ธนาคารซิตี้แบงก์ จัดประชุมสุดยอดผู้นำดิจิทัล ประจำปี 2567 อัปเดตเทรนด์เทคโนโลยีสำหรับภาคธุรกิจ ขานรับเศรษฐกิจดิจิทัลในไทยและทั่วโลกเติบโต
กรุงเทพฯ 3 ตุลาคม 2567 – ธนาคารซิตี้แบงก์ สายงานธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (Citi Commercial Bank) จัดงานประชุมสุดยอดผู้นำดิจิทัล (Digital Leaders Summit 2024) รวมตัวผู้นำด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกที่เกี่ยวข้องในประเด็นสำคัญทางเศรษฐกิจ ตั้งแต่การปฎิวัติของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) สู่โอกาสการเติบโตในระดับโลกของภาคธุรกิจ การมองหาตลาดใหม่และอุตสาหกรรมที่น่าสนใจ ไปจนถึงโอกาสทางการเงินและการระดมทุนสำหรับธุรกิจขนาดกลาง ขณะที่ไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่อุตสาหกรรมด้านเทคโนโลยีดิจิทัลมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง หลังรัฐบาลมีนโยบายสนับสนุนและเพิ่มสัดส่วนของเศรษฐกิจดิจิทัล โดยงานนี้ได้รับความสนใจจากผู้ก่อตั้งและตัวแทนบริษัทดิจิทัลและเทคโนโลยีชั้นนำจากทั่วโลก นักลงทุน ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญจากธนาคารซิตี้แบงก์ ร่วมพูดคุยถึงโอกาสการเติบโตและการวางแผนทางธุรกิจในอนาคต
นางสาวกุนจัน คัลรา ผู้บริหารใหญ่สายงานธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ประจำประเทศญี่ปุ่น ภูมิภาคเอเชียเหนือและออสเตรเลีย และภูมิภาคเอเชียใต้ ธนาคารซิตี้แบงก์ กล่าวว่า “ธนาคารซิตี้แบงก์ สายงานธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม มีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินระดับโลกให้กับลูกค้าภาคธุรกิจขนาดกลาง ที่ต้องการสร้างการเติบโตอย่างรวดเร็วและขยายธุรกิจสู่ระดับนานาชาติ จากการเล็งเห็นถึงความซับซ้อนและความท้าทายในสถานการณ์ปัจจุบัน ซิตี้แบงก์จึงได้จัดการประชุม Digital Leaders Summit 2024 เพื่อเป็นเวทีให้บริษัทต่าง ๆ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และเรียนรู้แนวทางการรับมือกับความท้าทายรวมถึงโอกาสในการบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ ซึ่งในฐานะธนาคารระดับโลกที่มีประสบการณ์มากกว่า 100 ปี และดำเนินธุรกิจในกว่า 90 ตลาด ซิตี้แบงก์เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถส่งมอบความรู้และข้อมูลเชิงลึก อันเป็นประโยชน์แก่ผู้เข้าร่วมงานทุกฝ่ายได้เป็นอย่างดี”
ด้าน นางสาวนฤมล จิวังกูร กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารซิตี้แบงก์ประเทศไทย กล่าวว่า “เศรษฐกิจดิจิทัลของไทยกำลังอยู่ในจุดเปลี่ยนสำคัญ จากนโยบายภาครัฐที่มุ่งส่งเสริมระบบนิเวศที่เอื้อต่อการพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงและเพิ่มสัดส่วนของเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศให้ถึง 50% ภายในปีพ.ศ. 2573 อันเป็นผลดีต่อธุรกิจโดยเฉพาะบริษัทดิจิทัลและเทคโนโลยีที่กำลังมองหาโอกาสดำเนินกิจการในประเทศไทย หรือต้องการร่วมมือกับบริษัทไทยเพื่อนำเสนอบริการดิจิทัล โดยในอนาคต ซิตี้แบงก์พร้อมให้การสนับสนุนลูกค้าทั้งระดับในประเทศ ระดับภูมิภาค และระดับโลก ให้สามารถสร้างโมเดลธุรกิจที่มีการใช้เทคโนโลยี เพื่อพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต”
โดยประเด็นสำคัญที่ได้รับการหยิบยกมากล่าวถึงในการประชุมครั้งนี้ ประกอบไปด้วย ผลกระทบของการเลือกตั้งประเทศสหรัฐอเมริกาต่อธุรกิจทั่วโลกในระยะสั้นและระยะยาว แนวทางการดำเนินงานของภาคธุรกิจเพื่อสร้างความโดดเด่นในยุคสมัยแห่งคอนเทนต์ที่ไร้พรมแดนและระบบนิเวศทางดิจิทัลที่อิ่มตัว โอกาสและความท้าทายในการลงทุนและการเสนอขายหุ้น IPO มุมมองของนักลงทุนภาคเอกชนและนักลงทุนเสี่ยงทุน เกี่ยวกับแนวโน้มการลงทุนและทางเลือกในการระดมทุนสำหรับธุรกิจขนาดกลาง เป็นต้น
ทั้งนี้ ธนาคารซิตี้แบงก์ สายงานธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (Citi Commercial Bank) มีการส่งมอบผลิตภัณฑ์และโซลูชันทางการเงินที่ครบวงจร ทั้งการค้าและเงินทุนหมุนเวียน การบริหารด้านการเงินและสภาพคล่อง โซลูชันตลาดเงินตลาดทุน และบริการที่ปรึกษาทางธุรกิจ โดยในเอเชียมีการดำเนินธุรกิจใน 12 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ออสเตรเลีย จีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ไต้หวัน และเวียดนาม