอุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัยให้ 64 บาทต่อไร่ ซึ่งเมื่อรวมกับเบี้ยประกันภัยที่รัฐบาลสนับสนุน ทำให้เกษตรกรได้รับประกันภัยฟรี กรณีเกษตรกรทั่วไปและเกษตรกรลูกค้าสินเชื่อ ธ.ก.ส. ที่ประสงค์ซื้อเพิ่ม (ส่วนเกินสิทธิ์จากที่ธนาคารกำหนด) จ่ายค่าเบี้ยประกันภัยตามประเภทพื้นที่ ได้แก่ พื้นที่เสี่ยงต่ำ อัตราค่าเบี้ยประกันภัย 150 บาทต่อไร่ พื้นที่เสี่ยงปานกลาง 350…
“กรุงเทพประกันภัย” ร่วมสนับสนุนสมาคมประกันวินาศภัยไทย ขานรับนโยบายรัฐที่ประกาศให้การฉีดวัคซีนเป็นวาระแห่งชาติ ในโครงการ “ฉีดวัคซีนช่วยชาติ หมอพร้อมฉีด ประกันวินาศภัยพร้อมดูแล” ด้วยการมอบประกันภัยแพ้วัคซีนโควิด 2,000,000 สิทธิ์ เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้คนไทยฉีดวัคซีน จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ระลอกใหม่ที่ยังคงพบ ผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก และมีความรุนแรงทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI จึงได้จัดโครงการ BKI แจก 2 ล้านสิทธิ์ประกันภัยแพ้วัคซีนโควิด-19 ภายใต้การประสานความร่วมมือกับสมาคมประกันวินาศภัยไทย โดยบริษัทฯ มอบกรมธรรม์ประกันภัยแพ้วัคซีนโควิด-19 ให้แก่ประชาชนทั่วไปจำนวน 2,000,000 สิทธิ์ ที่ให้ความคุ้มครองภาวะโคม่า สูงสุด 100,000 บาท พร้อมเพิ่มเติมพิเศษความคุ้มครองเงินปลอบขวัญอีก 10,000 บาท กรณีเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ไม่น้อยว่า 7 วัน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความอุ่นใจในการรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ซึ่งจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันหมู่เพื่อลดจำนวนผู้ป่วยหนักและลดจำนวนผู้เสียชีวิตได้ โดยผู้ที่สามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้แก่ บุคคลสัญชาติไทยที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย อายุตั้งแต่แรกเกิด จนถึง 100 ปี และไม่จำกัดอาชีพ กรมธรรม์ประกันภัยแพ้วัคซีนโควิด-19 ในโครงการดังกล่าวนี้จะให้ความคุ้มครองกรณีที่ผู้เอาประกันภัยเกิดการแพ้วัคซีนโควิด-19 ภายใน 60 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับการฉีดวัคซีนแต่ละครั้ง ดังนี้ 1. การเจ็บป่วยระยะสุดท้าย และ/หรือ ภาวะโคม่า และ/หรือ ภาวะสมองตายและระบบประสาทล้มเหลว รับผลประโยชน์ 100,000 บาท 2. เงินปลอบขวัญสำหรับผู้ป่วยในกรณีเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาลติดต่อกันไม่น้อยว่า 7 วัน รับผลประโยชน์ 10,000 บาท ทั้งนี้ สำหรับผู้ที่สนใจรับสิทธิ์ประกันภัยแพ้วัคซีนโควิด-19 ของกรุงเทพประกันภัย สามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ก่อนรับการฉีดวัคซีนได้ตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม – 30 มิถุนายน 2564 นี้ โดยต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2564 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 2285 8888 หรือช่องทาง Facebook กรุงเทพประกันภัย…
นายปรัชญา กุลวณิชพิสิฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ฟิลลิปประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างรุนแรงของไวรัสโคโรน่า “COVID-19” ระลอก 3 ซึ่งส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนคนไทยทั่วประเทศ บริษัทฯ ตระหนักถึงความเดือดร้อนของลูกค้า ผู้เอาประกันภัย จึงได้ประกาศมาตรการลดระยะเวลาที่ไม่คุ้มครอง (waiting period) กรณีติดเชื้อโควิด-19 จาก 30 วัน เหลือ 14 วัน สำหรับการจ่ายสินไหมทดแทนค่ารักษาพยาบาลตามสัญญาเพิ่มเติมการประกันสุขภาพ เอชเอสเอ (HSA) ,เอชเอสซี (HSC) และเอชบี (HB) เฉพาะที่ตรวจพบและได้รับการวินิจฉัยโดยแพทย์ว่าเกิดจากการติดเชื้อไวรัส โคโรน่า “COVID-19” นับตั้งแต่วันที่เริ่มมีผลคุ้มครองตามสัญญาโดยไม่จำเป็นต้องรอให้ผ่านพ้นระยะเวลารอคอย (Waiting Period ) 14 วัน นั้นให้มีผลสำหรับการรับการรักษาพยาบาลตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 31 กรกฏาคม 2564 “ฟิลลิปประกันชีวิตขอเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือดูแลเกื้อหนุนสังคมไทยได้ไม่มากก็น้อย จึงใคร่ขอให้ลูกค้าผู้เอาประกันภัยของบริษัทฯ ดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง ปราศจากโรคภัยใดๆ แล้วเราจะผ่านพ้นวิกฤตการณ์ COVID-19 อย่างราบรื่นและปลอดภัยไปด้วยกัน” นายปรัชญากล่าว ผู้เอาประกันภัยของบริษัทฯ สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.philliplife.com หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่โทร. 0-2022-5800
วิริยะประกันภัย เดินหน้าเต็มสูบสนองรับโครงการ “ฉีดช่วยชาติ หมอพร้อมฉีด ประกันวินาศภัยพร้อมดูแล” ด้วยการเปิดช่องทางพิเศษ สร้างแพลทฟอร์มใหม่รองรับการลงทะเบียนรับสิทธิ์ 2 ล้านกรมธรรม์ผ่านจอมือถือ เพียงแค่ Add Line:@Viriyahhealth กรอกข้อมูลสั้นๆคุ้มครองทันที นายอมร ทองธิว กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด(มหาชน) ได้เปิดเผยว่าสถานการณ์วิกฤตไวรัสโควิดรอบ 3 นี้ได้ทวีความรุนแรงมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ดังเห็นได้จากสภาวะการแพร่เชื้อกระจายไปทั่วประเทศไทย จำนวนผู้ติดเชื้อที่มีมากขึ้นและมีแต่เพิ่มขึ้น ตลอดไปถึงยอดผู้เสียชีวิต ในขณะเดียวกันแนวทางแก้ไขและป้องกันต้องคิดวิธีการใหม่ๆรับมืออยู่ตลอดเวลา แต่อย่างไรก็ตามท่ามกลางความกังวลของคนทั้งชาติ ยังมีสัญญาณดีๆ ว่าเราจะฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกันด้วยดี เพราะทั้งภาครัฐและภาคเอกชนต่างเห็นพ้องว่า การสร้างภูมิคุ้มกันคนไทยด้วยการฉีดวัคซีน น่าจะเป็นวิธีการที่ได้ผลมากที่สุด เพราะหลายๆประเทศได้ใช้อย่างได้ผลมาแล้ว กระนั้นในประเด็นของการฉีดวัคซีนนี้สาธารณชนยังขาดความเข้าใจ โดยเฉพาะความกังวลในอาการที่ไม่พึงประสงค์จากการฉีดวัคซีนหรือความกังวลว่าอาจทำให้ถึงเสียชีวิตได้ จึงเป็นเรื่องที่ทุกภาคส่วนกำลังร่วมบูรณการสร้างความมั่นใจในการฉีดวัคซีน ด้วยการยกระดับเป็นวาระแห่งชาติ “ขณะที่ทางภาคเอกชนต่างเข้ามาร่วมบูรณาการในการสร้างภูมิคุ้มกันชาติด้วยการฉีดวัคซีนกันอย่างเข้มแข็ง โดยล่าสุดสมาคมประกันวินาศภัยไทยได้จัดทำโครงการ “ฉีดช่วยชาติ หมอพร้อมฉีด ประกันวินาศภัยพร้อมดูแล” ด้วยการระดมบริษัทสมาชิกร่วมกันมอบสิทธิ์ความคุ้มครอง “กรมธรรม์ประกันภัยแพ้วัคซีนโควิด” ให้กับประชาชนฟรี อันเป็นความคุ้มครองการเจ็บป่วยด้วยภาวะโคม่า อันเนื่องมาจากภาวะแทรกซ้อนหรือผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน เพื่อป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในวงเงินคุ้มครอง 100,000 บาท ซึ่งในขณะนี้บริษัทสมาชิกต่างแสดงความจำนงร่วมด้วยช่วยกันให้ความคุ้มครองรวมแล้ว 13 ล้านสิทธิ์” นายอมรกล่าว นายอมร เปิดเผยต่อไปอีกว่า ในส่วนบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) บริษัทฯได้เสนอให้การสนับสนุนในเบื้องต้นไปก่อนจำนวน 2 ล้านสิทธิ์เพื่อประเมินความต้องการ และเชื่อว่าคงจะต้องจัดสรรเพิ่ม เพราะจำนวน 2 ล้านสิทธิ์นี้คงจะหมดในเวลาอันรวดเร็ว ดังเห็นได้จากกิจกรรมแถมฟรีประกันภัยแพ้วัคซีนให้กับผู้ซื้อกรมธรรม์ประกันภัยโควิด ซึ่งบริษัทได้ดำเนินการมาก่อนหน้านั้นประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามด้วยประสบการณ์ในการบริหารจัดการด้านการบริการผู้เอาประกันภัยจำนวนมากเกือบ 10 ล้านกรมธรรม์ในแต่ละปี ทำให้บริษัทฯ ต้องจัดระเบียบการรับประกันภัยเพื่อโครงการนี้เป็นการเฉพาะ ด้วยการเปิดช่องทางพิเศษเพื่อรองรับการลงทะเบียนตลอดไปถึงการบริหารจัดการผู้เอาประกันภัยจำนวน 2 ล้านสิทธิ์ และหมายรวมไปถึงปริมาณที่จะขยายเพิ่มขึ้นในอนาคต ประกอบกับผลจากการพัฒนาเทคโนโลยีของบริษัทที่ได้ดำเนินการมาโดยตลอด จึงเป็นเรื่องง่ายที่บริษัทฯจะสร้างแพลทฟอร์มขึ้นมารองรับการลงทะเบียนในครั้งนี้ ดังนั้นประชาชนผู้สนใจขอรับสิทธิ์สามารถลงทะเบียนผ่านช่องทางพิเศษได้ตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม 2564 เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป ด้วยการ Add Line:@Viriyahhealth และเพียงแค่ใช้เวลาอันสั้นในการกรอกข้อมูลชื่อ นามสกุล เบอร์โทร วันเกิดและเลขบัตรประชาชนเพียงเท่านี้ ความคุ้มครองมีผลทันที และเช่นเดียวกันในกรณีจะเคลมประกันภัยก็สามารถดำเนินการผ่านระบบเคลมออนไลน์ได้ “วิริยะประกันภัยมีความภูมิใจในการเข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างภูมิคุ้มกันชาติในครั้งนี้…
บมจ.ไทยสมุทรประกันชีวิต รักคือพลังของชีวิต โดยคุณนุสรา (อัสสกุล) บัญญัติปิยพจน์ กรรมการผู้จัดการ ร่วมส่งเสริมให้คนไทยฉีดวัคซีน COVID-19 เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ (Herd Immunity) ให้เกิดขึ้นโดยเร็ว ช่วยลดความสูญเสียทั้งชีวิตและเศรษฐกิจ อีกทั้งยังช่วยลดภาระให้บุคลากรทางการแพทย์ พร้อมเข้าใจถึงความกังวลของลูกค้าเกี่ยวกับผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน COVID-19 จึงเดินหน้าออกมาตรการตอกย้ำความมั่นให้กับลูกค้าว่า OCEAN LIFE ไทยสมุทร พร้อมดูแลและให้ความคุ้มครอง COVID-19 ประกอบด้วย ความคุ้มครองการรักษาโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 และความคุ้มครองผลกระทบจากการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ตามผลประโยชน์ความคุ้มครองที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ ทั้งประกันสุขภาพรายเดี่ยวและรายกลุ่ม โดยไม่ต้องสำรองจ่าย เมื่อเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเครือข่ายของบริษัทไทยสมุทรทั่วประเทศ รวมถึงคุ้มครองการรักษาโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ในสถานพยาบาลอื่น* ได้แก่ โรงพยาบาลสนาม (FIELD HOSPITAL) และหอผู้ป่วยเฉพาะกิจ (HOSPITEL) พร้อมเพิ่มความอุ่นใจอีกขั้น ด้วยประกันสุขภาพจาก OCEAN LIFE ไทยสมุทร คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลทุกโรค** รวมถึงโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 โดยมีแผนความคุ้มครองให้เลือกได้ตามความต้องการถึง 6 แผน รับผลประโยชน์ค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าบริการพยาบาล สูงสุดถึงวันละ 5,000 บาท สามารถนำเบี้ยประกันภัยสุขภาพไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ โทร. 0 2207 8888 หรือดูรายละเอียดที่เว็บไซต์ www.ocean.co.th